ข่าวปนคน คนปนข่าว
** จับอาการ“ลุงตู่”หัวร้อน อะไรๆก็ไม่เป็นใจ แตะมือ“พี่น้องบูรพาพยัคฆ์”หลบกระแสทำตัวเป็น“เสือซุ่ม”
มันก็ดูจะ "หัวร้อน" หน่อยๆ .. ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ "นายกฯลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้ยังไม่มีการให้สัมภาษณ์เป็นเรื่องเป็นราวตามปกติ แต่การพูดหลายๆ ฟลอร์ ช่างสะท้อนว่าช่วงนี้ไม่ได้อารมณ์ดีเหมือนหน้าตา ฮา .. อย่างการแถลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาท ในที่ประชุม สนช. เมื่อวันก่อน ก็ยังแวะไปแขวะ“เด็กนักเรียน”ที่มาทัศนศึกษาว่า ลุกหนีไม่ยอมฟังจนจบ ทั้งที่เป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง .. ก็แหม โปรแกรมดูงานรัฐสภา ก็ประเภท“ทัวร์ชะโงก”เข้ามานั่งฟังท่านผู้ทรงเกียรติ 10 นาที 15 นาที ก็ต้องไปดูอย่างอื่นต่อ อย่าไปถือโทษเด็กมันเลยนะท่านนะ ..
ถัดไปเป็นคิว "ลำไย ไหทองคำ" นักร้องลูกทุ่งสาวหมอลำสุดฮอต เจ้าของบทเพลง “ผู้สาวขาเลาะ”ก็ไม่รอดหูรอดตา“ท่านผู้นำ”ถูกตำหนิว่า ท่าเต้นโชว์ของจนเกินงาม .. ดูจะฉุนได้ทุกเรื่องจริงๆ ก็เข้าใจนะ ด้วยภาวะปัญหารุมเร้า เศรษฐกิจก็แย่ ความนิยมตกฮวบ อะไรๆ ก็ดูขวางหูขวางตาไปหมด
ด้วยอารมณ์กรุ่นๆแบบนี้กระมัง “ลุงตู่”เลยขอเลือกเล่นบท “เสือซุ่ม”เฟดตัวเองออกจากกระแส ไม่ชนกับเรื่องร้อนๆ ง่ายที่สุดก็งดให้สัมภาษณ์ อาศัยยึดเวทีเดี่ยวไมโครโฟน แบบไม่ต้องมีใครถาม ไม่ต้องมีใครแย่งพูดดีกว่า .. อย่างตอนแถลงงบฯปี 61 ก็ล่อไปซะเกือบ 2 ชั่วโมง ใจความก็ไม่มีอะไร ขมวดคำพูดเก่าช่วง 3 ปีนี้มาพูดรัวๆ ขอสร้างประวัติศาสตร์ วางยุทธศาสตร์ทำให้ประเทศพ้นกับดัก ปฏิรูปประเทศ บลาๆๆๆ พร้อมประกาศว่าปีหน้าจะทำงบประมาณให้เข้มข้นกว่านี้ อ้าว..เพิ่งคิดได้ นี่ทำงบฯมา 4 ปีแล้ว ยังเข้มข้นไม่พออีกรึ แบบนี้ยาวไป ยาวปาย .. นายกฯจะพูดยาวพูดสั้นก็ค่าเท่ากัน ที่สุดที่ประชุม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็ยังมั่นคงในความเป็น“ฝักถั่ว”หลับหูหลับตาโหวตผ่านโดยพร้อมเพรียง 213 เสียง ในวาระแรก จากนี้ก็มีการตั้งกรรมาธิการพิจารณาไปตามกระบวนการ ทั้งๆ ที่ถ้าทำได้อาจจะโหวต 3 วาระรวด ไม่ต้องเปลืองไฟเปลืองแอร์ด้วยซ้ำ
ไม่ใช่แค่“น้องตู่”คนเดียวนะที่ชิ่งกระแสไปเป็น“เสือซุ่ม”เพราะทั้งพี่ใหญ่-พี่รอง ก็เลือกเฟดตัวออกจากกระแสเช่นกัน .. รายของ“ป๋าป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หนักหน่อย ที่เผชิญกับอาการเจ็บป่วย ที่ใครๆ ก็ต่างลุ้นให้ “ท่านป้อม”กลับบ้านไปพักผ่อนทั้งน้านนน .. สภาพ“ป๋าป้อม”ตอนนี้ ไม่ต่างจาก แม่ทัพใหญ่ในยามสงคราม ที่แม้บาดเจ็บเจียนตาย แต่เพียงเป็นขวัญกำลังให้ลูกน้อง-ข่มขวัญคู่ต่อสู้ ก็เลยยังต้องถูกเชิดขึ้นหลังม้า ทำท่าทางพร้อมรบพุ่ง แต่จริงๆ แล้วไม่ไหว .. ขณะที่ “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พี่รองบูรพาพยัคฆ์ รายนี้ซุ่มโป่งมานาน ฟาดเรียบตามสไตล์เสือเงียบตลอด .. เซียนจริงๆ
**“บิ๊กสีกากี”แซะกันไม่เลิก“ตาปู-ตาแป๊ะ”ระวังจะเสร็จ“ตาอยู่”
กระแสปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่มีการตอบรับใดๆ จาก“นายกฯตู่” ยันตลอดว่า มโนเพ้อกันไปเรื่อย ตัวเองมีอำนาจแท้ๆ ยังไม่เคยคิด .. แต่ในทางการเมืองแล้ว ไม่คือใช่ ใช่คือไม่ จะบอกว่าไม่คิดเลย คงเป็นไปได้ยาก คิดมากคิดน้อยก็อีกเรื่อง อยู่ที่ วัน ว. เวลา น. เมื่อไหร่เท่านั้น .. ในครม.เองก็เช็กข่าวกันตลอด ใครจะหลุด ใครจะได้ไปต่อ เห็นว่ามีคอนเซปต์หลวมๆว่า คนที่มีตำแหน่งในคสช. ยังไม่ไปไหน ส่วนแก๊ง“เพื่อนตู่ - น้องตู่”ไม่รอด ได้กลับบ้านไปเลี้ยงหลานกันเป็นส่วนใหญ่ .. สำทับด้วย 9 รัฐมนตรี 1 ทหาร 8 พลเรือน ที่ถูก คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบกรณีเข้าข่ายขาดคุณสมบัติ ที่แว่วว่า 9 ราย หากตีความตามตัวบทกฎหมาย ก็จะมีเหลือรอดเพียงรายเดียว คือ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่ถูกร้องว่าเป็นลูกจ้างหน่วยงานอื่น คือ กรรมการในสถาบันการศึกษา .. ส่วนอีก 8 ราย ทำท่าจะแย่ ทั้ง ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมช.ศึกษาธิการ พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ และทอปบูต หนึ่งเดียวอย่าง “บิ๊กบี้” พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน ที่ถือหุ้นในบริษัทเอกชน“ผิดประเภท”ทั้งหุ้นสื่อฯ-หุ้นรับสัมปทานรัฐ
ใน ครม.คนเข้าออกยังไม่ชัด ไร้ความเคลื่อนไหวในตึกไทยคู่ฟ้า แต่กลายเป็นกระแสที่ทางฟากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่เรียกกันว่า “กรมปทุมวัน”เอาไปเล่นกระแส แซะกันสนุกสนาน .. กับคิวการเปลี่ยนหัวสลับตัว ผบ.ตร. จาก “บิ๊กแป๊ะ”จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่อยู่โยงมาจะครบ 2 ปี ในเดือน ก.ย.นี้แล้ว ถือว่าครบรอบตามคำมั่นสัญญาที่ให้กันไว้ คนรอก็ทวงถามเรื่อย แต่เจ้าของเก้าอี้ก็อิดออด .. งานนี้เลยมีการปล่อยข่าวสะบั้นหั่นแหลกมาตั้งแต่ปีกลาย ครึ่งปีมานี้ล่อกันหนัก ล่าสุดเปิดหลุม ปูทางให้ “บิ๊กแป๊ะ”ไปกินตำแหน่ง รมต.สำนักนายกฯ ก่อนจะเปลี่ยนให้ใหม่ ไปเป็นปลัดกระทรวงคมนาคม ตามรอยพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีต ผบ.ตร. ที่เคยถูกขอร้องแกมบังคับไปทางนู้น ..
ส่วนคนที่จับจอง ขอมาแทน“บิ๊กแป๊ะ”ก็ “บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ที่หมายมั่นปั้นมือมานาน แต่ก็ติดตรงไม่ค่อยมีสมัครพรรคพวก ประเภท ผู้ใหญ่ไม่รัก ลูกน้องก็ชัง แล้วก็เพิ่งมีแผลสดอย่างคดีที่ปากช่อง ที่ยังสลัดไม่หลุด .. ระวังแซะกันไปแซะกันมา จะเสร็จ “ตาอยู่”อย่าง พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบ.ตร. ดูแลงานด้านจราจร ที่ก็มีลุ้นไม่ใช่น้อย หลังมีคนพาเข้า“ฟาร์มโชคชัย”เป็นที่เรียบร้อย จนช่วงนี้ถนอมเนื้อถนอมตัวเป็นพิเศษ ขนาด มีหน้าที่โฆษก สตช. ยังขอทิ้งไมค์ชั่วคราว ปล่อยคิวให้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสตช. ออกหน้าแทนตลอด
** กระแส“เซตซีโร กกต.”มีแต่สะใจ ไร้ความเห็นใจ ปีนเกลียวคสช. ปัจจัยเร่งโละยกชุด
เรียบร้อยโรงเรียน คสช. .. เมื่อที่ประชุม สนช.เมื่อศุกร์ที่แล้ว โหวตผ่านร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สาระสำคัญอยู่ที่ "มาตรา 70" ที่เป็นบทเฉพาะกาล ที่มีการปรับแก้ให้ ประธานกกต. และ กกต. ชุดปัจจุบัน พ้นจากตำแหน่งทันที ที่กฎกมายมีผลบังคับใช้ หรือ“เซตซีโร กกต.”นั่นเอง .. จากนี้ก็ยังมีกระบวนการอีกพอสมควร ผ่าน“คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)–ศาลรัฐธรรมนูญ” รวมทั้ง“องค์กรอิสระที่เกี่ยว ข้อง”ต้องรีวิวกันอีกรอบว่า มีเนื้อหาไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ เมื่อธงชัดเจนขนาดนี้ก็คงผ่านตลอด แต่ถ้ามีใครคิดว่าขัด ก็ต้องเสนอ สนช.ใหม่ภายใน15 วัน ถ้า สนช.ไม่เห็นด้วย ก็ฉลุยส่งต่อให้นายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป ..
แน่นอนว่า ทาง “5 เสือ กกต.”ที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง คงมีการทักท้วง แต่ก็คงต้องตกไปอย่างง่ายดาย เพราะต้องผ่านความเห็นชอบจากสนช. และกรธ.ด้วย .. ตอกฝาโลง ปิดประตูตาย เตรียมหางานใหม่กันได้เลย .. ในอารมณ์ กกต.ก็ไม่ยอมง่ายๆ ดิ้นเฮือกสุดท้าย ตั้งแท่นตรวจสอบคุณสมบัติ 9 รัฐมนตรีใน “รัฐบาลลุงตู่”ตามที่ “เด็กเพื่อไทย”ชงทิ้งไว้ให้ .. ตามธรรมดาอาจจะมีอารมณ์อาลัยอาวรณ์ กกต.ชุดนี้กันบ้าง แต่เท่าที่สำรวจตรวจสอบกลับเป็นการทับถมมากกว่า .. บวกกับอารมณ์หมั่นไส้ สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.คนดัง ที่ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง มีแต่เสียงด่า มากกว่าเสียงชม ล่าสุดก็ออกมาจวกว่า มติเซตซีโร กกต.เป็น “ตราบาป”ไม่ต่างจาก มตินิรโทษกรรมสุดซอย ว่าไปนู่น .. สะใจฝุดๆ ต้องคนนี้เลย ภุชงค์ นุตราวงศ์ อดีตเลขาฯ กกต. ที่ถูก กกต.ชุดนี้ลงมติเลิกจ้าง 4 ต่อ 1 เมื่อ ธ.ค.58 โพสต์คอมเมนต์ในเฟซบุ๊ก ที่มีคนแชร์ข่าวเซตซีโร กกต.แสบๆ คันๆว่า “เราบ่ผิด ท่านมาล้าง ดาบนั้นคืนสนอง”
หลายคนอาจมองว่า การเซตซีโร กกต.เป็นแผนสืบทอดอำนาจ และตระเตรียมการเลือกตั้งครั้งต่อไปของ“ผู้มีอำนาจ”หากแต่แท้จริงแล้ว ตัวเร่งปฏิกิริยาให้แตกหักนั้นมาจาก“สนิมเนื้อใน”ของ กกต.เอง ทั้งเรื่องอื้อฉาวการจัดใช้งบประมาณ ความเป็นเอกภาพมีการแบ่งฝ่ายแย่งชิงตำแหน่งประธาน กกต.อย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ หรือจะเป็นการไม่เป็นไผ่ลู่ตามลม หาญกล้าโพยชื่อ พล.อ.เดชา ปุญญบาล ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ให้มาเป็นเลขาฯกกต.คนใหม่ที่ “บิ๊ก คสช.”ส่งมาให้อย่างหน้าตาเฉย โดยที่กระบวนการสรรหาเลขาฯกกต. ก็คาราคาซังมาเป็นปี .. ปมการโละ กกต.ยกชุด จึงไม่ใช่แค่เรื่องราวของการสืบอำนาจ แต่มีเรื่องอื้อฉาวภายใน ที่ได้ถือโอกาสกวาดลงเข่งไปทีเดียวเลย.
ช.ชฎา
รูป-- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา -- พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา -- สมชัย ศรีสุทธิยากร
** จับอาการ“ลุงตู่”หัวร้อน อะไรๆก็ไม่เป็นใจ แตะมือ“พี่น้องบูรพาพยัคฆ์”หลบกระแสทำตัวเป็น“เสือซุ่ม”
มันก็ดูจะ "หัวร้อน" หน่อยๆ .. ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ "นายกฯลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้ยังไม่มีการให้สัมภาษณ์เป็นเรื่องเป็นราวตามปกติ แต่การพูดหลายๆ ฟลอร์ ช่างสะท้อนว่าช่วงนี้ไม่ได้อารมณ์ดีเหมือนหน้าตา ฮา .. อย่างการแถลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาท ในที่ประชุม สนช. เมื่อวันก่อน ก็ยังแวะไปแขวะ“เด็กนักเรียน”ที่มาทัศนศึกษาว่า ลุกหนีไม่ยอมฟังจนจบ ทั้งที่เป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง .. ก็แหม โปรแกรมดูงานรัฐสภา ก็ประเภท“ทัวร์ชะโงก”เข้ามานั่งฟังท่านผู้ทรงเกียรติ 10 นาที 15 นาที ก็ต้องไปดูอย่างอื่นต่อ อย่าไปถือโทษเด็กมันเลยนะท่านนะ ..
ถัดไปเป็นคิว "ลำไย ไหทองคำ" นักร้องลูกทุ่งสาวหมอลำสุดฮอต เจ้าของบทเพลง “ผู้สาวขาเลาะ”ก็ไม่รอดหูรอดตา“ท่านผู้นำ”ถูกตำหนิว่า ท่าเต้นโชว์ของจนเกินงาม .. ดูจะฉุนได้ทุกเรื่องจริงๆ ก็เข้าใจนะ ด้วยภาวะปัญหารุมเร้า เศรษฐกิจก็แย่ ความนิยมตกฮวบ อะไรๆ ก็ดูขวางหูขวางตาไปหมด
ด้วยอารมณ์กรุ่นๆแบบนี้กระมัง “ลุงตู่”เลยขอเลือกเล่นบท “เสือซุ่ม”เฟดตัวเองออกจากกระแส ไม่ชนกับเรื่องร้อนๆ ง่ายที่สุดก็งดให้สัมภาษณ์ อาศัยยึดเวทีเดี่ยวไมโครโฟน แบบไม่ต้องมีใครถาม ไม่ต้องมีใครแย่งพูดดีกว่า .. อย่างตอนแถลงงบฯปี 61 ก็ล่อไปซะเกือบ 2 ชั่วโมง ใจความก็ไม่มีอะไร ขมวดคำพูดเก่าช่วง 3 ปีนี้มาพูดรัวๆ ขอสร้างประวัติศาสตร์ วางยุทธศาสตร์ทำให้ประเทศพ้นกับดัก ปฏิรูปประเทศ บลาๆๆๆ พร้อมประกาศว่าปีหน้าจะทำงบประมาณให้เข้มข้นกว่านี้ อ้าว..เพิ่งคิดได้ นี่ทำงบฯมา 4 ปีแล้ว ยังเข้มข้นไม่พออีกรึ แบบนี้ยาวไป ยาวปาย .. นายกฯจะพูดยาวพูดสั้นก็ค่าเท่ากัน ที่สุดที่ประชุม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็ยังมั่นคงในความเป็น“ฝักถั่ว”หลับหูหลับตาโหวตผ่านโดยพร้อมเพรียง 213 เสียง ในวาระแรก จากนี้ก็มีการตั้งกรรมาธิการพิจารณาไปตามกระบวนการ ทั้งๆ ที่ถ้าทำได้อาจจะโหวต 3 วาระรวด ไม่ต้องเปลืองไฟเปลืองแอร์ด้วยซ้ำ
ไม่ใช่แค่“น้องตู่”คนเดียวนะที่ชิ่งกระแสไปเป็น“เสือซุ่ม”เพราะทั้งพี่ใหญ่-พี่รอง ก็เลือกเฟดตัวออกจากกระแสเช่นกัน .. รายของ“ป๋าป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หนักหน่อย ที่เผชิญกับอาการเจ็บป่วย ที่ใครๆ ก็ต่างลุ้นให้ “ท่านป้อม”กลับบ้านไปพักผ่อนทั้งน้านนน .. สภาพ“ป๋าป้อม”ตอนนี้ ไม่ต่างจาก แม่ทัพใหญ่ในยามสงคราม ที่แม้บาดเจ็บเจียนตาย แต่เพียงเป็นขวัญกำลังให้ลูกน้อง-ข่มขวัญคู่ต่อสู้ ก็เลยยังต้องถูกเชิดขึ้นหลังม้า ทำท่าทางพร้อมรบพุ่ง แต่จริงๆ แล้วไม่ไหว .. ขณะที่ “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พี่รองบูรพาพยัคฆ์ รายนี้ซุ่มโป่งมานาน ฟาดเรียบตามสไตล์เสือเงียบตลอด .. เซียนจริงๆ
**“บิ๊กสีกากี”แซะกันไม่เลิก“ตาปู-ตาแป๊ะ”ระวังจะเสร็จ“ตาอยู่”
กระแสปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่มีการตอบรับใดๆ จาก“นายกฯตู่” ยันตลอดว่า มโนเพ้อกันไปเรื่อย ตัวเองมีอำนาจแท้ๆ ยังไม่เคยคิด .. แต่ในทางการเมืองแล้ว ไม่คือใช่ ใช่คือไม่ จะบอกว่าไม่คิดเลย คงเป็นไปได้ยาก คิดมากคิดน้อยก็อีกเรื่อง อยู่ที่ วัน ว. เวลา น. เมื่อไหร่เท่านั้น .. ในครม.เองก็เช็กข่าวกันตลอด ใครจะหลุด ใครจะได้ไปต่อ เห็นว่ามีคอนเซปต์หลวมๆว่า คนที่มีตำแหน่งในคสช. ยังไม่ไปไหน ส่วนแก๊ง“เพื่อนตู่ - น้องตู่”ไม่รอด ได้กลับบ้านไปเลี้ยงหลานกันเป็นส่วนใหญ่ .. สำทับด้วย 9 รัฐมนตรี 1 ทหาร 8 พลเรือน ที่ถูก คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบกรณีเข้าข่ายขาดคุณสมบัติ ที่แว่วว่า 9 ราย หากตีความตามตัวบทกฎหมาย ก็จะมีเหลือรอดเพียงรายเดียว คือ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่ถูกร้องว่าเป็นลูกจ้างหน่วยงานอื่น คือ กรรมการในสถาบันการศึกษา .. ส่วนอีก 8 ราย ทำท่าจะแย่ ทั้ง ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมช.ศึกษาธิการ พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ และทอปบูต หนึ่งเดียวอย่าง “บิ๊กบี้” พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน ที่ถือหุ้นในบริษัทเอกชน“ผิดประเภท”ทั้งหุ้นสื่อฯ-หุ้นรับสัมปทานรัฐ
ใน ครม.คนเข้าออกยังไม่ชัด ไร้ความเคลื่อนไหวในตึกไทยคู่ฟ้า แต่กลายเป็นกระแสที่ทางฟากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่เรียกกันว่า “กรมปทุมวัน”เอาไปเล่นกระแส แซะกันสนุกสนาน .. กับคิวการเปลี่ยนหัวสลับตัว ผบ.ตร. จาก “บิ๊กแป๊ะ”จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่อยู่โยงมาจะครบ 2 ปี ในเดือน ก.ย.นี้แล้ว ถือว่าครบรอบตามคำมั่นสัญญาที่ให้กันไว้ คนรอก็ทวงถามเรื่อย แต่เจ้าของเก้าอี้ก็อิดออด .. งานนี้เลยมีการปล่อยข่าวสะบั้นหั่นแหลกมาตั้งแต่ปีกลาย ครึ่งปีมานี้ล่อกันหนัก ล่าสุดเปิดหลุม ปูทางให้ “บิ๊กแป๊ะ”ไปกินตำแหน่ง รมต.สำนักนายกฯ ก่อนจะเปลี่ยนให้ใหม่ ไปเป็นปลัดกระทรวงคมนาคม ตามรอยพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีต ผบ.ตร. ที่เคยถูกขอร้องแกมบังคับไปทางนู้น ..
ส่วนคนที่จับจอง ขอมาแทน“บิ๊กแป๊ะ”ก็ “บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ที่หมายมั่นปั้นมือมานาน แต่ก็ติดตรงไม่ค่อยมีสมัครพรรคพวก ประเภท ผู้ใหญ่ไม่รัก ลูกน้องก็ชัง แล้วก็เพิ่งมีแผลสดอย่างคดีที่ปากช่อง ที่ยังสลัดไม่หลุด .. ระวังแซะกันไปแซะกันมา จะเสร็จ “ตาอยู่”อย่าง พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบ.ตร. ดูแลงานด้านจราจร ที่ก็มีลุ้นไม่ใช่น้อย หลังมีคนพาเข้า“ฟาร์มโชคชัย”เป็นที่เรียบร้อย จนช่วงนี้ถนอมเนื้อถนอมตัวเป็นพิเศษ ขนาด มีหน้าที่โฆษก สตช. ยังขอทิ้งไมค์ชั่วคราว ปล่อยคิวให้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสตช. ออกหน้าแทนตลอด
** กระแส“เซตซีโร กกต.”มีแต่สะใจ ไร้ความเห็นใจ ปีนเกลียวคสช. ปัจจัยเร่งโละยกชุด
เรียบร้อยโรงเรียน คสช. .. เมื่อที่ประชุม สนช.เมื่อศุกร์ที่แล้ว โหวตผ่านร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สาระสำคัญอยู่ที่ "มาตรา 70" ที่เป็นบทเฉพาะกาล ที่มีการปรับแก้ให้ ประธานกกต. และ กกต. ชุดปัจจุบัน พ้นจากตำแหน่งทันที ที่กฎกมายมีผลบังคับใช้ หรือ“เซตซีโร กกต.”นั่นเอง .. จากนี้ก็ยังมีกระบวนการอีกพอสมควร ผ่าน“คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)–ศาลรัฐธรรมนูญ” รวมทั้ง“องค์กรอิสระที่เกี่ยว ข้อง”ต้องรีวิวกันอีกรอบว่า มีเนื้อหาไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ เมื่อธงชัดเจนขนาดนี้ก็คงผ่านตลอด แต่ถ้ามีใครคิดว่าขัด ก็ต้องเสนอ สนช.ใหม่ภายใน15 วัน ถ้า สนช.ไม่เห็นด้วย ก็ฉลุยส่งต่อให้นายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป ..
