xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ดโละทิ้งOTT สั่งยกร่างกม.ใหม่ หวั่นผู้ประกอบการฟ้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

'พ.อ.นที ' โดนเท หลังประธานกสทช.ส่งวาระลับ ยกเลิกการลงทะเบียน OTT ที่ผ่านมา รวมถึงยกเลิกเดทไลน์ต้อนเฟซบุ๊ก-ยูทูป มาลงทะเบียน สั่งไปทบทวนและยกร่างประกาศเสนอต่อกสทช.ใหม่ให้เสร็จภายใน 30 วัน เพื่อนำไปประชาพิจารณ์และประกาศเป็นกฎหมายต่อไป หวังปิดจุดอ่อนนำไปสู่การฟ้องร้อง คาดเสร็จก่อน 6 ต.ค.2560 ด้าน 'กูเกิล' แจงที่ผ่านมาคุยกับกระทรวงดีอีมาตลอดเพราะเห็นเป็นหน่วยงานสำคัญตามกฎหมาย

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2560 พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช.ได้นำเรื่องการกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ Over The Top หรือ OTT เข้าที่ประชุมกสทช.เป็นวาระลับ โดยประธานกสทช.ได้นำความเห็นเกี่ยวกับความห่วงใยถึงการทำงานในการกำกับดูแล OTT ทั้งนักวิชาการ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน ทำให้ที่ประชุม มีมติให้ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการ OTT ยกเลิกการกำกับ OTT ที่ทำมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา รวมทั้งยกเลิกการลงทะเบียน OTT ของผู้ให้บริการทั้งหมดที่ได้ลงทะเบียนมาก่อนหน้านี้ และยกเลิกเส้นตาย 22 ก.ค.ที่ให้เฟซบุ๊ก และ ยูทูป ต้องมาลงทะเบียนด้วย

หลังจากนั้นให้ พ.อ.นที เร่งจัดทำร่างหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแลกิจการ OTT เสนอต่อที่ประชุม กสทช.ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เพื่อให้ที่ประชุม กสทช. พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนนำร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) ตามขั้นตอนของกฎหมายให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และกลับมานำเสนอที่ประชุม กสทช. เพื่อพิจารณาเห็นชอบอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะนำไปประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนวันที่ 6 ต.ค. 2560

ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่า ตามหลักกฎหมายทั่วไป การดำเนินธุรกิจที่เปิดให้บริการในประเทศใดจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศนั้น ดังนั้น เมื่อกิจการ OTT เป็นการดำเนินธุรกิจที่เปิดให้บริการในประเทศไทยจึงต้องอยู่ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายไทย โดยเฉพาะพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นกฎหมายที่กำหนดให้ กสทช.มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม

ดังนั้น ไม่ว่ากิจการ OTTจะเป็นกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคมก็ตาม ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ในการกำกับดูแลของกสทช.เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย

"แม้ว่า พ.อ.นทีจะได้เสนอต่อที่ประชุมกสทช.ว่าที่ผ่านมาได้มีการรับฟังความคิดเห็นมากกว่า 10 ครั้ง และประกาศที่ออกไปน่าจะครอบคลุมและครบถ้วนแล้ว แต่เพื่อความรอบคอบ และเป็นการปิดจุดอ่อนทุกจุดที่คาดว่าจะเป็นประเด็นในการถูกฟ้องร้อง ในอนาคตได้"

***กูเกิลเอ่ยคุยกับดีอีมาตลอด

ด้านนางสาวสายใย สระกวี หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและมวลชนสัมพันธ์ กูเกิล ประเทศไทย กล่าวว่า อย่าไปมองว่า AIC (สมาพันธ์อินเทอร์เน็ตแห่งเอเชีย หรือ Asia Internet Coalition) เป็นล็อบบี้ยิสต์ แต่ให้มองว่าเข้าไปในฐานะตัวแทนของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตอย่าง เฟซบุ๊ก, กูเกิล, ไลน์, ยาฮู, ทวิตเตอร์ และราคูเท็น ในการเข้าไปพูดคุยกับภาครัฐ

โดยที่ผ่านมากูเกิล ได้มีการเข้าไปพูดคุยกับทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ตลอด เพราะเป็นหน่วยงานสำคัญตามกฏหมายในการเข้ามาให้บริการในประเทศไทย แต่ทางกสทช.เป็นหน่วยงานกำกับดูแล ดังนั้นก็ต้องดูถึงความเหมาะสม

ส่วนประเด็นของเรื่องการเก็บภาษี เมื่อมีมาตรการใดๆออกมากูเกิล ก็พร้อมที่จะเข้าไปพูดคุยกับกระทรวงการคลัง และกระทรวงดีอี เพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนตามข้อกฏหมายที่เกิดขึ้น เพียงแต่ถ้าจะเปลี่ยนกฏหมาย ก็ต้องศึกษาดูว่าจะเปลี่ยนได้อย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น