ผู้จัดการรายวัน360 - ฝนถล่มกรุงข้ามคืน น้ำท่วมถนนหลายจุด จราจรอัมพาตหลายเส้นทาง ร.ร.หลายแห่งสั่งหยุดเรียน “ผู้ว่าฯอัศวิน” ลุยน้ำสั่งการแก้ปัญหา แจงเตรียมรับมือทุกทางแล้ว แต่ยังเอาไม่อยู่ "บิ๊กตู่" เตรียมตรวจน้ำท่วมเมืองกรุง 29 พ.ค.นี้
วานนี้ (25พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 24 พ.ค.มีฝนตกปานกลางถึงหนักในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตลอดทั้งคืน ก่อนที่จะลดลงเป็นฝนตกเล็กน้อยและหยุดตกเมื่อช่วงเช้า ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบนพื้นผิวถนน ทำให้สภาพการจราจรติดขัดหลายเส้นทางตั้งแต่ช่วงเช้า และสร้างปัญหาการเดินทางสัญจรเป็นอย่างมาก โดยล่าสุดมีโรงเรียนหลายแห่งได้สั่งหยุดเรียนด้วย
เมื่อเวลา 07.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำเร่งระบาย หลายพื้นที่ เช่น ถ.งามวงศ์วาน ตลาดพงษ์เพชร ซอยชินเขต เขตหลักสี่ ซอยอินทราภรณ์ เขตวังทองหลาง และแยกลาดพร้าว-รัชโยธิน ก่อนเปิดเผยว่า ผู้บริหาร กทม.ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ช่วงดึกที่ผ่านมา เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ต้องใช้เส้นทางสัญจรในช่วงเช้า อย่างไรก็ตาม การระบายน้ำบางจุดยังระบายได้ช้า เนื่องจากระดับน้ำในคลองหลายแห่งสูง ประกอบกับฝนตกหนักต่อเนื่อง 6 - 7 ชั่วโมง จึงต้องใช้เครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำบนพื้นผิวจราจรตั้งแต่เมื่อคืน เป็นต้น
“ในช่วงเช้าที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจจุดน้ำท่วมต่าง ๆ ได้ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เนื่องจากฝนที่ตกลงมามากจริง ๆ ทำให้น้ำในคลองที่จะระบายออกไปเต็มต่อเนื่อง จึงต้องเร่งการสูบน้ำที่สถานีสูบต่าง ๆ เพื่อลดระดับน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ ให้ลดลงโดยเร็วที่สุด ซึ่งผมทำเต็มที่และเข้าใจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนดี ผมขออภัยในความเดือดร้อน และไม่แก้ตัวใด ๆ ยินดีรับฟังคำติติง ซึ่งได้สั่งเจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์เข้าไปเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้น้ำแห้งโดยเร็ว” พล.ต.อ.อัศวิน ระบุ
** แจงฝนตกหนักเกินจนเอาไม่อยู่
ด้านนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ทำให้ใช้เวลานานถึง10ชั่วโมง เกิดขึ้นนั้น เกิดจากปริมาณที่มากเกินกว่าระบบระบายน้ำจะรองรับได้ โดยฝนตกทั่วทุกพื้นที่ และในแต่ละจุดก็มีปริมาณเกิน100 มิลลิเมตร ทำให้ระดับน้ำในคลองเต็ม ซึ่งจากที่กทม.วางแผนกระบายน้ำโดยจะต้องใช้เวลาในการระบายไม่เกิน1-2 ชั่วโมงนั้น จะสามารถกระทำได้เมื่อฝนหยุดตก แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฝนตกต่อเนื่อง และพื้นที่รับน้ำตามธรรมชาติคือคลองสายต่าง ๆ ซึ่งกทม.ได้เตรียมความพร้อมลดระดับน้ำในคลองไว้แล้ว มีน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนการระบายน้ำต้องใช้เวลายาวนาน เนื่องจากจะต้องเร่งระบายน้ำในคลองออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในระดับหนึ่งก่อน ซึ่ง กทม.ได้ใช้เครื่องสูบน้ำ เร่งการระบายน้ำเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร็วที่สุด พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือถนนลาดพร้าว และพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากเป็นจุดที่เกิดฝนตกหนักมากที่สุด ปริมาณในกว่า169 มิลลิเมตร โดยทั้งเขตและสำนักระบายน้ำได้ระดมกำลังลงพื้นที่ทุกจุด
** “นายกฯตู่”ลงพื้นที่พระโขนง 29 พ.ค.
ขณะที่มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาล โดยในวันที่ 29 พ.ค.นี้ นายกฯพร้อมคณะ มีกำหนดจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของ กทม.ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง และพื้นที่ซอยลาซาล-แบริ่งและจะเดินทางไปตรวจพื้นที่และพบประชาชนในย่านใกล้เคียงด้วย
** เศร้า!! ลูกจ้าง กทม.ดับขณะปฎิบัติหน้าที่
ต่อมาในช่วงเย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.อัศวิน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค "ผู้ว่าฯอัศวิน" แสดงความเสียใจหลังเจ้าหน้าที่ระบายน้ำเกิดหัวใจวายขณะปฎิบัติหน้าที่เฝ้าเครื่องสูบน้ำในซอยนาคนิวาส 40 โดยระบุว่า "ผมต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายณรงค์ บำรุงสิน อายุ 57 ปี ลูกจ้างประจำ ระบายน้ำฝ่ายโยธาของเขตลาดพร้าว ซึ่งหัวใจวายขณะปฎิบัติหน้าที่เฝ้าเครื่องสูบน้ำในซอยนาคนิวาส 40 เวลา 13.30 น. เป็นเรื่องที่น่าเศร้าและผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากครับ โดยทางกทม.จะดูแลครอบครัวของคุณณรงค์เป็นอย่างดีต่อไปครับ และผมต้องขออภัยพี่น้องประชาชนในความไม่สะดวกสำหรับการเดินทางสัญจรในเช้าวันนี้ เนื่องจากปริมาณฝนในหลายพื้นที่มากเกินกำลังของกทม.ในการระบายน้ำถึง เกือบ 2 เท่า แต่กทม.ก็ได้เร่งระบายกันอย่างเต็มที่ตลอด ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงขณะนี้ ซึ่งหลายพื้นที่น้ำก็แห้งเกือบหมดแล้ว ยังเหลือบางซอยที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ เพราะขณะนี้ปริมาณน้ำในลำคลองเพิ่มสูงขึ้นมาก กทม.กำลังเร่งสูบน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระ ผมกับจนท.ทุกคนจะพยายามเร่งแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุดครับ และต้องฝากถึงพี่น้องประชาชน วันสองวันนี้จะมีฝนตกหนักอีก ซึ่งกรมอุตุฯได้คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำฝนจะไม่น้อยไปกว่าค่ำคืนที่ผ่านมาจึงขอให้ยกของขึ้นที่สูง เตรียมรับมือไว้ก่อนนะครับ"
** "กรมอุตุฯ” เตือนฝนตกหนักต่อเนื่อง
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน" ฉบับที่ 9 ในช่วงวันที่ 25-28 พ.ค.60 ประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ซึ่งจะได้รับผลกระทบ โดยมีหลายจังหวัดที่ฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
** “สุโขทัย-ลำปาง” เจอน้ำป่าไหลหลาก
ด้าน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่ง โดยตั้งแต่วันที่ 16-23 พ.ค. มีพื้นที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 15 จังหวัด ผู้เสียชีวิต 5 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 13 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ภาคเหนือ 2 จังหวัด คือ สุโขทัย และ ลำปาง อย่างไรก็ตามในช่วงวันที่ 25-28 พ.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ในระยะแรกเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ จากนั้นภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ส่วนภาคตะวันออกและภาคใต้ จะมีฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ปภ.เขต และสำนักงานปภ.จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้ง จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และชุดเคลื่อนที่เร็ว ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด.
วานนี้ (25พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 24 พ.ค.มีฝนตกปานกลางถึงหนักในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตลอดทั้งคืน ก่อนที่จะลดลงเป็นฝนตกเล็กน้อยและหยุดตกเมื่อช่วงเช้า ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบนพื้นผิวถนน ทำให้สภาพการจราจรติดขัดหลายเส้นทางตั้งแต่ช่วงเช้า และสร้างปัญหาการเดินทางสัญจรเป็นอย่างมาก โดยล่าสุดมีโรงเรียนหลายแห่งได้สั่งหยุดเรียนด้วย
เมื่อเวลา 07.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำเร่งระบาย หลายพื้นที่ เช่น ถ.งามวงศ์วาน ตลาดพงษ์เพชร ซอยชินเขต เขตหลักสี่ ซอยอินทราภรณ์ เขตวังทองหลาง และแยกลาดพร้าว-รัชโยธิน ก่อนเปิดเผยว่า ผู้บริหาร กทม.ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ช่วงดึกที่ผ่านมา เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ต้องใช้เส้นทางสัญจรในช่วงเช้า อย่างไรก็ตาม การระบายน้ำบางจุดยังระบายได้ช้า เนื่องจากระดับน้ำในคลองหลายแห่งสูง ประกอบกับฝนตกหนักต่อเนื่อง 6 - 7 ชั่วโมง จึงต้องใช้เครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำบนพื้นผิวจราจรตั้งแต่เมื่อคืน เป็นต้น
“ในช่วงเช้าที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจจุดน้ำท่วมต่าง ๆ ได้ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เนื่องจากฝนที่ตกลงมามากจริง ๆ ทำให้น้ำในคลองที่จะระบายออกไปเต็มต่อเนื่อง จึงต้องเร่งการสูบน้ำที่สถานีสูบต่าง ๆ เพื่อลดระดับน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ ให้ลดลงโดยเร็วที่สุด ซึ่งผมทำเต็มที่และเข้าใจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนดี ผมขออภัยในความเดือดร้อน และไม่แก้ตัวใด ๆ ยินดีรับฟังคำติติง ซึ่งได้สั่งเจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์เข้าไปเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้น้ำแห้งโดยเร็ว” พล.ต.อ.อัศวิน ระบุ
