เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (30 พ.ค.) สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์, นายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยอดีตส.ส.กทม. และพื้นที่ภาคใต้กว่า 30 คน ร่วมถวายพวงมาลา สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 เนื่องในวันระลึกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่รัฐสภา
หลังวางพวงมาลาแล้วเสร็จ นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางเข้าที่ทำการพรรค เพื่อพูดคุยกับแกนนำ กปปส. ที่ร้านกาแฟ ภายในพรรค ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางฝนตกหนัก โดยมีแกนนำกปปส. อาทิ นายวิทยา แก้วภราดัย นายถาวร เสนเนียม นายอิสสระ สมชัย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายชุมพล จุลใส นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และบรรดาอดีต ส.ส.พรรคฯ จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ นายเทพไท ซึ่งมีข่าวไลน์สนทนาที่พาดพิงกปปส.หลุดออกมา จนทำให้เกิดปัญหาระหว่าง ปชป. กับ กปปส.ได้ทำหน้าที่เสริฟกาแฟ ก่อนที่ทั้งหมดจะขึ้นไปหารือกันอย่างเป็นทางการ ที่ห้องประชุมชั้น 2 ตึกควง อภัยวงศ์ โดยไม่ให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังด้วย
** กปปส.ยกเก้าอี้นายกฯ ล่อ”มาร์ค”
หลังการหารือที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. ให้สัมภาษณ์ว่า ขอทำความเข้าใจก่อนว่า ทุกคนที่ไปทำกิจกรรมต่อสู้กับระบอบทักษิณ ไม่มีใครลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ดังนั้นจะบอกว่า 8 คนเดินกลับพรรคประชาธิปัตย์ ก็คงไม่ใช่ เพราะเรายังคงเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์มาตลอดจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่เราต่อสู้ร่วมกับพรรค คือ การต่อต้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย และได้ชัยชนะ
สิ่งที่เราพูดคุยกันในครั้งนี้ คือ เราจะจับมือร่วมกันเหมือนเดิม ในการเดินเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งตามโรดแมป และต้องปฏิรูปประเทศไทยให้ได้ สิ่งไหนกฎหมายกำหนดให้ทำก่อน เช่น การปฏิรูปตำรวจ ที่ต้องปฏิรูปใน 1 ปี นับตั้งแต่รธน.ประกาศใช้ เราก็จะคอยติดตาม ถ้าหากว่ารัฐบาลนี้ปฏิรูปไม่สำเร็จ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องสานต่อ ส่วนความเป็น กปปส.นั้น จริงๆ แล้วเหลือเป็นเพียงมูลนิธิฯ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อนำร่องการปฏิรูปอาชีวศึกษาเท่านั้น
ส่วนท่าทีของแกนนำ กปปส. ต่อ กรณี นายสุเทพ เทือสุบรรณ อดีตเลขาฯ กปปส. สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นนายกฯ อีก 5 ปีนั้น นายถาวร กล่าวว่า "ความคิดของแต่ละคนอาจจะต่างกันได้ แต่อย่าไปว่าความคิดใครผิด และ ความคิดนายสุเทพ ก็ไม่ผิด นั่นคือแนวทางของเขา ส่วนผมจะสนับสนุนด้วยหรือไม่นั้น วันนี้อย่าเพิ่งไปพูด อย่าเพิ่งอ่านใจกันถึงวันนั้น เพราะเป็นเรื่องของอนาคต อย่าจินตนาการเอาเอง
ส่วนแนวทางของพรรคหลังจากเลือกตั้ง ถ้าหัวหน้าพรรคไม่ได้เป็นนายกฯ ก็อยู่ที่สมาชิกพรรค เราจะไปตัดสินใจล่วงหน้าไม่ได้ ขณะเดียวกันอุดมการณ์ของพรรค เราสนับสนุนการเลือกตั้งและเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการดังกล่าวรวมถึงการหาเสียงชูนโยบายต้องการให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี"
ทั้งนี้ การที่กลุ่มกปปส. กลับมาอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ก็จะไม่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมอะไร ทุกคนเข้าใจกันหมด ทำงานร่วมกันได้ ไม่มีปัญหา อาจจะมีการพูดเกินเลยไปบ้าง ซึ่งตนไม่ติดใจอะไร และถ้ามีการเลือกตั้ง ทุกคนก็พร้อมที่จะเสนอตัวลงเลือกตั้ง ส่วนพรรคจะเลือกหรือไม่ ก็เป็นสิทธิของพรรค
"ยืนยันว่าไม่มีแนวทางไหนของกปปส. ที่ขัดกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะเรื่องการเสนอตัวบุคคลเป็นนายกฯ และขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะนำแนวคิดของ นายสุเทพ กลับมาผลักดันในพรรค ผมไม่ทราบเรื่องนี้ และไม่ขอก้าวก่ายความคิดของใคร เรื่องนี้แล้วแต่สมาชิกพรรค ขอย้ำว่า การตัดสินใจของพรรคทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการเป็นรัฐบาล หรือไม่ได้เป็นรัฐบาล จะต้องผ่านมติพรรค และตอนนี้คำตอบที่ชัดเจนของเราคือ การสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ"
**ยังกั๊กเรื่องหนุน”มาร์ค”เป็นหน.พรรค
ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตโฆษก กปปส. กล่าวว่า ความตั้งใจที่เรามาครั้งนี้ เพื่อมาคุยเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่า ไม่ได้สนใจว่าใครจะต้องเป็นนายกฯ คนต่อไป หรือวันนี้จะสนับสนุนใคร ซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกับ นายอภิสิทธิ์ และสมาชิกพรรค ก็ได้รับการยืนยันว่า ประชาธิปัตย์ ยินดีที่จะปฏิรูปพรรค และยืนยันที่จะเดินหน้าปฏิรูปประเทศ เราเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์ สามารถปฏิรูปตัวเอง ให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริงได้
"เราไม่พูดถึงตัวบุคคล เพราะไม่ใช่เป็นการเดินมาเจรจาต่อรอง ว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรค และใครจะเป็นกรรมการบริหารพรรค หรือใครจะลง ส.ส.เขตไหน เรื่องนี้ไม่ได้อยู่บนโต๊ะเจรจา แต่วันนี้มาปรับความเข้าใจ มาคุยกับหัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรคว่า เราทุกคนยินดีที่จะเดินหน้าผลักดันเรื่องการปฏิรูป เหมือนกับที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังทำอยู่ วันนี้หัวหน้าพรรคคือนายอภิสิทธิ์ เราสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าปฏิรูปประเทศต่อไป”
เมื่อถามว่า ในการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ทางกปปส. ยังสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต วันนี้เรามาคุยกันว่า ถ้าเราจะเดินหน้าปฏิรูปประเทศ และจะปฏิรูปพรรคภายใต้กรอบการปฏิรูปประเทศ ว่า เราจะทำอะไรบ้าง จะทำให้สาขาพรรคเข้มแข็งอย่าง จะทำให้สมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ มีส่วนร่วมต่อไปอย่างไร ส่วนหลังจากนี้ไปในอนาคตจะมีการเลือกผู้บริหารพรรคจะเป็นใครอย่างไร ไม่ได้มีการพูดคุยกัน
**”มาร์ค”ยันทุกคนยึดแนวทางพรรค
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กลุ่มคนเหล่านี้ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกก็ขาดคุณสมบัติเพราะไปบวช จึงไม่มีประเด็นว่าเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ ซึ่งมีการยืนยันกับตนมานานแล้วว่า ยังมีความคิดทำงานการเมืองกับพรรค
ส่วนที่มาพรรคในเวลานี้ ก็เพราะมีความชัดเจนในเรื่องของกฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมายเลือกตั้งกำลังจะออกมาแล้ว จึงคิดว่าเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่จะกลับมา โดยตนได้บอกว่า การมาอยู่กับพรรคต้องยึดอุดมการณ์และหลักการของพรรค ซึ่งเป้าหมายของคนเหล่านี้คือ การปฏิรูปประเทศ และการต่อสู้กับกระบบทักษิณ ซึ่งเป็นแนวทางที่พรรคยึดถือ และเดินหน้าปฏิรูปประเทศอยู่แล้ว ที่สำคัญที่สุดคือประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองบนวิถีทางประชาธิปไตย ซึ่งตามโรปแมปอีกไม่นานจะมีการเลือกตั้ง ก็ต้องพร้อมเสนอบุคคลากร และแนวทางให้กับประชาชน โดยทุกคนที่มาวันนี้ก็สนับสนุนแนวทางของพรรค
**ความเห็น”เทพเทือก”แค่ภาคปชช.
ส่วนแนวคิดของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ประกาศสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 5 ปีนั้น ตนเห็นว่าเป็นแนวคิดที่อยู่ในส่วนการเมืองภาคประชาชน ไม่ใช่ในระบบพรรคการเมือง เมื่อคนเหล่านี้เข้ามาต้องอยู่ในระบบพรรค ซึ่ง นายถาวร เสนเนียม ก็ยืนยันที่จะชูธงว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะปฏิรูปประเทศ ส่วนที่นายถาวร ระบุว่าหากหัวหน้าพรรคไม่ได้เป็นนายกฯ ก็ไม่ได้พูดชัดเจนว่าจะสนับสนุนคนอื่นหรือไม่นั้น เป็นเพราะเรื่องของอนาคต ไม่มีใครตอบได้ แต่เมื่อเราเป็นพรรคการเมือง ต้องเสนอตัวเป็นทางเลือกให้ประชาชน และเคารพการตัดสินใจของประชาชน
“วันนี้ยังไม่ได้เลือกตั้ง ยังไม่รู้ว่าใครจะอาสาลงสมัครรับเลือกตั้งบ้าง จะพูดว่ารัฐบาลต้องเป็นอย่างนั้น นายกฯต้องเป็นอย่างนี้ คงไม่ได้ หลังจากประชาชนตัดสินแล้วค่อยมาดูว่าเป็นอย่างไร เพราะรัฐธรรมนูญเขียนชัดว่า นายกฯต้องเริ่มจากรายชื่อบัญชีพรรคการเมือง พรรคยืนยันว่า ใครที่รวบรวมเสียงข้างมากในสภาได้ ก็สมควรจัดตั้งรัฐบาล เพราะผู้ที่รวบรวมเสียงข้างมากได้เท่านั้น จึงจะดำรงความเป็นรัฐบาลได้ และไม่ต้องการเห็น ส.ว.ฝืนเจตนารมย์ประชาชน เพราะจะเป็นเงื่อนไขนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในอนาคต แต่ถ้าไม่สามารถเลือกนายกฯในบัญชีได้ ก็ต้องไปสู่ขั้นตอนการยกเว้นหลักเกณฑ์ แต่ไม่ควรสรุปล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นก็เป็นการไม่ให้เกียรติประชาชน ผมอยากให้คนที่ให้คำตอบสุดท้ายคือประชาชนหลังจากการเลือกตั้ง แต่ถ้าไปพูดกันล่วงหน้าว่าพรรคไหนจะเป็นรัฐบาล พรรคไหนเป็นฝ่ายค้าน หรือใครจะเป็นนายกฯ กระบวนการประชาธิปไตยก็จะเป็นแค่พิธีกรรม เพราะกำหนดกันไปล่วงหน้าแล้ว”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
** ไม่สนใครจะมาชิงเก้าอี้หน.พรรค
เมื่อถามว่า มีข่าวมาตลอดว่า นายสุเทพ ส่งอดีต ส.ส.กลุ่มนี้กลับมาเพื่อยึดพรรค และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนที่มายืนยันว่า ไม่ใช่ และนายสุเทพ ก็ยืนยันกับตนว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะออกไปทำงานภาคประชาชนแล้ว จะไม่เข้ามาแทรกแซงการทำงานพรรคทั้งสิ้น ส่วนที่นายเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ ระบุว่า ยังไม่สามารถพูดได้ว่าจะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคในการเลือกผู้บริหารพรรคครั้งหน้านั้น ตนก็ไม่มีสิทธิ์บังคับให้ใครมาสนับสนุน เพราะพรรคเป็นประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ์เลือกหัวหน้าพรรค แต่สิ่งสำคัญคือ ใครก็ตามที่จะเป็นหัวหน้าพรรค ต้องยึดอุดมการณ์พรรค ซึ่งตอนนี้คนกลุ่มนี้ก็บอกแล้วว่า สนับสนุนคนที่มีรายชื่ออยู่ในพรรคเป็นนายกฯ สิ่งนี้สำคัญกว่านายอภิสิทธิ์ ตนจึงไม่กังวลว่าจะมีใครมาแข่งตำแหน่งหัวหน้าพรรค หรือไม่ พรรคประชาธิปัตย์อยู่มาได้ เพราะความเป็นประชาธิปไตย แต่ตนมั่นใจว่า สมาชิกพรรคทุกคนจะตระหนักว่าพรรคอยู่มาได้เพราะอุดมการณ์ และทุกคนที่มีวันนี้ได้ก็เพราะรักษาอุดมการณ์พรรคจนเติบโตทางการเมือง จะทำเป็นอย่างอื่นไมได้ พรรคเราเป็นสถาบัน ไม่เคยเป็นพรรคเฉพาะกิจจะทำตัวเหมือนพรรคเฉพาะกิจไม่ได้
สำหรับกรณี นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอแนวคิดให้พรรคการเมือง 4 พรรค จับมือกันเพื่อสกัดทหาร นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า พรรคการเมืองจะจับมือก็ได้ก็ต่อเมื่อมีอุดมการณ์ที่ตรงกัน จะบอกว่าให้ 4 พรรคจับมือกันโดยไม่ดูเลยว่าอุดมการณ์ และนโยบายของแต่ละพรรคเป็นอย่างไร คงไม่ได้
**"ไก่อู"ย้อนถามพรรคทหารมีด้วยหรือ
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหารือของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กับ กปปส.ว่า คงเป็นเรื่องปกติของพวกเขา แต่เชื่อว่านายกฯ ติดตามทุกเรื่อง ซึ่งตนเห็นข่าวจากสื่อมวลชนว่าจะมีการจับมือกันหลายพรรคเพื่อสู้กับพรรคทหาร ตนก็สงสัยว่ามีพรรคทหารหรือไม่ ซึ่งก็คงไม่มี ส่วนพรรคของนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีต ส.ว. ที่ประกาศตัวจะตั้งพรรคการเมืองก่อนหน้านี้นั้น ขอถามสื่อกลับว่า นายไพบูลย์ เป็นทหารหรือไม่ สำหรับการนัดพบของคน 2 กลุ่ม จะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองขัดคำสั่ง คสช. หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบว่าทางนั้นนัดพบกันอย่างไร ถ้านั่งดื่มกาแฟ คงไม่มีอะไรที่เป็นทางการ ส่วนจะเข้าข่ายเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ ขอให้ถาม คสช.
หลังวางพวงมาลาแล้วเสร็จ นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางเข้าที่ทำการพรรค เพื่อพูดคุยกับแกนนำ กปปส. ที่ร้านกาแฟ ภายในพรรค ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางฝนตกหนัก โดยมีแกนนำกปปส. อาทิ นายวิทยา แก้วภราดัย นายถาวร เสนเนียม นายอิสสระ สมชัย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายชุมพล จุลใส นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และบรรดาอดีต ส.ส.พรรคฯ จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ นายเทพไท ซึ่งมีข่าวไลน์สนทนาที่พาดพิงกปปส.หลุดออกมา จนทำให้เกิดปัญหาระหว่าง ปชป. กับ กปปส.ได้ทำหน้าที่เสริฟกาแฟ ก่อนที่ทั้งหมดจะขึ้นไปหารือกันอย่างเป็นทางการ ที่ห้องประชุมชั้น 2 ตึกควง อภัยวงศ์ โดยไม่ให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังด้วย
** กปปส.ยกเก้าอี้นายกฯ ล่อ”มาร์ค”
หลังการหารือที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. ให้สัมภาษณ์ว่า ขอทำความเข้าใจก่อนว่า ทุกคนที่ไปทำกิจกรรมต่อสู้กับระบอบทักษิณ ไม่มีใครลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ดังนั้นจะบอกว่า 8 คนเดินกลับพรรคประชาธิปัตย์ ก็คงไม่ใช่ เพราะเรายังคงเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์มาตลอดจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่เราต่อสู้ร่วมกับพรรค คือ การต่อต้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย และได้ชัยชนะ
สิ่งที่เราพูดคุยกันในครั้งนี้ คือ เราจะจับมือร่วมกันเหมือนเดิม ในการเดินเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งตามโรดแมป และต้องปฏิรูปประเทศไทยให้ได้ สิ่งไหนกฎหมายกำหนดให้ทำก่อน เช่น การปฏิรูปตำรวจ ที่ต้องปฏิรูปใน 1 ปี นับตั้งแต่รธน.ประกาศใช้ เราก็จะคอยติดตาม ถ้าหากว่ารัฐบาลนี้ปฏิรูปไม่สำเร็จ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องสานต่อ ส่วนความเป็น กปปส.นั้น จริงๆ แล้วเหลือเป็นเพียงมูลนิธิฯ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อนำร่องการปฏิรูปอาชีวศึกษาเท่านั้น
