ผู้จัดการรายวัน 360 - “ดีเจเชาเชา” พบ ตร. ควักเงินช่วย-ขอเป็นเจ้าภาพสวดศพ ยันไม่เจตนาหนี แต่ตกใจจึงปฏิเสธก่อเหตุ นัดแถลงอีกทีวันนี้ “แม่เหยื่อ” ติดใจทำไมบอกเป็น “พลเมืองดี” ลั่น “ลูกชายแม่เป็นคนไม่ยอมคน” ตร.ยัน “ดีเจดัง” ไม่มีอาการเมา ระบุเพื่อนผู้ตายให้การขัดแย้งสภาพที่เกิดเหตุ
จากกรณี นายชวลิต ศรีมั่นคงธรรม อายุ 41 ปี หรือ “ดีเจเชาเชา” พิธีกรและนักจัดรายการวิทยุชื่อดัง ขับรถยนต์ยี่ห้อเลกซัส สีขาว ทะเบียน กฆ 6782 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของ นายจิรภาษ ธงอาษา อายุ 18 ปี บริเวณถนนตัดใหม่วัชรพล-สุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 01.00 น. เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้นายจิรภาษ ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วานนี้ (4 พ.ค.) เวลาประมาณ 17.00 น. ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) สายไหม นายชวลิต ได้เดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่ได้นัดหมายไว้ เมื่อมาถึงนายชวลิตได้พูดคุยกับสื่อมวลชนเล็กน้อยว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษนักข่าวทุกคนที่ทำให้เสียเวลา ตามมาหลายๆวัน ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ตนบอกเลยว่าช็อกเหมือนกัน ไม่เคยเกิดปัญหาแบบนี้ในชีวิตของผม บางครั้งนัดกันคลาดเคลื่อน พี่ๆ เจ้าหน้าที่ก็นัดกระทันหันเลยเปลี่ยนเวลากัน วันนี้ที่มาให้ปากคำ เป็นหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้ว
“ในเรื่องการเยียวยา พี่เป็นมนุษย์เหมือนกัน ยินดีเยียวยา รู้ว่าการสูญเสียเป็นยังไง ฝ่ายคุณแม่ ผมเยียวยาคุณแม่ได้เต็มที่ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่อยากให้เกิดขึ้น ส่วนเรื่องราวที่มันเกิดขึ้น จะเป็นยังไง พรุ่งนี้ (5 พ.ค.) รบกวนพี่ๆ ตามไปที่ gmm25 ผมจะชี้แจงทั้งหมดว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นอะไรบ้าง วันนี้ผมมาให้ปากคำ กับทางเจ้าหน้าที่ พรุ่งนี้จะเรียนพี่นักข่าวอีกครั้ง” นายชวลิต ระบุ
นายชวลิต กล่าวอีกว่า จังหวะเวลาเกิดเหตุการณ์นั้นกระชั้นชิดมาก เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก เราขับรถเลนปกติ และมีมอเตอร์ไซค์พุ่งออกมา พอเห็นคนเจ็บก็ลงไปช่วยคนเจ็บก่อน บรรยากาศตอนนั้นมีมอเตอร์ไซค์เยอะมาก ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกัน เราพยายามควบคุมสติ ตนไม่มีหนีอยู่แล้ว อยากช่วยคนเจ็บ ที่ขยับรถเพราะเดี๋ยวรถจะมาชนท้าย ส่วนหลักฐานเป็นทางทนายดีกว่า ตนขอชี้แจงเท่านี้
.
“เรื่องงานศพยินดีที่จะไป จะคุยกับคุณแม่ผู้เสียชีวิตว่าพรุ่งนี้ขออนุญาตเป็นเจ้าภาพงานศพน้อง ไม่เกี่ยวกับรูปคดี จะนำเงินมาช่วยงานศพน้อง 30,000 บาท เจอคุณแม่จะนำเงินไปให้คุณแม่ ให้คุณแม่เข้าใจและไหว้ขอโทษคุณแม่ด้วย” นายชวลิต กล่าว
จากนั้น นายชวลิต ได้เข้าไปพูดคุยกับมารดาของผู้เสียชีวิต โดยได้ยกมือไหว้และกล่าวคำขอโทษ แสดงความเสียใจว่า “ผมเสียใจ พรุ่งนี้จะไปงานน้อง และจะขอเป็นเจ้าภาพ ให้ 1 คืนกับน้อง ผมขอโทษด้วย และได้นำเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวนหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือ ขอให้แม่รับไว้ เป็นเรื่องมนุษยธรรม ให้แม่รับไว้ ผมอยากช่วย ผมก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ให้รับไว้ ไม่มีผลอะไรครับ อยากให้แม่รับไว้จริง ผมไม่อยากให้เหตุการณ์เกิดขึ้น” ดีเจเชาเชา กล่าวพร้อมกับขอกอดแม่เหยื่อ ซึ่งทางแม่เหยื่อร้องไห้ และแสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ยอมให้สวมกอด
ระหว่างนั้น มารดาของเหยื่อได้ถามว่า ฉันอยากให้คุณไปดูบ้างว่ามันเป็นอย่างไร นายชวลิต ได้กล่าวว่า “ผมจะไป ผมเข้าใจความรู้สึกของแม่ เพราะผมเคยสูญเสียเหมือนกัน”
จากนั้น นางสมควร แม่เหยื่อ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนเจอ ดีเจเชาเชา เขาก็เข้ามากอดเรา เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ตัวเขาสั่นหมดเลย ตอนเจอหน้าตนเขาก็ยกมือไหว้ ถ้าตัวเขาอยากให้เรื่องจบมันก็จบ อย่างไรก็ตามยังติดใจที่ ดีเจเชาเชา บอกว่าเป็นพลเมืองดี ทำไมถึงพูดแบบนั้น ก็ยังดีที่เขาจะรับเป็นเจ้าภาพงานศพในวันที่ 5 พ.ค.นี้
“ถ้าสื่อไม่ออกมาขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาหรือไม่ น้องเขยฉันเป็นคนไปกู้เงินมา เพื่อนำไปใช้เป็นค่าทำศพ แม่พูดจริงๆเขาเอาเงินไปให้แค่ 2,000 บาท พร้อมกระเช้าไปวางอยู่หน้าโลงศพ ส่วนวันเกิดเหตุที่บอกว่าอยู่ที่โรงพยาบาล แม่อยู่ที่โรงพยาบาลทั้งคืนไม่เห็นเขาเลย ซึ่งค่าผ่าตัดวันนั้นแสนกว่าบาท ไปจุดธูปขอขมาลูกชายฉันบ้าง แม่เชื่อว่าลูกต้องการให้ไป คุณเชื่อเรื่องวิญญาณหรือไม่ แต่แม่เชื่อ ลูกชายแม่เป็นคนไม่ยอมคน” นางสมควร กล่าว
** “เพื่อนผู้ตาย” ให้การไม่ตรงสภาพที่เกิดเหตุ
ด้าน พ.ต.อ.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน.สายไหม กล่าวว่า เบื้องต้นตรวจสอบรถพบว่ามีร่องรอยของการชนที่บริเวณกระจังหน้า ป้ายทะเบียน และบริเวณกันชนด้านขวาของตัวรถซึ่งน่าจะตรงกับป้ายทะเบียนท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นในบันทึกประจำวันว่าเกิดเหตุ โดยมีนายชวลิตเป็นคู่กรณีอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเท่านั้น ซึ่งหลังจากเกิดเหตุนายชวลิตก็อยู่กับเจ้าหน้าที่ 2 - 3 ชั่วโมงเท่านั้น และให้การในวันเกิดเหตุเพียงว่ารถมอเตอร์ไซค์เกิดเกี่ยวกันและกระเด็ดมาโดนรถตนเอง ก่อนที่จะมายอมรับว่าชนในภายหลังว่าเป็นคนขับรถชน นอกจากนี้จากการพูดคุยพนักงานสอบสวนยืนยันว่านายชวลิตไม่ได้อยู่ในอาการมึนเมา จึงไม่จำเป็นที่จะต้องตรวจแอลกอฮอล์ และยังไม่ได้มีการสอบปากคำที่เป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งนี้ยังเหลือกล้องวงจรปิดจากเจ้าหน้าที่ กทม.อีกตัวหนึ่งซึ่งคาดว่าจะเป็นมุมที่จะเห็นชัดกว่าเจนกว่าว่าในวันเกิดเหตุเป็นอย่างไร
พ.ต.อ.ธนกรณฑ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ได้ทำการสอบพยานไปแล้ว 2 ปาก คือแม่ผู้เสียชีวิต และเพื่อนของผู้ตายทั้งนี้จากคำให้การของเพื่อนผู้ตายให้การว่าในวันเกิดเหตุตนและผู้ตายพร้อมด้วยเพื่อนอีกหลายคนไปขับรถเล่น และได้ไปจอดพักที่บริเวณใต้สะพานลอย ถ.วัชรพลสุขาภิบาล 5 ตัดใหม่ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ก่อนที่จะมีวัยรุ่นอีกกลุ่มขว้างก้อนหินลงมากจากสะพานลอย พวกตนตกใจและเกรงว่าจะมีเรื่องกันจึงรีบขับรถออกมาจนทำให้เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเห็นว่ามีหลายอย่างที่ขัดกับคำให้การ เพราะการที่จอดรถใต้สะพาน และมีคนโยนก่อนหินลงมาจากสะพานนั้นจะต้องมีการปาก้อนหินในวิถีโค้งเท่านั้นจึงจะโดนกับกลุ่มเกิดเหตุ นอกจากนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อนหน้าเกิดเหตุพบว่าก่อนเกิดเหตุกลุ่มของผู้ตายนั้นได้มีการนัดรวมกลุ่มกับวัยรุ่นอีกจำนวนหนึ่ง และยังมีลักษณะของ
จากกรณี นายชวลิต ศรีมั่นคงธรรม อายุ 41 ปี หรือ “ดีเจเชาเชา” พิธีกรและนักจัดรายการวิทยุชื่อดัง ขับรถยนต์ยี่ห้อเลกซัส สีขาว ทะเบียน กฆ 6782 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของ นายจิรภาษ ธงอาษา อายุ 18 ปี บริเวณถนนตัดใหม่วัชรพล-สุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 01.00 น. เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้นายจิรภาษ ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วานนี้ (4 พ.ค.) เวลาประมาณ 17.00 น. ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) สายไหม นายชวลิต ได้เดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่ได้นัดหมายไว้ เมื่อมาถึงนายชวลิตได้พูดคุยกับสื่อมวลชนเล็กน้อยว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษนักข่าวทุกคนที่ทำให้เสียเวลา ตามมาหลายๆวัน ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ตนบอกเลยว่าช็อกเหมือนกัน ไม่เคยเกิดปัญหาแบบนี้ในชีวิตของผม บางครั้งนัดกันคลาดเคลื่อน พี่ๆ เจ้าหน้าที่ก็นัดกระทันหันเลยเปลี่ยนเวลากัน วันนี้ที่มาให้ปากคำ เป็นหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้ว
“ในเรื่องการเยียวยา พี่เป็นมนุษย์เหมือนกัน ยินดีเยียวยา รู้ว่าการสูญเสียเป็นยังไง ฝ่ายคุณแม่ ผมเยียวยาคุณแม่ได้เต็มที่ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่อยากให้เกิดขึ้น ส่วนเรื่องราวที่มันเกิดขึ้น จะเป็นยังไง พรุ่งนี้ (5 พ.ค.) รบกวนพี่ๆ ตามไปที่ gmm25 ผมจะชี้แจงทั้งหมดว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นอะไรบ้าง วันนี้ผมมาให้ปากคำ กับทางเจ้าหน้าที่ พรุ่งนี้จะเรียนพี่นักข่าวอีกครั้ง” นายชวลิต ระบุ
นายชวลิต กล่าวอีกว่า จังหวะเวลาเกิดเหตุการณ์นั้นกระชั้นชิดมาก เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก เราขับรถเลนปกติ และมีมอเตอร์ไซค์พุ่งออกมา พอเห็นคนเจ็บก็ลงไปช่วยคนเจ็บก่อน บรรยากาศตอนนั้นมีมอเตอร์ไซค์เยอะมาก ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกัน เราพยายามควบคุมสติ ตนไม่มีหนีอยู่แล้ว อยากช่วยคนเจ็บ ที่ขยับรถเพราะเดี๋ยวรถจะมาชนท้าย ส่วนหลักฐานเป็นทางทนายดีกว่า ตนขอชี้แจงเท่านี้
.
“เรื่องงานศพยินดีที่จะไป จะคุยกับคุณแม่ผู้เสียชีวิตว่าพรุ่งนี้ขออนุญาตเป็นเจ้าภาพงานศพน้อง ไม่เกี่ยวกับรูปคดี จะนำเงินมาช่วยงานศพน้อง 30,000 บาท เจอคุณแม่จะนำเงินไปให้คุณแม่ ให้คุณแม่เข้าใจและไหว้ขอโทษคุณแม่ด้วย” นายชวลิต กล่าว
จากนั้น นายชวลิต ได้เข้าไปพูดคุยกับมารดาของผู้เสียชีวิต โดยได้ยกมือไหว้และกล่าวคำขอโทษ แสดงความเสียใจว่า “ผมเสียใจ พรุ่งนี้จะไปงานน้อง และจะขอเป็นเจ้าภาพ ให้ 1 คืนกับน้อง ผมขอโทษด้วย และได้นำเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวนหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือ ขอให้แม่รับไว้ เป็นเรื่องมนุษยธรรม ให้แม่รับไว้ ผมอยากช่วย ผมก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ให้รับไว้ ไม่มีผลอะไรครับ อยากให้แม่รับไว้จริง ผมไม่อยากให้เหตุการณ์เกิดขึ้น” ดีเจเชาเชา กล่าวพร้อมกับขอกอดแม่เหยื่อ ซึ่งทางแม่เหยื่อร้องไห้ และแสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ยอมให้สวมกอด
