“ออมสิน” ยันย้าย “รอง ผอ.พศ.” แขวน ก.พ. หลังโยงเอี่ยวทุจริตเงินทอนวัดเพื่อให้ พศ.ตรวจสอบ ชี้หากพ้น 2 เดือนเกษียณยังเหลือฟันอาญา ป้อง “วัดปากน้ำ” ร่วมมือตรวจสอบ แต่ติดฉันเพล จนต้องเลื่อนไม่มีกำหนด “สุวพันธุ์” ส่ง “ศอตช.” สอบทุจริตเงินทอนวัด
วานนี้ (13 ก.ค.) นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีเซ็นคำสั่งโยกย้าย น.ส.ประนอม คงพิกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา (รอง ผอ.พศ.) ให้ไปสังกัดสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) หลังเกี่ยวข้องกับการทุจริตงบบูรณปฏิสังขรณ์วัด และเงินอุดหนุนการศึกษาสงฆ์ ว่า เป็นการย้ายออกมาเพื่อให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของ พศ.ทั้ง 2 คณะสามารถตรวจสอบได้สะดวกขึ้น และหากพบความผิดจริงก็จะดำเนินการทางวินัยต่อไป ทั้งนี้ หากระหว่างการสอบสวนอีก 2 เดือน น.ส.ประนอมจะเกษียณอายุราชการพอดี ก็ยังเหลือการดำเนินการคดีอาญาอีก ซึ่งหากพบความผิดอาญา ทาง พศ.ก็จะส่งเรื่องไปให้กองบังคับการตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ทันที ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องคนอื่นขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า วัดต่างๆ ได้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบหรือไม่ นายออมสินกล่าวว่า ทุกวัดให้ความร่วมมือดีมาก ส่วนวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่สื่อมวลชนไปลงข่าวว่าวัดไม่พร้อมให้ตรวจสอบนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะเวลาที่ บก.ปปป.นัดหมายวัดไปคือเวลา 10.00 น. ใกล้เวลาฉันเพล ทำให้วัดต้องเลื่อนการนัดหมายเป็นเวลา 13.00 น. แต่ไม่ใช่การเลื่อนไปแบบไม่มีกำหนด ซึ่งขณะนี้เข้าใจว่าได้ตรวจสอบวัดปากน้ำฯแล้ว และทาง บก.ปปป.ได้รายงานผลต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรียบร้อยแล้ว
อีกด้าน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการ ศอตช.ดำเนินการและเข้าไปดูเรื่องนี้เพิ่มเติม โดย ศอตช.จะมีการนัดหารือกันว่าจะสามารถช่วยเหลือสนับสนุนเรื่องอะไรได้บ้าง ส่วนจะจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยในการสอบสวนด้วยหรือไม่นั้น ต้องรอให้เลขานุการ ศอตช.ได้พูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง บก.ปปป.และ พศ.เสียก่อน
“ขณะนี้คดีดังกล่าวดูเหมือนจะมีความคืบหน้าไปเยอะแล้ว อีกทั้ง พศ.กำลังสอบข้อเท็จจริงและวินัยอยู่ ส่วนเป็นกังวลหรือไม่ในการตรวจสอบเรื่องนี้แล้วจะไปกระทบต่อความศรัทธา ผมคิดว่าต้องดูข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หากสมมติมีการทุจริตก็จะต้องดูว่าต้นเหตุ จุดเริ่มต้นมันอยู่ที่ไหน มันเป็นเพราะระบบ หรือเพราะตัวคน หรือเพราะอะไร ต้องไปดูว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน หากพูดไปก่อนและมันไม่ตรงจะทำให้การทำงานเดินไปไม่ถูก” นายสุวพันธุ์ กล่าว
วานนี้ (13 ก.ค.) นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีเซ็นคำสั่งโยกย้าย น.ส.ประนอม คงพิกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา (รอง ผอ.พศ.) ให้ไปสังกัดสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) หลังเกี่ยวข้องกับการทุจริตงบบูรณปฏิสังขรณ์วัด และเงินอุดหนุนการศึกษาสงฆ์ ว่า เป็นการย้ายออกมาเพื่อให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของ พศ.ทั้ง 2 คณะสามารถตรวจสอบได้สะดวกขึ้น และหากพบความผิดจริงก็จะดำเนินการทางวินัยต่อไป ทั้งนี้ หากระหว่างการสอบสวนอีก 2 เดือน น.ส.ประนอมจะเกษียณอายุราชการพอดี ก็ยังเหลือการดำเนินการคดีอาญาอีก ซึ่งหากพบความผิดอาญา ทาง พศ.ก็จะส่งเรื่องไปให้กองบังคับการตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ทันที ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องคนอื่นขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า วัดต่างๆ ได้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบหรือไม่ นายออมสินกล่าวว่า ทุกวัดให้ความร่วมมือดีมาก ส่วนวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่สื่อมวลชนไปลงข่าวว่าวัดไม่พร้อมให้ตรวจสอบนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะเวลาที่ บก.ปปป.นัดหมายวัดไปคือเวลา 10.00 น. ใกล้เวลาฉันเพล ทำให้วัดต้องเลื่อนการนัดหมายเป็นเวลา 13.00 น. แต่ไม่ใช่การเลื่อนไปแบบไม่มีกำหนด ซึ่งขณะนี้เข้าใจว่าได้ตรวจสอบวัดปากน้ำฯแล้ว และทาง บก.ปปป.ได้รายงานผลต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรียบร้อยแล้ว
อีกด้าน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการ ศอตช.ดำเนินการและเข้าไปดูเรื่องนี้เพิ่มเติม โดย ศอตช.จะมีการนัดหารือกันว่าจะสามารถช่วยเหลือสนับสนุนเรื่องอะไรได้บ้าง ส่วนจะจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยในการสอบสวนด้วยหรือไม่นั้น ต้องรอให้เลขานุการ ศอตช.ได้พูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง บก.ปปป.และ พศ.เสียก่อน
“ขณะนี้คดีดังกล่าวดูเหมือนจะมีความคืบหน้าไปเยอะแล้ว อีกทั้ง พศ.กำลังสอบข้อเท็จจริงและวินัยอยู่ ส่วนเป็นกังวลหรือไม่ในการตรวจสอบเรื่องนี้แล้วจะไปกระทบต่อความศรัทธา ผมคิดว่าต้องดูข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หากสมมติมีการทุจริตก็จะต้องดูว่าต้นเหตุ จุดเริ่มต้นมันอยู่ที่ไหน มันเป็นเพราะระบบ หรือเพราะตัวคน หรือเพราะอะไร ต้องไปดูว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน หากพูดไปก่อนและมันไม่ตรงจะทำให้การทำงานเดินไปไม่ถูก” นายสุวพันธุ์ กล่าว