"บิ๊กป้อม" เผยโทรศัพท์คุย"เตีย บัญ" หลังกลาโหมกัมพูชาทำหนังสือถึงสื่อไทย จี้ขอโทษอย่างเป็นทางการ หลังนำเสนอข่าวพาดพิง กรณีจับกุมอาวุธสงคราม ยันไม่กระทบความสัมพันธ์ประเทศ รองโฆษก ตร.ยัน รถทะเบียนกงจักร ที่ขนอาวุธสงคราม ไม่เกี่ยวข้องกับรถแลนด์ครุยเซอร์ และไม่ใช่ของบุคคลระดับบิ๊กในรัฐบาลกัมพูชา ด้าน"ชัยวุฒิ" อดีตส.ส.ตาก โดนทหารบุกค้นบ้านพักที่แม่สอด โดยไม่รู้สาเหตุ ขณะที่แก๊งค้าอาวุธสงครามทางพัสดุ สารภาพแล้วขโมยจากคลังอาวุธของกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี สำนักวิเทศสัมพันธ์กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกหนังสือถึงสำนักงานผู้ช่วยทูตทหารไทยประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เรียกร้องให้สื่อมวลชนไทยบางสำนัก แสดงความรับผิดชอบ และขอโทษอย่างเป็นทางการ ภายหลังนำเสนอข่าวพาดพิง พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ของกัมพูชา ว่า ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับ พล.อ.เตีย บัญ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีความเข้าใจดีต่อกัน ทางพล.อ.เตีย บันญ ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร เพียงแต่อยากให้มีการแสดงความรับผิดชอบ และขอโทษอย่างเป็นทางการต่อรัฐบาลกัมพูชา
ทั้งนี้ จึงอยากขอให้สื่อไทยระมัดระวังการนำเสนอข่าวที่พาดพิงถึงบุคคลระดับสูงของกัมพูชา หากยังไม่ได้มีการพิสูจน์ หรือสอบสวนอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะไทยและกัมพูชา มีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด และผู้บริหารประเทศทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอดเช่นกัน
"เขาฝากเตือนมายังสื่อมวลชนไทยว่า การนำเสนอข่าวใด หากเกี่ยวกับผู้นำระดับสูงของต่างประเทศ หรือประเทศเพื่อนบ้าน ต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริง และมีข้อมูลหลักฐานที่แน่ชัด ต้องระมัดระวัง อย่ารีบร้อนดำเนินการ เพราะอาจเกิดความเสียหาย และจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ซึ่งทุกเรื่องควรรอการพิสูจน์ทราบให้แน่ชัดก่อน" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวถึง กรณีที่มีการจับกุม พ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ อายุ 40 ปี พร้อม นายจักรพงษ์ ไกรเรือง และ นายพิสิษฐ์ เลียง ชาวกัมพูชา พบอาวุธสงครามจำนวนมากซุกซ่อนภายในรถทะเบียนตรากงจักร ที่ประสบอุบัติเหตุตกถนน ที่ จ.ตราด เมื่อคืนวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมามีกระแสข่าวว่า รถยนต์ยี่ห้อแลนด์ครุยเซอร์ ที่นายพิสิษฐ์ ขับนั้น เป็นของผู้บริหารระดับสูงของประเทศกัมพูชา ยืนยันว่า จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าว ไม่ใช่ของบุคคลที่ถูกกล่าวอ้าง ตรงกับที่ผู้บริหารระดับสูงของประเทศเพื่อนบ้านได้ออกมาให้ข้อมูล
ด้านพล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. กล่าวว่า จากตรวจสอบการเดินทางเข้าออกของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองตราด พบว่า พ.อ.อ.ภคิน ไม่พบการเข้าออกเลย ขณะที่นายจักรพงษ์ พบเดินทาง 11 ครั้ง ส่วนนายพิสิษฐ์ ชาวกัมพูชา เดินทางเข้าออกบ่อยถึง 231 ครั้ง โดยทุกครั้งเป็นการเข้าออกถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพียงตัวบุคคลเท่านั้น ส่วนสิ่งของ หรือสัมภาระจะเป็นหน้าที่ของศุลกากร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากสถานีตำรวจภูธรแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก กว่า 50 นาย ได้ปิดล้อมบ้านนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตส.ส. และ อดีตรมว.อุตสาหกรรม ที่ถนนศรีพานิช ต.แม่สอด
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถามไปยังนายชัยวุฒิ ซึ่งขณะนี้อยู่ต่างประเทศ โดยนายชัยวุฒิ กล่าวเพียงสั้นๆว่า เพิ่งทราบข่าวจากญาติที่พยายามติดต่อมาบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนแปลกใจว่าอยู่ดีๆ มีคนมาค้นบ้าน รู้สึกไม่สบายใจ ตนไม่รู้รายละเอียด และไม่เคยได้รับการประสานงานจากจากทางเจ้าหน้าที่มาก่อนเลย จึงไม่ทราบสาเหตุที่ทหารเข้าค้นบ้านของตน ยืนยันว่า บ้านที่ จ.ตาก ไม่มีสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ปราศจากยาเสพติด ดังนั้นการที่ทหารเข้าค้นบ้านที่ จ.ตาก ครั้งนี้ ก็คงไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง
*** แก๊งซุกบึ้มพัสดุรับขโมยจากคลังทหาร
พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง เปิดเผยถึง ความคืบหน้ากรณีตรวจสอบพบวัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนซุกเซ่อนในกล่องพัสดุของบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง สาขาบางเขน ว่า จากการสืบสวนพบมีผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นพลเรือนประมาณ 15 ราย และทหาร 3 นาย พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่กองปราบปรามสนธิกำลังทหาร นำกำลังไปตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัย 2 ราย ในพื้นที่จ.สมุทรสาครและจ.จันทบุรี
โดยผู้ต้องสงสัยทั้ง 18 คน ขณะนี้ถูกควบคุมตัวที่ มทบ.11 ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังทำการขออนุมัติหมายจับ ส่วนการสอบสวนทหารทั้ง 3 นาย ให้การในเบื้องต้นว่า ได้ขโมยระเบิดและเครื่องกระสุนจากคลังอาวุธของกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ ก่อนนำไปขายให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ทั้งนี้วัตถุระเบิดที่ตรวจยึดได้ดังกล่าวยังไม่พบความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ระเบิด 3 จุด ในพื้นที่ กทม. ที่ผ่านมา
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี สำนักวิเทศสัมพันธ์กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกหนังสือถึงสำนักงานผู้ช่วยทูตทหารไทยประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เรียกร้องให้สื่อมวลชนไทยบางสำนัก แสดงความรับผิดชอบ และขอโทษอย่างเป็นทางการ ภายหลังนำเสนอข่าวพาดพิง พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ของกัมพูชา ว่า ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับ พล.อ.เตีย บัญ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีความเข้าใจดีต่อกัน ทางพล.อ.เตีย บันญ ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร เพียงแต่อยากให้มีการแสดงความรับผิดชอบ และขอโทษอย่างเป็นทางการต่อรัฐบาลกัมพูชา
ทั้งนี้ จึงอยากขอให้สื่อไทยระมัดระวังการนำเสนอข่าวที่พาดพิงถึงบุคคลระดับสูงของกัมพูชา หากยังไม่ได้มีการพิสูจน์ หรือสอบสวนอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะไทยและกัมพูชา มีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด และผู้บริหารประเทศทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอดเช่นกัน
"เขาฝากเตือนมายังสื่อมวลชนไทยว่า การนำเสนอข่าวใด หากเกี่ยวกับผู้นำระดับสูงของต่างประเทศ หรือประเทศเพื่อนบ้าน ต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริง และมีข้อมูลหลักฐานที่แน่ชัด ต้องระมัดระวัง อย่ารีบร้อนดำเนินการ เพราะอาจเกิดความเสียหาย และจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ซึ่งทุกเรื่องควรรอการพิสูจน์ทราบให้แน่ชัดก่อน" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวถึง กรณีที่มีการจับกุม พ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ อายุ 40 ปี พร้อม นายจักรพงษ์ ไกรเรือง และ นายพิสิษฐ์ เลียง ชาวกัมพูชา พบอาวุธสงครามจำนวนมากซุกซ่อนภายในรถทะเบียนตรากงจักร ที่ประสบอุบัติเหตุตกถนน ที่ จ.ตราด เมื่อคืนวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมามีกระแสข่าวว่า รถยนต์ยี่ห้อแลนด์ครุยเซอร์ ที่นายพิสิษฐ์ ขับนั้น เป็นของผู้บริหารระดับสูงของประเทศกัมพูชา ยืนยันว่า จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าว ไม่ใช่ของบุคคลที่ถูกกล่าวอ้าง ตรงกับที่ผู้บริหารระดับสูงของประเทศเพื่อนบ้านได้ออกมาให้ข้อมูล
ด้านพล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. กล่าวว่า จากตรวจสอบการเดินทางเข้าออกของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองตราด พบว่า พ.อ.อ.ภคิน ไม่พบการเข้าออกเลย ขณะที่นายจักรพงษ์ พบเดินทาง 11 ครั้ง ส่วนนายพิสิษฐ์ ชาวกัมพูชา เดินทางเข้าออกบ่อยถึง 231 ครั้ง โดยทุกครั้งเป็นการเข้าออกถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพียงตัวบุคคลเท่านั้น ส่วนสิ่งของ หรือสัมภาระจะเป็นหน้าที่ของศุลกากร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากสถานีตำรวจภูธรแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก กว่า 50 นาย ได้ปิดล้อมบ้านนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตส.ส. และ อดีตรมว.อุตสาหกรรม ที่ถนนศรีพานิช ต.แม่สอด
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถามไปยังนายชัยวุฒิ ซึ่งขณะนี้อยู่ต่างประเทศ โดยนายชัยวุฒิ กล่าวเพียงสั้นๆว่า เพิ่งทราบข่าวจากญาติที่พยายามติดต่อมาบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนแปลกใจว่าอยู่ดีๆ มีคนมาค้นบ้าน รู้สึกไม่สบายใจ ตนไม่รู้รายละเอียด และไม่เคยได้รับการประสานงานจากจากทางเจ้าหน้าที่มาก่อนเลย จึงไม่ทราบสาเหตุที่ทหารเข้าค้นบ้านของตน ยืนยันว่า บ้านที่ จ.ตาก ไม่มีสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ปราศจากยาเสพติด ดังนั้นการที่ทหารเข้าค้นบ้านที่ จ.ตาก ครั้งนี้ ก็คงไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง
*** แก๊งซุกบึ้มพัสดุรับขโมยจากคลังทหาร
พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง เปิดเผยถึง ความคืบหน้ากรณีตรวจสอบพบวัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนซุกเซ่อนในกล่องพัสดุของบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง สาขาบางเขน ว่า จากการสืบสวนพบมีผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นพลเรือนประมาณ 15 ราย และทหาร 3 นาย พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่กองปราบปรามสนธิกำลังทหาร นำกำลังไปตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัย 2 ราย ในพื้นที่จ.สมุทรสาครและจ.จันทบุรี
โดยผู้ต้องสงสัยทั้ง 18 คน ขณะนี้ถูกควบคุมตัวที่ มทบ.11 ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังทำการขออนุมัติหมายจับ ส่วนการสอบสวนทหารทั้ง 3 นาย ให้การในเบื้องต้นว่า ได้ขโมยระเบิดและเครื่องกระสุนจากคลังอาวุธของกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ ก่อนนำไปขายให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ทั้งนี้วัตถุระเบิดที่ตรวจยึดได้ดังกล่าวยังไม่พบความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ระเบิด 3 จุด ในพื้นที่ กทม. ที่ผ่านมา
