ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กตู่"เผยถาม 4 ข้อ หวังให้ชาวบ้านคิด หลังถูกบิดเบือนเล่นงานมาโดยตลอด ยันยังไงก็ต้องมีเลือกตั้ง ถามวันหน้าถ้ามีปัญหา ประยุทธ์ไม่อยู่แล้วจะเรียกใคร ลั่นทหารไม่อยากรัฐประหาร ถ้าไม่สร้างความเสียหาย ไม่สนนักการเมืองตอบ เหตุถามประชาชน ซัดเป็นเจ้าของประเทศหรือ โต้ถ้าอยากอยู่ต่อ ต้องถามว่าอยากเลือกตั้งหรือไม่ เผยกรุงเทพโพล ระบุชาวบ้านอยากมีเลือกตั้ง แต่คะแนนหนุนบิ๊กตู่เป็นนายกฯ ลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (29 พ.ค.) ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ การค้าข้าวไทยและทิศทางในอนาคต โดยกล่าวถึงกรณีที่ได้ฝากคำถาม 4 ข้อ เกี่ยวกับวิธีการดำเนินงานของรัฐบาล และการตัดสินใจเลือกตั้งในอนาคตตอนหนึ่งว่า "ด้วยความห่วงใยจากผม ในฐานะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ซึ่งวันนี้ทุกคนยังไม่ได้ตอบคำถามที่ผมถามไป แต่ที่ถามไปนั้น ไม่ได้ถามเพราะว่าผมจะไม่ไป หรืออะไร แต่ถามไปว่าวันหน้าจะทำอย่างไรเท่านั้นเอง โดยไม่ได้จะเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น ก็เป็นไปตามที่พ่อแม่พี่น้องต้องการ"
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ว่า จุดประสงค์ที่ถาม คือ ต้องการให้ประชาชนได้คิดในสิ่งที่ได้ถามไป เพราะวันนี้มีการพูดในระดับท้องถิ่น ชุมชน และหมู่บ้าน เดินสายพูดอยู่ข้างล่าง และบิดเบือนทุกอย่าง โจมตีตนทางสื่อ จึงได้ถามกลับไปว่า สิ่งที่พวกเขาพูดมาทั้งหมดนั้น จะเป็นจริงหรือไม่ เช่นที่บอกว่า หากได้กลับมาเป็นรัฐบาลก็จะให้มีโครงการรับจำนำข้าวอีก กลับมาแล้วจะทำหลายอย่างที่ประชาชนได้รับผลประโยชน์โดยตรง ตนจึงได้ถามว่า ถ้าปัญหาเหล่านี้กลับมา ประชาชนจะทำอย่างไร
"ในเมื่อเขาเล่นงานผม ผมก็ต้องถามกลับไปบ้าง แล้วทำไมจะต้องฟังแต่เขาข้างเดียวหรือ ผมไม่มีโอกาสจะพูดอะไรเลยหรือ ช่วยผมสิ ผมต้องการสร้างความคิด เลือกตั้งผมไม่ได้ขัดแย้ง ยังไงก็ต้องมี โรดแมปว่าเมื่อไร ก็ต้องเมื่อนั้น แต่วันนี้ แค่เลือกตั้งยังไม่ยอมกันเลย ต่างเร่งให้เร็วแค่นี้ แค่นั้น มีความไม่สงบเกิดขึ้น แล้วบอกว่าจะต้องเลือกตั้งให้เร็วขึ้น จะต้องขยายความให้เขาทำไม ประเทศไหน ก็ไม่มีหรอก ถ้าไม่สงบเรียบร้อย ก็ทำอย่างอื่นไม่ได้ ผมไม่เคยพูดสักคำว่าจะไม่เลือกตั้ง แล้วนักการเมืองตีความอย่างนั้นทำไม หลายคนที่ออกมาพูดวันนี้ สร้างความเสียหาย วันหน้าถ้าเกิดปัญหาขึ้นอีกจะเรียกใคร ประยุทธ์ไม่อยู่แล้วจะเรียกใคร แล้วบอกทหารไม่ต้องรัฐประหาร ซึ่งไม่มีใครอยากจะทำอยู่แล้ว ถ้าพวกคุณไม่สร้างความเสียหายไว้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีความที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว จะเสร็จก่อนการจัดให้มีการเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องถามฝ่ายกฎหมาย ขณะนี้ได้เดินหน้าตามกระบวนการ แต่คดีความไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีการร้องขอพยานหลายฝ่าย เมื่อใช้วิธีการนี้ ก็ไม่สามารถเร่งคดีได้ เพราะจะหาว่ารัฐบาลไปบังคับไล่ล่า ฆ่าฟัน ส่วนการระบายข้าว โดยเฉพาะข้าวเสื่อมที่ยังระบายได้ไม่มากนัก จะให้ทำอย่างไรในเมื่อข้าวมันห่วย เมื่อขายได้เท่านี้ ก็ต้องไปสอบหาความรับผิดชอบว่ามีการทุจริตกันหรือไม่ เพราะมีการทุจริตทั้งเงิน และนโยบาย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สื่อมวลชนเองก็รู้ ว่ามีความเคลื่อนไหวของนักการเมืองเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง โดยต้องการให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม มีการเคลื่อนไหวมานานแล้ว เป็นการเดินสายเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล ทุกเรื่อง เพราะไม่ต้องการให้สิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้น แต่ต้องการให้ทุกอย่างกลับไปที่เดิม มีรัฐธรรมนูญและกฎหมายแบบเดิม แล้วประเทศไทยจะแก้ปัญหาอะไรได้ จึงขอถามคนไทยว่าต้องการความเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากต้องการก็ต้องคิดในสิ่งที่ถามไป และไม่ได้ถามเพื่อตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อได้คำตอบแล้วจะมีแนวทางดำเนินการอย่างไรต่อ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมจะเอามาคิดว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยอาจจะเร่งรัดกระบวนการปฏิรูปให้เร็วขึ้น และสอดคล้องกับสิ่งที่จะเดินหน้า ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น แต่ที่ผมโดนโจมตีมาตลอดนั้นเป็นธรรมต่อผมหรือไม่ เมื่อจะถามสักหน่อยก็ไม่ได้เลย แตะต้องไม่ได้ เขาเป็นใครถึงแตะไม่ได้ เป็นเจ้าของประเทศนี้หรือ เพราะเจ้าของประเทศนี้คือประชาชน ผมถามว่าประชาชนจะเอาอย่างไร ไม่ได้ถามว่าจะเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้ง ผมไม่ถามอะไรโง่ๆ แบบนั้นอยู่แล้ว"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อได้รับคำตอบจากประชาชนแล้ว ตนจะส่งคำตอบให้สื่อมวลชนได้ดูด้วย เพราะสื่อเป็นส่วนหนึ่งในวงจรความขัดแย้ง จึงต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชน และสร้างจิตสำนึก ซึ่งไม่ใช่หน้าที่นายกฯเพียงคนเดียว แต่เป็นหน้าที่ของทุกคน
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังการตรวจเยี่ยมแก้ปัญหาน้ำท่วมที่สถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง ว่า นักการเมืองจะตอบอย่างไร ก็เรื่องของเขา เพราะตนถามประชาชน ไม่ได้ถามนักการเมือง ที่เขาถามกลับมา ตนไม่รู้สึก ไม่สนใจ จะไปสนใจเขาทำไม ถ้านักการเมืองต้องไปถามเขาว่า วันหน้าถ้ากลับมาจะทำอย่างไร ที่ผ่านมา ก็โจมตีตนทุกวัน จึงต้องถามกลับแค่นั้นเอง
เมื่อถามว่า นักการเมืองมองว่า 4 คำถามของนายกฯ เพราะต้องการอยู่ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "อยู่ได้ไง ถ้าอยากอยู่ต่อ ผมต้องถามว่า ต้องการเลือกตั้งหรือไม่ แต่ผมไม่ได้ถาม เมื่อไม่ได้ถามก็อย่าไปตีความ แต่ผมถามว่า ถ้าเกิดปัญหาในวันหน้าจะแก้ไขอย่างไร หรือต้องเรียกทหารออกมาปฏิวัติอีก คุณจะเอาอะไรกับผม"
เมื่อถามว่า ได้กำหนดระยะเวลาในการรวบรวมคำตอบจากประชาชน หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่รู้ อยากจะตอบอะไรก็ตอบไป ไม่มีการสรุป แต่ขอให้ประชาชนตอบมาก่อน เพื่อจะได้รู้ว่า จะต้องทำอย่างไร วันหน้าเมื่อรัฐบาลนี้ไม่อยู่ ก็ขอให้สื่อช่วยถามรัฐบาลหน้าด้วย ถ้ารัฐบาลหน้าไม่ตอบให้ชัดเจน ผมก็จะมาไล่กับสื่อ ทีเมื่อก่อนไม่เห็นมีถามเขาแบบนี้เลย ถ้าถามแล้วทำไมถึงมีเรื่อง มีความขัดแย้ง มีการใช้ระเบิด และอาวุธสงคราม ก่อนหน้านี้ผมสงบเสงี่ยมเจียมตัวมาหลายสัปดาห์แล้ว และจะเลิกพูดไปอีก 2-3 สัปดาห์ สื่ออย่าคิดถึงก็แล้วกัน"
วันเดียวกันนี้ กรุงเทพโพลล์ ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่องคะแนนนิยมพรรคการเมืองไทย หลังผ่าน 3 ปี คสช. โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,269 คน ถึงความรู้สึกต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ร้อยละ 50.6 รู้สึกตื่นตัวอยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ร้อยละ 24.6 รู้สึกเฉยๆ เลือกก็ได้ไม่เลือกได้ ร้อยละ 21.8 รู้สึกอยากอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ประเทศสงบดี และร้อยละ 3 ไม่แน่ใจ
เมื่อถามว่า หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้งจะเลือกพรรคการเมืองใด พบว่า ร้อยละ 17.8 เลือกพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 15.6 เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 1.5 พรรครักประเทศไทย ร้อยละ 1 พรรคชาติไทยพัฒนา ร้อยละ 0.8 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 0.3 พรรคพลังชล และเมื่อถามว่า หากวันนี้มีสิทธิออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี ท่านจะออกเสียงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ พบว่า ร้อยละ 52.8 ระบุว่า จะสนับสนุน แต่ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือนม.ค. ร้อยละ 9 ขณะที่ร้อยละ 25.6 ระบุไม่สนับสนุน ส่วนที่เหลือร้อยละ 21.6 งดออกเสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (29 พ.ค.) ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ การค้าข้าวไทยและทิศทางในอนาคต โดยกล่าวถึงกรณีที่ได้ฝากคำถาม 4 ข้อ เกี่ยวกับวิธีการดำเนินงานของรัฐบาล และการตัดสินใจเลือกตั้งในอนาคตตอนหนึ่งว่า "ด้วยความห่วงใยจากผม ในฐานะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ซึ่งวันนี้ทุกคนยังไม่ได้ตอบคำถามที่ผมถามไป แต่ที่ถามไปนั้น ไม่ได้ถามเพราะว่าผมจะไม่ไป หรืออะไร แต่ถามไปว่าวันหน้าจะทำอย่างไรเท่านั้นเอง โดยไม่ได้จะเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น ก็เป็นไปตามที่พ่อแม่พี่น้องต้องการ"
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ว่า จุดประสงค์ที่ถาม คือ ต้องการให้ประชาชนได้คิดในสิ่งที่ได้ถามไป เพราะวันนี้มีการพูดในระดับท้องถิ่น ชุมชน และหมู่บ้าน เดินสายพูดอยู่ข้างล่าง และบิดเบือนทุกอย่าง โจมตีตนทางสื่อ จึงได้ถามกลับไปว่า สิ่งที่พวกเขาพูดมาทั้งหมดนั้น จะเป็นจริงหรือไม่ เช่นที่บอกว่า หากได้กลับมาเป็นรัฐบาลก็จะให้มีโครงการรับจำนำข้าวอีก กลับมาแล้วจะทำหลายอย่างที่ประชาชนได้รับผลประโยชน์โดยตรง ตนจึงได้ถามว่า ถ้าปัญหาเหล่านี้กลับมา ประชาชนจะทำอย่างไร
"ในเมื่อเขาเล่นงานผม ผมก็ต้องถามกลับไปบ้าง แล้วทำไมจะต้องฟังแต่เขาข้างเดียวหรือ ผมไม่มีโอกาสจะพูดอะไรเลยหรือ ช่วยผมสิ ผมต้องการสร้างความคิด เลือกตั้งผมไม่ได้ขัดแย้ง ยังไงก็ต้องมี โรดแมปว่าเมื่อไร ก็ต้องเมื่อนั้น แต่วันนี้ แค่เลือกตั้งยังไม่ยอมกันเลย ต่างเร่งให้เร็วแค่นี้ แค่นั้น มีความไม่สงบเกิดขึ้น แล้วบอกว่าจะต้องเลือกตั้งให้เร็วขึ้น จะต้องขยายความให้เขาทำไม ประเทศไหน ก็ไม่มีหรอก ถ้าไม่สงบเรียบร้อย ก็ทำอย่างอื่นไม่ได้ ผมไม่เคยพูดสักคำว่าจะไม่เลือกตั้ง แล้วนักการเมืองตีความอย่างนั้นทำไม หลายคนที่ออกมาพูดวันนี้ สร้างความเสียหาย วันหน้าถ้าเกิดปัญหาขึ้นอีกจะเรียกใคร ประยุทธ์ไม่อยู่แล้วจะเรียกใคร แล้วบอกทหารไม่ต้องรัฐประหาร ซึ่งไม่มีใครอยากจะทำอยู่แล้ว ถ้าพวกคุณไม่สร้างความเสียหายไว้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีความที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว จะเสร็จก่อนการจัดให้มีการเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องถามฝ่ายกฎหมาย ขณะนี้ได้เดินหน้าตามกระบวนการ แต่คดีความไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีการร้องขอพยานหลายฝ่าย เมื่อใช้วิธีการนี้ ก็ไม่สามารถเร่งคดีได้ เพราะจะหาว่ารัฐบาลไปบังคับไล่ล่า ฆ่าฟัน ส่วนการระบายข้าว โดยเฉพาะข้าวเสื่อมที่ยังระบายได้ไม่มากนัก จะให้ทำอย่างไรในเมื่อข้าวมันห่วย เมื่อขายได้เท่านี้ ก็ต้องไปสอบหาความรับผิดชอบว่ามีการทุจริตกันหรือไม่ เพราะมีการทุจริตทั้งเงิน และนโยบาย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สื่อมวลชนเองก็รู้ ว่ามีความเคลื่อนไหวของนักการเมืองเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง โดยต้องการให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม มีการเคลื่อนไหวมานานแล้ว เป็นการเดินสายเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล ทุกเรื่อง เพราะไม่ต้องการให้สิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้น แต่ต้องการให้ทุกอย่างกลับไปที่เดิม มีรัฐธรรมนูญและกฎหมายแบบเดิม แล้วประเทศไทยจะแก้ปัญหาอะไรได้ จึงขอถามคนไทยว่าต้องการความเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากต้องการก็ต้องคิดในสิ่งที่ถามไป และไม่ได้ถามเพื่อตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อได้คำตอบแล้วจะมีแนวทางดำเนินการอย่างไรต่อ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมจะเอามาคิดว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยอาจจะเร่งรัดกระบวนการปฏิรูปให้เร็วขึ้น และสอดคล้องกับสิ่งที่จะเดินหน้า ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น แต่ที่ผมโดนโจมตีมาตลอดนั้นเป็นธรรมต่อผมหรือไม่ เมื่อจะถามสักหน่อยก็ไม่ได้เลย แตะต้องไม่ได้ เขาเป็นใครถึงแตะไม่ได้ เป็นเจ้าของประเทศนี้หรือ เพราะเจ้าของประเทศนี้คือประชาชน ผมถามว่าประชาชนจะเอาอย่างไร ไม่ได้ถามว่าจะเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้ง ผมไม่ถามอะไรโง่ๆ แบบนั้นอยู่แล้ว"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อได้รับคำตอบจากประชาชนแล้ว ตนจะส่งคำตอบให้สื่อมวลชนได้ดูด้วย เพราะสื่อเป็นส่วนหนึ่งในวงจรความขัดแย้ง จึงต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชน และสร้างจิตสำนึก ซึ่งไม่ใช่หน้าที่นายกฯเพียงคนเดียว แต่เป็นหน้าที่ของทุกคน