ส่วนท่าทีของแกนนำ กปปส. ต่อ กรณี นายสุเทพ เทือสุบรรณ อดีตเลขาฯ กปปส. สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นนายกฯ อีก 5 ปีนั้น นายถาวร กล่าวว่า "ความคิดของแต่ละคนอาจจะต่างกันได้ แต่อย่าไปว่าความคิดใครผิด และ ความคิดนายสุเทพ ก็ไม่ผิด นั่นคือแนวทางของเขา ส่วนผมจะสนับสนุนด้วยหรือไม่นั้น วันนี้อย่าเพิ่งไปพูด อย่าเพิ่งอ่านใจกันถึงวันนั้น เพราะเป็นเรื่องของอนาคต อย่าจินตนาการเอาเอง
ส่วนแนวทางของพรรคหลังจากเลือกตั้ง ถ้าหัวหน้าพรรคไม่ได้เป็นนายกฯ ก็อยู่ที่สมาชิกพรรค เราจะไปตัดสินใจล่วงหน้าไม่ได้ ขณะเดียวกันอุดมการณ์ของพรรค เราสนับสนุนการเลือกตั้งและเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการดังกล่าวรวมถึงการหาเสียงชูนโยบายต้องการให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี"
ทั้งนี้ การที่กลุ่มกปปส. กลับมาอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ก็จะไม่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมอะไร ทุกคนเข้าใจกันหมด ทำงานร่วมกันได้ ไม่มีปัญหา อาจจะมีการพูดเกินเลยไปบ้าง ซึ่งตนไม่ติดใจอะไร และถ้ามีการเลือกตั้ง ทุกคนก็พร้อมที่จะเสนอตัวลงเลือกตั้ง ส่วนพรรคจะเลือกหรือไม่ ก็เป็นสิทธิของพรรค
"ยืนยันว่าไม่มีแนวทางไหนของกปปส. ที่ขัดกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะเรื่องการเสนอตัวบุคคลเป็นนายกฯ และขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะนำแนวคิดของ นายสุเทพ กลับมาผลักดันในพรรค ผมไม่ทราบเรื่องนี้ และไม่ขอก้าวก่ายความคิดของใคร เรื่องนี้แล้วแต่สมาชิกพรรค ขอย้ำว่า การตัดสินใจของพรรคทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการเป็นรัฐบาล หรือไม่ได้เป็นรัฐบาล จะต้องผ่านมติพรรค และตอนนี้คำตอบที่ชัดเจนของเราคือ การสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ"
**ยังกั๊กเรื่องหนุน”มาร์ค”เป็นหน.พรรค
ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตโฆษก กปปส. กล่าวว่า ความตั้งใจที่เรามาครั้งนี้ เพื่อมาคุยเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่า ไม่ได้สนใจว่าใครจะต้องเป็นนายกฯ คนต่อไป หรือวันนี้จะสนับสนุนใคร ซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกับ นายอภิสิทธิ์ และสมาชิกพรรค ก็ได้รับการยืนยันว่า ประชาธิปัตย์ ยินดีที่จะปฏิรูปพรรค และยืนยันที่จะเดินหน้าปฏิรูปประเทศ เราเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์ สามารถปฏิรูปตัวเอง ให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริงได้
"เราไม่พูดถึงตัวบุคคล เพราะไม่ใช่เป็นการเดินมาเจรจาต่อรอง ว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรค และใครจะเป็นกรรมการบริหารพรรค หรือใครจะลง ส.ส.เขตไหน เรื่องนี้ไม่ได้อยู่บนโต๊ะเจรจา แต่วันนี้มาปรับความเข้าใจ มาคุยกับหัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรคว่า เราทุกคนยินดีที่จะเดินหน้าผลักดันเรื่องการปฏิรูป เหมือนกับที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังทำอยู่ วันนี้หัวหน้าพรรคคือนายอภิสิทธิ์ เราสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าปฏิรูปประเทศต่อไป”