แน่นอนว่า ทาง “5 เสือ กกต.”ที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง คงมีการทักท้วง แต่ก็คงต้องตกไปอย่างง่ายดาย เพราะต้องผ่านความเห็นชอบจากสนช. และกรธ.ด้วย .. ตอกฝาโลง ปิดประตูตาย เตรียมหางานใหม่กันได้เลย .. ในอารมณ์ กกต.ก็ไม่ยอมง่ายๆ ดิ้นเฮือกสุดท้าย ตั้งแท่นตรวจสอบคุณสมบัติ 9 รัฐมนตรีใน “รัฐบาลลุงตู่”ตามที่ “เด็กเพื่อไทย”ชงทิ้งไว้ให้ .. ตามธรรมดาอาจจะมีอารมณ์อาลัยอาวรณ์ กกต.ชุดนี้กันบ้าง แต่เท่าที่สำรวจตรวจสอบกลับเป็นการทับถมมากกว่า .. บวกกับอารมณ์หมั่นไส้ สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.คนดัง ที่ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง มีแต่เสียงด่า มากกว่าเสียงชม ล่าสุดก็ออกมาจวกว่า มติเซตซีโร กกต.เป็น “ตราบาป”ไม่ต่างจาก มตินิรโทษกรรมสุดซอย ว่าไปนู่น .. สะใจฝุดๆ ต้องคนนี้เลย ภุชงค์ นุตราวงศ์ อดีตเลขาฯ กกต. ที่ถูก กกต.ชุดนี้ลงมติเลิกจ้าง 4 ต่อ 1 เมื่อ ธ.ค.58 โพสต์คอมเมนต์ในเฟซบุ๊ก ที่มีคนแชร์ข่าวเซตซีโร กกต.แสบๆ คันๆว่า “เราบ่ผิด ท่านมาล้าง ดาบนั้นคืนสนอง”
หลายคนอาจมองว่า การเซตซีโร กกต.เป็นแผนสืบทอดอำนาจ และตระเตรียมการเลือกตั้งครั้งต่อไปของ“ผู้มีอำนาจ”หากแต่แท้จริงแล้ว ตัวเร่งปฏิกิริยาให้แตกหักนั้นมาจาก“สนิมเนื้อใน”ของ กกต.เอง ทั้งเรื่องอื้อฉาวการจัดใช้งบประมาณ ความเป็นเอกภาพมีการแบ่งฝ่ายแย่งชิงตำแหน่งประธาน กกต.อย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ หรือจะเป็นการไม่เป็นไผ่ลู่ตามลม หาญกล้าโพยชื่อ พล.อ.เดชา ปุญญบาล ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ให้มาเป็นเลขาฯกกต.คนใหม่ที่ “บิ๊ก คสช.”ส่งมาให้อย่างหน้าตาเฉย โดยที่กระบวนการสรรหาเลขาฯกกต. ก็คาราคาซังมาเป็นปี .. ปมการโละ กกต.ยกชุด จึงไม่ใช่แค่เรื่องราวของการสืบอำนาจ แต่มีเรื่องอื้อฉาวภายใน ที่ได้ถือโอกาสกวาดลงเข่งไปทีเดียวเลย.
ช.ชฎา
รูป-- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา -- พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา -- สมชัย ศรีสุทธิยากร