** แจงฝนตกหนักเกินจนเอาไม่อยู่
ด้านนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ทำให้ใช้เวลานานถึง10ชั่วโมง เกิดขึ้นนั้น เกิดจากปริมาณที่มากเกินกว่าระบบระบายน้ำจะรองรับได้ โดยฝนตกทั่วทุกพื้นที่ และในแต่ละจุดก็มีปริมาณเกิน100 มิลลิเมตร ทำให้ระดับน้ำในคลองเต็ม ซึ่งจากที่กทม.วางแผนกระบายน้ำโดยจะต้องใช้เวลาในการระบายไม่เกิน1-2 ชั่วโมงนั้น จะสามารถกระทำได้เมื่อฝนหยุดตก แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฝนตกต่อเนื่อง และพื้นที่รับน้ำตามธรรมชาติคือคลองสายต่าง ๆ ซึ่งกทม.ได้เตรียมความพร้อมลดระดับน้ำในคลองไว้แล้ว มีน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนการระบายน้ำต้องใช้เวลายาวนาน เนื่องจากจะต้องเร่งระบายน้ำในคลองออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในระดับหนึ่งก่อน ซึ่ง กทม.ได้ใช้เครื่องสูบน้ำ เร่งการระบายน้ำเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร็วที่สุด พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือถนนลาดพร้าว และพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากเป็นจุดที่เกิดฝนตกหนักมากที่สุด ปริมาณในกว่า169 มิลลิเมตร โดยทั้งเขตและสำนักระบายน้ำได้ระดมกำลังลงพื้นที่ทุกจุด
** “นายกฯตู่”ลงพื้นที่พระโขนง 29 พ.ค.
ขณะที่มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาล โดยในวันที่ 29 พ.ค.นี้ นายกฯพร้อมคณะ มีกำหนดจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของ กทม.ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง และพื้นที่ซอยลาซาล-แบริ่งและจะเดินทางไปตรวจพื้นที่และพบประชาชนในย่านใกล้เคียงด้วย
** เศร้า!! ลูกจ้าง กทม.ดับขณะปฎิบัติหน้าที่
ต่อมาในช่วงเย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.อัศวิน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค "ผู้ว่าฯอัศวิน" แสดงความเสียใจหลังเจ้าหน้าที่ระบายน้ำเกิดหัวใจวายขณะปฎิบัติหน้าที่เฝ้าเครื่องสูบน้ำในซอยนาคนิวาส 40 โดยระบุว่า "ผมต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายณรงค์ บำรุงสิน อายุ 57 ปี ลูกจ้างประจำ ระบายน้ำฝ่ายโยธาของเขตลาดพร้าว ซึ่งหัวใจวายขณะปฎิบัติหน้าที่เฝ้าเครื่องสูบน้ำในซอยนาคนิวาส 40 เวลา 13.30 น. เป็นเรื่องที่น่าเศร้าและผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากครับ โดยทางกทม.จะดูแลครอบครัวของคุณณรงค์เป็นอย่างดีต่อไปครับ และผมต้องขออภัยพี่น้องประชาชนในความไม่สะดวกสำหรับการเดินทางสัญจรในเช้าวันนี้ เนื่องจากปริมาณฝนในหลายพื้นที่มากเกินกำลังของกทม.ในการระบายน้ำถึง เกือบ 2 เท่า แต่กทม.ก็ได้เร่งระบายกันอย่างเต็มที่ตลอด ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงขณะนี้ ซึ่งหลายพื้นที่น้ำก็แห้งเกือบหมดแล้ว ยังเหลือบางซอยที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ เพราะขณะนี้ปริมาณน้ำในลำคลองเพิ่มสูงขึ้นมาก กทม.กำลังเร่งสูบน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระ ผมกับจนท.ทุกคนจะพยายามเร่งแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุดครับ และต้องฝากถึงพี่น้องประชาชน วันสองวันนี้จะมีฝนตกหนักอีก ซึ่งกรมอุตุฯได้คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำฝนจะไม่น้อยไปกว่าค่ำคืนที่ผ่านมาจึงขอให้ยกของขึ้นที่สูง เตรียมรับมือไว้ก่อนนะครับ"
** "กรมอุตุฯ” เตือนฝนตกหนักต่อเนื่อง
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน" ฉบับที่ 9 ในช่วงวันที่ 25-28 พ.ค.60 ประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ซึ่งจะได้รับผลกระทบ โดยมีหลายจังหวัดที่ฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
** “สุโขทัย-ลำปาง” เจอน้ำป่าไหลหลาก
ด้าน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่ง โดยตั้งแต่วันที่ 16-23 พ.ค. มีพื้นที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 15 จังหวัด ผู้เสียชีวิต 5 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 13 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ภาคเหนือ 2 จังหวัด คือ สุโขทัย และ ลำปาง อย่างไรก็ตามในช่วงวันที่ 25-28 พ.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ในระยะแรกเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ จากนั้นภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ส่วนภาคตะวันออกและภาคใต้ จะมีฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ปภ.เขต และสำนักงานปภ.จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้ง จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และชุดเคลื่อนที่เร็ว ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด.