ผู้จัดการรายวัน360-"ผบ.ทอ."สั่งจับจ่าทอ. ลอบขนอาวุธสงครามมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เลขาฯ สมช. ไม่ฟันธงใครอยู่เบื้องหลัง ระบุหน่วยข่าวกรองกำลังรวบรวมรายละเอียด เผย "บิ๊กป้อม" สั่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังช่วงเดือนรอมฎอน "ศรีวราห์" ลงพื้นที่ จ.ตราด ติดตามคดี เผยผู้ต้องหารับสารภาพ ซื้อมาจากกัมพูชา เตรียมนำไปขายที่เมียนมา ทำมาแล้ว 3 ครั้ง ยันไม่เกี่ยวข้องเหตุการณ์บึ้มกทม. ล่าสุดโฆษก ทอ. ออกมาปฎิเสธ "ภคิน" ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. แค่แอบอ้าง เพื่อเปิดทางสะดวกขนอาวุธ
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบอาวุธสงคราม ปืนอาก้า 30 กระบอก และกระสุนปืนเอ็ม 79 จำนวนมาก ซุกซ่อนภายในรถทะเบียนตรากงจักร ที่ประสบอุบัติเหตุ ตกถนน บริเวณ บ้านคลองสน ต.แหลมกลัด อ.เมืองฯ จ.ตราด เมื่อคืนวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย คือ 1.พ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ อายุ 40 ปี 2.นายพิสิษฐ์ เลียง อายุ 29 ปี สัญชาติกัมพูชา 3.นายจักรพงษ์ ไกรเรือง อายุ 37 ปี ชาวจ.ตราด
วานนี้ (5มิ.ย.) พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ถึงการจับกุมพ.อ.อ. ภคิน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านการข่าว กอ.รมน.กทม. สังกัดกรมสรรพาวุธทหารอากาศ ระหว่างลักลอบขนอาวุธสงคราม บริเวณชายแดนกัมพูชา ด้าน จ. ตราด ว่า "ต้องจับมาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย"
พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ประชาคมข่าวกรองกำลังรวบรวมรายละเอียดก่อนจะสรุปได้ว่าเป็นการขนจากไหน ไปไหน และใครมีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงใครเป็นผู้บงการบ้าง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปประเด็นได้ เพราะทุกครั้งที่มีการจับกุมเหตุการณ์เหล่านี้ จะตั้งประเด็นไว้หลายประเด็นไว้ก่อน แล้วให้หน่วยข่าวไปหาข้อมูลก่อนประชุมหาข้อสรุปว่า ข้อเท็จจริง คืออะไร
เมื่อถามว่าขณะนี้มีเหตุระเบิดหลายครั้งและยังจับกุมผู้ก่อเหตุไม่ได้ ฝ่ายความมั่นคงจะสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยให้ประชาชนได้อย่างไร พล.อ.ทวีป กล่าวว่า ยืนยันเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างหนัก โดยการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ในส่วนที่ตนรับผิดชอบ คือ การนำข้อมูลด้านการข่าวทั้งหมดมาวิเคราะห์ เพื่อหาแนวทางที่แน่ชัด แต่หน่วยปฏิบัติเราทำงานกันเต็มที่ทุกฝ่าย ต้องให้เวลา เพื่อให้ได้ความมั่นใจว่า ประเด็นของสาเหตุ ของเหตุการณ์ คืออะไร ซึ่งประเด็นการเมืองนั้น เรายังไม่ได้ตัดออกไป
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กำชับให้เฝ้าระวังในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ในช่วงเดือนรอมฎอน รวมทั้งพื้นที่ที่มีประชาชนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก
ด้านพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด เพื่อทำการสอบสวนขยายผลในคดีนี้ โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า พ.อ.อ.ภคิน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า อาวุธสงครามที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้เป็นของตนจริง โดยซื้อมาจากประเทศกัมพูชา เตรียมนำไปขายต่อในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งกระทำการมาแล้ว 3 ครั้งในรอบไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไม่ขอให้เหตุผลที่ลักลอบค้าอาวุธดังกล่าว แต่ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และกระทำการเพียงคนเดียว ส่วนบัตรกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในที่มีนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่ามีทหารระดับนายพล ออกบัตรให้ หลังจากที่เคยไปช่วยงานการข่าวในกรุงเทพฯ สำหรับป้ายทะเบียนตรากงจักร ซื้อป้ายมาจากร้านค้าของเก่าย่านสะพานเหล็ก เอามาติดรถ เพื่อความสะดวกในการลักลอบขนอาวุธ
สำหรับผู้ต้องหาชาวกัมพูชาอีก 2 คน ที่ถูกคุมตัวพร้อม พ.อ.อ.ภคิน ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ทางเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานมากเพียงพอ ในการเอาผิดกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เบื้องต้น แจ้งข้อหา "ร่วมกันมีอาวุธสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ พกพาอาวุธสงครามไปในทางสาธารณะ และหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าอาวุธ" กับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เบื้องต้นตนได้สั่งขยายผลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ โดยอาวุธสงครามที่พบในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับระเบิดที่พบใน กรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นระเบิดคนละชนิดกัน
ด้าน พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ อีโอดี กล่าวว่า อาวุธส่วนใหญ่ที่พบมีฐานการผลิตในประเทศรัสเซีย