ระหว่างนั้น มารดาของเหยื่อได้ถามว่า ฉันอยากให้คุณไปดูบ้างว่ามันเป็นอย่างไร นายชวลิต ได้กล่าวว่า “ผมจะไป ผมเข้าใจความรู้สึกของแม่ เพราะผมเคยสูญเสียเหมือนกัน”
จากนั้น นางสมควร แม่เหยื่อ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนเจอ ดีเจเชาเชา เขาก็เข้ามากอดเรา เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ตัวเขาสั่นหมดเลย ตอนเจอหน้าตนเขาก็ยกมือไหว้ ถ้าตัวเขาอยากให้เรื่องจบมันก็จบ อย่างไรก็ตามยังติดใจที่ ดีเจเชาเชา บอกว่าเป็นพลเมืองดี ทำไมถึงพูดแบบนั้น ก็ยังดีที่เขาจะรับเป็นเจ้าภาพงานศพในวันที่ 5 พ.ค.นี้
“ถ้าสื่อไม่ออกมาขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาหรือไม่ น้องเขยฉันเป็นคนไปกู้เงินมา เพื่อนำไปใช้เป็นค่าทำศพ แม่พูดจริงๆเขาเอาเงินไปให้แค่ 2,000 บาท พร้อมกระเช้าไปวางอยู่หน้าโลงศพ ส่วนวันเกิดเหตุที่บอกว่าอยู่ที่โรงพยาบาล แม่อยู่ที่โรงพยาบาลทั้งคืนไม่เห็นเขาเลย ซึ่งค่าผ่าตัดวันนั้นแสนกว่าบาท ไปจุดธูปขอขมาลูกชายฉันบ้าง แม่เชื่อว่าลูกต้องการให้ไป คุณเชื่อเรื่องวิญญาณหรือไม่ แต่แม่เชื่อ ลูกชายแม่เป็นคนไม่ยอมคน” นางสมควร กล่าว
** “เพื่อนผู้ตาย” ให้การไม่ตรงสภาพที่เกิดเหตุ
ด้าน พ.ต.อ.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน.สายไหม กล่าวว่า เบื้องต้นตรวจสอบรถพบว่ามีร่องรอยของการชนที่บริเวณกระจังหน้า ป้ายทะเบียน และบริเวณกันชนด้านขวาของตัวรถซึ่งน่าจะตรงกับป้ายทะเบียนท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นในบันทึกประจำวันว่าเกิดเหตุ โดยมีนายชวลิตเป็นคู่กรณีอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเท่านั้น ซึ่งหลังจากเกิดเหตุนายชวลิตก็อยู่กับเจ้าหน้าที่ 2 - 3 ชั่วโมงเท่านั้น และให้การในวันเกิดเหตุเพียงว่ารถมอเตอร์ไซค์เกิดเกี่ยวกันและกระเด็ดมาโดนรถตนเอง ก่อนที่จะมายอมรับว่าชนในภายหลังว่าเป็นคนขับรถชน นอกจากนี้จากการพูดคุยพนักงานสอบสวนยืนยันว่านายชวลิตไม่ได้อยู่ในอาการมึนเมา จึงไม่จำเป็นที่จะต้องตรวจแอลกอฮอล์ และยังไม่ได้มีการสอบปากคำที่เป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งนี้ยังเหลือกล้องวงจรปิดจากเจ้าหน้าที่ กทม.อีกตัวหนึ่งซึ่งคาดว่าจะเป็นมุมที่จะเห็นชัดกว่าเจนกว่าว่าในวันเกิดเหตุเป็นอย่างไร
พ.ต.อ.ธนกรณฑ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ได้ทำการสอบพยานไปแล้ว 2 ปาก คือแม่ผู้เสียชีวิต และเพื่อนของผู้ตายทั้งนี้จากคำให้การของเพื่อนผู้ตายให้การว่าในวันเกิดเหตุตนและผู้ตายพร้อมด้วยเพื่อนอีกหลายคนไปขับรถเล่น และได้ไปจอดพักที่บริเวณใต้สะพานลอย ถ.วัชรพลสุขาภิบาล 5 ตัดใหม่ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ก่อนที่จะมีวัยรุ่นอีกกลุ่มขว้างก้อนหินลงมากจากสะพานลอย พวกตนตกใจและเกรงว่าจะมีเรื่องกันจึงรีบขับรถออกมาจนทำให้เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเห็นว่ามีหลายอย่างที่ขัดกับคำให้การ เพราะการที่จอดรถใต้สะพาน และมีคนโยนก่อนหินลงมาจากสะพานนั้นจะต้องมีการปาก้อนหินในวิถีโค้งเท่านั้นจึงจะโดนกับกลุ่มเกิดเหตุ นอกจากนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อนหน้าเกิดเหตุพบว่าก่อนเกิดเหตุกลุ่มของผู้ตายนั้นได้มีการนัดรวมกลุ่มกับวัยรุ่นอีกจำนวนหนึ่ง และยังมีลักษณะของ