ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กป้อม"เผย "วัฒนา"บึ้มกรุง เพราะมีเหตุจูงใจเกี่ยวกับอุดมการณ์การเมือง ชี้ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีก 1 กำลังสืบสวนอยู่ พร้อมแสดงความมั่นใจ 24 มิ.ย. ไม่มีเหตุร้าย ขณะที่ทหารเตรียมส่งตัวให้ตำรวจวันนี้ เพื่อนำไปชี้จุดเกิดเหตุ 6 จุด ในกทม. ก่อนฝากขังศาลอาญา ด้านโจรใต้ป่วนอีก ลอบวางระเบิดทหารชุด ฉก.ปัตตานี 25 ดับ 6 เจ็บ 4 นาย เตือนระวังเกิดเหตุร้ายช่วง 10 วันสุดท้ายเดือนรอมฎอน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขยายผลกรณีเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวนายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตพนักงานการไฟฟ้า ที่เป็นผู้ลอบวางระเบิด ภายในห้องวงษ์สุวรรณ รพ.พระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า นายวัฒนา ยอมรับว่าทำแค่คนเดียว ซึ่งตอนนี้ทราบว่า มีคนร่วมเกี่ยวข้องอีก1 คน แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน เพราะเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่
สำหรับเหตุที่นายวัฒนา ลงมือกระทำ เพราะไม่ชอบทหาร ส่วนหญิงสาวคนสนิท ก็เป็นแกนนำคนเสื้อแดง จ.นนทบุรี นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ก็ใช่ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอุดมการณ์ทางการเมือง"
เมื่อถามว่า วันที่ 24 มิ.ย. เป็นวันครบรอบการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เป็นวันสัญลักษณ์ ทางหน่วยข่าวมีการแจ้งว่าจะมีการก่อเหตุ เพื่อสร้างความวุ่นวายหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีแล้ว มันไม่น่าจะมีแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็เพิ่มความระมัดระวัง พร้อมฝากประชาชนช่วยกันดูแลด้วย
เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวของ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ที่หลบหนีไปอยู่ประเทศกัมพูชานั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ได้ประสานกับทางการกัมพูชา แต่เชื่อว่านายโกตี๋ ไม่น่าหลบหนีเข้าไปกัมพูชาได้ เพราะที่ผ่านมาทางการกัมพูชาให้ความร่วมมือกับเราเป็นอย่างดี ส่วนกรณีที่ พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แจ้งว่า ทางการลาวให้ความร่วมมือกับไทย ในการปิดเฟซบุ๊ก นายโกตี๋นั้น เราก็ต้องประสานงานต่อไป ว่าจะดำเนินการได้มาน้อยแค่ไหน
จากนั้นผู้สื่อข่าว ถามว่าตอนนี้รู้สึกสบายใจมากขึ้นหรือไม่ เพราะสีหน้าดูยิ้มแย้ม พล.อ.ประวิตร ตอบว่า "ไม่ได้ยิ้มแย้มอะไร ถ้าผมจับคนร้ายไม่ได้ สื่อก็เอาผมตายเลยสิ"
แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง กล่าวว่า วันนี้ (20 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ทหาร จะนำตัวนายวัฒนา ไปส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนเป็นผู้รับมอบ ก่อนที่จะนำตัวนายวัฒนาไปชี้จุดเกิดเหตุ ที่รพ.พระมงกุฎเกล้า จากนั้นเดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุ ที่ด้านหน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.ราชดำเนิน ด้านหน้าโรงละครแห่งชาติ ด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ด้านหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์รัชโยธิน ถ.พหลโยหล และปากซอยราชวิถี 24 จากนั้นจะส่งตัวไปควบคุมที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้พนักงานสอบสวนได้สอบสวนประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังผัดแรก ที่ศาลอาญา รัชดา ในวันที่ 21 มิ.ย.
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจพบคีมที่ใช้ในการตัดหัวตะปู ที่บ้านพักย่านบางเขน และเมื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตรวจสอบพบว่าตรงกันตามที่ให้การ
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ที่ประชุม คสช. ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานของ คสช. ดูแลและเข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่ต่างๆ แม้ว่าเจ้าหน้าสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยในคดีลอบวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้แล้ว แต่ยังคงเข้มในการดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง
วันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 ชุดลาดตระเวนเส้นทาง หรือชุดจรยุทธ์ จำนวน 10 นาย ได้ใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี แต่ปรากฏว่าระหว่างลาดตระเวนมาถึงบริเวณถนนลูกรัง ด้านหลังหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 44 ในพื้นที่ ม.5 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี คนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ข้างทางได้กดจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัมที่ฝังไว้ใต้พื้นถนนจนเกิดระเบิดขึ้นสนั่นหวั่นไหว โดยแรงระเบิดทำให้รถยนต์ของเจ้าหน้าที่แหลกกระจายเป็นชิ้นส่วน ไม่เหลือสภาพของตัวรถ ขณะที่เจ้าหน้าที่ๆ อยู่ภายในรถ ถูกแรงระเบิดกระเด็นไปคนละทิศละทาง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 นาย บาดเจ็บสาหัส 4 นาย
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย 1.จ.ส.อ.สมปราช ศรีราชา 2.พลฯ ทหารอดิศักดิ์ ฤทธิเดช 3.พลฯ วีรภูมิ บุพผา 4.พลฯ อภิชาต หอยแก้ว 5.พลฯ กิตติพงษ์ บ่อหนา 6.พลฯเจษฎา รุ่งวงศ์ และผู้บาดเจ็บ ประกอบด้วย 1.ส.ท.นศรินทร์ อึ่งฮก 2.พลฯ เจ๊ะอามีน หะยีบูละ 3.ส.อ.วุฒิพงษ์ เรืองพุทธ 4.พลฯ วุฒิชัย ณ พัทลุง
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงได้ปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุพร้อมกระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้นในรัศมี 1 กิโลเมตร โดยเชื่อว่าเชื่อเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบเพื่อสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ เนื่องจากช่วงนี้อยู่ในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ซึ่งมักจะมีการก่อเหตุความรุนแรงขึ้นบ่อยครั้ง
พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า จะไม่มีการประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุและไม่ปรับแผนการรักษาความปลอดภัย เพราะของเดิมดีอยู่แล้ว แต่ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเร่งหาเบาะแสและติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้โดยเร็ว
มีรายงานจากแหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคง ว่า ฝ่ายตรงข้ามมีแนวโน้มที่จะก่อเหตุร้าย โดยจะเริ่มปฏิบัติการณ์ตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย. มีพื้นที่ที่ต้องระวังประกอบด้วย 1.ตลาดนิคมเทพา 2.หน้าโรงเรียนเม๊าะลาแต 3.หน้าโรงเรียนสะบ้าย้อย 4.ตลาดสะบ้าย้อย 5.หน้าร้าน 7-11 สะบ้าย้อย (ให้ดูจากสิ่งบอกเหตุ หน้าร้านจะไม่มีวัยรุ่นและคนไทยมุสลิมในห้วงเวลาที่จะก่อเหตุ) 6.ปั๊มน้ำมันสะบ้าย้อย 7.ร้านโลตัสเอ็กเพรส สาขาลำไพล
ส่วนในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงได้ออกลาดตระเวนเฝ้าระวังและสังเกตการณ์บริเวณสถานีรถไฟ สถานีขนส่ง โรงพยาบาลหาดใหญ่ ตลาดสดพลาซ่า โรงแรมลีการ์เด้นพลาซ่า บริเวณพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ ห้างสรรพสินค้าต่างๆ และพื้นที่โดยรอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน เป็นการป้องกันป้องปราม และกดดันไม่ให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุรุนแรง
