เริ่มขยับประชุมกำหนดกรอบและให้แนวทางกันกว้างๆ กันไปบ้างแล้ว สำหรับคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ที่ล่าสุดมีการปิดห้องคุยกันแล้วที่รัฐสภา ระหว่าง วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งน่าจะเป็นตัวแทนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กับ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ
แม้ว่าจะยังปิดลับอุบเงียบกันอยู่ จึงยังไม่รู้ว่าคุยอะไรกันบ้าง เพียงแต่บอกว่าจะเปิดเผยให้ทราบภายใน 1 สัปดาห์ แต่ก็พอเดาทางกันได้ว่า เป็นเพียงการรับงานจากนายกฯ มาวางกรอบในการปฏิรูปตำรวจ ว่าจะเป็นไปในแนวทางไหนบ้าง มีเรื่องใดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยบอกคร่าวๆไว้แล้วว่า มีอยู่ 3 เรื่อง คือเรื่ององค์กร กฎหมาย และบุคลากร
อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะไปไกลกว่านี้ก็ต้องทบทวนรายชื่อคณะกรรมการที่เรียกกันสั้นๆ ให้จำง่ายๆก็คือ "คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ" ว่ามีใครบ้าง ในจำนวน 36 คน 1. พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม อัยการสูงสุด เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ส่วนกรรมการฝ่ายตำรวจ ประกอบด้วย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ อดีต รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ต.ยงยุทธ สาระสมบัติ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.บุญชัย ชื่นสุชน อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.สุพร พันธุ์เสือ อดีต รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมศักดิ์ แขวงโสภา อดีตผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบ.ตร. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ และ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร.
สำหรับกรรมการฝ่ายผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายมานิจ สุขสมจิตร ที่ปรึกษาสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นางเบญจพรรณ สร่างนิทร อดีตเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นายศุภชัย ยาวะประภาษ นายกสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นายศักรินทร์ ภูมิรัตน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นายธานิศ เกศวพิทักษ์ อดีตรองประธานศาลฎีกา นายเข็มชัย ชุติวงศ์ รองอัยการสูงสุด นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) พล.อ.อ.อิทธิพร ศุภวงศ์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ นายอมร วาณิชวิวัฒน์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ นายวรรณชัย บุญบำรุง รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
แน่นอนว่า สิ่งที่ต้องจับตามองและกังวลกันว่าการปฏิรูปตำรวจที่ใช้เวลาที่เหลืออยู่ประมาณ 8-9 เดือนนี้จะไปในทิศทางไหน ที่สำคัญก็คือ การปฏิรูปตำรวจจะเป็นไปตามความต้องการของชาวบ้านส่วนใหญ่หรือไม่ หรือว่าเป็นการปฏิรูปเพื่อสร้างความพอใจ และความมั่นคงของตำรวจ ความมั่นคงในระบบ "รัฐราชการ" เป็นด้านหลักหรือไม่
แม้ว่าหลายคนจะมีการวิพากษ์วิจารณ์และปรามาสกันไปล่วงหน้าว่า ไม่น่าจะไปในทิศทางที่ชาวบ้านต้องการมากนัก น่าจะออกมาในทางรัฐราชการ และสร้างความมั่นคงและความพอใจให้กับตำรวจเสียมากกว่า สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการพิจารณาจากรายชื่อของคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้เห็นรายชื่อกรรมการที่มียศตำรวจ และคนที่เกี่ยวข้องกับวงการตำรวจที่มีจำนวนเกือบครึ่ง ที่เหลือก็เป็นข้าราชการทหาร ข้าราชการพลเรือน
น่าสนใจก็คือ คนที่เป็นประธานกรรมการคือ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่มีแบ็กกราวด์เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 6 (ตท.6) เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นบุคคลที่แม้จะกำกับดูแลงานด้านตำรวจโดยตรง แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีท่าทีที่จะผลักดันให้มีการปฏิรูปตำรวจ เพื่อประชาชนส่วนใหญ่แม้แต่น้อย
ขณะเดียวกัน สำหรับพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ยังเป็นอาจารย์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถึงกับออกมาการันตีเรื่องความรู้ความสามารถ ว่าเข้าขั้น "อ๋อง" กันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะจบด็อกเตอร์ จบโรงเรียนนายร้อยเวสต์ปอยท์ เป็นทหารนักวิชาการกันเลยทีเดียว ซึ่งเชื่อว่าสังคมไม่ได้กังขาในเรื่องความรู้ความสามารถ ตรงกันข้ามยอมรับว่า คนพวกนี้มีภูมิความรู้สูงมีตำแหน่งทางราชการชั้นสูง แต่มันคนละเรื่องกับความต้องการที่อยากเห็นกรรมการที่มีความเห็นหรือมีบทบาทในเรื่องผลักดันการปฏิรูปฉบับประชาชน ไม่ใช่ปฏิรูปเพื่อตำรวจ
แน่นอนว่า กล่าวแบบนี้มันเหมือนกับการปรามาสกันล่วงหน้า ทำไมไม่รอผลสรุปออกมาเสียก่อน ก็เพราะเห็นรายชื่อที่โผล่ออกมา มันก็พอกำหนดทิศทางได้ เห็นค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า น่าจะมีแนวโน้มออกมาในทางน่าผิดหวัง แต่อย่างไรก็ตาม หากผลออกมาในทางตรงข้าม ไม่ใช่การปฏิรูปตามความต้องการเชื่อว่างานนี้คนที่รับไปเต็มๆ ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเขาเป็นคนออกรับแทนล่วงหน้าไปแล้ว และยังเชื่อว่าระหว่างทางจะต้องเจอกับแรงกดดันจากสังคมหนักขึ้น **เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่และเป็นความเห็นที่"ตกผลึก"ว่าต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วนเป็นอันดับแรก ดังนั้นจะทำเล่นๆไม่ได้เป็นอันขาด !!
แม้ว่าจะยังปิดลับอุบเงียบกันอยู่ จึงยังไม่รู้ว่าคุยอะไรกันบ้าง เพียงแต่บอกว่าจะเปิดเผยให้ทราบภายใน 1 สัปดาห์ แต่ก็พอเดาทางกันได้ว่า เป็นเพียงการรับงานจากนายกฯ มาวางกรอบในการปฏิรูปตำรวจ ว่าจะเป็นไปในแนวทางไหนบ้าง มีเรื่องใดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยบอกคร่าวๆไว้แล้วว่า มีอยู่ 3 เรื่อง คือเรื่ององค์กร กฎหมาย และบุคลากร
อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะไปไกลกว่านี้ก็ต้องทบทวนรายชื่อคณะกรรมการที่เรียกกันสั้นๆ ให้จำง่ายๆก็คือ "คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ" ว่ามีใครบ้าง ในจำนวน 36 คน 1. พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม อัยการสูงสุด เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ส่วนกรรมการฝ่ายตำรวจ ประกอบด้วย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ อดีต รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ต.ยงยุทธ สาระสมบัติ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.บุญชัย ชื่นสุชน อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.สุพร พันธุ์เสือ อดีต รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมศักดิ์ แขวงโสภา อดีตผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบ.ตร. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ และ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร.
สำหรับกรรมการฝ่ายผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายมานิจ สุขสมจิตร ที่ปรึกษาสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นางเบญจพรรณ สร่างนิทร อดีตเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นายศุภชัย ยาวะประภาษ นายกสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นายศักรินทร์ ภูมิรัตน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นายธานิศ เกศวพิทักษ์ อดีตรองประธานศาลฎีกา นายเข็มชัย ชุติวงศ์ รองอัยการสูงสุด นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) พล.อ.อ.อิทธิพร ศุภวงศ์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ นายอมร วาณิชวิวัฒน์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ นายวรรณชัย บุญบำรุง รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
แน่นอนว่า สิ่งที่ต้องจับตามองและกังวลกันว่าการปฏิรูปตำรวจที่ใช้เวลาที่เหลืออยู่ประมาณ 8-9 เดือนนี้จะไปในทิศทางไหน ที่สำคัญก็คือ การปฏิรูปตำรวจจะเป็นไปตามความต้องการของชาวบ้านส่วนใหญ่หรือไม่ หรือว่าเป็นการปฏิรูปเพื่อสร้างความพอใจ และความมั่นคงของตำรวจ ความมั่นคงในระบบ "รัฐราชการ" เป็นด้านหลักหรือไม่
แม้ว่าหลายคนจะมีการวิพากษ์วิจารณ์และปรามาสกันไปล่วงหน้าว่า ไม่น่าจะไปในทิศทางที่ชาวบ้านต้องการมากนัก น่าจะออกมาในทางรัฐราชการ และสร้างความมั่นคงและความพอใจให้กับตำรวจเสียมากกว่า สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการพิจารณาจากรายชื่อของคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้เห็นรายชื่อกรรมการที่มียศตำรวจ และคนที่เกี่ยวข้องกับวงการตำรวจที่มีจำนวนเกือบครึ่ง ที่เหลือก็เป็นข้าราชการทหาร ข้าราชการพลเรือน
น่าสนใจก็คือ คนที่เป็นประธานกรรมการคือ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่มีแบ็กกราวด์เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 6 (ตท.6) เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นบุคคลที่แม้จะกำกับดูแลงานด้านตำรวจโดยตรง แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีท่าทีที่จะผลักดันให้มีการปฏิรูปตำรวจ เพื่อประชาชนส่วนใหญ่แม้แต่น้อย
ขณะเดียวกัน สำหรับพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ยังเป็นอาจารย์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถึงกับออกมาการันตีเรื่องความรู้ความสามารถ ว่าเข้าขั้น "อ๋อง" กันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะจบด็อกเตอร์ จบโรงเรียนนายร้อยเวสต์ปอยท์ เป็นทหารนักวิชาการกันเลยทีเดียว ซึ่งเชื่อว่าสังคมไม่ได้กังขาในเรื่องความรู้ความสามารถ ตรงกันข้ามยอมรับว่า คนพวกนี้มีภูมิความรู้สูงมีตำแหน่งทางราชการชั้นสูง แต่มันคนละเรื่องกับความต้องการที่อยากเห็นกรรมการที่มีความเห็นหรือมีบทบาทในเรื่องผลักดันการปฏิรูปฉบับประชาชน ไม่ใช่ปฏิรูปเพื่อตำรวจ
แน่นอนว่า กล่าวแบบนี้มันเหมือนกับการปรามาสกันล่วงหน้า ทำไมไม่รอผลสรุปออกมาเสียก่อน ก็เพราะเห็นรายชื่อที่โผล่ออกมา มันก็พอกำหนดทิศทางได้ เห็นค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า น่าจะมีแนวโน้มออกมาในทางน่าผิดหวัง แต่อย่างไรก็ตาม หากผลออกมาในทางตรงข้าม ไม่ใช่การปฏิรูปตามความต้องการเชื่อว่างานนี้คนที่รับไปเต็มๆ ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเขาเป็นคนออกรับแทนล่วงหน้าไปแล้ว และยังเชื่อว่าระหว่างทางจะต้องเจอกับแรงกดดันจากสังคมหนักขึ้น **เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่และเป็นความเห็นที่"ตกผลึก"ว่าต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วนเป็นอันดับแรก ดังนั้นจะทำเล่นๆไม่ได้เป็นอันขาด !!