ผู้จัดการรายวัน360-ตำรวจรวบตัวไอ้โหด ทำแผนนาทีฆ่า "เจ๊สั้น" สารภาพโกรธที่ถูกไล่ออก จึงเข้าไปขโมยทรัพย์สินในบ้าน แต่อดีตเจ้านายกลับมาเจอ จนเกิดมีปากเสียงก่อนจ้วงแทงจนเสียชีวิต ลูกสาวสุดกลั้นน้ำตา ถาม "ฆ่าแม่ทำไม" เผยหลังทำแผนเสร็จ ต้องรีบพาตัวกลับ หวั่นโดนชาวบ้านสหบาทา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 เม.ย.) พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 , พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี , พ.ต.อ.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย รอง ผบก. , พ.ต.ท.นิมิตร นูโพนทอง รอง ผกก.สส. สภ.คลองหลวง , พ.ต.ท.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมกำลังชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายที อายุ 30 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 256/2560 ในข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมด้วยของกลาง 1.เงินสด จำนวน 6,385 บาท 2.พระเครื่อง 6 องค์ 3.อาวุธปืนขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก
พล.ต.ต.ธนายุตม์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น. ได้มีคนร้ายก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นางธนพรพรรณ แสงประสิทธิ์ อายุ 47 ปี เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 72/49 หมู่บ้านพระปิ่น 7 หมู่ 9 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังทราบเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพนางธนพรพรรณนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าบ้าน โดยลักษณะสภาพศพถูกอาวุธมีดแทงที่บริเวณลำตัวและอกหลายแผล พบอาวุธมีดปลายแหลมลักษณะมีคราบเลือดติดตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ และบริเวณพื้นบ้านมีเลือดกระจายบนพื้นและหยดเป็นทางมาจากภายในตัวบ้าน ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบร่องรอยการงัดบ้านและรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้องนอนของผู้เสียชีวิต
จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพค้าขายผักอยู่ที่ตลาดไท และเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ผู้ตายได้ไล่ลูกจ้างชื่อ นายที สัญชาติกัมพูชา ออกจากงาน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้นายทีโกธรแค้น จากนั้น ช่วงที่ผู้ตายขับรถกลับมาบ้าน ได้มีการโทรคุยกับญาติ โดยญาติได้ยินเสียงผู้ตายพูดว่า "มึงจะทำร้ายกูทำไม" แล้วเสียงเงียบไป สันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะถูกทำร้าย และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณรอบที่เกิดเหตุ พบคนร้ายวิ่งหนีออกจากบ้านปืนกำแพงหนี และอาศัยจักรยานยนต์ของผู้อื่นหนีออกมาหน้าตลาดไอยรา และเรียกรถแท็กซี่สีส้มหลบหนี
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและศาลได้อนุมัติหมายจับนายที ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังออกติดตามพร้อมทั้งประสานหน่วยงานข้างเคียง พื้นที่ชายแดน และตรวจคนเข้าเมือง สกัดจับกุมตามเส้นทางหลบหนีต่างๆ โดยคาดว่าคนร้ายอาจจะหลบหนีไปยังภูมิลำเนาของตน คือ ประเทศกัมพูชา จนสามารถติดตามจับกุมนายที ได้ที่เขตอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมของกลางดังกล่าว
โดยในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเป็นคนลงมือใช้อาวุธมีดของกลางที่ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุแทงผู้ตายจริง โดยโกรธแค้นที่ผู้ตายด่าทอและไล่ออกจากงาน ซึ่งในวันเกิดเหตุ นายทีได้เตรียมอาวุธมีดแล้วปีนบ้านผู้ตายเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สิน และผู้ตายได้กลับมาพบตนขณะรื้อค้นทรัพย์สิน จึงได้ลงมือใช้อาวุธมีดแทงผู้ตายจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุได้หลบหนีเพื่อจะเดินทางกลับบ้านที่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่งถูกจับกุม
หลังจากแถลงข่าวเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายทีไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเกิดเหตุหมู่บ้านพระปิ่น 7 เฟส 4 บ้านเลขที่ 72/49 เฟส 4 ซอยที่ 3 หมู่ 9 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งมีประชาชนมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพกันเป็นจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนกว่า 20 คน คอยคุมเพื่อไม่ให้เข้ามาในบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งให้ผู้ต้องหาจุดธูปขอขมาผู้ตาย
