"บิ๊กจิ๋ว"เปิดบ้านซอยปิ่นประภาคม ให้เพื่อน พี่น้อง ญาติมิตร อวยพรวันคล้ายวันเกิด ครบ 85 ปี ในวันนี้ (15 พ.ค.) บอกประสบอุบัติเหตุ ความจำไม่ค่อยดี ไม่ขอวิจารณ์ผลงานรัฐบาล คสช. 3 ปี แค่ขอให้กำลังใจในการทำหน้าที่ต่อ เชื่อรัฐบาลสร้างความปรองดองสำเร็จ และเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ส่วนพรรคความหวังใหม่ ยังไม่ได้วางแผนลงสนามเลือกตั้ง
เมื่อเวลา 7.00 น. วานนี้ (14 พ.ค.) ที่บ้านพักปิ่นประภาคม จ.นนทบุรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านให้นักการเมือง นักธุรกิจ นายทหารและคนใกล้ชิด เข้าอวยพรล่วงหน้า เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 85 ปี วันที่ 15 พ.ค.นี้ โดยนายทหารและคนใกล้ชิด มาร่วมอวยพรกันอย่างคึกคัก อาทิ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรมว.ศึกษาธิการ เพื่อร่วมรุ่น จปร.1 และ นายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตส.ส.เพื่อไทย
ภายในงาน พล.อ.ชวลิต ได้เลี้ยงเพลพระสงฆ์ ตั้งโต๊ะเขียนคำอวยพร และจัดซุ้มอาหารให้ผู้ที่มาร่วมงานได้สังสรรค์อย่างเรียบง่าย พร้อมมอบพระสมเด็จนางพญา รุ่นประวัติศาสตร์โลก วัดอรุณราชวราราม และหนังสือ "เราจะสร้างความปรองดองกันได้อย่างไร" ให้ผู้มาร่วมงานด้วย โดยเนื้อหาในหนังสือบางส่วน ระบุถึงมูลเหตุปัญหาทางการเมืองมีปัญหาเดียวคือ ระบบเผด็จการ และแนวทางออกของปัญหา คือ การทำให้อธิปไตยเป็นของปวงชน ตั้งสภาความปรองดองแห่งชาติ
ทั้งนี้ พล.อ.ชวลิต ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ตนประสบอุบัติ เหตุจนต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานกว่า 6 เดือน จึงได้ฝากเตือนผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ให้ดูแลสุภาพของตนเองด้วย และยังออกตัวว่า เพราะการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ความจำไม่ค่อยดี เนื่องจากเส้นโลหิตในสมองแตก จึงไม่ค่อยได้ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองมากนัก รวมถึงส่งผลต่อความจำ ที่ต้องใช้เวลาในการจำ และหาข้อมูลเพิ่มเติม ยอมรับว่าในขณะนี้เดินทางไปไหนมาไหนลำบาก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงผลงาน 3 ปี ของรัฐบาลคสช.เป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนไม่ได้เข้าข้างใคร การจะให้ความเห็น ต้องมีความรู้จริงในเรื่องนี้ ขอใช้เวลาติดตามผลงานก่อน จึงจะให้ความคิดเห็นได้ แต่ขอเป็นกำลังใจ และเอาใจช่วยผู้บริหารบ้านเมืองทุกคน ที่หลายคนมีความจริงใจในการเข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นจึงขอให้ทำงานอย่างเต็มที่ และย้ำว่ารัฐบาลชุดนี้ จะนำไปสู่การเลือกตั้งได้อย่างแน่นอน รัฐบาล คสช.จะต้องคืนอำนาจให้ประชาชน
พล.อ.ชวลิต ยังแสดงความเห็นใจต่อรัฐบาล ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน โดยเห็นว่ามีความจำเป็น ไม่ใช่แค่มีไว้เพื่อไปรบกับใครเท่านั้น แต่เหตุผลที่สำคัญคือการได้พัฒนาและฝึกคนให้มีความรู้ มีประสบการณ์ให้จัดการในอีกหลายเรื่องเพื่ออนาคตของประเทศ ส่วนการใช้งบประมาณ ก็ต้องว่ากันไปตามกองทัพ ดังนั้นการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ก็อยากให้เห็นใจกองทัพบ้าง
ส่วนเรื่องปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ล่าสุดเกิดเหตุระเบิดที่ ห้างบิ๊กซี จ.ปัตตานี นั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นได้ว่ามีความขัดแย้งเกิดขึ้นภายในองค์กรของ กลุ่มมาลาปาตานี และกลุ่มบีอาร์เอ็น จึงส่งผลต่อความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ พร้อมชี้ว่า คนในพื้นที่มีการตั้งข้อสังเกต การเกิดเหตุระเบิดยังมีข้อน่าสงสัยหลายอย่าง เนื่องจากสถานการณ์เงียบ และมาเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ แล้วกล่าวอ้างให้เกิดความรับผิดชอบ แต่ในขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายอาจจะต้องหันหน้าเข้าหากัน ร่วมพูดคุยเพื่อให้เกิดความสงบ แทนที่จะมาใช้กำลัง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าความปรองดองในพื้นที่จะเกิดขึ้นได้ พร้อมกันนี้ ยังมั่นใจว่ารัฐบาลนี้จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน และสำเร็จ เนื่องจากทุกคนมีความจริงใจต้องการให้บ้านเมืองสบ
สำหรับเส้นทางพรรคความหวังใหม่ ต่อการเลือกตั้งในอนาคต พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ยังไม่ได้วางแผน ณ เวลานี้ แต่หากประชาชนอยากจะเรียนรู้เรื่องการเมืองก็สามารถเข้ามาพูดคุยกันอย่างเงียบๆได้ เพื่อหาแนวทางและความเข้าใจซึ่งกันและกัน ให้เกิดความเรียบร้อย พร้อมปฏิเสธไม่ทราบเรื่องที่ พรรคเพื่อไทย จะรวมตัวกับพรรคใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยให้ไปสอบถามทางพรรคเพื่อไทยเอง
