สอดแนมการเมือง”
“โดย ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
มีเหตุนี้ จึงเกิดเหตุนี้! การแก้ปัญหาต้องรู้ต้นเหตุของปัญหา และต้องแก้ต้นเหตุปัญหาให้หมด!
รัฐประหาร-ไม่ได้จู่ๆเกิดขึ้นตามใจทหาร ไม่ว่า“บิ๊กตู่”หรือ“บิ๊กทหาร”ทั้งหลาย ที่สำคัญไม่ได้เกิดขึ้นแบบดื้อๆ โดยไม่มีต้นสายปลายเหตุ
รัฐประหารทุกครั้ง มีสาเหตุจากการแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ ทั้งลับและเปิดเผย โดยใช้ข้ออ้างเดิมๆซ้ำๆซากๆมาตลอดว่า คณะรัฐประหารจำต้องทำเพื่อชาติ!
หากแยกแยะต้นเหตุที่เอื้อให้เกิดรัฐประหาร มีอย่างน้อย 3 ข้อ ดังนี้
หนึ่ง-รัฐบาลบริหารชาติอย่างไร้ธรรมาภิบาล คอร์รัปชั่นโกงชาติอย่างมโหฬาร
สอง-รัฐบาลใช้อำนาจรัฐบริหารชาติแบบเล่นพรรคเล่นพวก โยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการอย่างไร้ความเป็นธรรม เพื่อใช้กลไกรัฐที่ใกล้ชิดตนเป็นเครื่องมือคอร์รัปชั่นโกงชาติ
สาม-รัฐบาลมีพฤติกรรมเหิมเกริม ถึงขนาดบังอาจปฏิบัติการจะโค่นล้มสถาบันสำคัญของชาติ
แน่นอน การรัฐประหารจะเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง หากรัฐบาลที่แม้จะมาจากการเลือกตั้งสกปรก แต่ไม่กระทำเรื่องชั่วร้ายดังกล่าวข้างต้น และบริหารชาติเพื่อคนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง มิได้ใช้อำนาจรัฐอย่างอธรรม เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง มิได้ใช้เงินของชาติทำโครงการเพื่อหาเสียงและโกง มิได้ทำโครงการประชานิยมที่ไร้ความรับผิดชอบ ก่อความเสียหายใหญ่หลวง ต่อความมั่นคงของชาติในมิติสำคัญๆ ทั้งทางการเมือง-เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง ฯลฯ
น่าฉงนผสมน่าเบื่อผสานน่าขยะแขยง เพราะชาติไทยผ่านการเลือกตั้งมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ชาติกลับได้นักการเมืองส่วนใหญ่ ที่ผ่านสนามเลือกตั้งสกปรก เข้าสู่ “สภาผู้แทนราษฏร”ในนาม “ตัวแทนประชาชนอันทรงเกียรติ” ที่ส่วนใหญ่ไม่ยอมกลับเนื้อ-กลับตัว-กลับใจ-ลด-ละ-เลิกการกระทำชั่ว หันมาทำความดีเพื่อชาติและประชาชน ด้วยการกระทำสิ่งดีๆ เช่น
หลังผ่านการใช้เงินซื้อเสียงและโกงเลือกตั้ง จนได้เข้าไปนั่งในสภาฯแล้ว “นักการเมือง” ต้องไม่ยกมือลงมติเลือก “ประธานสภาฯ” ที่เป็น-คนชั่ว! ต้องไม่ยกมือลงมติเลือก “นายกรัฐมนตรี” ที่เป็น-คนชั่ว! ต้องไม่ยกมือลงมติให้มีการออกกฎหมาย ที่ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ชาติและประชาชนคนส่วนใหญ่ ฯลฯ
ถ้า “ผู้แทนราษฎรดีจริง” ต้องเป็น “หมอดี” ในการ “ทำแท้ง-และ-ทำคลอด” การ “ทำแท้ง” คือไม่ยกมือลงมติให้สภาฯเอาคนชั่วขึ้นปกครองชาติเด็ดขาด! แต่ต้อง “ทำคลอด” ด้วยการยกมือลงมติ ให้สภาฯเอาคนดีขึ้นปกครองชาติให้ได้!
อีกทั้งต้อง “ทำแท้ง”ไม่ยกมือลงมติให้สภาฯ ออกกฎหมายอธรรมทั้งปวงเด็ดขาด! แต่ต้อง “ทำคลอด” ยกมือลงมติให้สภาฯ ออกกฎหมายที่เป็นธรรมทั้งปวงให้ได้..
เมื่อ “รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง”กระทำเรื่องชั่วร้าย เช่น รัฐบาลกับพวกพ้องคอร์รัปชั่นโกงชาติ หรือ รัฐบาลและพวกกระทำเรื่องผิดกฎหมายในมิติสำคัญๆ ฯลฯ
“ผู้แทนราษฎรที่ดีในสภาฯ”ต้องเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสามานย์ โดยไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น และต้องยกมือลงมติขับไล่หรือล้มรัฐบาลเลวร้ายนั้นลงให้ได้ ส่วนจะยกมือลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือยุบสภา เพื่อให้รัฐบาลใหม่เข้ามาปกครองชาติ
แทน หรือเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง หรือไม่นั้น ต้องขึ้นกับสถานการณ์ในห้วงนั้น..จริงไหม?
แต่รัฐสภาฯและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งสกปรก มักทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่ควรทำเสมอ เช่น หลังใช้เงินซื้อเสียงและโกงเลือกตั้งเข้าสภาฯแล้ว มักยกมือลงมติเลือก “คนชั่ว”เป็น“ประธานสภา” และ เอา “คนชั่ว” ขึ้นเป็น “นายกรัฐมนตรี” อีกด้วย!
แถม “ท่านผู้แทนฯ อันทรงเกียรติ”ทั้งหลาย ยังทำให้“สภาฯ อันทรงเกียรติ” กลายเป็น“สภาสวนสัตว์-เสือ-สิงห์-กระทิง-แรด-วัว-ควาย-สุนัข-ตัวเฮีย” ฯลฯ เป็นสภาฯไร้สติขาดสมอง เป็น“สภาตรายาง-สภาฝักถั่ว-สภาผัว-สภาเมีย-สภากิ๊ก-สภาขี้ข้า-สภาทาส” ฯลฯ
ที่สำคัญอย่างยิ่ง “ท่านผู้แทนฯ อันทรงเกียรติ” ได้กระทำชำเรา “สภาฯ อันควรทรงเกียรติ” ให้กลายเป็น “สภาฯอั นไร้เกียรติ” ไร้คุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรม ไร้ความซื่อสัตย์สุจริต กระทั่งบางเรื่องถึงกับไร้ความรักชาติ และรักประชาชนคนส่วนใหญ่ด้วยซ้ำไป..จริงไหม?
เพราะบางเรื่อง “ท่านผู้แทนฯอันทรงเกียรติ” ถึงกับใช้สภาฯเป็น“ซ่องโจร” สุมหัวกัน “ปล้นชาติ-ขายชาติ” อย่างหน้าด้านๆ ด้วยการยกมือลงมติ“ ขายทรัพยากรอันมีค่าของชาติ” อย่างไม่คุ้มค่า และ “ขายผลประโยชน์ชาติ-ประชาชน” อย่างชั่วช้าสามานย์ เพียงเพื่อนายทุนพรรคและพวกพ้อง จะได้เสวยสุขกับอำนาจ-เงินทอง-ผลประโยชน์
เฮ้อ..แทนที่จะสร้างการเมืองให้มีธรรมาธิปไตย อันจะนำชาติและประชาชน ก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างมั่นคงยั่งยืน อันเป็นภารกิจสำคัญที่สุดของการเป็นรัฐบาลของชาติ
แต่ทว่า ทั้งรัฐบาลมาจากการยึดอำนาจรัฐด้วยเงินและโกงเลือกตั้ง กับรัฐบาลมาจากการยึดอำนาจรัฐด้วยรัฐประหาร กลับไม่ลงมือปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน ไม่ยอมปฏิรูปชาติในมิติสำคัญๆอย่างจริงจัง เพื่อนำชาติไปสู่มิติเศรษฐกิจที่มีการกระจายรายได้ ให้ผู้มีรายได้น้อยและคนจนอย่างเป็นธรรม
ชาติไทยช่างโชคร้ายเหลือแสน เพราะชาติไทยยังไม่ได้รัฐบาลที่ดีดังหวัง ขึ้นมาปกครองชาติไทยให้ประชาชนได้ชื่นชมยินดี ตรงกันข้าม ชาติและประชาชนไทยมักได้รัฐบาลที่ไร้ธรรมาธิปไตย ขึ้นปกครองชาติบ้านเมืองเรื่อยมา จนราวกับ “รัตนโกสินทร์ไร้ผู้นำชาติที่ดี” เสียงั้นแหละ..
แน่นอน.. การเป็นคนชั่ว-ทำชั่วเป็นเรื่องง่ายดาย การเป็นคนดี-ทำดีเป็นเรื่องยากยิ่ง!
“นักการเมือง” ต้องเป็นคนดีมีคุณธรรมรองจาก “พระสงฆ์” เพราะชาติต้องการนักการเมืองที่ต้องทั้งเก่งและดี..ใช่ไหม? เพราะนักการเมืองต้องบริหารชาติบ้านเมือง ต้องบริหารเงินงบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาล ที่ขูดรีดมาจากหยาดเหงื่อแรงงานของประชาชน
นักการเมือง-ต้องคลุกคลีอยู่กับผลประโยชน์มากมาย ในโครงการใหญ่น้อยของราษฏร์และหลวง ต้องกำกับให้เกิดความยุติธรรม และลดความเหลื่อมล้ำทุกมิติในชาติให้ได้อย่างสมดุล ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ-การเมือง-สังคม-ศาสนา-กฎหมาย ฯลฯ
นักการเมือง-ต้องเป็นผู้บริหารชาติที่ดีมีคุณภาพ นั่นคือ ต้องไม่ปล่อยให้ “ทุนยักษ์-ทุนใหญ่” ได้เปรียบ “ทุนกลาง-ทุนเล็ก” เกินควร จนไร้ความยุติธรรม
นักการเมือง-ต้องไม่ปล่อยให้ “พ่อค้านักธุรกิจหน้าเลือด” ทำการค้าขูดรีดเอารัดเอาเปรียบประชาชน ที่เป็นทั้งผู้ใช้บริการและผู้บริโภค.. โดยนักการเมืองในนามรัฐบาล จงใจ “เอาหูไปนา-เอาตาไปไร่” หรือแอบมีผลประโยชน์ร่วมอยู่กับ“ พ่อค้านักธุรกิจหน้าเลือด” จนปล่อยให้ “พ่อค้านักธุรกิจหน้าเลือด” เหล่านั้น กอบโกยผลประโยชน์ “รีดเลือดจากปู” จากการค้าสามานย์ ที่ยึดกำไรสูงสุดเป็นสรณะ จนไม่แยแสในความเอื้ออาทรต่อเพื่อนร่วมชาติ
“ผู้นำ-รัฐบาล” ใดกระทำดังเหตุข้างต้น ต้องถือเป็น “ผู้นำ-รัฐบาล”ชั่วร้ายและเลือดเย็นที่สุด เพราะแทนที่“ผู้นำ-รัฐบาล”จะใช้อำนาจรัฐ และกำกับกลไกรัฐให้กระทำในเรื่องถูกต้องชอบธรรม ให้กับชาติและประชาชนได้มีชีวิตที่ดีมีคุณภาพมากขึ้น กลับกระทำตัวเป็น “ผู้นำ-รัฐบาล” ที่กดขี่ข่มเหงประชาชนผู้มีรายได้น้อย และคนที่ด้อยโอกาสไปเสียฉิบ..
“ผู้นำ-รัฐบาล”จำนวนมิใช่น้อยในชาติไทยและโลก ซึ่งมิใช่ “ผู้นำ-รัฐบาล” มีผลงานดีเป็นที่ประจักษ์ ในสายตาของประชาชน หากแต่เป็น “ผู้นำ-รัฐบาล” กะล่อนปลิ้นปล้อน ใช้วิธีหลอกลวงสร้างภาพดีมาปกปิดความชั่วร้าย แต่ในที่สุดก็ต้องพบกับความวิบัติจาก“ความลับไม่มีในโลก” จนถูกเปิดโปงความชั่วช้าสามานย์ออกสู่สาธารณชน
จนกลายเป็น“ผู้นำ-รัฐบาลทรราช” ที่ถูกจับเข้าคุกตะรางบ้าง ต้องหลบหนีความผิดลี้ภัยไปอยู่ต่างแดนตราบจนทุกวันนี้บ้าง..
การเลือกตั้งชาติไทยในอนาคต-ถ้ามี! ชาติไทยจะได้คนดีขึ้นปกครองชาติ..แน่หรือ “บิ๊กตู่”?
“โดย ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
มีเหตุนี้ จึงเกิดเหตุนี้! การแก้ปัญหาต้องรู้ต้นเหตุของปัญหา และต้องแก้ต้นเหตุปัญหาให้หมด!
รัฐประหาร-ไม่ได้จู่ๆเกิดขึ้นตามใจทหาร ไม่ว่า“บิ๊กตู่”หรือ“บิ๊กทหาร”ทั้งหลาย ที่สำคัญไม่ได้เกิดขึ้นแบบดื้อๆ โดยไม่มีต้นสายปลายเหตุ
รัฐประหารทุกครั้ง มีสาเหตุจากการแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ ทั้งลับและเปิดเผย โดยใช้ข้ออ้างเดิมๆซ้ำๆซากๆมาตลอดว่า คณะรัฐประหารจำต้องทำเพื่อชาติ!
หากแยกแยะต้นเหตุที่เอื้อให้เกิดรัฐประหาร มีอย่างน้อย 3 ข้อ ดังนี้
หนึ่ง-รัฐบาลบริหารชาติอย่างไร้ธรรมาภิบาล คอร์รัปชั่นโกงชาติอย่างมโหฬาร
สอง-รัฐบาลใช้อำนาจรัฐบริหารชาติแบบเล่นพรรคเล่นพวก โยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการอย่างไร้ความเป็นธรรม เพื่อใช้กลไกรัฐที่ใกล้ชิดตนเป็นเครื่องมือคอร์รัปชั่นโกงชาติ
สาม-รัฐบาลมีพฤติกรรมเหิมเกริม ถึงขนาดบังอาจปฏิบัติการจะโค่นล้มสถาบันสำคัญของชาติ
แน่นอน การรัฐประหารจะเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง หากรัฐบาลที่แม้จะมาจากการเลือกตั้งสกปรก แต่ไม่กระทำเรื่องชั่วร้ายดังกล่าวข้างต้น และบริหารชาติเพื่อคนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง มิได้ใช้อำนาจรัฐอย่างอธรรม เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง มิได้ใช้เงินของชาติทำโครงการเพื่อหาเสียงและโกง มิได้ทำโครงการประชานิยมที่ไร้ความรับผิดชอบ ก่อความเสียหายใหญ่หลวง ต่อความมั่นคงของชาติในมิติสำคัญๆ ทั้งทางการเมือง-เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง ฯลฯ
น่าฉงนผสมน่าเบื่อผสานน่าขยะแขยง เพราะชาติไทยผ่านการเลือกตั้งมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ชาติกลับได้นักการเมืองส่วนใหญ่ ที่ผ่านสนามเลือกตั้งสกปรก เข้าสู่ “สภาผู้แทนราษฏร”ในนาม “ตัวแทนประชาชนอันทรงเกียรติ” ที่ส่วนใหญ่ไม่ยอมกลับเนื้อ-กลับตัว-กลับใจ-ลด-ละ-เลิกการกระทำชั่ว หันมาทำความดีเพื่อชาติและประชาชน ด้วยการกระทำสิ่งดีๆ เช่น
หลังผ่านการใช้เงินซื้อเสียงและโกงเลือกตั้ง จนได้เข้าไปนั่งในสภาฯแล้ว “นักการเมือง” ต้องไม่ยกมือลงมติเลือก “ประธานสภาฯ” ที่เป็น-คนชั่ว! ต้องไม่ยกมือลงมติเลือก “นายกรัฐมนตรี” ที่เป็น-คนชั่ว! ต้องไม่ยกมือลงมติให้มีการออกกฎหมาย ที่ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ชาติและประชาชนคนส่วนใหญ่ ฯลฯ
ถ้า “ผู้แทนราษฎรดีจริง” ต้องเป็น “หมอดี” ในการ “ทำแท้ง-และ-ทำคลอด” การ “ทำแท้ง” คือไม่ยกมือลงมติให้สภาฯเอาคนชั่วขึ้นปกครองชาติเด็ดขาด! แต่ต้อง “ทำคลอด” ด้วยการยกมือลงมติ ให้สภาฯเอาคนดีขึ้นปกครองชาติให้ได้!
อีกทั้งต้อง “ทำแท้ง”ไม่ยกมือลงมติให้สภาฯ ออกกฎหมายอธรรมทั้งปวงเด็ดขาด! แต่ต้อง “ทำคลอด” ยกมือลงมติให้สภาฯ ออกกฎหมายที่เป็นธรรมทั้งปวงให้ได้..
เมื่อ “รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง”กระทำเรื่องชั่วร้าย เช่น รัฐบาลกับพวกพ้องคอร์รัปชั่นโกงชาติ หรือ รัฐบาลและพวกกระทำเรื่องผิดกฎหมายในมิติสำคัญๆ ฯลฯ
“ผู้แทนราษฎรที่ดีในสภาฯ”ต้องเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสามานย์ โดยไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น และต้องยกมือลงมติขับไล่หรือล้มรัฐบาลเลวร้ายนั้นลงให้ได้ ส่วนจะยกมือลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือยุบสภา เพื่อให้รัฐบาลใหม่เข้ามาปกครองชาติ
แทน หรือเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง หรือไม่นั้น ต้องขึ้นกับสถานการณ์ในห้วงนั้น..จริงไหม?
แต่รัฐสภาฯและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งสกปรก มักทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่ควรทำเสมอ เช่น หลังใช้เงินซื้อเสียงและโกงเลือกตั้งเข้าสภาฯแล้ว มักยกมือลงมติเลือก “คนชั่ว”เป็น“ประธานสภา” และ เอา “คนชั่ว” ขึ้นเป็น “นายกรัฐมนตรี” อีกด้วย!
แถม “ท่านผู้แทนฯ อันทรงเกียรติ”ทั้งหลาย ยังทำให้“สภาฯ อันทรงเกียรติ” กลายเป็น“สภาสวนสัตว์-เสือ-สิงห์-กระทิง-แรด-วัว-ควาย-สุนัข-ตัวเฮีย” ฯลฯ เป็นสภาฯไร้สติขาดสมอง เป็น“สภาตรายาง-สภาฝักถั่ว-สภาผัว-สภาเมีย-สภากิ๊ก-สภาขี้ข้า-สภาทาส” ฯลฯ
ที่สำคัญอย่างยิ่ง “ท่านผู้แทนฯ อันทรงเกียรติ” ได้กระทำชำเรา “สภาฯ อันควรทรงเกียรติ” ให้กลายเป็น “สภาฯอั นไร้เกียรติ” ไร้คุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรม ไร้ความซื่อสัตย์สุจริต กระทั่งบางเรื่องถึงกับไร้ความรักชาติ และรักประชาชนคนส่วนใหญ่ด้วยซ้ำไป..จริงไหม?
เพราะบางเรื่อง “ท่านผู้แทนฯอันทรงเกียรติ” ถึงกับใช้สภาฯเป็น“ซ่องโจร” สุมหัวกัน “ปล้นชาติ-ขายชาติ” อย่างหน้าด้านๆ ด้วยการยกมือลงมติ“ ขายทรัพยากรอันมีค่าของชาติ” อย่างไม่คุ้มค่า และ “ขายผลประโยชน์ชาติ-ประชาชน” อย่างชั่วช้าสามานย์ เพียงเพื่อนายทุนพรรคและพวกพ้อง จะได้เสวยสุขกับอำนาจ-เงินทอง-ผลประโยชน์
เฮ้อ..แทนที่จะสร้างการเมืองให้มีธรรมาธิปไตย อันจะนำชาติและประชาชน ก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างมั่นคงยั่งยืน อันเป็นภารกิจสำคัญที่สุดของการเป็นรัฐบาลของชาติ
แต่ทว่า ทั้งรัฐบาลมาจากการยึดอำนาจรัฐด้วยเงินและโกงเลือกตั้ง กับรัฐบาลมาจากการยึดอำนาจรัฐด้วยรัฐประหาร กลับไม่ลงมือปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน ไม่ยอมปฏิรูปชาติในมิติสำคัญๆอย่างจริงจัง เพื่อนำชาติไปสู่มิติเศรษฐกิจที่มีการกระจายรายได้ ให้ผู้มีรายได้น้อยและคนจนอย่างเป็นธรรม
ชาติไทยช่างโชคร้ายเหลือแสน เพราะชาติไทยยังไม่ได้รัฐบาลที่ดีดังหวัง ขึ้นมาปกครองชาติไทยให้ประชาชนได้ชื่นชมยินดี ตรงกันข้าม ชาติและประชาชนไทยมักได้รัฐบาลที่ไร้ธรรมาธิปไตย ขึ้นปกครองชาติบ้านเมืองเรื่อยมา จนราวกับ “รัตนโกสินทร์ไร้ผู้นำชาติที่ดี” เสียงั้นแหละ..
แน่นอน.. การเป็นคนชั่ว-ทำชั่วเป็นเรื่องง่ายดาย การเป็นคนดี-ทำดีเป็นเรื่องยากยิ่ง!
“นักการเมือง” ต้องเป็นคนดีมีคุณธรรมรองจาก “พระสงฆ์” เพราะชาติต้องการนักการเมืองที่ต้องทั้งเก่งและดี..ใช่ไหม? เพราะนักการเมืองต้องบริหารชาติบ้านเมือง ต้องบริหารเงินงบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาล ที่ขูดรีดมาจากหยาดเหงื่อแรงงานของประชาชน
นักการเมือง-ต้องคลุกคลีอยู่กับผลประโยชน์มากมาย ในโครงการใหญ่น้อยของราษฏร์และหลวง ต้องกำกับให้เกิดความยุติธรรม และลดความเหลื่อมล้ำทุกมิติในชาติให้ได้อย่างสมดุล ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ-การเมือง-สังคม-ศาสนา-กฎหมาย ฯลฯ
นักการเมือง-ต้องเป็นผู้บริหารชาติที่ดีมีคุณภาพ นั่นคือ ต้องไม่ปล่อยให้ “ทุนยักษ์-ทุนใหญ่” ได้เปรียบ “ทุนกลาง-ทุนเล็ก” เกินควร จนไร้ความยุติธรรม
นักการเมือง-ต้องไม่ปล่อยให้ “พ่อค้านักธุรกิจหน้าเลือด” ทำการค้าขูดรีดเอารัดเอาเปรียบประชาชน ที่เป็นทั้งผู้ใช้บริการและผู้บริโภค.. โดยนักการเมืองในนามรัฐบาล จงใจ “เอาหูไปนา-เอาตาไปไร่” หรือแอบมีผลประโยชน์ร่วมอยู่กับ“ พ่อค้านักธุรกิจหน้าเลือด” จนปล่อยให้ “พ่อค้านักธุรกิจหน้าเลือด” เหล่านั้น กอบโกยผลประโยชน์ “รีดเลือดจากปู” จากการค้าสามานย์ ที่ยึดกำไรสูงสุดเป็นสรณะ จนไม่แยแสในความเอื้ออาทรต่อเพื่อนร่วมชาติ
“ผู้นำ-รัฐบาล” ใดกระทำดังเหตุข้างต้น ต้องถือเป็น “ผู้นำ-รัฐบาล”ชั่วร้ายและเลือดเย็นที่สุด เพราะแทนที่“ผู้นำ-รัฐบาล”จะใช้อำนาจรัฐ และกำกับกลไกรัฐให้กระทำในเรื่องถูกต้องชอบธรรม ให้กับชาติและประชาชนได้มีชีวิตที่ดีมีคุณภาพมากขึ้น กลับกระทำตัวเป็น “ผู้นำ-รัฐบาล” ที่กดขี่ข่มเหงประชาชนผู้มีรายได้น้อย และคนที่ด้อยโอกาสไปเสียฉิบ..
“ผู้นำ-รัฐบาล”จำนวนมิใช่น้อยในชาติไทยและโลก ซึ่งมิใช่ “ผู้นำ-รัฐบาล” มีผลงานดีเป็นที่ประจักษ์ ในสายตาของประชาชน หากแต่เป็น “ผู้นำ-รัฐบาล” กะล่อนปลิ้นปล้อน ใช้วิธีหลอกลวงสร้างภาพดีมาปกปิดความชั่วร้าย แต่ในที่สุดก็ต้องพบกับความวิบัติจาก“ความลับไม่มีในโลก” จนถูกเปิดโปงความชั่วช้าสามานย์ออกสู่สาธารณชน
จนกลายเป็น“ผู้นำ-รัฐบาลทรราช” ที่ถูกจับเข้าคุกตะรางบ้าง ต้องหลบหนีความผิดลี้ภัยไปอยู่ต่างแดนตราบจนทุกวันนี้บ้าง..
การเลือกตั้งชาติไทยในอนาคต-ถ้ามี! ชาติไทยจะได้คนดีขึ้นปกครองชาติ..แน่หรือ “บิ๊กตู่”?