ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลาออกจากการเป็น ส.ส.เพื่อเคลื่อนไหวเป็นแกนนำกลุ่ม กปปส. จะตบเท้ากลับเข้าพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายถาวร เสนเนียม นายอิสสระ สมชัย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายวิทยา แก้วภราดัย นายชุมพล จุลใส นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ นายณัฐพล ทีปสุวรรณ ขาดเพียง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ประกาศตัวไม่ลงเลือกตั้ง และไม่หวนกลับมาเล่นการเมือง และ นายสกลธี ภัททิยกุล ที่ติดคดีในศาล โดยจะใช้โอกาสช่วงเช้าวันอังคารที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคร่วมวงสภากาแฟ ให้บรรดาลูกพรรคมาพูดคุย หารือถึงเรื่องต่างๆโดยนายถาวร จะเป็นตัวแทน กลุ่มกปปส. พูดคุยถึงอนาคตและการทำงานของกลุ่ม กปปส.ในพรรคกับ นายอภิสิทธิ์
ขณะที่ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์บางคน ได้วิเคราะห์ถึงการกลับมาของกลุ่มกปปส.ในครั้งนี้ว่า เป็นความพยายามสร้างข่าวของกลุ่ม เพื่อให้เห็นภาพว่า ทั้งกลุ่มได้หวนกลับเข้าพรรคอย่างเป็นทางการแล้ว ทั้งที่ในข้อเท็จจริง คนที่ลาออกจากสมาชิกพรรค หรืออดีต ส.ส.บางส่วนที่ลาไปบวช ตามโครงการของกลุ่มกปปส. ถือว่าขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคโดยปริยายไปแล้ว และยังไม่สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคได้แต่อย่างใด เพราะติดคำสั่งคสช. ที่ห้ามทุกพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมใดๆ รวมถึงการเปิดรับสมาชิกด้วย
อีกทั้งการที่ นายสุเทพ ออกมาสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเป็นนายกรัฐมนตรี ในช่วงเปลี่ยนผ่านโดยมี 250 ส.ว.เป็นฐานสนับสนุน ถือว่าสวนทางกับอุดมการณ์ของพรรค และเป็นแนวคิดที่ผิด ที่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ แทนที่จะพยายามหาเสียงให้พรรคได้ ส.ส.เกิน 250 เสียง หรือกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ แต่กลับไปประกาศหนุนทหารมาเป็นรัฐบาลเช่นนี้
** กปปส.ตั้งใจมายึดพรรค
นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีตส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีกลุ่ม กกปส. จะกลับมาเข้าพรรคในวันนี้ ว่า ตนไม่ได้อยู่หรือเข้าไปในพรรค ไม่ได้ติดตามข่าว
ส่วนที่มีข่าวลือว่า กปปส. ต้องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค รวมถึงอาจเปลี่ยนจุดยืนของพรรคในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้น นายพิเชษฐ กล่าวว่า ไม่ใช่ข่าวลือ แต่เป็นความตั้งใจของเขา คุณคิดดูหาก กปปส. ยกพวกกลับมา ในสายตาคนทั่วไปจะมองอย่างไร มันจะเหลือหรือ
"ถ้าย้อนดูเรื่องเก่าที่ผมเคยพูดไปแล้วนั้น กี่เรื่องๆ มันกำลังเกิดขึ้นเเล้วตามลำดับ เรื่องที่พูดไว้ว่าจะเกิดอีกในอนาคต ก็กำลังจะเกิดขึ้นจริง" นายพิเชษฐ กล่าว
นายพิเชษฐ ยังกล่าวถึง กรณีนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ 4 พรรคใหญ่จับมือ ต่อสู้พรรคทหาร ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า ตนเห็นด้วย เป็นแนวทางที่ถึงเวลาเสียที ตนไม่ได้เจาะจงชื่อพรรคการเมืองไหน แต่หมายถึงนักการเมืองที่ผ่านมาถูกเล่นงานจนยับเยินแล้ว จึงควรจับมือกันกอบกู้
