ยายและป้าศรีสะเกษสุดทน คิดถึงหลานสาวฝาแฝด บุกดูบ้านพ่อเด็กที่นนทบุรี แต่ผิดหวังบ้านปิดประตูเงียบ ไม่พบใคร เผยมาดีต้องการมาดูสภาพความเป็นอยู่และเจรจากับพ่อเด็กเพื่อหาทางออกและอนาคตของหลานสาวฝาแฝด
จากกรณีที่พ่อและยายกับป้า ได้แย่งเด็กหญิงฝาแฝด 2 คน คือ น้องใบบัวและน้องใบตอง อายุ 7 ขวบ โดยพ่อต้องการนำตัวเด็กไปเลี้ยงดูตามสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ว่าเด็กฝาแฝดไม่ยอมไปอยู่ด้วย เนื่องจากว่าอยู่กับยายและป้ามาตั้งแต่เกิดและไม่มีความผูกพันกับพ่อนั้น
วานนี้ (26 เม.ย.) นางปุณณภัทร พวงท้าว อายุ 43 ปี ชาวบ้านหนองโปร่ง ต.โคกหล่าม อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นป้าของเด็กหญิงฝาแฝดทั้ง 2 คน พร้อมด้วยนางเสาร์ พวงท้าว ผู้เป็นยาย รวมทั้งลูกสาวและน้าชาย ได้เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 77/350 หมู่ 10 ต.ไทร อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพ่อของน้องใบบัวและน้องใบตอง เนื่องจากตนและยายทนคิดถึงและเป็นห่วงหลานสาวทั้งสองคน
เมื่อมาถึงบ้านพบประตูเหล็กหน้าบ้านคล้องโซ่ล็อกกุญแจอยู่ บริเวณหน้าบ้านตากผ้าห่มเอาไว้ และมีรองเท้าวางอยู่ 2 คู่ สีเหลืองกับสีฟ้า โดยยายเสาร์ได้ถือเอารูปภาพของ นางไพรวัลย์ พวงท้าว แม่ของเด็กแฝดที่เสียชีวิตไปแล้วมาด้วย ตนพยายามตะโกนร้องเรียกคนในบ้าน แต่ไม่พบว่ามีใครอยู่ในบ้าน
นางปุณณภัทร กล่าวว่า จากการที่ได้สอบถามจากคนข้างบ้านของพ่อเด็ก ทราบว่าพ่อของเด็กมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และต่อมาได้มีผู้นำของหมู่บ้านแห่งนี้มาพบกับพวกตน ซึ่งตนและยายขอยืนยันว่าพวกตนมาดี ไม่ได้ต้องการมาหาเรื่องหรือสร้างความวุ่นวายแต่อย่างใด แต่มาเพราะคิดหลานฝาแฝดทั้งสองคนเป็นอย่างมาก และต้องการมาดูสภาพความเป็นอยู่ อีกทั้งต้องการเจรจาหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ดีที่สุดเพื่ออนาคตที่ดีของหลานสาวฝาแฝดทั้งสองคน
ส่วนกรณีที่เฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ” โพสต์ภาพหลานสาว 2 คน กำลังเดินเที่ยว พร้อมข้อความระบุว่า ไม่ต้องเป็นห่วง หลานสาวทั้งสองคนสบายดีนั้น นางปุณณภัทร กล่าวว่า หากภาพนั้นเป็นความจริง ตนก็สบายใจที่ทราบข่าวว่าหลานสาวฝาแฝดทั้งสองคนสบายดีและมีความสุข แต่ตนรู้นิสัยของหลานสาวทั้งสองคนดีว่าเป็นเด็กอย่างไร และไม่ค่อยมีความรู้สึกกับคนแปลกหน้าได้ง่ายๆ ดังนั้น จึงได้มาพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าหลานสาวฝาแฝดทั้งสองคนสบายดีหรือเปล่า แต่ผิดหวังที่ไม่พบตัวหลานสาวทั้งสองคน และพ่อเด็ก
จากกรณีที่พ่อและยายกับป้า ได้แย่งเด็กหญิงฝาแฝด 2 คน คือ น้องใบบัวและน้องใบตอง อายุ 7 ขวบ โดยพ่อต้องการนำตัวเด็กไปเลี้ยงดูตามสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ว่าเด็กฝาแฝดไม่ยอมไปอยู่ด้วย เนื่องจากว่าอยู่กับยายและป้ามาตั้งแต่เกิดและไม่มีความผูกพันกับพ่อนั้น
วานนี้ (26 เม.ย.) นางปุณณภัทร พวงท้าว อายุ 43 ปี ชาวบ้านหนองโปร่ง ต.โคกหล่าม อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นป้าของเด็กหญิงฝาแฝดทั้ง 2 คน พร้อมด้วยนางเสาร์ พวงท้าว ผู้เป็นยาย รวมทั้งลูกสาวและน้าชาย ได้เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 77/350 หมู่ 10 ต.ไทร อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพ่อของน้องใบบัวและน้องใบตอง เนื่องจากตนและยายทนคิดถึงและเป็นห่วงหลานสาวทั้งสองคน
เมื่อมาถึงบ้านพบประตูเหล็กหน้าบ้านคล้องโซ่ล็อกกุญแจอยู่ บริเวณหน้าบ้านตากผ้าห่มเอาไว้ และมีรองเท้าวางอยู่ 2 คู่ สีเหลืองกับสีฟ้า โดยยายเสาร์ได้ถือเอารูปภาพของ นางไพรวัลย์ พวงท้าว แม่ของเด็กแฝดที่เสียชีวิตไปแล้วมาด้วย ตนพยายามตะโกนร้องเรียกคนในบ้าน แต่ไม่พบว่ามีใครอยู่ในบ้าน
นางปุณณภัทร กล่าวว่า จากการที่ได้สอบถามจากคนข้างบ้านของพ่อเด็ก ทราบว่าพ่อของเด็กมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และต่อมาได้มีผู้นำของหมู่บ้านแห่งนี้มาพบกับพวกตน ซึ่งตนและยายขอยืนยันว่าพวกตนมาดี ไม่ได้ต้องการมาหาเรื่องหรือสร้างความวุ่นวายแต่อย่างใด แต่มาเพราะคิดหลานฝาแฝดทั้งสองคนเป็นอย่างมาก และต้องการมาดูสภาพความเป็นอยู่ อีกทั้งต้องการเจรจาหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ดีที่สุดเพื่ออนาคตที่ดีของหลานสาวฝาแฝดทั้งสองคน
ส่วนกรณีที่เฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ” โพสต์ภาพหลานสาว 2 คน กำลังเดินเที่ยว พร้อมข้อความระบุว่า ไม่ต้องเป็นห่วง หลานสาวทั้งสองคนสบายดีนั้น นางปุณณภัทร กล่าวว่า หากภาพนั้นเป็นความจริง ตนก็สบายใจที่ทราบข่าวว่าหลานสาวฝาแฝดทั้งสองคนสบายดีและมีความสุข แต่ตนรู้นิสัยของหลานสาวทั้งสองคนดีว่าเป็นเด็กอย่างไร และไม่ค่อยมีความรู้สึกกับคนแปลกหน้าได้ง่ายๆ ดังนั้น จึงได้มาพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าหลานสาวฝาแฝดทั้งสองคนสบายดีหรือเปล่า แต่ผิดหวังที่ไม่พบตัวหลานสาวทั้งสองคน และพ่อเด็ก