พล.อ.ต.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า กรณี พ.อ.อ. ภคิน อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน. นั้น เป็นเรื่องเท็จ บัตรแสดงตัวเป็นบัตรปลอม โดยไม่เคยมีประวัติทำงานกับ กอ.รมน. ไม่เคยมีหลักฐานว่าเคยถูกตัวส่งไปทำงานกับ กอ.รมน. แต่เหตุที่ใช้บัตรปลอมของ กอ.รมน. มองว่าเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคง มีความน่าเชื่อถือ ทำให้ผ่านด่านตรวจได้
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบอาวุธสงคราม ปืนอาก้า 30 กระบอก และกระสุนปืนเอ็ม 79 จำนวนมาก ซุกซ่อนภายในรถทะเบียนตรากงจักร ที่ประสบอุบัติเหตุ ตกถนน บริเวณ บ้านคลองสน ต.แหลมกลัด อ.เมืองฯ จ.ตราด เมื่อคืนวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย คือ 1.พ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ อายุ 40 ปี 2.นายพิสิษฐ์ เลียง อายุ 29 ปี สัญชาติกัมพูชา 3.นายจักรพงษ์ ไกรเรือง อายุ 37 ปี ชาวจ.ตราด
วานนี้ (5มิ.ย.) พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ถึงการจับกุมพ.อ.อ. ภคิน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านการข่าว กอ.รมน.กทม. สังกัดกรมสรรพาวุธทหารอากาศ ระหว่างลักลอบขนอาวุธสงคราม บริเวณชายแดนกัมพูชา ด้าน จ. ตราด ว่า "ต้องจับมาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย"
พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ประชาคมข่าวกรองกำลังรวบรวมรายละเอียดก่อนจะสรุปได้ว่าเป็นการขนจากไหน ไปไหน และใครมีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงใครเป็นผู้บงการบ้าง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปประเด็นได้ เพราะทุกครั้งที่มีการจับกุมเหตุการณ์เหล่านี้ จะตั้งประเด็นไว้หลายประเด็นไว้ก่อน แล้วให้หน่วยข่าวไปหาข้อมูลก่อนประชุมหาข้อสรุปว่า ข้อเท็จจริง คืออะไร
เมื่อถามว่าขณะนี้มีเหตุระเบิดหลายครั้งและยังจับกุมผู้ก่อเหตุไม่ได้ ฝ่ายความมั่นคงจะสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยให้ประชาชนได้อย่างไร พล.อ.ทวีป กล่าวว่า ยืนยันเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างหนัก โดยการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ในส่วนที่ตนรับผิดชอบ คือ การนำข้อมูลด้านการข่าวทั้งหมดมาวิเคราะห์ เพื่อหาแนวทางที่แน่ชัด แต่หน่วยปฏิบัติเราทำงานกันเต็มที่ทุกฝ่าย ต้องให้เวลา เพื่อให้ได้ความมั่นใจว่า ประเด็นของสาเหตุ ของเหตุการณ์ คืออะไร ซึ่งประเด็นการเมืองนั้น เรายังไม่ได้ตัดออกไป
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กำชับให้เฝ้าระวังในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ในช่วงเดือนรอมฎอน รวมทั้งพื้นที่ที่มีประชาชนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก
ด้านพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด เพื่อทำการสอบสวนขยายผลในคดีนี้ โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า พ.อ.อ.ภคิน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า อาวุธสงครามที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้เป็นของตนจริง โดยซื้อมาจากประเทศกัมพูชา เตรียมนำไปขายต่อในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งกระทำการมาแล้ว 3 ครั้งในรอบไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไม่ขอให้เหตุผลที่ลักลอบค้าอาวุธดังกล่าว แต่ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และกระทำการเพียงคนเดียว ส่วนบัตรกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในที่มีนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่ามีทหารระดับนายพล ออกบัตรให้ หลังจากที่เคยไปช่วยงานการข่าวในกรุงเทพฯ สำหรับป้ายทะเบียนตรากงจักร ซื้อป้ายมาจากร้านค้าของเก่าย่านสะพานเหล็ก เอามาติดรถ เพื่อความสะดวกในการลักลอบขนอาวุธ
สำหรับผู้ต้องหาชาวกัมพูชาอีก 2 คน ที่ถูกคุมตัวพร้อม พ.อ.อ.ภคิน ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ทางเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานมากเพียงพอ ในการเอาผิดกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เบื้องต้น แจ้งข้อหา "ร่วมกันมีอาวุธสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ พกพาอาวุธสงครามไปในทางสาธารณะ และหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าอาวุธ" กับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เบื้องต้นตนได้สั่งขยายผลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ โดยอาวุธสงครามที่พบในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับระเบิดที่พบใน กรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นระเบิดคนละชนิดกัน
ด้าน พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ อีโอดี กล่าวว่า อาวุธส่วนใหญ่ที่พบมีฐานการผลิตในประเทศรัสเซีย
พล.อ.ต.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า กรณี พ.อ.อ. ภคิน อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน. นั้น เป็นเรื่องเท็จ บัตรแสดงตัวเป็นบัตรปลอม โดยไม่เคยมีประวัติทำงานกับ กอ.รมน. ไม่เคยมีหลักฐานว่าเคยถูกตัวส่งไปทำงานกับ กอ.รมน. แต่เหตุที่ใช้บัตรปลอมของ กอ.รมน. มองว่าเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคง มีความน่าเชื่อถือ ทำให้ผ่านด่านตรวจได้