นายด่านศุลกากรหนองคาย ตรวจเข้มรถยนต์ส่วนบุคคลเดินทางเข้าออกประเทศ หลังรวบแก๊งอุ้มบุญได้ 6 คน เผยผลสอบสวนมั่นใจ “วีไอพีคลินิก”ในนครเวียงจันทน์ รับทำอุ้มบุญ พร้อมประสานด่านชายแดนฝั่งลาว และเขมร ร่วมเฝ้าติดตามพฤติกรรม
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (21 พ.ค.) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองฯ จ.หนองคาย นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ได้ร่วมกันเพิ่มความเข้มงวด ตรวจสอบรถยนต์ส่วนบุคคลที่ผ่านเข้าออกประเทศ โดยเรียกตรวจรถ ภาชนะสิ่งของที่ติดมากับรถ หลังจากช่วงเย็นวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุลกากรได้จับกุมชายคนหนึ่งขับรถยนต์พาหญิงสาว 6 คน กลับจากประเทศลาว และยังมีการนำถังไนโตรเจนเปล่า พร้อมอุปกรณ์ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องทางการแพทย์ต่อการทำอุ้มบุญ
จากการสอบสวน ทั้งหมดรับสารภาพว่าได้รับจ้างจาก Mr.Ran Zhao ชายชาวจีน อายุ 35 ปี อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯให้มาทำการอุ้มบุญ ที่วีไอพีคลินิก นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว
นายนิมิตร กล่าวว่า รถยนต์คันที่นายนิคม สิมารัตน์ ขับพาหญิงสาวมานั้น มีการเข้า-ออกประเทศ 6 ครั้ง สอดคล้องต่อสมุดบันทึกที่ น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้ประสานงานหญิงสาวไปทำอุ้มบุญได้ระบุไว้ มีการพาหญิงสาวไปทำอุ้มบุญ ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.60 และวันที่ 24 มี.ค.60 มีรายชื่อผู้หญิงที่ทำแล้วติด หรือหลุด หรือบางคนรอทำการฝังตัวอ่อน
โดยเมื่อวันที่ 20 เม.ย.60 ศุลกากรหนองคาย จับกุมชายคนหนึ่ง นำถังไนโตรเจนบรรจุเชื้ออสุจิ จะนำออกนอกประเทศนำไปส่งที่ วีไอพีคลินิก ในนครหลวงเวียงจันทน์ และจากการสอบสวนหญิงสาวที่จับกุมใน จำนวน 6 คน ยอมรับว่า ไปที่วีไอพีคลินิก
เมื่อเชื่อมโยงข้อมูลเส้นทางของขบวนการอุ้มบุญ ทำให้มั่นใจว่า ที่วีไอพีคลินิก เป็นสถานที่ทำการอุ้มบุญ ฝังตัวอ่อนให้หญิงสาวแล้วค่อยพาเดินทางกลับประเทศ
นายนิมิต กล่าวว่า หลังจากนี้จะส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้แก่ตำรวจกองปราม ซึ่งได้มีการแจ้งความ และมาขอข้อมูลจากทางศุลกากรหนองคายแล้วครั้งหนึ่ง พร้อมกันนี้ เชื่อว่าหลังจากนี้ขบวนการอุ้มบุญ จะเปลี่ยนวิธีการ และอาจย้ายฐานการดำเนินการ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เข้มงวดมากขึ้น และถูกจับตาเป็นพิเศษ เชื่อว่าจะมีความพยายามในรูปแบบอื่น
อย่างไรก็ตาม ทางศุลกากรจะได้ประสานกับด่านชายแดนทั้งด้านประเทศลาว และประเทศกัมพูชา ให้ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ทางการลาว ก็ให้ความสนใจต่อการดำเนินการดังกล่าว แต่เนื่องจากว่า รัฐบาลลาวไม่มีกฎหมายข้อนี้ แต่ทราบจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการลาวว่า รัฐบาลลาวจะพิจารณาออกกฎหมายเกี่ยวกับการอุ้มบุญในเร็วๆ นี้ด้วย
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (21 พ.ค.) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองฯ จ.หนองคาย นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ได้ร่วมกันเพิ่มความเข้มงวด ตรวจสอบรถยนต์ส่วนบุคคลที่ผ่านเข้าออกประเทศ โดยเรียกตรวจรถ ภาชนะสิ่งของที่ติดมากับรถ หลังจากช่วงเย็นวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุลกากรได้จับกุมชายคนหนึ่งขับรถยนต์พาหญิงสาว 6 คน กลับจากประเทศลาว และยังมีการนำถังไนโตรเจนเปล่า พร้อมอุปกรณ์ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องทางการแพทย์ต่อการทำอุ้มบุญ
จากการสอบสวน ทั้งหมดรับสารภาพว่าได้รับจ้างจาก Mr.Ran Zhao ชายชาวจีน อายุ 35 ปี อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯให้มาทำการอุ้มบุญ ที่วีไอพีคลินิก นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว
นายนิมิตร กล่าวว่า รถยนต์คันที่นายนิคม สิมารัตน์ ขับพาหญิงสาวมานั้น มีการเข้า-ออกประเทศ 6 ครั้ง สอดคล้องต่อสมุดบันทึกที่ น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้ประสานงานหญิงสาวไปทำอุ้มบุญได้ระบุไว้ มีการพาหญิงสาวไปทำอุ้มบุญ ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.60 และวันที่ 24 มี.ค.60 มีรายชื่อผู้หญิงที่ทำแล้วติด หรือหลุด หรือบางคนรอทำการฝังตัวอ่อน
โดยเมื่อวันที่ 20 เม.ย.60 ศุลกากรหนองคาย จับกุมชายคนหนึ่ง นำถังไนโตรเจนบรรจุเชื้ออสุจิ จะนำออกนอกประเทศนำไปส่งที่ วีไอพีคลินิก ในนครหลวงเวียงจันทน์ และจากการสอบสวนหญิงสาวที่จับกุมใน จำนวน 6 คน ยอมรับว่า ไปที่วีไอพีคลินิก
เมื่อเชื่อมโยงข้อมูลเส้นทางของขบวนการอุ้มบุญ ทำให้มั่นใจว่า ที่วีไอพีคลินิก เป็นสถานที่ทำการอุ้มบุญ ฝังตัวอ่อนให้หญิงสาวแล้วค่อยพาเดินทางกลับประเทศ
นายนิมิต กล่าวว่า หลังจากนี้จะส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้แก่ตำรวจกองปราม ซึ่งได้มีการแจ้งความ และมาขอข้อมูลจากทางศุลกากรหนองคายแล้วครั้งหนึ่ง พร้อมกันนี้ เชื่อว่าหลังจากนี้ขบวนการอุ้มบุญ จะเปลี่ยนวิธีการ และอาจย้ายฐานการดำเนินการ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เข้มงวดมากขึ้น และถูกจับตาเป็นพิเศษ เชื่อว่าจะมีความพยายามในรูปแบบอื่น
อย่างไรก็ตาม ทางศุลกากรจะได้ประสานกับด่านชายแดนทั้งด้านประเทศลาว และประเทศกัมพูชา ให้ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ทางการลาว ก็ให้ความสนใจต่อการดำเนินการดังกล่าว แต่เนื่องจากว่า รัฐบาลลาวไม่มีกฎหมายข้อนี้ แต่ทราบจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการลาวว่า รัฐบาลลาวจะพิจารณาออกกฎหมายเกี่ยวกับการอุ้มบุญในเร็วๆ นี้ด้วย