เมื่อถามว่า ในการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ทางกปปส. ยังสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต วันนี้เรามาคุยกันว่า ถ้าเราจะเดินหน้าปฏิรูปประเทศ และจะปฏิรูปพรรคภายใต้กรอบการปฏิรูปประเทศ ว่า เราจะทำอะไรบ้าง จะทำให้สาขาพรรคเข้มแข็งอย่าง จะทำให้สมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ มีส่วนร่วมต่อไปอย่างไร ส่วนหลังจากนี้ไปในอนาคตจะมีการเลือกผู้บริหารพรรคจะเป็นใครอย่างไร ไม่ได้มีการพูดคุยกัน
**”มาร์ค”ยันทุกคนยึดแนวทางพรรค
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กลุ่มคนเหล่านี้ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกก็ขาดคุณสมบัติเพราะไปบวช จึงไม่มีประเด็นว่าเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ ซึ่งมีการยืนยันกับตนมานานแล้วว่า ยังมีความคิดทำงานการเมืองกับพรรค
ส่วนที่มาพรรคในเวลานี้ ก็เพราะมีความชัดเจนในเรื่องของกฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมายเลือกตั้งกำลังจะออกมาแล้ว จึงคิดว่าเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่จะกลับมา โดยตนได้บอกว่า การมาอยู่กับพรรคต้องยึดอุดมการณ์และหลักการของพรรค ซึ่งเป้าหมายของคนเหล่านี้คือ การปฏิรูปประเทศ และการต่อสู้กับกระบบทักษิณ ซึ่งเป็นแนวทางที่พรรคยึดถือ และเดินหน้าปฏิรูปประเทศอยู่แล้ว ที่สำคัญที่สุดคือประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองบนวิถีทางประชาธิปไตย ซึ่งตามโรปแมปอีกไม่นานจะมีการเลือกตั้ง ก็ต้องพร้อมเสนอบุคคลากร และแนวทางให้กับประชาชน โดยทุกคนที่มาวันนี้ก็สนับสนุนแนวทางของพรรค
**ความเห็น”เทพเทือก”แค่ภาคปชช.
ส่วนแนวคิดของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ประกาศสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 5 ปีนั้น ตนเห็นว่าเป็นแนวคิดที่อยู่ในส่วนการเมืองภาคประชาชน ไม่ใช่ในระบบพรรคการเมือง เมื่อคนเหล่านี้เข้ามาต้องอยู่ในระบบพรรค ซึ่ง นายถาวร เสนเนียม ก็ยืนยันที่จะชูธงว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะปฏิรูปประเทศ ส่วนที่นายถาวร ระบุว่าหากหัวหน้าพรรคไม่ได้เป็นนายกฯ ก็ไม่ได้พูดชัดเจนว่าจะสนับสนุนคนอื่นหรือไม่นั้น เป็นเพราะเรื่องของอนาคต ไม่มีใครตอบได้ แต่เมื่อเราเป็นพรรคการเมือง ต้องเสนอตัวเป็นทางเลือกให้ประชาชน และเคารพการตัดสินใจของประชาชน
“วันนี้ยังไม่ได้เลือกตั้ง ยังไม่รู้ว่าใครจะอาสาลงสมัครรับเลือกตั้งบ้าง จะพูดว่ารัฐบาลต้องเป็นอย่างนั้น นายกฯต้องเป็นอย่างนี้ คงไม่ได้ หลังจากประชาชนตัดสินแล้วค่อยมาดูว่าเป็นอย่างไร เพราะรัฐธรรมนูญเขียนชัดว่า นายกฯต้องเริ่มจากรายชื่อบัญชีพรรคการเมือง พรรคยืนยันว่า ใครที่รวบรวมเสียงข้างมากในสภาได้ ก็สมควรจัดตั้งรัฐบาล เพราะผู้ที่รวบรวมเสียงข้างมากได้เท่านั้น จึงจะดำรงความเป็นรัฐบาลได้ และไม่ต้องการเห็น ส.ว.ฝืนเจตนารมย์ประชาชน เพราะจะเป็นเงื่อนไขนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในอนาคต แต่ถ้าไม่สามารถเลือกนายกฯในบัญชีได้ ก็ต้องไปสู่ขั้นตอนการยกเว้นหลักเกณฑ์ แต่ไม่ควรสรุปล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นก็เป็นการไม่ให้เกียรติประชาชน ผมอยากให้คนที่ให้คำตอบสุดท้ายคือประชาชนหลังจากการเลือกตั้ง แต่ถ้าไปพูดกันล่วงหน้าว่าพรรคไหนจะเป็นรัฐบาล พรรคไหนเป็นฝ่ายค้าน หรือใครจะเป็นนายกฯ กระบวนการประชาธิปไตยก็จะเป็นแค่พิธีกรรม เพราะกำหนดกันไปล่วงหน้าแล้ว”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
** ไม่สนใครจะมาชิงเก้าอี้หน.พรรค
เมื่อถามว่า มีข่าวมาตลอดว่า นายสุเทพ ส่งอดีต ส.ส.กลุ่มนี้กลับมาเพื่อยึดพรรค และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนที่มายืนยันว่า ไม่ใช่ และนายสุเทพ ก็ยืนยันกับตนว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะออกไปทำงานภาคประชาชนแล้ว จะไม่เข้ามาแทรกแซงการทำงานพรรคทั้งสิ้น ส่วนที่นายเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ ระบุว่า ยังไม่สามารถพูดได้ว่าจะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคในการเลือกผู้บริหารพรรคครั้งหน้านั้น ตนก็ไม่มีสิทธิ์บังคับให้ใครมาสนับสนุน เพราะพรรคเป็นประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ์เลือกหัวหน้าพรรค แต่สิ่งสำคัญคือ ใครก็ตามที่จะเป็นหัวหน้าพรรค ต้องยึดอุดมการณ์พรรค ซึ่งตอนนี้คนกลุ่มนี้ก็บอกแล้วว่า สนับสนุนคนที่มีรายชื่ออยู่ในพรรคเป็นนายกฯ สิ่งนี้สำคัญกว่านายอภิสิทธิ์ ตนจึงไม่กังวลว่าจะมีใครมาแข่งตำแหน่งหัวหน้าพรรค หรือไม่ พรรคประชาธิปัตย์อยู่มาได้ เพราะความเป็นประชาธิปไตย แต่ตนมั่นใจว่า สมาชิกพรรคทุกคนจะตระหนักว่าพรรคอยู่มาได้เพราะอุดมการณ์ และทุกคนที่มีวันนี้ได้ก็เพราะรักษาอุดมการณ์พรรคจนเติบโตทางการเมือง จะทำเป็นอย่างอื่นไมได้ พรรคเราเป็นสถาบัน ไม่เคยเป็นพรรคเฉพาะกิจจะทำตัวเหมือนพรรคเฉพาะกิจไม่ได้
สำหรับกรณี นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอแนวคิดให้พรรคการเมือง 4 พรรค จับมือกันเพื่อสกัดทหาร นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า พรรคการเมืองจะจับมือก็ได้ก็ต่อเมื่อมีอุดมการณ์ที่ตรงกัน จะบอกว่าให้ 4 พรรคจับมือกันโดยไม่ดูเลยว่าอุดมการณ์ และนโยบายของแต่ละพรรคเป็นอย่างไร คงไม่ได้
**"ไก่อู"ย้อนถามพรรคทหารมีด้วยหรือ
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหารือของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กับ กปปส.ว่า คงเป็นเรื่องปกติของพวกเขา แต่เชื่อว่านายกฯ ติดตามทุกเรื่อง ซึ่งตนเห็นข่าวจากสื่อมวลชนว่าจะมีการจับมือกันหลายพรรคเพื่อสู้กับพรรคทหาร ตนก็สงสัยว่ามีพรรคทหารหรือไม่ ซึ่งก็คงไม่มี ส่วนพรรคของนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีต ส.ว. ที่ประกาศตัวจะตั้งพรรคการเมืองก่อนหน้านี้นั้น ขอถามสื่อกลับว่า นายไพบูลย์ เป็นทหารหรือไม่ สำหรับการนัดพบของคน 2 กลุ่ม จะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองขัดคำสั่ง คสช. หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบว่าทางนั้นนัดพบกันอย่างไร ถ้านั่งดื่มกาแฟ คงไม่มีอะไรที่เป็นทางการ ส่วนจะเข้าข่ายเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ ขอให้ถาม คสช.