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังการตรวจเยี่ยมแก้ปัญหาน้ำท่วมที่สถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง ว่า นักการเมืองจะตอบอย่างไร ก็เรื่องของเขา เพราะตนถามประชาชน ไม่ได้ถามนักการเมือง ที่เขาถามกลับมา ตนไม่รู้สึก ไม่สนใจ จะไปสนใจเขาทำไม ถ้านักการเมืองต้องไปถามเขาว่า วันหน้าถ้ากลับมาจะทำอย่างไร ที่ผ่านมา ก็โจมตีตนทุกวัน จึงต้องถามกลับแค่นั้นเอง
เมื่อถามว่า นักการเมืองมองว่า 4 คำถามของนายกฯ เพราะต้องการอยู่ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "อยู่ได้ไง ถ้าอยากอยู่ต่อ ผมต้องถามว่า ต้องการเลือกตั้งหรือไม่ แต่ผมไม่ได้ถาม เมื่อไม่ได้ถามก็อย่าไปตีความ แต่ผมถามว่า ถ้าเกิดปัญหาในวันหน้าจะแก้ไขอย่างไร หรือต้องเรียกทหารออกมาปฏิวัติอีก คุณจะเอาอะไรกับผม"
เมื่อถามว่า ได้กำหนดระยะเวลาในการรวบรวมคำตอบจากประชาชน หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่รู้ อยากจะตอบอะไรก็ตอบไป ไม่มีการสรุป แต่ขอให้ประชาชนตอบมาก่อน เพื่อจะได้รู้ว่า จะต้องทำอย่างไร วันหน้าเมื่อรัฐบาลนี้ไม่อยู่ ก็ขอให้สื่อช่วยถามรัฐบาลหน้าด้วย ถ้ารัฐบาลหน้าไม่ตอบให้ชัดเจน ผมก็จะมาไล่กับสื่อ ทีเมื่อก่อนไม่เห็นมีถามเขาแบบนี้เลย ถ้าถามแล้วทำไมถึงมีเรื่อง มีความขัดแย้ง มีการใช้ระเบิด และอาวุธสงคราม ก่อนหน้านี้ผมสงบเสงี่ยมเจียมตัวมาหลายสัปดาห์แล้ว และจะเลิกพูดไปอีก 2-3 สัปดาห์ สื่ออย่าคิดถึงก็แล้วกัน"
วันเดียวกันนี้ กรุงเทพโพลล์ ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่องคะแนนนิยมพรรคการเมืองไทย หลังผ่าน 3 ปี คสช. โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,269 คน ถึงความรู้สึกต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ร้อยละ 50.6 รู้สึกตื่นตัวอยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ร้อยละ 24.6 รู้สึกเฉยๆ เลือกก็ได้ไม่เลือกได้ ร้อยละ 21.8 รู้สึกอยากอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ประเทศสงบดี และร้อยละ 3 ไม่แน่ใจ
เมื่อถามว่า หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้งจะเลือกพรรคการเมืองใด พบว่า ร้อยละ 17.8 เลือกพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 15.6 เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 1.5 พรรครักประเทศไทย ร้อยละ 1 พรรคชาติไทยพัฒนา ร้อยละ 0.8 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 0.3 พรรคพลังชล และเมื่อถามว่า หากวันนี้มีสิทธิออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี ท่านจะออกเสียงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ พบว่า ร้อยละ 52.8 ระบุว่า จะสนับสนุน แต่ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือนม.ค. ร้อยละ 9 ขณะที่ร้อยละ 25.6 ระบุไม่สนับสนุน ส่วนที่เหลือร้อยละ 21.6 งดออกเสียง