xs
xsm
sm
md
lg

ระวัง ‘ยุทธศาสตร์โลกสวย’ จะพาซวย!

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

บัดนี้บ้านนี้เมืองนี้มีรัฐธรรมนูญฉบับสุดยอดใช้ได้แล้ว กว่าจะร่างได้สำเร็จ ผ่านประชามติแล้ว ต้องสิ้นเปลืองเวลา ทรัพยากรบุคคล เงินทองสำหรับค่าใช้จ่ายมากมายเป็นค่าอาหารห้องพักโรงแรมริมทะเล รวมทั้งน้ำลายของผู้รู้มากและพอรู้ในการแสดงความคิดเห็นเยอะ

จากนั้นเรามี “กฎหมายยิ่งใหญ่” กำหนดยุทธศาสตร์ชาติยาวนาน 20 ปี ทั้งๆ ที่ยังไม่มีใครกล้ารับประกันได้ว่าปีหน้า หรือปีต่อไป บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรเพราะประเทศไทยไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวบนโลกใบนี้ แม้ได้คุยโวว่าจะเข้าสู่ยุค “ประเทศไทย 4.0” เต็มบ้องก็ตาม

เป็นยุทธศาสตร์ทะเยอทะยานเยอะ ทั้งๆ ที่บางพื้นที่ของหนองหมาว้อ โคกอีแร้ง กิโล 2 คลองลึก ยังไม่มีไฟฟ้า น้ำประปาใช้ ร้านสะดวกซื้อ สะดวกโกย ยังไม่ได้เข้าไปทุบร้านค้าท้องถิ่นให้เจ๊ง ยังมีเด็กอ่านหนังสือไม่ออก คนมีปริญญาภาษาอังกฤษไม่ได้เรื่อง

นอกจากยุทธศาสตร์ 20 ปี ยังมีตัวเล่นใหม่คือ อีอีซี หรือแผนพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ระเบียงฝั่งตะวันออกขยายตัวต่อยอดจากการพัฒนา “Eastern Seaboard” “โชติช่วงชัชวาล” จนเกิดปัญหามลพิษสารพิษอุตสาหกรรม ชาวบ้านเสี่ยงภัยตายผ่อนส่งทุกวันนี้

รัฐบาลคุณท่านเล็งผลเลิศว่า ประเทศไทย 4.0 และอีอีซีจะนำพาบ้านเมืองไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ไม่ตกหล่นล้าหลังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน หรือ “เออีซี” ซึ่งเป็นที่ฮือฮาเปิดประเทศให้คนต่างชาติแห่เข้ามาจากทั่วโลก ยกเว้นชาวเอสกิโมสู้ร้อนไม่ได้

โครงการประเทศไทย 4.0 และ “อีอีซี” ตรงกับความอยากของนายธนาคารและกลุ่มนายทุนสามานย์ เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว อัตราจีดีพีขยายตัว 5 เปอร์เซ็นต์ จะมีนักลงทุนต่างประเทศเข้ามากอบโกยความมั่งคั่งจากทรัพยากรในแผ่นดินไทยหมูสยามอย่างเต็มที่

คนไทยทั่วไปจะได้ประโยชน์แค่ไหนไม่มีใครรับประกัน แต่เงินภาษีต้องถูกนำไปใช้เพื่อสร้างระบบสาธารณูปโภคสำหรับโครงการลงทุนบนพื้นที่อีอีซี คือระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา และพื้นที่อื่นๆ ในอนาคต โดยรัฐบาลไม่ต้องถามชาวบ้านว่าเขาต้องการหรือไม่

ประชาชนไม่มีปากมีเสียง รัฐบาลนิยมนายทุนจะเร่งออกกฎหมายลัดขั้นตอน โละอุปสรรคเพื่อปูทางให้อวยการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ให้ต่างชาติเช่าที่ดินนาน 99 ปี หรือแค่เบาะๆ ก็ 2-3 ชั่วอายุคน จะมีการลงทุนบ้าบออะไรที่ต้องใช้เวลาถอนทุนนานขนาดนั้น

ได้ฟังเรื่องยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 และอีอีซี แล้วรู้สึกเสียวสยอง เราจะดันทุรังอยากทำ อยากได้ใคร่มีในสิ่งที่เราไม่ถนัด ไม่มีฐานความรู้ด้านเทคโนโลยี ไร้ความสามารถในการแข่งขัน! เราจะทำอะไรได้หรือในเมื่อต้นทุนราคาพลังงาน ค่าแรงแพงกว่าเพื่อนบ้าน

ยังจำได้หรือไม่ ก่อนที่เราเกือบล่มสลายต้องลดค่าเงินบาท กู้จากไอเอ็มเอฟ เราเคยกระสัน มีคนยกก้นให้เรารู้สึกว่าเก่งฉกาจ อยากเป็น “เสือตัวที่ 5” เป็น “นิกส์” หรือ NICs ภาคอุตสาหกรรม แต่เราไม่ได้เป็น “เสือ” ต้องกลายเป็น “แมวอมโรค” เพราะพิษต้มยำกุ้ง

ตอนนั้นมีคำเตือนว่า NICs ไม่ใช่ Newly Industrializing Country ที่เราฝันเฟื่องดูโลกสวยหรอกนะ แต่เป็น “Narok is Coming Soon” หรือ “นรกกำลังมาเยือน” เพราะเราไม่รู้จักขีดความสามารถของตัวเอง เราลืมกำพืด! ผลคือธุรกิจ สถาบันการเงินต่างๆ เจ๊งยับ

นี่เราจะเดินซ้ำรอยเดิมเพราะความไม่เจียมตัว ลืมกำพืด ลืมจุดแข็งในภาคเกษตรซึ่งเป็นมรดกของแผ่นดิน การบริหารประเทศที่เลวบัดซบมายาวนานทำให้เกิดการล้างผลาญทรัพยากรธรรมชาติ ใช้สารเคมีปุ๋ยเคมีเกษตรจนคนไทยต้องตายผ่อนส่งเพราะกินสารพิษ

EEC มันจะไม่ใช่ Eastern Economic Corridor ที่ฟังดูแล้วสวยนะ! กลัวว่าจะเป็น “Eventual Economic Crisis” หรือ “ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจในที่สุด” ถ้าเลวร้ายกว่านั้น ตัว “C” จะเป็น Collapse ความล่มสลาย หรือถึงขั้น Catastrophe สภาวะหายนะสุดยิ่งใหญ่

จำได้หรือไม่ ภาคการค้า อุตสาหกรรมการส่งออก ไม่ได้ช่วยเหลือพยุงประเทศในยุควิกฤต แต่เป็นภาคเกษตรที่ผลิตอาหารให้คนในประเทศมีกิน! ทุกวันนี้เราจะแข่งขันในมิติการผลิตในแนวยุทธศาสตร์ 4.0 กับประเทศจีน เกาหลี ไต้หวัน หรือเพื่อนบ้านอื่นๆ ได้หรือ

จากนี้ไปคนทั้งโลกต้องการอาหาร ตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น เรามีทุกอย่างพร้อมสำหรับการขยายตัวภาคเกษตร ทุกวันนี้ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และคนในทวีปอื่นๆ เผชิญปัญหาเศรษฐกิจเรื้อรัง มีใครอยากซื้อสินค้าอุตสาหกรรมต้นทุนแพงผลิตในบ้านเราหรือ

ศาสตร์พระราชา เศรษฐกิจพอเพียง เกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษ ควรจะต้องเป็นยุทธศาสตร์แท้จริงของเรา ถ้าประชาชนในภาคเกษตรมีเงินซื้อสินค้า เศรษฐกิจของบ้านเราก็ฟื้นตัวได้! รัฐบาลไม่มีความสามารถช่วยชาวนาให้มีชีวิตดีขึ้นเหมือนชาวนาจีน ญี่ปุ่นหรือ

น่าเสียดาย ไหนๆ ก็จะดันทุรังสุดโต่ง รัฐธรรมนูญใหม่น่าจะมีบทบัญญัติสำคัญคือ “กฎหมายว่าด้วยความรับผิดชอบ” หรือ “Accountability” ให้คณะรัฐมนตรี ผู้กุมอำนาจรัฐต้องรับผิดชอบนโยบายต่างๆ ถ้าได้สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อผลประโยชน์ของชาติ

ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีหรือผู้มีอำนาจ คิดอยากทำอะไรก็ทำ แต่ไม่เคยมีหน้าไหนรับผิดชอบความเสียหาย ประชาชนขอเรียกร้องให้ต้องมีบทลงโทษหนักเพื่อป้องปรามไม่ให้พวกขี้โม้อวดเก่ง กังฉินชั่วร้ายแสวงหาผลประโยชน์จากนโยบายของพรรคหรือพวก

“พวกท่านหรือพวกเอ็งคิดจะทำระยำตำบอนในบ้านเมืองสนองความกระสัน ตัณหา ความโลภ หรือสภาวะร้อนวิชาอะไรก็ได้ แต่ต้องรับผิดชอบทุกประการต่อความเสียหายนะโว้ย!” ต้องมีทั้งโทษติดคุก ชดใช้ทางแพ่ง การยึดทรัพย์สินด้วย! แบบนี้ถึงจะยุติธรรมเต็มที่

เชื่อเถอะ! ไม่มีใครกล้าให้ออกกฎหมายอย่างนี้หรอก ดูเพียงแค่ประกาศทำเท่ว่าจะปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง ทุกวันนี้ยังมีเสียงซุบซิบดังๆ เรื่องงาบคำโตอุบาทว์สุดๆ พอได้แล้วกับการเข้ามากุมอำนาจ กอบโกยจนรวย ทิ้งหนี้ก้อนโตไว้ให้ชาวบ้านต้องใช้คืน!
กำลังโหลดความคิดเห็น