xs
xsm
sm
md
lg

จีนกับความเป็นมหาอำนาจโดยสมบูรณ์

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท

ฐานทัพนอกประเทศแห่งแรกของจีน ที่ประเทศจิบูตี
ว่าจะวกกลับมาเปิดเข่ง...ว่ากันเรื่องภายใน ประเภท “อัยการหิวลาบ” หรือเรื่อง “ฆ่าล้างครัว” อะไรประมาณนั้น แต่เผอิญเหลือบไปเห็นข่าว “รอยเตอร์” เมื่อวันพุธที่ 12 ก.ค.ที่เพิ่งผ่านมานี้เอง ว่าด้วยเรื่องกองทัพเรือจีน หรือ “PLAN” (People’s Liberation Army Navy) ได้ตัดสินใจส่งเรือรบพร้อมกำลังทหารจีน ไปยัง “ฐานทัพนอกประเทศแห่งแรกของจีน” ที่ประเทศจิบูตี หรือบริเวณพื้นที่ที่เรียกว่า “จงอยแอฟริกา” (Horn of Africa) เลยอดไม่ได้ที่จะต้องขออนุญาต “อะราวนด์เดอะเวิลด์” กันอีกซักรอบ...

คืออันที่จริง...ฐานทัพเรือนอกประเทศแห่งแรกของจีนที่ว่านี้ น่าจะแล้วเสร็จก็ต้องรอไปจนถึงปี ค.ศ. 2026 หรืออีก 10 ปีข้างหน้าโน่นเลย ตามกำหนดการที่เคยป่าวประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ และตามงบประมาณที่เตรียมไว้ใช้สำหรับการก่อสร้างถึงปีละ 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อเอาไว้รองรับกำลังทหารจีนไม่น้อยกว่า 10,000 คนขึ้นไป แต่การที่สามารถเปิดใช้การได้ในวันนี้ หรือใช้รองรับจำนวนทหารกี่หมวด กี่กรม กี่กองพล ก็แล้วแต่ ต้องถือว่า...จีนนั้นออกจะมาแรงแซงโค้งเอามากๆ หรือเริ่มขยับตัวเองเข้าสู่ “ความเป็นมหาอำนาจ” แบบเบ็ดเสร็จสมบูรณ์เข้าไปทุกที....

ถ้าว่ากันตาม “เอกสารวิจัย” ของสถาบันด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “Clingendael Report” ซึ่งได้รับการว่าจ้างจากรัฐและเอกชนในสหภาพยุโรป ให้ศึกษาและวิเคราะห์ เจาะลึกถึงโครงการ “One Belt, One Road” หรือโครงการ “หนึ่งแถบ-หนึ่งเส้นทาง” ของจีน ว่าจะมีอานุภาพในการ “เปลี่ยนโลก” หรือ “เปลี่ยนยุโรป” มากหรือน้อยขนาดไหน ช่วงหนึ่งของเอกสารการวิจัยที่ได้จัดทำขึ้นก่อนหน้าที่จีนจะคิดจัดตั้งฐานทัพเรือแห่งแรกนอกประเทศ ได้เคยสรุปเอาไว้อย่างค่อนข้างมั่นอก-มั่นใจ ประมาณว่า... “ขณะที่โครงการ One Belt, One Road อาจเพิ่มบทบาทอิทธิพลให้กับจีนในกิจการระหว่างประเทศ แต่สิ่งที่มิอาจปฏิเสธได้ก็คือ จีนนั้นจะมีฐานะเป็นเพียงแค่...ผู้ทำการค้า มากกว่าจะเขยิบสถานะตัวเองขึ้นเป็นมหาอำนาจโดยทั่วไป ที่ต้องมีฐานทัพเรือ หรือฐานทัพทางทหารไว้ในภูมิภาคต่างๆ โครงการต่างๆ ของจีน จึงไม่อาจทำให้จีนมีอิทธิพลครอบงำในทางทหาร หรือสามารถแผ่อิทธิพลทางทหารให้ขยายตัวออกไปได้ กองทัพเรือจีนที่พยายามหาทางออกไปสู่ตะวันตก ด้วยการพึ่งพาเส้นทางผ่านช่องแคบมะละกาเท่านั้น จึงยังเป็นกองทัพเรือที่ไม่ได้มีความมั่นคงทางทหารสูงเยี่ยมแต่ประการใด อย่างมาก...บทบาททางทหารของจีน ยังคงต้องแอบแฝงไว้ในบทบาททางการทูต โดยไม่อาจนำเอาเรื่องความมั่นคงเข้าไปเกี่ยวข้องโดยเปิดเผย แต่ความเป็นมหาอำนาจอันจำต้องมีอำนาจทางทะเลประกอบไปด้วยนั้น หนีไม่พ้นต้องอาศัยขีดความสามารถทางทหาร หรือขีดความสามารถในการสร้างความยุ่งยากให้กับฝ่ายตรงกันข้ามด้วยกรรมวิธีทางทหารควบคู่ไปด้วย แต่จีนยังไม่มีสิ่งเหล่านี้อยู่ในมือ ไม่สามารถโจมตีแผ่นดินที่เป็นเป้าหมายในพื้นที่ทางทะเลซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป นอกเสียจากพื้นที่ชายฝั่งรอบๆประเทศ แต่สำหรับพื้นที่แถบมหาสมุทรอินเดีย หรือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว ยังถือเป็นจำกัดสำหรับกองทัพเรือจีนเอามากๆ...”
เรือบรรทุกเครื่องบินจีน
แต่มาถึง ณ วันนี้...เอกสารงานวิจัยที่ว่า ต้องถือว่า “เชยซ์ซ์ซ์” ไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว จากเดิมทีที่กองทัพเรือจีนถ้าหากคิดจะส่งกำลังทหารไปปกป้องนักธุรกิจชาวจีนที่ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ในแคเมอรูน ถูกฆ่าในมาลี ถูกจับเป็นตัวประกันในซูดาน หรือไปอพยพชาวจีนออกจากลิเบียครั้งการล้มระบอบการปกครองกัดดาฟี ฯลฯ กองทัพเรือจีนต้องหันไปอาศัยบริษัทธุรกิจสัญชาติจีนอย่างบริษัท “COSCO” (China Ocean Shipping Group Company) ที่ผูกขาดการขนส่งสินค้าทางเรือ สร้างท่าเรือ สร้างเรือ ฯลฯ และอะไรต่อมิอะไร เป็นผู้จัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกมาโดยตลอด ไม่ก็ต้องหันไปพึ่งท่าเรือต่างชาติในเยเมน โอมาน หรือปากีสถานไปตามเรื่อง แต่มาคราวนี้...คงต้องยอมรับว่า ฐานทัพเรือแห่งแรกที่จิบูตีของจีนนั้น ย่อมส่งผลให้ “พญามังกรแดง” สามารถเลื้อยไป-มาได้โดยอิสระและเสรี หรือทำให้ “ความเป็นมหาอำนาจ” ของจีน ขึ้นสู่จุดเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ โดยมิอาจปฏิเสธได้อีกต่อไปแล้ว...

ด้วยเหตุนี้...เอาเป็นว่า ถ้าหาก “นักท่องเที่ยวชาวจีน” จะแอบมาขี้ใส่ “วัดร่องขุ่น” ของอาจารย์ “เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ซักประมาณก้อน สองก้อน เราอาจต้องหาทาง “ทำใจ” หรือต้องอดทน อดกลั้น เอาไว้มั่ง อะไรที่พอยอมๆ กันได้ หยวนๆ กันได้ อาจต้องผ่อนๆ อย่าถึงกับไปมึนๆ ตึงๆ อะไรกันมากมาย เพราะขนาด “คุณพ่ออเมริกา” ยกขบวนมาใช้ประเทศไทยเป็นฐานที่ตั้ง ในการเอาระเบิดไปหย่อนใส่หัวกบาลพี่ๆ น้องๆ ชาวลาว เวียดนาม กัมพูชา เรายังพร้อมที่จะ “อมสากกะเบือ” มาโดยตลอด แต่สำหรับจีนนั้น...อย่างน้อย ด้วยความเป็นมหาอำนาจรายใหม่ ด้วยประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน และไม่ถึงกับหยาบๆ ถ่อยๆ จนเกินไป โอกาสที่จะมองหา “ความสมดุล” ในการวางระยะต่อ ระยะเคียง ระหว่างอิทธิพลของมหาอำนาจภายในภูมิภาคนี้ ย่อมมีโอกาสเป็นไปได้ภายใต้ความเข้าใจและความบริสุทธิ์ใจระหว่างกันและกัน....
กำลังโหลดความคิดเห็น