ผู้จัดการรายวัน 360 - ศาลฎีกาพิพากษาแก้ จำคุก สองสามีภรรยาชาวห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ลดโทษหนึ่งในสาม จำคุกคนละ 5 ปี ระบุหลักฐานฟังไม่ขึ้น ชี้เป็นเครือข่ายมอดไม้บุกรุกตัดไม้ในพื้นที่ป่าสงวน แถมแต่งหลักฐานใหม่เพื่อให้ตนเองพ้นผิด ขณะที่ทนายความ “สงกานต์” ประกาศรื้อฟื้นคดีใหม่
วานนี้ (2 พ.ค.) ที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ นายอุดมและนางแดง ศิริสอน สองสามีภรรยา บ้านโนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงระแนง พร้อมญาติ เดินทางเข้ารับฟังการอ่านคำพิพากษาในชั้นฎีกา โดยศาลฎีกามีคำตัดสินให้นายอุดมและนางแดง ศิริสอน สองสามีภรรยาชาว จ.กาฬสินธุ์ จำคุกคนละ 5 ปี
ทั้งนี้ คดีดังกล่าว สองสามีภรรยาถูกจับในข้อหาบุกรุกแผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ 72 ไร่ โดยมีหลักฐานตัดไม้สักและกระยาเลยกว่าหนึ่งพันต้น และยังครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 จนเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2554 ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 30 ปี โดยผู้ต้องหารับสารภาพ ลดโทษเหลือ 15 ปี และประกันตัวสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลดโทษเป็้นจำคุก 14 ปี 12 เดือน
นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในฐานะทนายความเจ้าของคดีที่คอยช่วยเหลือคดีดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความภายหลังจากที่ศาลได้มีคำพิพากษาเรื่องดังกล่าว ว่า เป็นไปตามคาดพิพากษา"แก้"จากจำคุกรวมคนละ 15 ปีศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยแก้ให้จำคุกรวมคนละ 5 ปี"แนวทางสู้ต่อไปตามกระบวนการยุติธรรมมีดังนี้ 1.ยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ 2.ตรวจหลักเกณฑ์ของการยื่นขอพักโทษเนื่องจาก นายอุดม จำเลยที่ 1 ติดมาแล้วประมาณ 1 ปี 8 เดือนแล้ว ส่วนนางแดง จำเลยที่ 2 ติดมาแล้วประมาณ 1 ปี 9 เดือน
นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ทางที่เหลือคดีตายายเก็บเห็ด" กรณีตายายเก็บเห็ด ถือว่าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ตายายต้องรับโทษอาญาตามคำพิพากษา 5 ปี แต่เคยได้รับโทษจำมาก่อนแล้ว 1 ปี 8 เดือน จึงเหลือโทษที่ต้องรับตามคำพิพากษาอีก 3 ปี 4 เดือน ทางออกมี 2 ทาง คือ การขอรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ตามพระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 และการขอพระราชทานอภัยโทษ
วานนี้ (2 พ.ค.) ที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ นายอุดมและนางแดง ศิริสอน สองสามีภรรยา บ้านโนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงระแนง พร้อมญาติ เดินทางเข้ารับฟังการอ่านคำพิพากษาในชั้นฎีกา โดยศาลฎีกามีคำตัดสินให้นายอุดมและนางแดง ศิริสอน สองสามีภรรยาชาว จ.กาฬสินธุ์ จำคุกคนละ 5 ปี
ทั้งนี้ คดีดังกล่าว สองสามีภรรยาถูกจับในข้อหาบุกรุกแผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ 72 ไร่ โดยมีหลักฐานตัดไม้สักและกระยาเลยกว่าหนึ่งพันต้น และยังครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 จนเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2554 ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 30 ปี โดยผู้ต้องหารับสารภาพ ลดโทษเหลือ 15 ปี และประกันตัวสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลดโทษเป็้นจำคุก 14 ปี 12 เดือน
นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในฐานะทนายความเจ้าของคดีที่คอยช่วยเหลือคดีดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความภายหลังจากที่ศาลได้มีคำพิพากษาเรื่องดังกล่าว ว่า เป็นไปตามคาดพิพากษา"แก้"จากจำคุกรวมคนละ 15 ปีศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยแก้ให้จำคุกรวมคนละ 5 ปี"แนวทางสู้ต่อไปตามกระบวนการยุติธรรมมีดังนี้ 1.ยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ 2.ตรวจหลักเกณฑ์ของการยื่นขอพักโทษเนื่องจาก นายอุดม จำเลยที่ 1 ติดมาแล้วประมาณ 1 ปี 8 เดือนแล้ว ส่วนนางแดง จำเลยที่ 2 ติดมาแล้วประมาณ 1 ปี 9 เดือน
นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ทางที่เหลือคดีตายายเก็บเห็ด" กรณีตายายเก็บเห็ด ถือว่าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ตายายต้องรับโทษอาญาตามคำพิพากษา 5 ปี แต่เคยได้รับโทษจำมาก่อนแล้ว 1 ปี 8 เดือน จึงเหลือโทษที่ต้องรับตามคำพิพากษาอีก 3 ปี 4 เดือน ทางออกมี 2 ทาง คือ การขอรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ตามพระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 และการขอพระราชทานอภัยโทษ