ผู้จัดการรายวัน 360 - ป.ป.ส.ผนึกกำลัง 10 หน่วย ยึดทรัพย์ขบวนการค้าไอซ์ข้ามชาติ ชาวมาเลเซีย-ไต้หวัน ยึดทรัพย์ 70 ล้าน โยงเครือข่ายไซซะนะ จ่อจับอีก 1,000 ราย ยันมีบัญชีดาราศิลปินร่วมเอี่ยวอีกเพียบ ลั่นหมดเวลาเสวยสุขแล้ว
วานนี้ ( 20 เม.ย.) ที่สำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมแถลงผลการปฏิบัติการตามยุทธการบูรณาการตัดวงจรทางการเงินเครือข่ายยาเสพติด ครั้งที่ 5/2560 “เครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ” ตามแผนปฏิบัติการ ชัยยะ สยบไพรี 60/3 ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 9 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 คน ยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท เข้าดำเนินการต่อเป้าหมายในวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา
โดยนายศิรินทร์ยา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้จับกุม Mr.Chang Kim Sui สัญชาติมาเลเซีย และ Mr.Lim Yean Hool สัญชาติมาเลเซีย พร้อมของกลางไอซ์ จำนวน 282 ก.ก. เหตุเกิดในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา จากการสืบสวน พบหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงกลุ่มค้ายาเสพติดรายสำคัญชาวไทย มาเลเซียและไต้หวัน จึงได้รวบรวมจนสามารถออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายในข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้เพิ่มเติม 4 ราย คือ นายเซียง หมี่ ซื่อ หรือเก็กกอ หรือเถ้าแก่ภาคเหนือ หรือจิมมี่ (MR.CHANG MI HSU) สัญชาติไต้หวัน นายตัน ฮัน เซียง หรือนายอาตัน (MR.TUN HUN SEONG) สัญชาติมาเลเซีย น.ส.วิภารัตน์ การดี สัญชาติไทย และ นางวลัยพรรณ เพ็ชรพงษ์ หรือเจ้ฟ่ง หรือฟ่งเจี่ย สัญชาติไทย
นายศิรินทร์ยา กล่าวต่อไปว่า ผลการปฏิบัติการ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 4 คน และยึดอายัดทรัพย์สิน จำนวน 36 รายการ ประกอบด้วยเงินสดเป็นธนบัตรไทยและธนบัตรสกุลต่างๆ จำนวน 30 ล้านบาท เงินฝากในบัญชีธนาคาร จำนวน 17 บัญชี มูลค่ารวม 7 ล้านบาท บ้านจำนวน 3 หลัง รถยนต์จำนวน 2 คัน ทองรูปพรรณและเครื่องประดับจำนวน 2 รายการ และทรัพย์สินอื่น ๆ จำนวน 11 รายการ มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 50 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินที่ได้ทำการยึดอายัดไว้ก่อนหน้าจากกรณีการจับกุมชายชาวมาเลเซีย 2 ราย (Mr.Chang Kim Sui และ Mr.Lim Yean Hool) พร้อมของกลางไอซ์ 282 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดอายัดในคดีนี้ประมาณ 70 ล้านบาท
เลาขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวด้วยว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้นับเป็นการบูรณาการความร่วมมือครั้งสำคัญยิ่งของหน่วยงานระดับประเทศกว่า 10 หน่วยงาน ได้แก่ ป.ป.ส. ตำรวจปราบปรามยาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเสไอ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. ธนาคารแห่งประเทศไทย กรมสรรพากร กรมศุลกากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมที่ดิน และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ร่วมกันขุดรากถอนโคนทำลายล้างเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ โดยการระดมสรรพกำลังและใช้ยุทธวิธีอย่างเต็มที่ ทั้งการการสืบสวนทางการเงิน การสืบสวนขยายผลการจับกุม การประสานงานด้านการข่าวทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่อขยายผลจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องและยึดอายัดทรัพย์ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดเป็นการตัดวงจรทางการเงิน ทำลายเครือข่ายและโครงสร้างการค้ายาเสพติดรายสำคัญ ถือเป็นความร่วมมือในการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด
** “สมหมาย”ลั่นกวาดเรียบ “ดาราค้ายา”
ขณะที่ พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า เครือข่ายยาเสพติดข้ามชาตินี้เป็นรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยพบว่ามีเงินหมุนเวียนหลายพันล้านบาททั้งในและนอกประเทศ และมีบุคคลหลายอาชีพทั้งคนไทยและต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้จำนวนมาก ส่วนผู้บงการรายใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าตอนนี้อยู่ในประเทศ หรือต่างประเทศ ทั้งนี้ เครือข่ายดังกล่าวยังมีความเชื่อมโยงกับนายไซซะนะ แก้วพิมพา และนายสีสุก ดาวเฮือง สองผู้ต้องหาชาวลาวที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ บช.ปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการขยายผลเพื่อติดตามจับกุมและยึดทรัพย์ของผู้กระทำความผิดต่อไป
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีเครือข่ายของนายไซซะนะ นักค้ายาเสพติดชาวลาว พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า มีหลักฐานแน่ชัดแล้ว หลังตรวจสอบเส้นทางการเงิน มีศิลปินดาราเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้ อีกทั้ง คนพวกนี้ใช้ชีวิตสุขสบายมามากพอแล้ว ถึงเวลาต้องกินข้าวร้อนนอนคุกเสียที
"ที่บอกไม่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ฟอกเงิน อย่าถามนะว่าใคร? กวาดเรียบ ยุคนี้เพื่อความสุขของประชาชน มีความสุขมามากแล้ว พวกนี้ทำชั่ว ไปกินข้าวร้อนนอนคุกบ้าง” พล.ต.ท.สมหมาย กล่าว
** ป.ป.ส.เรียก “แพท ณปภา” แจงซ้ำ
ด้านเลขาธิการป.ป.ส.เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบ การดำเนินคดีนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ผู้ต้องหาสมคบกันฟอกเงินร่วมกับผู้ต้องหายาเสพติดเครือข่ายนายไซซะนะว่า ขณะนี้ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำอย่างต่อเนื่อง โดยทรัพย์สินขณะนี้ของนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย และนายอัครกิตติ์ รวม 19 รายการแล้ว ส่วนที่นายอัครกิตติ์ได้โอนเงินให้กับน.ส.ณปภา ตันตระกูล หรือแพท ภรรยาของนายอัครกิตติ์ 1.9 ล้านบาท ซึ่งน.ส.ณปภา ได้มาแสดงหลักฐานว่าได้โอนคืนไปแล้ว 4 แสนบาท จะเหลือเงินอีก 1.5 ล้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดไว้เป็นของกลางแล้วโดยหลังจากนี้ ภรรยาของนายอัครกิตติ์ จะต้องมาให้ปากคำอีกครั้ง เกี่ยวกับเงิน 1.9 ล้านบาท
** “แพท” มั่นใจให้ข้อมูลครบถ้วน
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน น.ส.ณปภา ตันตระกูล หรือ แพท นักแสดงสาวชื่อดัง เดินทางมาที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อเข้าชี้แจงเพิ่มเติมถึงที่มาของเงินจำนวน 1.9 ล้านบาท ที่นายอัครกิตต์ สามี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย นายไซซะนะ ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีของนักแสดสาวและก่อนหน้านี้นักแสดงสาวได้เข้าชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาสอบปากคำนักแสดงสาวนานกว่า 7 ชั่วโมง
จนเมื่อเวลา 17.20 น. น.ส.ณปภา เปิดเผยหลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.นานร่วม 3 ชั่วโมง ว่า ในวันนี้ก็เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตามปกติ ซึ่งตนเองได้ตอบคำถามในประเด็นที่เจ้าหน้าที่สงสัย ยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินของเครือข่ายนายไซซะนะ อย่างแน่นอน สำหรับธุรกิจของสามี มีอะไรบ้าง หรือ ทำกับใคร ตนไม่ทราบ เรื่องนี้ต้องสอบถามเจ้าตัวเอง ตนทราบเพียงว่า สามีเปิดร้านขายอะไหล่ตกแต่งรถจักรยานยนต์บิ๊กไบท์ เป็นพรีเซนเตอร์ และงานอีเวนต์ เท่านั้น ส่วนธุรกิจอื่นนอกเหนือจากนี้ตนไม่ทราบ แต่ยอมรับว่า ส่วนตัวรู้จักกับ นายณัฐพล หรือ บอย นาคคำ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เครือข่ายนายไซซะนะ เนื่องจากเป็นเพื่อนของสามี ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
"แพทกับพี่เบนซ์เรามีความเกี่ยวข้องกันเท่าที่จำเป็น ส่วนอื่นเราไม่ได้ถามไถ่กัน แตะกันมากมาย พูดง่ายๆ หากต้องการทราบอะไรส่วนไหน ต้องถามเจ้าตัวเอง" น.ส.ณปภา ระบุ
ด้าน นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความส่วนตัว กล่าวว่า การเข้าให้ปากคำในครั้งนี้ เป็นการให้ข้อมูลต่อจากเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ได้ชี้แจ้งเกี่ยวกับที่มาของทรัพย์สินของ น.ส.ณปภา ว่า ได้มาอย่างไร ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากการแสดงละคร และการออกงานต่างๆ ส่วนเงินจำนวน 1.9 ล้านบาทนั้น เป็นเงินที่นายอัครกิตต์ โอนให้ น.ส.ณปภา นั้นต้องชี้แจงว่าเราไม่ทราบว่าสามีได้เงินมาอย่างไร อย่างไรก็ตามการชี้แจงเป็นไปด้วยดี ส่วนจะเคลียร์หรือไม่ต้องสอบถามเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ซึ่งก็ไม่มีการเรียกเอกสารอะไรเพิ่มเติม ซึ่งตนเอง และ น.ส.ณปภา พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี หากมีการประสานเข้ามาในการชี้แจงประเด็นต่างๆ ทั้งนี้ กระบวนการพิสูจน์ตามกฎหมายมีหลายขั้นตอน หลายหน่วยงาน โดยก่อนหน้านี้มีการเข้าให้ข้อมูลกับทาง บช.ปส. วันนี้ก็มาให้ข้อมูลกับทาง ป.ป.ส. และยังมี ปปง. จะเห็นว่ามีการตรวจสอบหลายขั้นตอน เชื่อว่าทุกส่วนจะสามารถให้ความยุติธรรมได้อย่างแน่นอน.
วานนี้ ( 20 เม.ย.) ที่สำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมแถลงผลการปฏิบัติการตามยุทธการบูรณาการตัดวงจรทางการเงินเครือข่ายยาเสพติด ครั้งที่ 5/2560 “เครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ” ตามแผนปฏิบัติการ ชัยยะ สยบไพรี 60/3 ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 9 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 คน ยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท เข้าดำเนินการต่อเป้าหมายในวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา
โดยนายศิรินทร์ยา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้จับกุม Mr.Chang Kim Sui สัญชาติมาเลเซีย และ Mr.Lim Yean Hool สัญชาติมาเลเซีย พร้อมของกลางไอซ์ จำนวน 282 ก.ก. เหตุเกิดในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา จากการสืบสวน พบหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงกลุ่มค้ายาเสพติดรายสำคัญชาวไทย มาเลเซียและไต้หวัน จึงได้รวบรวมจนสามารถออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายในข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้เพิ่มเติม 4 ราย คือ นายเซียง หมี่ ซื่อ หรือเก็กกอ หรือเถ้าแก่ภาคเหนือ หรือจิมมี่ (MR.CHANG MI HSU) สัญชาติไต้หวัน นายตัน ฮัน เซียง หรือนายอาตัน (MR.TUN HUN SEONG) สัญชาติมาเลเซีย น.ส.วิภารัตน์ การดี สัญชาติไทย และ นางวลัยพรรณ เพ็ชรพงษ์ หรือเจ้ฟ่ง หรือฟ่งเจี่ย สัญชาติไทย
นายศิรินทร์ยา กล่าวต่อไปว่า ผลการปฏิบัติการ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 4 คน และยึดอายัดทรัพย์สิน จำนวน 36 รายการ ประกอบด้วยเงินสดเป็นธนบัตรไทยและธนบัตรสกุลต่างๆ จำนวน 30 ล้านบาท เงินฝากในบัญชีธนาคาร จำนวน 17 บัญชี มูลค่ารวม 7 ล้านบาท บ้านจำนวน 3 หลัง รถยนต์จำนวน 2 คัน ทองรูปพรรณและเครื่องประดับจำนวน 2 รายการ และทรัพย์สินอื่น ๆ จำนวน 11 รายการ มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 50 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินที่ได้ทำการยึดอายัดไว้ก่อนหน้าจากกรณีการจับกุมชายชาวมาเลเซีย 2 ราย (Mr.Chang Kim Sui และ Mr.Lim Yean Hool) พร้อมของกลางไอซ์ 282 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดอายัดในคดีนี้ประมาณ 70 ล้านบาท
เลาขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวด้วยว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้นับเป็นการบูรณาการความร่วมมือครั้งสำคัญยิ่งของหน่วยงานระดับประเทศกว่า 10 หน่วยงาน ได้แก่ ป.ป.ส. ตำรวจปราบปรามยาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเสไอ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. ธนาคารแห่งประเทศไทย กรมสรรพากร กรมศุลกากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมที่ดิน และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ร่วมกันขุดรากถอนโคนทำลายล้างเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ โดยการระดมสรรพกำลังและใช้ยุทธวิธีอย่างเต็มที่ ทั้งการการสืบสวนทางการเงิน การสืบสวนขยายผลการจับกุม การประสานงานด้านการข่าวทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่อขยายผลจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องและยึดอายัดทรัพย์ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดเป็นการตัดวงจรทางการเงิน ทำลายเครือข่ายและโครงสร้างการค้ายาเสพติดรายสำคัญ ถือเป็นความร่วมมือในการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด
** “สมหมาย”ลั่นกวาดเรียบ “ดาราค้ายา”
ขณะที่ พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า เครือข่ายยาเสพติดข้ามชาตินี้เป็นรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยพบว่ามีเงินหมุนเวียนหลายพันล้านบาททั้งในและนอกประเทศ และมีบุคคลหลายอาชีพทั้งคนไทยและต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้จำนวนมาก ส่วนผู้บงการรายใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าตอนนี้อยู่ในประเทศ หรือต่างประเทศ ทั้งนี้ เครือข่ายดังกล่าวยังมีความเชื่อมโยงกับนายไซซะนะ แก้วพิมพา และนายสีสุก ดาวเฮือง สองผู้ต้องหาชาวลาวที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ บช.ปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการขยายผลเพื่อติดตามจับกุมและยึดทรัพย์ของผู้กระทำความผิดต่อไป
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีเครือข่ายของนายไซซะนะ นักค้ายาเสพติดชาวลาว พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า มีหลักฐานแน่ชัดแล้ว หลังตรวจสอบเส้นทางการเงิน มีศิลปินดาราเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้ อีกทั้ง คนพวกนี้ใช้ชีวิตสุขสบายมามากพอแล้ว ถึงเวลาต้องกินข้าวร้อนนอนคุกเสียที
"ที่บอกไม่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ฟอกเงิน อย่าถามนะว่าใคร? กวาดเรียบ ยุคนี้เพื่อความสุขของประชาชน มีความสุขมามากแล้ว พวกนี้ทำชั่ว ไปกินข้าวร้อนนอนคุกบ้าง” พล.ต.ท.สมหมาย กล่าว
** ป.ป.ส.เรียก “แพท ณปภา” แจงซ้ำ
ด้านเลขาธิการป.ป.ส.เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบ การดำเนินคดีนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ผู้ต้องหาสมคบกันฟอกเงินร่วมกับผู้ต้องหายาเสพติดเครือข่ายนายไซซะนะว่า ขณะนี้ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำอย่างต่อเนื่อง โดยทรัพย์สินขณะนี้ของนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย และนายอัครกิตติ์ รวม 19 รายการแล้ว ส่วนที่นายอัครกิตติ์ได้โอนเงินให้กับน.ส.ณปภา ตันตระกูล หรือแพท ภรรยาของนายอัครกิตติ์ 1.9 ล้านบาท ซึ่งน.ส.ณปภา ได้มาแสดงหลักฐานว่าได้โอนคืนไปแล้ว 4 แสนบาท จะเหลือเงินอีก 1.5 ล้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดไว้เป็นของกลางแล้วโดยหลังจากนี้ ภรรยาของนายอัครกิตติ์ จะต้องมาให้ปากคำอีกครั้ง เกี่ยวกับเงิน 1.9 ล้านบาท
** “แพท” มั่นใจให้ข้อมูลครบถ้วน
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน น.ส.ณปภา ตันตระกูล หรือ แพท นักแสดงสาวชื่อดัง เดินทางมาที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อเข้าชี้แจงเพิ่มเติมถึงที่มาของเงินจำนวน 1.9 ล้านบาท ที่นายอัครกิตต์ สามี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย นายไซซะนะ ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีของนักแสดสาวและก่อนหน้านี้นักแสดงสาวได้เข้าชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาสอบปากคำนักแสดงสาวนานกว่า 7 ชั่วโมง
จนเมื่อเวลา 17.20 น. น.ส.ณปภา เปิดเผยหลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.นานร่วม 3 ชั่วโมง ว่า ในวันนี้ก็เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตามปกติ ซึ่งตนเองได้ตอบคำถามในประเด็นที่เจ้าหน้าที่สงสัย ยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินของเครือข่ายนายไซซะนะ อย่างแน่นอน สำหรับธุรกิจของสามี มีอะไรบ้าง หรือ ทำกับใคร ตนไม่ทราบ เรื่องนี้ต้องสอบถามเจ้าตัวเอง ตนทราบเพียงว่า สามีเปิดร้านขายอะไหล่ตกแต่งรถจักรยานยนต์บิ๊กไบท์ เป็นพรีเซนเตอร์ และงานอีเวนต์ เท่านั้น ส่วนธุรกิจอื่นนอกเหนือจากนี้ตนไม่ทราบ แต่ยอมรับว่า ส่วนตัวรู้จักกับ นายณัฐพล หรือ บอย นาคคำ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เครือข่ายนายไซซะนะ เนื่องจากเป็นเพื่อนของสามี ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
"แพทกับพี่เบนซ์เรามีความเกี่ยวข้องกันเท่าที่จำเป็น ส่วนอื่นเราไม่ได้ถามไถ่กัน แตะกันมากมาย พูดง่ายๆ หากต้องการทราบอะไรส่วนไหน ต้องถามเจ้าตัวเอง" น.ส.ณปภา ระบุ
ด้าน นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความส่วนตัว กล่าวว่า การเข้าให้ปากคำในครั้งนี้ เป็นการให้ข้อมูลต่อจากเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ได้ชี้แจ้งเกี่ยวกับที่มาของทรัพย์สินของ น.ส.ณปภา ว่า ได้มาอย่างไร ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากการแสดงละคร และการออกงานต่างๆ ส่วนเงินจำนวน 1.9 ล้านบาทนั้น เป็นเงินที่นายอัครกิตต์ โอนให้ น.ส.ณปภา นั้นต้องชี้แจงว่าเราไม่ทราบว่าสามีได้เงินมาอย่างไร อย่างไรก็ตามการชี้แจงเป็นไปด้วยดี ส่วนจะเคลียร์หรือไม่ต้องสอบถามเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ซึ่งก็ไม่มีการเรียกเอกสารอะไรเพิ่มเติม ซึ่งตนเอง และ น.ส.ณปภา พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี หากมีการประสานเข้ามาในการชี้แจงประเด็นต่างๆ ทั้งนี้ กระบวนการพิสูจน์ตามกฎหมายมีหลายขั้นตอน หลายหน่วยงาน โดยก่อนหน้านี้มีการเข้าให้ข้อมูลกับทาง บช.ปส. วันนี้ก็มาให้ข้อมูลกับทาง ป.ป.ส. และยังมี ปปง. จะเห็นว่ามีการตรวจสอบหลายขั้นตอน เชื่อว่าทุกส่วนจะสามารถให้ความยุติธรรมได้อย่างแน่นอน.