**อยากหนุนทหารก็ไปตั้งพรรคใหม่
ด้านนายประมวล เอมเปีย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี แกนนำ กปปส. บางคน ต่อว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และกระทบชิ่งถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวน้าพรรค กรณีประกาศไม่รับรธน.ฉบับนี้ แล้วจะกระสันต์อยากลงเลือกตั้งโดยเร็วนั้น ตนขอชี้แจงว่า ไม่ใช่ว่านักการเมืองกระสันต์อยากให้เลือกตั้งเร็วๆ แต่ คสช.ยึดอำนาจมา 3 ปีกว่า ระบบเศรษฐกิจมีแต่แย่ลงๆ ความเหลื่อมล้ำยิ่งห่างขึ้น คนจนยิ่งจนลง ที่เพิ่มมากขึ้นก็มีแต่หนี้สินครัวเรือน พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในอุดมการณ์ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ การที่ กปปส.บางคน หนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อในช่วงเปลี่ยนผ่านอีก 5 ปี ก็เป็นเรื่องของพวกท่าน
"แต่การที่ท่านเห็นแย้งกับอุดมการณ์พรรค แล้วจะขอกลับเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคอีกนั้น ผมเห็นว่าไม่สมควร เพราะรังแต่จะสร้างความแตกแยกภายในพรรคเพิ่มขึ้นอีก ไหนๆ ก็ประกาศจุดยืนสนับสนุนทหารแล้ว ก็สมควรที่จะตั้งพรรคใหม่ หรือไปอยู่ร่วมกับพรรคทหารที่จะตั้งขึ้นใหม่จะดีกว่า การระบุว่าเมื่อไม่เห็นด้วยกับรธน.ฉบับนี้ ก็ไม่ต้องลงเลือกตั้งนั้น เมื่อเป็นพรรคการเมือง ก็ต้องส่งลงสมัครแข่งขันตามระบบ เพราะประชาชนจะเป็นคนตัดสินอนาคตให้เอง"
ส่วนข้อเสนอของ นายพิชัย ที่ให้ 4พรรคการเมืองสงบศึกกัน และร่วมจับมือต่อสู้กับพรรคทหารนั้น ตนเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เพื่อป้องกันทหารสืบทอดอำนาจ แต่ต้องดูอุดมการณ์ของแต่ละพรรคด้วยว่า จะสามารถร่วมทำงานเพื่อส่วนรวม เพื่อชาติบ้านเมือง และสามารถไปด้วยกันได้หรือไม่
** ซัดเห็บพันธุ์ใหม่เกาะบิ๊กตู่แน่น
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายเอกนัฐ พร้อมพันธุ์ อดีตโฆษก กปปส. จบจากต่างประเทศ ย่อมรู้แก่ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. เป็นเผด็จการสืบทอดอำนาจหรือไม่ การรัฐประหาร 22 พ.ค.57 เกิดขึ้นเพราะ กปปส. กวักมือเรียกทหารเช้า เที่ยง เย็น ค่ำ ทั้งที่ระบอบประชาธิปไตยควรจะต้องเดินไปข้างหน้า แต่ประเทศเรากลับถอยหลังกว่าชาติอื่นในอาเซียน 3 ปีของรัฐบาลนี้ ปฏิรูปสำเร็จกี่เรื่อง แม่น้ำ 5 สาย ต่างกับนักการเมืองตรงไหน ระบบอุปถัมภ์ การทุจริตคอร์รัปชัน ตรวจสอบได้หรือไม่ นายเอกนัฐ ควรบอกความจริงกับประชาชนให้ครบทุกประเด็น ที่อังกฤษมีนักการเมืองยุ่งเกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ หรือไม่ ครอบครองที่หลวงหรือไม่ มีการรัฐประหารแล้วเชิดชูหัวหน้าคณะรัฐประหาร ว่าเป็นคนดี ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้หรือไม่ มีการอ้างคำว่าปฏิรูป นำหน้าแล้วมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ประเทศที่เจริญแล้วเขาพัฒนาทางการเมืองกันแบบนี้หรือ ความเห็นต่างอย่าดูถูกว่า เป็นเสียงนกเสียงกา ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ตนไม่ปฏิเสธว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนดี และดีกว่านายกรัฐมนตรีหลายๆ คนที่เคยเป็นมา แต่ท่านต้องไตร่ตรองเองว่า ควรเป็นนายกฯ ต่อตามที่มีบางพวกสนับสนุนหรือไม่
"ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย และไม่เคยขอผลประโยชน์ใดๆ กับคสช. จึงกล้าบอกท่านตรงไปตรงมา ไม่มีประโยชน์แอบแฝงใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ระวังในแม่น้ำ 5 สายบางคนที่กำลังจะกลายเป็นเห็บอำนาจ หวังเกาะท่านต่อไปจนกว่าจะหมดอำนาจ เป็นเห็บพันธุ์ใหม่ ที่มีพิษร้ายแรงกว่าเห็บทั่วไป" นายวัชระ กล่าว
**ปชป.จับมือพท.ได้ถ้าไม่มีทักษิณ
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง โมเดล 4 พรรคใหญ่ จับมือต่อสู้พรรคทหารในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า อยากทุกฝ่ายตั้งสติ ให้ยึดหลักรธน. ปฏิบัติตามหลักการของระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด ไม่มีสิทธิไปกำหนด หรือตั้งธงไว้ว่าจะให้ใครเป็นรัฐบาล ก่อนที่ประชาชนส่วนใหญ่จะลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ต้องขอบคุณแนวคิด นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่เราไปคิดนอกหลักกติกากฎหมาย และนอกการปกครองประชาธิปไตยไม่ได้ ขอให้กลับมาที่หลักว่า อำนาจอยู่ที่ประชาชน เมื่อวันนี้ประชาชนเลือกพรรคการเมืองไหน ได้เสียงเท่าไร ถึงวันนั้น จะเป็นกลไกกำหนดเองว่า ใครจะได้อำนาจบริหารประเทศต่อไป ขอเตือนสติ ไม่ว่า พรรคการเมือง คสช. หรือใคร อย่าไปคิดใหญ่กว่าประชาชน ควรรอประชาชนตัดสินดีที่สุด
เมื่อถามว่าวันนี้เป็นไปได้หรือไม่ ที่พรรคเพื่อไทย กับประชาธิปัตย์ จะร่วมมือกัน นายสาธิต กล่าวว่า จะเป็นไปได้ หรือเป็นไปไม่ได้ เงื่อนไขทำนองนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยพูดชัดแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ถ้าปราศจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครอบงำ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ถ้าตราบใดที่นายทักษิณ ยังครอบงำ สั่งการควบคุมได้อยู่แบบนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้
**”วิรัตน์"รับไม่ได้พวกหมิ่นสถาบันฯ
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การขับเคลื่อนการเมืองต้องเป็นไปตามอุดมการณ์พรรค จากประวัติที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 44 ถึงปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่า บางพรรคการเมืองไม่ยึดผลประโยชน์ชาติ คิดแต่ผลประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง จึงเป็นเรื่องยากยิ่งที่จะร่วมจับมือกันขับเคลื่อนการเมืองไปข้างหน้า โดยเฉพาะมีกรณีหมิ่นเหม่ว่าไปมีส่วนรู้เห็นกับ “ขบวนการ 112”และทำลายความน่าเชื่อถือศรัทธาของสถาบันหลัก ทุจริตเชิงนโยบาย ที่เศรษฐกิจชาติอาจล่มจมได้ การจัดกองกำลังไม่ทราบฝ่ายออกมาเข่นฆ่าพี่น้องประชาชน เชื่อว่าคนไทยยังไม่ลืมความเจ็บปวดนี้
ดังนั้น โมเดล 4 พรรคใหญ่แตะมือกันจึงเป็นได้ยากมาก ส่วนพรรคทหาร หรือใครจะชนะได้เป็นนายกฯ จะแพ้ ชนะเลือกตั้ง ก็อยู่ที่ประชาชน จะเห็นชอบกับนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ และการขับเคลื่อนของพรรคประชาธิปัตย์ เราก็พร้อมเป็นรัฐบาล รวมถึงพร้อมเป็นฝ่ายค้านด้วย เราไม่เคยเป็นฝ่ายค้านที่รอเสียบจะเป็นรัฐบาล จึงไม่กลัว อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน
**องอาจโลกสวย"ยินดีต้อนรับ กปปส."
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบข่าวเลยว่ามีเรื่องกปปส.จะกลับพรรค ไม่เคยได้ยินจริงๆ ยังยืนยันไม่มีอะไรแตกคอกัน มีโอกาสพบปะพูดคุยตอนเจอกันที่พรรคอยู่ตลอด พรรคประชาธิปัตย์พร้อมต้อนรับอยู่แล้วไม่มีปัญหา กปปส.ทุกคน เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพรรค ทำงานให้พรรคกันมาทุกคน จะมาพรรคเมื่อไรก็ได้ ไม่ปิดกั้นใคร ส่วนตนกลับยินดีเสียอีกจะได้มีความคิดความเห็นดีๆ ช่วยกันทำงานมากขึ้น พรรคก็มีพละกำลังมากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง คงไม่มีใครคิดจะมาเปลี่ยนอะไร พรรคเองมีการบริหารจัดการตามครรลองของพรรค จุดยืน หรือหลักการของพรรคเองคนที่เป็นประชาธิปัตย์ชัดเจนในเรื่องนี้ ไม่คิดว่าจะทำให้เกิดผลกระทบอะไร ไม่รู้สึกกังวลอะไร
** "พิชัย"หนุน"มาร์ค"นำทัพสู้ศึก
นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แม้วันนี้พรรคมีบุคลากรหลายคน อาทิ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เป็นผู้มีความรู้พอที่จะเป็นหัวหน้าพรรคได้ แต่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ควรเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค ควรสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ถือธงนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งต่อไป แม้ว่าผลที่ออกมาจะแพ้ หรือชนะก็ตาม ไม่เช่นนั้นจะเกิดความวุ่นวาย เพราะการเปลี่ยนตัวตอนนี้ไม่เป็นผลดีกับพรรคเอง เห็นว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นพลังสำคัญสนับสนุนให้เกิดความปรองดองภายในพรรค หวังว่านายชวน ควรมีบทบาทเพื่อให้ประชาธิปัตย์แข็งแรงขึ้น ในฐานะคนนอกที่ตนมองเข้าไป พรรคกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เริ่มจับประเด็นได้ว่า ควรแก้ไขอย่างไร ที่ผ่านมาเคยเตือนว่า เขาใช้คนไม่เป็น แต่ตอนนี้บุคคลดีๆ เริ่มเข้ามาแล้ว
**60อดีตส.ส.แสดงพลังหนุน"มาร์ค"
รายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า เวลา 09.00 น. วันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหนร้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางไปร่วมพีธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 หน้าอาคารรัฐสภา และจะมีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเดินทางมาด้วย ประมาณ 60 คน เพราะต้องการแสดงพลังให้กลุ่มกปปส. เห็นว่า พวกเขายังหนุนนายอภิสิทธิ์ ให้นั่งหัวหน้าพรรคต่อไป และเมื่อวางพวงมาลาเสร็จสิ้น อดีต ส.ส.ทั้งหมด จะเดินทางเข้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับนายอภิสิทธิ์ เพื่อพบปะพูดคุยกับ กลุ่มกปปส. ที่จะรวมตัวกันเข้าพรรคอย่างเป็นทางการเช่นกัน
ขณะที่ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์บางคน ได้วิเคราะห์ถึงการกลับมาของกลุ่มกปปส.ในครั้งนี้ว่า เป็นความพยายามสร้างข่าวของกลุ่ม เพื่อให้เห็นภาพว่า ทั้งกลุ่มได้หวนกลับเข้าพรรคอย่างเป็นทางการแล้ว ทั้งที่ในข้อเท็จจริง คนที่ลาออกจากสมาชิกพรรค หรืออดีต ส.ส.บางส่วนที่ลาไปบวช ตามโครงการของกลุ่มกปปส. ถือว่าขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคโดยปริยายไปแล้ว และยังไม่สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคได้แต่อย่างใด เพราะติดคำสั่งคสช. ที่ห้ามทุกพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมใดๆ รวมถึงการเปิดรับสมาชิกด้วย
อีกทั้งการที่ นายสุเทพ ออกมาสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเป็นนายกรัฐมนตรี ในช่วงเปลี่ยนผ่านโดยมี 250 ส.ว.เป็นฐานสนับสนุน ถือว่าสวนทางกับอุดมการณ์ของพรรค และเป็นแนวคิดที่ผิด ที่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ แทนที่จะพยายามหาเสียงให้พรรคได้ ส.ส.เกิน 250 เสียง หรือกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ แต่กลับไปประกาศหนุนทหารมาเป็นรัฐบาลเช่นนี้
