กองปราบฯ ออกหมายจับ "รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา"ตุ๋นเพื่อนอาจารย์จุฬาฯ 1,400ล้านบาท ร่วมลงทุนซื้อโควตาลอตเตอรี่ เชื่อยังกบดานอยู่ในประเทศ และจะได้ตัวเร็วๆ นี้ ส่วนกรณี"ทอมโชกุน" เตรียมแจ้งข้อหาฟอกเงินเพิ่มอีกคดี ขณะเดียวกันแถลงจับแก๊งโจรออนไลน์หลอกขาย “ไมโลคิวบ์” ผ่านเฟซบุ๊ก เหยื่อหลายรายหลงเชื่อสูญเงินกว่า 2 แสนบาท พอได้เงินตามยอดปิดเฟสบุ๊กหนี
วานนี้ ( 23 เม.ย. ) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้า คดีกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สอ.จฬ.) ได้เดินทางมาที่กองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา อดีตประธาน สอ.จฬ. หลังหลอกลวงชักชวนให้นำเงินไปร่วมลงทุนในสหกรณ์ลอตเตอรี่ มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ศาลอาญารัชดาฯได้ออกหมายจับ รศ.ดร.สวัสดิ์ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนแล้ว ซึ่งพบว่าผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมหลอกกลุ่มอาจารย์ เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย ลงทุนซื้อโควตาล็อตเตอรี่ แลกผลตอบแทนร้อยละ 1 ต่อเดือน มีผู้ตกเป็นเหยื่อมากกว่า 160 คน ความเสียหายกว่า 1,400 ล้านบาท ก่อนหอบเงินหลบหนีไป
พล.ต.ต.สุทิน กล่าวว่า เมื่อต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหาย 58 คน รวมตัวกันแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม เร่งติดตามผู้ต้องหาและทรัพย์สินกลับคืน ซึ่งขณะนี้อยู่การติดตามจับกุมผู้ต้องหา พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงิน อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเบื้องต้นยังมีผู้ต้องเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้เร็วๆ นี้เนื่องจากยังไม่พบการเดินทางออกนอกประเทศ
ผบก.ป.กล่าวด้วยว่า ในกรณีที่เกิดขึ้น ทางพ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รองผู้อำนวยการ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ให้ข้อมูลว่าไม่มีการซื้อโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่อย่างใดตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง จึงน่าเชื่อว่าเป็นการหลอกลวงให้ร่วมลงทุน จนนำไปสู่ความเสียหาย และออกหมายจับ
**เพิ่มข้อหาฟอกเงิน"ทอมโชกุน"**
พล.ต.ต.สุทิน ยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน กรรมการบริหาร บริษัท เวลล์ เอฟเวอร์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ว่า เจ้าหน้าที่ต้องเร่งสรุปตัวเลขผู้เสียหายจากทั่วประเทศ เพื่อส่งให้อัยการพิจารณาสำนวนคดี ซึ่งในส่วนของกองบังคับการปราบปราม ล่าสุดมีผู้เสียหายแจ้งความแล้วประมาณ 430 คน มูลค่าความเสียหายกว่า16 ล้านบาท
ในส่วนของการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายของกลุ่มนี้ ทาง ปปง. เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกหลายราย และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และการพิจารณาของคณะพนักงานสอบสวนในการขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ
อย่างไรก็ตาม ทางคณะพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาซินแสโชกุนและพวก เพิ่มเติมในฐานความผิด ตามพ.ร.บ.ฟอกเงิน โดยสัปดาห์นี้ จะมีประชุมความคืบหน้าของคดีอีกครั้ง
**จับโจรตุ๋นขาย"ไมโลคิวบ์"**
นอกจากนี้ พล.ต.ต.สุทิน แถลงข่าว ผลจับกุม น.ส.นริศรา ลิ้มฉาย อายุ 24 ปี นายนวพล ลิ้มฉาย อายุ 19 ปี นายวุฒิพงษ์ เหมมาลา อายุ 24 ปี และ นายวัชรินทร์ จันทร์หอม อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 991-994/2560 ลงวันที่ 22 เม.ย. 2560 ในฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยจับกุมได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ ใน อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี
พล.ต.ต.สุทิน กล่าวว่า สืบเนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันหลอกขาย “ไมโลคิวบ์” ผ่านเฟสบุ๊กชื่อ “ความทรงจำ” โดยจะมี นายวุฒิพงษ์ และ นางสาวนริศรา ทำหน้าที่เป็นคนที่คอยพูดคุยชักชวน โดยโฆษณาขายจำนวน 24 ถุง หรือ 1 ลัง ในราคา 6 พันกว่าบาท จากราคาปกติราคา 7,500 - 9,000 บาท จนมีลูกค้าที่หลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหา โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อหลายรายมูลค่าความเสียหายกว่า 2 แสนบาท
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพ ว่า ต้องการหาเงินมาใช้หนี้เงินกู้จำนวน 6 หมื่นบาท ที่นำมาใช้สู้คดีทำร้ายร่างกาย โดยเมื่อได้เงินจากที่ลูกค้าโอนเข้ามารวมกว่า 2 แสนบาท ภายใน 1 วัน ก็ตัดสินใจปิดเฟซ เนื่องจากได้เงินตามที่ต้องการ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้
พล.ต.ต.สุทิน กล่าวด้วยว่า อยากฝากถึงประชาชนที่ซื้อสินค้าออนไลน์ให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ อย่าหลงซื้อเพียงเพราะเห็นว่าถูกกว่าท้องตลาด
วานนี้ ( 23 เม.ย. ) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้า คดีกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สอ.จฬ.) ได้เดินทางมาที่กองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา อดีตประธาน สอ.จฬ. หลังหลอกลวงชักชวนให้นำเงินไปร่วมลงทุนในสหกรณ์ลอตเตอรี่ มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ศาลอาญารัชดาฯได้ออกหมายจับ รศ.ดร.สวัสดิ์ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนแล้ว ซึ่งพบว่าผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมหลอกกลุ่มอาจารย์ เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย ลงทุนซื้อโควตาล็อตเตอรี่ แลกผลตอบแทนร้อยละ 1 ต่อเดือน มีผู้ตกเป็นเหยื่อมากกว่า 160 คน ความเสียหายกว่า 1,400 ล้านบาท ก่อนหอบเงินหลบหนีไป
พล.ต.ต.สุทิน กล่าวว่า เมื่อต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหาย 58 คน รวมตัวกันแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม เร่งติดตามผู้ต้องหาและทรัพย์สินกลับคืน ซึ่งขณะนี้อยู่การติดตามจับกุมผู้ต้องหา พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงิน อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเบื้องต้นยังมีผู้ต้องเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้เร็วๆ นี้เนื่องจากยังไม่พบการเดินทางออกนอกประเทศ
ผบก.ป.กล่าวด้วยว่า ในกรณีที่เกิดขึ้น ทางพ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รองผู้อำนวยการ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ให้ข้อมูลว่าไม่มีการซื้อโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่อย่างใดตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง จึงน่าเชื่อว่าเป็นการหลอกลวงให้ร่วมลงทุน จนนำไปสู่ความเสียหาย และออกหมายจับ
**เพิ่มข้อหาฟอกเงิน"ทอมโชกุน"**
พล.ต.ต.สุทิน ยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน กรรมการบริหาร บริษัท เวลล์ เอฟเวอร์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ว่า เจ้าหน้าที่ต้องเร่งสรุปตัวเลขผู้เสียหายจากทั่วประเทศ เพื่อส่งให้อัยการพิจารณาสำนวนคดี ซึ่งในส่วนของกองบังคับการปราบปราม ล่าสุดมีผู้เสียหายแจ้งความแล้วประมาณ 430 คน มูลค่าความเสียหายกว่า16 ล้านบาท
ในส่วนของการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายของกลุ่มนี้ ทาง ปปง. เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกหลายราย และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และการพิจารณาของคณะพนักงานสอบสวนในการขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ
อย่างไรก็ตาม ทางคณะพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาซินแสโชกุนและพวก เพิ่มเติมในฐานความผิด ตามพ.ร.บ.ฟอกเงิน โดยสัปดาห์นี้ จะมีประชุมความคืบหน้าของคดีอีกครั้ง
**จับโจรตุ๋นขาย"ไมโลคิวบ์"**
นอกจากนี้ พล.ต.ต.สุทิน แถลงข่าว ผลจับกุม น.ส.นริศรา ลิ้มฉาย อายุ 24 ปี นายนวพล ลิ้มฉาย อายุ 19 ปี นายวุฒิพงษ์ เหมมาลา อายุ 24 ปี และ นายวัชรินทร์ จันทร์หอม อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 991-994/2560 ลงวันที่ 22 เม.ย. 2560 ในฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยจับกุมได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ ใน อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี
พล.ต.ต.สุทิน กล่าวว่า สืบเนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันหลอกขาย “ไมโลคิวบ์” ผ่านเฟสบุ๊กชื่อ “ความทรงจำ” โดยจะมี นายวุฒิพงษ์ และ นางสาวนริศรา ทำหน้าที่เป็นคนที่คอยพูดคุยชักชวน โดยโฆษณาขายจำนวน 24 ถุง หรือ 1 ลัง ในราคา 6 พันกว่าบาท จากราคาปกติราคา 7,500 - 9,000 บาท จนมีลูกค้าที่หลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหา โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อหลายรายมูลค่าความเสียหายกว่า 2 แสนบาท
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพ ว่า ต้องการหาเงินมาใช้หนี้เงินกู้จำนวน 6 หมื่นบาท ที่นำมาใช้สู้คดีทำร้ายร่างกาย โดยเมื่อได้เงินจากที่ลูกค้าโอนเข้ามารวมกว่า 2 แสนบาท ภายใน 1 วัน ก็ตัดสินใจปิดเฟซ เนื่องจากได้เงินตามที่ต้องการ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้
พล.ต.ต.สุทิน กล่าวด้วยว่า อยากฝากถึงประชาชนที่ซื้อสินค้าออนไลน์ให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ อย่าหลงซื้อเพียงเพราะเห็นว่าถูกกว่าท้องตลาด