ผู้จัดการรายวัน360-ผู้บังคับการกองการต่างประเทศเผย "บอส" ทายาทกระทิงแดง เผ่นหนีไปตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. ก่อนศาลอนุมัติหมายจับ เตรียมประสานอังกฤษขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน หากยืนยันว่าหนีไปอยู่ แต่ถ้าไม่อยู่ จะประสานตำรวจสากล 190 ประเทศติดตามต่อไป ด้านกระทรวงการต่างประเทศเผยพร้อมถอนพาสปอร์ตทันที หากมีเรื่องมาถึง
พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการติดตามตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทกระทิงแดง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 138/60 ข้อหาชนแล้วหนี และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่านายวรยุทธ ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.2560 โดยไม่ทราบประเทศปลายทาง และทางกองการต่างประเทศได้ทำหนังสือถึงตำรวจสากลในประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ขอให้ยืนยันว่านายวรยุทธอยู่ในประเทศอังกฤษหรือไม่ แต่ยังไม่ได้รับรายงาน ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลยืนยันชัดเจนแล้ว ถ้าอยู่ในอังกฤษ ก็จะให้สำนักงานอัยการสูงสุดทำหนังสือขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดยมั่นใจว่าถ้าอยู่ จะได้ตัวกลับมาดำเนินคดีแน่นอน แต่ถ้าไม่อยู่ ก็จะประสานตำรวจสากลออกหมายสีน้ำเงิน เพื่อให้ 190 ประเทศตรวจสอบและติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด สน.ทองหล่อ ได้ส่งหนังสือไปถึงกรมการกงสุล เพื่อเพิกถอนหนังสือเดินทางไทยของนายวรยุทธแล้ว พร้อมกับตรวจสอบด้วยว่า นายวรยุทธมีหนังสือเดินทางกี่เล่มและของชาติใดบ้าง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อนุมัติหมายจับเลขที่หมายจับ จ.138/2560 ในข้อหา “ขับรถโดยประมาทเป็นให้เฉี่ยวชนรถอื่นเสียหายมีผู้ถึงแก่ความตาย,ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหายและไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในทันที” โดยหมายจับดังกล่าวมีอายุความ 15 ปี นับตั้งแต่ 3 ก.ย.2555 ถึง 3 ก.ย.2570
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้ดำเนินการ ประสานหมายจับไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และจับกุมตัวด้วย
ส่วนการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยตำรวจที่ทำคดีนายวรยุทธ โดยปล่อยให้คดีหมดอายุความนั้น พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ได้สั่งการให้กองวินัย ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยตำรวจทั้ง 10 นายแล้ว หลังจากที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลสืบสวนข้อเท็จจริงพบว่ามีมูลความผิด โดยขณะนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวน และมีการขยายระยะเวลา เพื่อสอบสวนตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกนาย และยืนยันว่า ไม่ได้ล่าช้า และมีการประวิงเวลาแต่อย่างใด
น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า หลังจากสำนักอัยการสูงสุดได้อนุมัติหมายจับ ซึ่งตามขั้นตอนอาจต้องมีการเพิกถอนหนังสือเดินทาง ซึ่งขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าว แต่มีความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับส่วนราชการ โดยเฉพาะหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ให้ความร่วมมือด้วยดีมาโดยตลอด
พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการติดตามตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทกระทิงแดง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 138/60 ข้อหาชนแล้วหนี และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่านายวรยุทธ ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.2560 โดยไม่ทราบประเทศปลายทาง และทางกองการต่างประเทศได้ทำหนังสือถึงตำรวจสากลในประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ขอให้ยืนยันว่านายวรยุทธอยู่ในประเทศอังกฤษหรือไม่ แต่ยังไม่ได้รับรายงาน ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลยืนยันชัดเจนแล้ว ถ้าอยู่ในอังกฤษ ก็จะให้สำนักงานอัยการสูงสุดทำหนังสือขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดยมั่นใจว่าถ้าอยู่ จะได้ตัวกลับมาดำเนินคดีแน่นอน แต่ถ้าไม่อยู่ ก็จะประสานตำรวจสากลออกหมายสีน้ำเงิน เพื่อให้ 190 ประเทศตรวจสอบและติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด สน.ทองหล่อ ได้ส่งหนังสือไปถึงกรมการกงสุล เพื่อเพิกถอนหนังสือเดินทางไทยของนายวรยุทธแล้ว พร้อมกับตรวจสอบด้วยว่า นายวรยุทธมีหนังสือเดินทางกี่เล่มและของชาติใดบ้าง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อนุมัติหมายจับเลขที่หมายจับ จ.138/2560 ในข้อหา “ขับรถโดยประมาทเป็นให้เฉี่ยวชนรถอื่นเสียหายมีผู้ถึงแก่ความตาย,ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหายและไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในทันที” โดยหมายจับดังกล่าวมีอายุความ 15 ปี นับตั้งแต่ 3 ก.ย.2555 ถึง 3 ก.ย.2570
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้ดำเนินการ ประสานหมายจับไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และจับกุมตัวด้วย
ส่วนการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยตำรวจที่ทำคดีนายวรยุทธ โดยปล่อยให้คดีหมดอายุความนั้น พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ได้สั่งการให้กองวินัย ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยตำรวจทั้ง 10 นายแล้ว หลังจากที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลสืบสวนข้อเท็จจริงพบว่ามีมูลความผิด โดยขณะนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวน และมีการขยายระยะเวลา เพื่อสอบสวนตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกนาย และยืนยันว่า ไม่ได้ล่าช้า และมีการประวิงเวลาแต่อย่างใด
น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า หลังจากสำนักอัยการสูงสุดได้อนุมัติหมายจับ ซึ่งตามขั้นตอนอาจต้องมีการเพิกถอนหนังสือเดินทาง ซึ่งขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าว แต่มีความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับส่วนราชการ โดยเฉพาะหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ให้ความร่วมมือด้วยดีมาโดยตลอด