นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์
ประธานกรรมการทุนง่วงอย่าขับ
ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
มูลนิธิรามาธิบดี
ในประเทศที่เจริญแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีกฎหมายออกมามากกว่า 20 ปีแล้ว ใช้บังคับเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งสอบได้ใบอนุญาตขับขี่ (Graduated driver licensing systems) ห้ามเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งได้ใบอนุญาต 1-2 ปีแรก ขับรถกลางคืน เริ่มตั้งแต่ 5 ทุ่ม หรือเที่ยงคืน หรือ ตี 1 จนถึงตี 5 (แล้วแต่ประเทศ) และกำหนดระดับแอลกอฮอล์ต่ำกว่าผู้ใหญ่ คือเป็นศูนย์หรือต่ำกว่า 20 มิลลิกรัม (แล้วแต่ประเทศ) เนื่องจากมีสถิติชัดเจนว่าอุบัติเหตุจราจรเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของเด็กวัยรุ่น และเกิดมากที่สุดในเวลากลางคืน ส่วนใหญ่เกิดจากหลับในหรือเมาแล้วขับ โดยเฉพาะจะเกิดกับเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งได้ใบอนุญาตมากกว่าผู้ใหญ่ การห้ามขับขี่เวลากลางคืนจึงเป็นการลดการเสียชีวิตของเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งจะเริ่มหัดขับรถ มีประสบการณ์ชั่วโมงการขับไม่เพียงพอ เนื่องจากเวลากลางคืนแสงสว่างน้อยกว่ากลางวัน ต้องอาศัยความชำนาญในการขับ
มีการสำรวจความเห็นของพ่อแม่ และผู้ปกครอง กว่าร้อยละ 90 เห็นด้วย และเด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่ก็ปฏิบัติตามกฎหมายนี้เป็นอย่างดี มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ฝ่าฝืนออกมาขับรถในเวลาที่ห้ามขับ แต่ก็เป็นเพราะความจำเป็น เช่น ขับกลับบ้านหลังเลิกเรียนหรือทำงานดึก
กฎหมายไทยอนุญาตให้เด็กวัยรุ่นอายุ 15 ปี สอบใบอนุญาตขี่จักรยานยนต์ และอายุ 18 ปี สอบใบอนุญาตขับรถยนต์ แต่ไม่มีการห้ามไม่ให้ออกมาขับขี่กลางคืน ประเทศไทยควรทำตามอย่างประเทศที่เจริญแล้ว ห้ามวัยรุ่น อายุ 15-19 ปี ออกมาขับขี่จักรยานยนต์หรือรถยนต์ตั้งแต่เวลาตี 1 ถึงตี 5 ขณะนี้ประเทศไทยเพิ่งออกกฎหมายกำหนดระดับแอลกอฮอล์ในวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปีห้ามสูงเกิน 20 มิลลิกรัม
ผมเชื่อว่าผู้ปกครองของเด็กวัยรุ่นไทยจะเห็นด้วยกับกฎหมายนี้ ในขณะเดียวกันกฎหมายนี้จะช่วยแก้ปัญหาที่ไม่มีในประเทศที่เจริญแล้ว คือปัญหาเด็กแว้นหรือเด็กวัยรุ่นไทยไม่หลับไม่นอนออกมารวมตัวขับขี่จักรยานยนต์ แข่งประลองความเร็วบนถนนหลวงเวลาค่ำคืน ช่วยลดความเดือดร้อนของผู้ใช้รถใช้ถนน และชาวบ้านที่ต้องตื่นกลางดึกหรือใกล้รุ่งเพราะหนวกหูเสียงเครื่องยนต์ กฎหมายนี้นอกจากไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใครแล้วยังช่วยลดความเดือดร้อนของประชาชน และลดการเสียชีวิตของเด็กวัยรุ่น ไม่น่าจะมีใครออกมาคัดค้าน ขอให้ทางรัฐบาลเริ่มดำเนินการออกกฎหมายนี้โดยด่วน รับรองว่าได้ใจคนไทยเกือบทั้งประเทศ (ยกเว้นเด็กแว้น!)
ประธานกรรมการทุนง่วงอย่าขับ
ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
มูลนิธิรามาธิบดี
ในประเทศที่เจริญแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีกฎหมายออกมามากกว่า 20 ปีแล้ว ใช้บังคับเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งสอบได้ใบอนุญาตขับขี่ (Graduated driver licensing systems) ห้ามเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งได้ใบอนุญาต 1-2 ปีแรก ขับรถกลางคืน เริ่มตั้งแต่ 5 ทุ่ม หรือเที่ยงคืน หรือ ตี 1 จนถึงตี 5 (แล้วแต่ประเทศ) และกำหนดระดับแอลกอฮอล์ต่ำกว่าผู้ใหญ่ คือเป็นศูนย์หรือต่ำกว่า 20 มิลลิกรัม (แล้วแต่ประเทศ) เนื่องจากมีสถิติชัดเจนว่าอุบัติเหตุจราจรเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของเด็กวัยรุ่น และเกิดมากที่สุดในเวลากลางคืน ส่วนใหญ่เกิดจากหลับในหรือเมาแล้วขับ โดยเฉพาะจะเกิดกับเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งได้ใบอนุญาตมากกว่าผู้ใหญ่ การห้ามขับขี่เวลากลางคืนจึงเป็นการลดการเสียชีวิตของเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งจะเริ่มหัดขับรถ มีประสบการณ์ชั่วโมงการขับไม่เพียงพอ เนื่องจากเวลากลางคืนแสงสว่างน้อยกว่ากลางวัน ต้องอาศัยความชำนาญในการขับ
มีการสำรวจความเห็นของพ่อแม่ และผู้ปกครอง กว่าร้อยละ 90 เห็นด้วย และเด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่ก็ปฏิบัติตามกฎหมายนี้เป็นอย่างดี มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ฝ่าฝืนออกมาขับรถในเวลาที่ห้ามขับ แต่ก็เป็นเพราะความจำเป็น เช่น ขับกลับบ้านหลังเลิกเรียนหรือทำงานดึก
กฎหมายไทยอนุญาตให้เด็กวัยรุ่นอายุ 15 ปี สอบใบอนุญาตขี่จักรยานยนต์ และอายุ 18 ปี สอบใบอนุญาตขับรถยนต์ แต่ไม่มีการห้ามไม่ให้ออกมาขับขี่กลางคืน ประเทศไทยควรทำตามอย่างประเทศที่เจริญแล้ว ห้ามวัยรุ่น อายุ 15-19 ปี ออกมาขับขี่จักรยานยนต์หรือรถยนต์ตั้งแต่เวลาตี 1 ถึงตี 5 ขณะนี้ประเทศไทยเพิ่งออกกฎหมายกำหนดระดับแอลกอฮอล์ในวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปีห้ามสูงเกิน 20 มิลลิกรัม
ผมเชื่อว่าผู้ปกครองของเด็กวัยรุ่นไทยจะเห็นด้วยกับกฎหมายนี้ ในขณะเดียวกันกฎหมายนี้จะช่วยแก้ปัญหาที่ไม่มีในประเทศที่เจริญแล้ว คือปัญหาเด็กแว้นหรือเด็กวัยรุ่นไทยไม่หลับไม่นอนออกมารวมตัวขับขี่จักรยานยนต์ แข่งประลองความเร็วบนถนนหลวงเวลาค่ำคืน ช่วยลดความเดือดร้อนของผู้ใช้รถใช้ถนน และชาวบ้านที่ต้องตื่นกลางดึกหรือใกล้รุ่งเพราะหนวกหูเสียงเครื่องยนต์ กฎหมายนี้นอกจากไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใครแล้วยังช่วยลดความเดือดร้อนของประชาชน และลดการเสียชีวิตของเด็กวัยรุ่น ไม่น่าจะมีใครออกมาคัดค้าน ขอให้ทางรัฐบาลเริ่มดำเนินการออกกฎหมายนี้โดยด่วน รับรองว่าได้ใจคนไทยเกือบทั้งประเทศ (ยกเว้นเด็กแว้น!)