** กปปส.ตั้งใจมายึดพรรค
นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีตส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีกลุ่ม กกปส. จะกลับมาเข้าพรรคในวันนี้ ว่า ตนไม่ได้อยู่หรือเข้าไปในพรรค ไม่ได้ติดตามข่าว
ส่วนที่มีข่าวลือว่า กปปส. ต้องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค รวมถึงอาจเปลี่ยนจุดยืนของพรรคในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้น นายพิเชษฐ กล่าวว่า ไม่ใช่ข่าวลือ แต่เป็นความตั้งใจของเขา คุณคิดดูหาก กปปส. ยกพวกกลับมา ในสายตาคนทั่วไปจะมองอย่างไร มันจะเหลือหรือ
"ถ้าย้อนดูเรื่องเก่าที่ผมเคยพูดไปแล้วนั้น กี่เรื่องๆ มันกำลังเกิดขึ้นเเล้วตามลำดับ เรื่องที่พูดไว้ว่าจะเกิดอีกในอนาคต ก็กำลังจะเกิดขึ้นจริง" นายพิเชษฐ กล่าว
นายพิเชษฐ ยังกล่าวถึง กรณีนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ 4 พรรคใหญ่จับมือ ต่อสู้พรรคทหาร ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า ตนเห็นด้วย เป็นแนวทางที่ถึงเวลาเสียที ตนไม่ได้เจาะจงชื่อพรรคการเมืองไหน แต่หมายถึงนักการเมืองที่ผ่านมาถูกเล่นงานจนยับเยินแล้ว จึงควรจับมือกันกอบกู้
**อยากหนุนทหารก็ไปตั้งพรรคใหม่
ด้านนายประมวล เอมเปีย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี แกนนำ กปปส. บางคน ต่อว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และกระทบชิ่งถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวน้าพรรค กรณีประกาศไม่รับรธน.ฉบับนี้ แล้วจะกระสันต์อยากลงเลือกตั้งโดยเร็วนั้น ตนขอชี้แจงว่า ไม่ใช่ว่านักการเมืองกระสันต์อยากให้เลือกตั้งเร็วๆ แต่ คสช.ยึดอำนาจมา 3 ปีกว่า ระบบเศรษฐกิจมีแต่แย่ลงๆ ความเหลื่อมล้ำยิ่งห่างขึ้น คนจนยิ่งจนลง ที่เพิ่มมากขึ้นก็มีแต่หนี้สินครัวเรือน พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในอุดมการณ์ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ การที่ กปปส.บางคน หนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อในช่วงเปลี่ยนผ่านอีก 5 ปี ก็เป็นเรื่องของพวกท่าน
"แต่การที่ท่านเห็นแย้งกับอุดมการณ์พรรค แล้วจะขอกลับเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคอีกนั้น ผมเห็นว่าไม่สมควร เพราะรังแต่จะสร้างความแตกแยกภายในพรรคเพิ่มขึ้นอีก ไหนๆ ก็ประกาศจุดยืนสนับสนุนทหารแล้ว ก็สมควรที่จะตั้งพรรคใหม่ หรือไปอยู่ร่วมกับพรรคทหารที่จะตั้งขึ้นใหม่จะดีกว่า การระบุว่าเมื่อไม่เห็นด้วยกับรธน.ฉบับนี้ ก็ไม่ต้องลงเลือกตั้งนั้น เมื่อเป็นพรรคการเมือง ก็ต้องส่งลงสมัครแข่งขันตามระบบ เพราะประชาชนจะเป็นคนตัดสินอนาคตให้เอง"
ส่วนข้อเสนอของ นายพิชัย ที่ให้ 4พรรคการเมืองสงบศึกกัน และร่วมจับมือต่อสู้กับพรรคทหารนั้น ตนเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เพื่อป้องกันทหารสืบทอดอำนาจ แต่ต้องดูอุดมการณ์ของแต่ละพรรคด้วยว่า จะสามารถร่วมทำงานเพื่อส่วนรวม เพื่อชาติบ้านเมือง และสามารถไปด้วยกันได้หรือไม่
** ซัดเห็บพันธุ์ใหม่เกาะบิ๊กตู่แน่น
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายเอกนัฐ พร้อมพันธุ์ อดีตโฆษก กปปส. จบจากต่างประเทศ ย่อมรู้แก่ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. เป็นเผด็จการสืบทอดอำนาจหรือไม่ การรัฐประหาร 22 พ.ค.57 เกิดขึ้นเพราะ กปปส. กวักมือเรียกทหารเช้า เที่ยง เย็น ค่ำ ทั้งที่ระบอบประชาธิปไตยควรจะต้องเดินไปข้างหน้า แต่ประเทศเรากลับถอยหลังกว่าชาติอื่นในอาเซียน 3 ปีของรัฐบาลนี้ ปฏิรูปสำเร็จกี่เรื่อง แม่น้ำ 5 สาย ต่างกับนักการเมืองตรงไหน ระบบอุปถัมภ์ การทุจริตคอร์รัปชัน ตรวจสอบได้หรือไม่ นายเอกนัฐ ควรบอกความจริงกับประชาชนให้ครบทุกประเด็น ที่อังกฤษมีนักการเมืองยุ่งเกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ หรือไม่ ครอบครองที่หลวงหรือไม่ มีการรัฐประหารแล้วเชิดชูหัวหน้าคณะรัฐประหาร ว่าเป็นคนดี ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้หรือไม่ มีการอ้างคำว่าปฏิรูป นำหน้าแล้วมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ประเทศที่เจริญแล้วเขาพัฒนาทางการเมืองกันแบบนี้หรือ ความเห็นต่างอย่าดูถูกว่า เป็นเสียงนกเสียงกา ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ตนไม่ปฏิเสธว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนดี และดีกว่านายกรัฐมนตรีหลายๆ คนที่เคยเป็นมา แต่ท่านต้องไตร่ตรองเองว่า ควรเป็นนายกฯ ต่อตามที่มีบางพวกสนับสนุนหรือไม่
"ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย และไม่เคยขอผลประโยชน์ใดๆ กับคสช. จึงกล้าบอกท่านตรงไปตรงมา ไม่มีประโยชน์แอบแฝงใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ระวังในแม่น้ำ 5 สายบางคนที่กำลังจะกลายเป็นเห็บอำนาจ หวังเกาะท่านต่อไปจนกว่าจะหมดอำนาจ เป็นเห็บพันธุ์ใหม่ ที่มีพิษร้ายแรงกว่าเห็บทั่วไป" นายวัชระ กล่าว
**ปชป.จับมือพท.ได้ถ้าไม่มีทักษิณ
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง โมเดล 4 พรรคใหญ่ จับมือต่อสู้พรรคทหารในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า อยากทุกฝ่ายตั้งสติ ให้ยึดหลักรธน. ปฏิบัติตามหลักการของระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด ไม่มีสิทธิไปกำหนด หรือตั้งธงไว้ว่าจะให้ใครเป็นรัฐบาล ก่อนที่ประชาชนส่วนใหญ่จะลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ต้องขอบคุณแนวคิด นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่เราไปคิดนอกหลักกติกากฎหมาย และนอกการปกครองประชาธิปไตยไม่ได้ ขอให้กลับมาที่หลักว่า อำนาจอยู่ที่ประชาชน เมื่อวันนี้ประชาชนเลือกพรรคการเมืองไหน ได้เสียงเท่าไร ถึงวันนั้น จะเป็นกลไกกำหนดเองว่า ใครจะได้อำนาจบริหารประเทศต่อไป ขอเตือนสติ ไม่ว่า พรรคการเมือง คสช. หรือใคร อย่าไปคิดใหญ่กว่าประชาชน ควรรอประชาชนตัดสินดีที่สุด
เมื่อถามว่าวันนี้เป็นไปได้หรือไม่ ที่พรรคเพื่อไทย กับประชาธิปัตย์ จะร่วมมือกัน นายสาธิต กล่าวว่า จะเป็นไปได้ หรือเป็นไปไม่ได้ เงื่อนไขทำนองนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยพูดชัดแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ถ้าปราศจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครอบงำ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ถ้าตราบใดที่นายทักษิณ ยังครอบงำ สั่งการควบคุมได้อยู่แบบนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้
**”วิรัตน์"รับไม่ได้พวกหมิ่นสถาบันฯ
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การขับเคลื่อนการเมืองต้องเป็นไปตามอุดมการณ์พรรค จากประวัติที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 44 ถึงปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่า บางพรรคการเมืองไม่ยึดผลประโยชน์ชาติ คิดแต่ผลประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง จึงเป็นเรื่องยากยิ่งที่จะร่วมจับมือกันขับเคลื่อนการเมืองไปข้างหน้า โดยเฉพาะมีกรณีหมิ่นเหม่ว่าไปมีส่วนรู้เห็นกับ “ขบวนการ 112”และทำลายความน่าเชื่อถือศรัทธาของสถาบันหลัก ทุจริตเชิงนโยบาย ที่เศรษฐกิจชาติอาจล่มจมได้ การจัดกองกำลังไม่ทราบฝ่ายออกมาเข่นฆ่าพี่น้องประชาชน เชื่อว่าคนไทยยังไม่ลืมความเจ็บปวดนี้
ดังนั้น โมเดล 4 พรรคใหญ่แตะมือกันจึงเป็นได้ยากมาก ส่วนพรรคทหาร หรือใครจะชนะได้เป็นนายกฯ จะแพ้ ชนะเลือกตั้ง ก็อยู่ที่ประชาชน จะเห็นชอบกับนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ และการขับเคลื่อนของพรรคประชาธิปัตย์ เราก็พร้อมเป็นรัฐบาล รวมถึงพร้อมเป็นฝ่ายค้านด้วย เราไม่เคยเป็นฝ่ายค้านที่รอเสียบจะเป็นรัฐบาล จึงไม่กลัว อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน
**องอาจโลกสวย"ยินดีต้อนรับ กปปส."
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบข่าวเลยว่ามีเรื่องกปปส.จะกลับพรรค ไม่เคยได้ยินจริงๆ ยังยืนยันไม่มีอะไรแตกคอกัน มีโอกาสพบปะพูดคุยตอนเจอกันที่พรรคอยู่ตลอด พรรคประชาธิปัตย์พร้อมต้อนรับอยู่แล้วไม่มีปัญหา กปปส.ทุกคน เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพรรค ทำงานให้พรรคกันมาทุกคน จะมาพรรคเมื่อไรก็ได้ ไม่ปิดกั้นใคร ส่วนตนกลับยินดีเสียอีกจะได้มีความคิดความเห็นดีๆ ช่วยกันทำงานมากขึ้น พรรคก็มีพละกำลังมากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง คงไม่มีใครคิดจะมาเปลี่ยนอะไร พรรคเองมีการบริหารจัดการตามครรลองของพรรค จุดยืน หรือหลักการของพรรคเองคนที่เป็นประชาธิปัตย์ชัดเจนในเรื่องนี้ ไม่คิดว่าจะทำให้เกิดผลกระทบอะไร ไม่รู้สึกกังวลอะไร
** "พิชัย"หนุน"มาร์ค"นำทัพสู้ศึก
นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แม้วันนี้พรรคมีบุคลากรหลายคน อาทิ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เป็นผู้มีความรู้พอที่จะเป็นหัวหน้าพรรคได้ แต่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ควรเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค ควรสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ถือธงนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งต่อไป แม้ว่าผลที่ออกมาจะแพ้ หรือชนะก็ตาม ไม่เช่นนั้นจะเกิดความวุ่นวาย เพราะการเปลี่ยนตัวตอนนี้ไม่เป็นผลดีกับพรรคเอง เห็นว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นพลังสำคัญสนับสนุนให้เกิดความปรองดองภายในพรรค หวังว่านายชวน ควรมีบทบาทเพื่อให้ประชาธิปัตย์แข็งแรงขึ้น ในฐานะคนนอกที่ตนมองเข้าไป พรรคกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เริ่มจับประเด็นได้ว่า ควรแก้ไขอย่างไร ที่ผ่านมาเคยเตือนว่า เขาใช้คนไม่เป็น แต่ตอนนี้บุคคลดีๆ เริ่มเข้ามาแล้ว
**60อดีตส.ส.แสดงพลังหนุน"มาร์ค"
รายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า เวลา 09.00 น. วันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหนร้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางไปร่วมพีธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 หน้าอาคารรัฐสภา และจะมีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเดินทางมาด้วย ประมาณ 60 คน เพราะต้องการแสดงพลังให้กลุ่มกปปส. เห็นว่า พวกเขายังหนุนนายอภิสิทธิ์ ให้นั่งหัวหน้าพรรคต่อไป และเมื่อวางพวงมาลาเสร็จสิ้น อดีต ส.ส.ทั้งหมด จะเดินทางเข้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับนายอภิสิทธิ์ เพื่อพบปะพูดคุยกับ กลุ่มกปปส. ที่จะรวมตัวกันเข้าพรรคอย่างเป็นทางการเช่นกัน