เมื่อเวลา 7.00 น. วานนี้ (14 พ.ค.) ที่บ้านพักปิ่นประภาคม จ.นนทบุรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านให้นักการเมือง นักธุรกิจ นายทหารและคนใกล้ชิด เข้าอวยพรล่วงหน้า เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 85 ปี วันที่ 15 พ.ค.นี้ โดยนายทหารและคนใกล้ชิด มาร่วมอวยพรกันอย่างคึกคัก อาทิ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรมว.ศึกษาธิการ เพื่อร่วมรุ่น จปร.1 และ นายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตส.ส.เพื่อไทย
ภายในงาน พล.อ.ชวลิต ได้เลี้ยงเพลพระสงฆ์ ตั้งโต๊ะเขียนคำอวยพร และจัดซุ้มอาหารให้ผู้ที่มาร่วมงานได้สังสรรค์อย่างเรียบง่าย พร้อมมอบพระสมเด็จนางพญา รุ่นประวัติศาสตร์โลก วัดอรุณราชวราราม และหนังสือ "เราจะสร้างความปรองดองกันได้อย่างไร" ให้ผู้มาร่วมงานด้วย โดยเนื้อหาในหนังสือบางส่วน ระบุถึงมูลเหตุปัญหาทางการเมืองมีปัญหาเดียวคือ ระบบเผด็จการ และแนวทางออกของปัญหา คือ การทำให้อธิปไตยเป็นของปวงชน ตั้งสภาความปรองดองแห่งชาติ
ทั้งนี้ พล.อ.ชวลิต ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ตนประสบอุบัติ เหตุจนต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานกว่า 6 เดือน จึงได้ฝากเตือนผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ให้ดูแลสุภาพของตนเองด้วย และยังออกตัวว่า เพราะการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ความจำไม่ค่อยดี เนื่องจากเส้นโลหิตในสมองแตก จึงไม่ค่อยได้ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองมากนัก รวมถึงส่งผลต่อความจำ ที่ต้องใช้เวลาในการจำ และหาข้อมูลเพิ่มเติม ยอมรับว่าในขณะนี้เดินทางไปไหนมาไหนลำบาก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงผลงาน 3 ปี ของรัฐบาลคสช.เป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนไม่ได้เข้าข้างใคร การจะให้ความเห็น ต้องมีความรู้จริงในเรื่องนี้ ขอใช้เวลาติดตามผลงานก่อน จึงจะให้ความคิดเห็นได้ แต่ขอเป็นกำลังใจ และเอาใจช่วยผู้บริหารบ้านเมืองทุกคน ที่หลายคนมีความจริงใจในการเข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นจึงขอให้ทำงานอย่างเต็มที่ และย้ำว่ารัฐบาลชุดนี้ จะนำไปสู่การเลือกตั้งได้อย่างแน่นอน รัฐบาล คสช.จะต้องคืนอำนาจให้ประชาชน
พล.อ.ชวลิต ยังแสดงความเห็นใจต่อรัฐบาล ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน โดยเห็นว่ามีความจำเป็น ไม่ใช่แค่มีไว้เพื่อไปรบกับใครเท่านั้น แต่เหตุผลที่สำคัญคือการได้พัฒนาและฝึกคนให้มีความรู้ มีประสบการณ์ให้จัดการในอีกหลายเรื่องเพื่ออนาคตของประเทศ ส่วนการใช้งบประมาณ ก็ต้องว่ากันไปตามกองทัพ ดังนั้นการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ก็อยากให้เห็นใจกองทัพบ้าง
ส่วนเรื่องปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ล่าสุดเกิดเหตุระเบิดที่ ห้างบิ๊กซี จ.ปัตตานี นั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นได้ว่ามีความขัดแย้งเกิดขึ้นภายในองค์กรของ กลุ่มมาลาปาตานี และกลุ่มบีอาร์เอ็น จึงส่งผลต่อความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ พร้อมชี้ว่า คนในพื้นที่มีการตั้งข้อสังเกต การเกิดเหตุระเบิดยังมีข้อน่าสงสัยหลายอย่าง เนื่องจากสถานการณ์เงียบ และมาเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ แล้วกล่าวอ้างให้เกิดความรับผิดชอบ แต่ในขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายอาจจะต้องหันหน้าเข้าหากัน ร่วมพูดคุยเพื่อให้เกิดความสงบ แทนที่จะมาใช้กำลัง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าความปรองดองในพื้นที่จะเกิดขึ้นได้ พร้อมกันนี้ ยังมั่นใจว่ารัฐบาลนี้จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน และสำเร็จ เนื่องจากทุกคนมีความจริงใจต้องการให้บ้านเมืองสบ
สำหรับเส้นทางพรรคความหวังใหม่ ต่อการเลือกตั้งในอนาคต พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ยังไม่ได้วางแผน ณ เวลานี้ แต่หากประชาชนอยากจะเรียนรู้เรื่องการเมืองก็สามารถเข้ามาพูดคุยกันอย่างเงียบๆได้ เพื่อหาแนวทางและความเข้าใจซึ่งกันและกัน ให้เกิดความเรียบร้อย พร้อมปฏิเสธไม่ทราบเรื่องที่ พรรคเพื่อไทย จะรวมตัวกับพรรคใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยให้ไปสอบถามทางพรรคเพื่อไทยเอง