ส่วนในบ้าน น.ส.ชมภัคมนธฑ์ แสนประสิทธิ์ ลูกสาวผู้ตาย พร้อมญาตินั่งไหว้บอกแม่ที่เสียชีวิต และเมื่อเห็นหน้าผู้ต้องหาก็ได้ตะโกนด่าด้วยความโกรธแค้น พร้อมทั้งร้องไห้และถามผู้ต้องหาว่าฆ่าแม่ทำไม แม่ได้เลี้ยงดูผู้ต้องหามา แต่ไม่ได้สำนึกในบุญคุณเลย เมื่อทำแผนเสร็จทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายทีขึ้นรถตู้กลับมาที่ สภ.คลองหลวงทันที เพราะเกรงว่าจะถูกประชาชนรุมประชาทัณฑ์ และจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลจังหวัดธัญบุรีในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 เม.ย.) พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 , พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี , พ.ต.อ.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย รอง ผบก. , พ.ต.ท.นิมิตร นูโพนทอง รอง ผกก.สส. สภ.คลองหลวง , พ.ต.ท.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมกำลังชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายที อายุ 30 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 256/2560 ในข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมด้วยของกลาง 1.เงินสด จำนวน 6,385 บาท 2.พระเครื่อง 6 องค์ 3.อาวุธปืนขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก
พล.ต.ต.ธนายุตม์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น. ได้มีคนร้ายก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นางธนพรพรรณ แสงประสิทธิ์ อายุ 47 ปี เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 72/49 หมู่บ้านพระปิ่น 7 หมู่ 9 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังทราบเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพนางธนพรพรรณนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าบ้าน โดยลักษณะสภาพศพถูกอาวุธมีดแทงที่บริเวณลำตัวและอกหลายแผล พบอาวุธมีดปลายแหลมลักษณะมีคราบเลือดติดตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ และบริเวณพื้นบ้านมีเลือดกระจายบนพื้นและหยดเป็นทางมาจากภายในตัวบ้าน ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบร่องรอยการงัดบ้านและรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้องนอนของผู้เสียชีวิต
จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพค้าขายผักอยู่ที่ตลาดไท และเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ผู้ตายได้ไล่ลูกจ้างชื่อ นายที สัญชาติกัมพูชา ออกจากงาน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้นายทีโกธรแค้น จากนั้น ช่วงที่ผู้ตายขับรถกลับมาบ้าน ได้มีการโทรคุยกับญาติ โดยญาติได้ยินเสียงผู้ตายพูดว่า "มึงจะทำร้ายกูทำไม" แล้วเสียงเงียบไป สันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะถูกทำร้าย และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณรอบที่เกิดเหตุ พบคนร้ายวิ่งหนีออกจากบ้านปืนกำแพงหนี และอาศัยจักรยานยนต์ของผู้อื่นหนีออกมาหน้าตลาดไอยรา และเรียกรถแท็กซี่สีส้มหลบหนี
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและศาลได้อนุมัติหมายจับนายที ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังออกติดตามพร้อมทั้งประสานหน่วยงานข้างเคียง พื้นที่ชายแดน และตรวจคนเข้าเมือง สกัดจับกุมตามเส้นทางหลบหนีต่างๆ โดยคาดว่าคนร้ายอาจจะหลบหนีไปยังภูมิลำเนาของตน คือ ประเทศกัมพูชา จนสามารถติดตามจับกุมนายที ได้ที่เขตอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมของกลางดังกล่าว
โดยในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเป็นคนลงมือใช้อาวุธมีดของกลางที่ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุแทงผู้ตายจริง โดยโกรธแค้นที่ผู้ตายด่าทอและไล่ออกจากงาน ซึ่งในวันเกิดเหตุ นายทีได้เตรียมอาวุธมีดแล้วปีนบ้านผู้ตายเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สิน และผู้ตายได้กลับมาพบตนขณะรื้อค้นทรัพย์สิน จึงได้ลงมือใช้อาวุธมีดแทงผู้ตายจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุได้หลบหนีเพื่อจะเดินทางกลับบ้านที่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่งถูกจับกุม
หลังจากแถลงข่าวเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายทีไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเกิดเหตุหมู่บ้านพระปิ่น 7 เฟส 4 บ้านเลขที่ 72/49 เฟส 4 ซอยที่ 3 หมู่ 9 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งมีประชาชนมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพกันเป็นจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนกว่า 20 คน คอยคุมเพื่อไม่ให้เข้ามาในบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งให้ผู้ต้องหาจุดธูปขอขมาผู้ตาย
ส่วนในบ้าน น.ส.ชมภัคมนธฑ์ แสนประสิทธิ์ ลูกสาวผู้ตาย พร้อมญาตินั่งไหว้บอกแม่ที่เสียชีวิต และเมื่อเห็นหน้าผู้ต้องหาก็ได้ตะโกนด่าด้วยความโกรธแค้น พร้อมทั้งร้องไห้และถามผู้ต้องหาว่าฆ่าแม่ทำไม แม่ได้เลี้ยงดูผู้ต้องหามา แต่ไม่ได้สำนึกในบุญคุณเลย เมื่อทำแผนเสร็จทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายทีขึ้นรถตู้กลับมาที่ สภ.คลองหลวงทันที เพราะเกรงว่าจะถูกประชาชนรุมประชาทัณฑ์ และจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลจังหวัดธัญบุรีในวันนี้