รมว.คลัง เผยแผนจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างรายได้ให้คนจนที่มีผลรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ต้องแลกด้วยการเข้าโปรแกรมอบรมพัฒนาความรู้ทางอาชีพเพื่อสร้างรายได้เพิ่มในอนาคต โดยจะทยอยโอนให้เป็นรายเดือนป้องกันไม่ให้นำเงินไปซื้อของฟุ่มเฟือย-มือถือ ระบุผู้ขอรับสิทธิต้องผ่านการตรวจสอบฐานรายได้ก่อน
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมด้านสวัสดิการแก่ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ว่า กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาถึงแนวทางในการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างรายได้ให้แก่คนจนในกลุ่มนี้ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่ไม่ต้องการให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก หากรัฐสามารถช่วยเหลือได้เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถดำรงชีพอยู่ได้
สำหรับเงื่อนไขสำคัฐในการช่วยเหลือด้วยการจ่ายเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยนั้น นายอภิศักด์ กล่าวว่า คนกลุ่มนี้ต้องยินยอมที่จะเข้าโครงการพัฒนาความรู้และอาชีพที่รัฐจะออกแบบขึ้นมา อาทิ ผู้ที่เป็นเกษตรกรต้องยินยอมเข้าโครงการพัฒนาความรู้ด้านการเกษตร เพื่อพัฒนาตนเองสามารถหารายได้เพิ่มจนหลุดพ้นเส้นความยากจนในอนาคต
"การจัดทำโครงการจ่ายเงินชดเชยรายได้แก่ผู้มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาทต่อปีนี้ ผมต้องการทำให้เป็นโครงการถาวร โดยอาศัยการออกเป็นกฎกระทรวง" นายอภิศักดิ์ กล่าว
ส่วนวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือชดเชยนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลอาจจะชดเชยในรูปแบบเปอร์เซนต์หรือชดเชยเป็นจำนวนเงินตามส่วนต่างที่ขาดไป โดยในแต่ละปีกระทรวงการคลังจะทยอยโอนเงินเข้าบัตรผู้มีรายได้น้อยให้ทุกเดือน เนื่องจากกระทรวงการคลังต้องการส่งเสริมให้ผู้ได้รับสวัสดิการนำบัตรที่กระทรวงการคลังออกให้ไปใช้ซื้อสินค้าและบริการได้เลย รวมทั้งกระทรวงการคลังยังเกรงด้วยว่าหากโอนเงินเข้าบัญชีแบบเป็นก้อนใหญ่ในครั้งเดียวแล้ว ผู้ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลจะนำเงินไปใช้ซื้อข้าวของทีไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่างเช่นโทรศัพท์มือถือ
"การช่วยเหลือแบบนี้เรียกว่า negative income tax ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ต้องมาแจ้งรายได้จริงๆ ของตัวเองเพื่อให้ทางการตรวจสอบด้วย ซึ่งคนในกลุ่มนี้อาจจะได้รับการชดเชยส่วนต่างตามฐานรายได้ที่ไม่เท่ากันด้วยเช่นกัน แต่ตอนนี้เราต้องหาวิธีการเพื่อให้เรารู้รายได้ของเขาด้วย" นายอภิศักดิ์ กล่าว
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมด้านสวัสดิการแก่ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ว่า กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาถึงแนวทางในการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างรายได้ให้แก่คนจนในกลุ่มนี้ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่ไม่ต้องการให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก หากรัฐสามารถช่วยเหลือได้เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถดำรงชีพอยู่ได้
สำหรับเงื่อนไขสำคัฐในการช่วยเหลือด้วยการจ่ายเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยนั้น นายอภิศักด์ กล่าวว่า คนกลุ่มนี้ต้องยินยอมที่จะเข้าโครงการพัฒนาความรู้และอาชีพที่รัฐจะออกแบบขึ้นมา อาทิ ผู้ที่เป็นเกษตรกรต้องยินยอมเข้าโครงการพัฒนาความรู้ด้านการเกษตร เพื่อพัฒนาตนเองสามารถหารายได้เพิ่มจนหลุดพ้นเส้นความยากจนในอนาคต
"การจัดทำโครงการจ่ายเงินชดเชยรายได้แก่ผู้มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาทต่อปีนี้ ผมต้องการทำให้เป็นโครงการถาวร โดยอาศัยการออกเป็นกฎกระทรวง" นายอภิศักดิ์ กล่าว
ส่วนวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือชดเชยนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลอาจจะชดเชยในรูปแบบเปอร์เซนต์หรือชดเชยเป็นจำนวนเงินตามส่วนต่างที่ขาดไป โดยในแต่ละปีกระทรวงการคลังจะทยอยโอนเงินเข้าบัตรผู้มีรายได้น้อยให้ทุกเดือน เนื่องจากกระทรวงการคลังต้องการส่งเสริมให้ผู้ได้รับสวัสดิการนำบัตรที่กระทรวงการคลังออกให้ไปใช้ซื้อสินค้าและบริการได้เลย รวมทั้งกระทรวงการคลังยังเกรงด้วยว่าหากโอนเงินเข้าบัญชีแบบเป็นก้อนใหญ่ในครั้งเดียวแล้ว ผู้ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลจะนำเงินไปใช้ซื้อข้าวของทีไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่างเช่นโทรศัพท์มือถือ
"การช่วยเหลือแบบนี้เรียกว่า negative income tax ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ต้องมาแจ้งรายได้จริงๆ ของตัวเองเพื่อให้ทางการตรวจสอบด้วย ซึ่งคนในกลุ่มนี้อาจจะได้รับการชดเชยส่วนต่างตามฐานรายได้ที่ไม่เท่ากันด้วยเช่นกัน แต่ตอนนี้เราต้องหาวิธีการเพื่อให้เรารู้รายได้ของเขาด้วย" นายอภิศักดิ์ กล่าว