เจอเข้ากับบรรยากาศโลก หรือกระทั่งบรรยากาศบ้านเมืองในช่วงนี้...เห็นทีบรรดา “สื่อฯ” ทั้งหลาย คงต้องเร่งหาทางเปิดรับสมัคร “บก.ฝ่ายอาวุธ-ยุทโธปกรณ์” เอาไว้ซักราย สองราย ไม่งั้น...อาจจับไม่ได้-ไล่ไม่ทัน กับปรากฏการณ์ความเคลื่อนไหวไม่ว่าของโลก หรือของประเทศไทย ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของปืน ผา หน้าไม้ เครื่องบิน เรือดำน้ำ รถถัง ฯลฯ ไปจนถึงระดับขีปนาวุธโน่นเลย!!!
สำหรับเรื่อง “เรือดำน้ำ” นั้น...ยังไม่เท่าไหร่ หลังตัวแทนกองทัพเรือไทย ท่านได้ออกมาชี้แจงแถลงไข ปลิ้นม้าม ปลิ้นไส้ ชนิดแทบไม่หลงเหลือ “ความลับในหอแดง” หรือ “ความลับริมแดง” ติดปลายนวมเอาไว้อีกเลยแม้แต่น้อย บรรดา “สื่อฯ” ที่พยายามตามไล่ ตามจิก จะรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง หรือจะต้อง “โชว์โง่” กันอีกต่อไปหรือไม่ อย่างไร อันนั้น...คงต้องขึ้นอยู่กับความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์นั่นแหละเป็นสำคัญ แต่ที่หนักหนาสาหัสยิ่งไปกว่านั้น ก็คือเรื่องอาวุธในระดับโลกนั่นแหละ ที่นับวัน...มันคงต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจอีกเยอะแยะมากมาย ถึงพอจะแยกแยะฉากสถานการณ์ต่างๆ ให้ชัดๆ ว่าอะไรมันกำลังเกิดขึ้น และกำลังเป็นไปในรูปไหน อย่างไรกันแน่...
ไม่งั้น...แค่เรื่อง “ธาด” (THADD-Terminal High Altitude Defense) หรือเรื่อง “ระบบป้องกันขีปนาวุธ ณ พื้นที่สุดท้ายในระดับสูง” ที่กองทัพอเมริกันเพิ่งประเคนใส่ถาด เข็นไปติดตั้งไว้ในเกาหลีใต้กันหมาดๆ เท่านั้น ก็หนีไม่พ้น...ต้องไปลากเอาบรรดา “กูรู” และ “กูรู้” มาอธิบายกันชนิดปากเปียก ปากแฉะ ว่าเหตุใดไม่ใช่แค่เฉพาะ “คิมน้อย” เท่านั้น ที่รู้สึกอึดอัด ขัดข้องใจกับความเคลื่อนไหวเหล่านี้ แต่กระทั่งโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน “นายเกิง ส่วง” (GengShung) ยังต้องออกมาแถลงอย่างเป็นทางการ เรียกร้องให้สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ระงับการใช้ระบบป้องกันขีปนาวุธชนิดนี้โดยด่วน!!!
แถมยังมีเรื่องของระบบการป้องกันขีปนาวุธ “EIS” (European Interceptor Site) ที่กองทัพอเมริกันเอาไปติดตั้งไว้แถวๆ โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก โดยอ้างว่าจะเอาไว้ป้องกันขีปนาวุธอิหร่าน แต่กลับส่งผลให้รองผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงของรัสเซีย ต้องออกมาเอะอะโวยวาย หรือทำให้นักคิด นักเขียนชาวอเมริกันเอง อย่าง “นายพอลเครก โรเบิร์ตส์” (Paul Craig Roberts) ถึงกับออกมาตั้งข้อสมมติฐานเอาไว้ประมาณว่าอเมริกามีแผนจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ “ชิงโจมตีก่อน” รัสเซียและจีนเอาเลยถึงขั้นนั้น ดังที่กล่าวไว้แล้วเมื่อวานนี้ ยิ่งเมื่อเกิดกรณีขีปนาวุธพิสัยกลางของเกาหลีเหนือ เกิดอาการ “บ้องข้าวหลามแตก” ระหว่างการทดสอบถึง 2 ครั้ง 2 ครา อันนำไปสู่คำร่ำลือถึงการใช้ “สงครามไซเบอร์” เข้าจัดการกับขีปนาวุธเหล่านี้ ก็ยิ่งทำให้เรื่องราวของอาวุธและระบบป้องกันอาวุธแต่ละชนิด กลายเป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่งขึ้นไปอีก...
เพราะรายละเอียดในแต่ละขั้น แต่ละตอน ของเทคโนโลยีแห่งการล้างผลาญ ทำลายฝ่ายตรงข้าม ที่มันก้าวหน้า ก้าวไกล จนแทบจับไม่ได้-ไล่ไม่ทัน ไม่เพียงแต่สามารถนำเอามาอธิบายความเป็นไปของสถานการณ์ในแต่ละช่วง แต่ละระยะ ยังอาจถือเป็นตัวชี้ขาดความเป็นไปได้ หรือความเป็นไปไม่ได้ ของการ “จุดชนวนสงครามระดับโลก” ในอนาคตข้างหน้าได้อีกด้วย หรือมันกำลังกลายเป็นตัวลบล้าง “ความเชื่อ” ที่เคยเชื่อๆ กันว่า ไม่มีใคร “บ้าพอ” ที่จะ “เปิดฉากสงครามนิวเคลียร์” ด้วยเหตุเพราะมีแต่ฉิบหายกับฉิบหายไปด้วยกันทั้งคู่ แต่ถ้าหากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านอาวุธ มันไปไกลถึงขั้น...สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามฉิบหายวายวอดโดยสิ้นเชิง ขณะตัวเองเพียงแค่ฉิบหายพอประมาณ หรือยังพอเหลือรอดได้บ้าง อันนี้นี่แหละ...ที่มันจะทำให้สมมติฐานและข้อวิเคราะห์ต่างๆ อาจต้องเปลี่ยนแปลงไปแทบทั้งกะบิ...
อย่างไรก็ตาม...สำหรับสื่อฯ อย่าง “เอเอสทีวี-ผู้จัดการ” นั้น แค่มีเจ้าของนามปากกา “ตุลยา ธันวานันท์” เอาไว้ซักคนคงไม่ต้องเสียเวลาไปเปิดรับสมัครใครต่อใครอีกต่อไปแล้ว ถ้าหากพี่แกไม่เฉไฉไปตามล่า “ไอดอล” แถวๆ เวียดนาม ชนิดเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า กาย-ใจ จนเกินไป ความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านอาวุธระดับ “มือวางอันดับหนึ่งของประเทศไทย” คงพอช่วยอธิบายหลายสิ่งหลายอย่างที่กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ในโลกทุกวันนี้ไม่มากก็น้อย คุณปู่ “เกษม อัชฌาสัย” อดีตมือข่าวต่างประเทศรุ่นพระเจ้าเหายังใส่กางเกงหูรูด...นั่นก็อีกราย ที่สามารถนำเอารายละเอียดเหล่านี้ มาช่วยเพิ่มความรู้ ความเข้าใจให้กับการติดตามสถานการณ์โลกช่วงนี้ได้บ้าง...
สรุปเอาเป็นว่า...เจอเข้ากับบรรยากาศของโลกช่วงนี้ ที่นับวันจะเต็มไปด้วย “อันตราย” และ “อัตราเสี่ยง” สูงยิ่งขึ้นทุกที ก็อย่าถึงกับ “ตั้งอยู่ในความประมาท” จนไม่คิดหน้า-คิดหลัง ไม่สนใจว่าโลกมันจะเป็นไปในแบบไหน อย่างไร เอาแต่ไล่บี้ ไล่เช็ดผู้คนในสังคมเดียวกันเอง ปานประดุจประเทศไทยนั้นมีที่ตั้งอยู่บนอวกาศ หรือสุญญากาศ ไม่จำเป็นต้อง “ปฏิสัมพันธ์” กับใครต่อใคร สามารถ “กัดกันเอง” หรือ “ทะเลาะกันเอง” ไปได้อีกตราบนานเท่านาน...