สถานการณ์ที่กำลังพูดถึงกันตอนนี้คือเรื่อง “หมุดคณะราษฎร” หาย กับการให้ต่างชาติมาเช่าที่ดินได้นานถึง 99 ปี
เรื่อง “หมุดหาย” นั้นต่างฝ่ายต่างงัดประวัติศาสตร์ออกมาสู้กัน อ้างหนังสือคนละเล่มกัน ข้อเท็จจริงต่างๆ ถูกขุดคุ้ยมาสาดใส่กันราวกับเป็นการชำแหละประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ จนผมมานั่งคิดว่านี่อาจเป็นคุณูปการของ “หมุดหาย” เลยนะ
อุดมการณ์ทางการเมืองนั้นเป็นการเลือกข้างไม่มีฝ่ายไหนถูกหรือผิดหรอกอยู่ที่ว่าคุณจะยืนอยู่ตรงจุดไหนฝ่ายใคร ต่างฝ่ายต่างมีประวัติศาสตร์ของตัวเอง คนชนะถือประวัติศาสตร์ฉบับหนึ่งคนแพ้ถือประวัติศาสตร์อีกฉบับหนึ่ง เพียงแต่ประวัติศาสตร์ของฝ่ายแพ้จะถูกเก็บไว้ในมุมเล็กๆ ในลิ้นชักความทรงจำของแต่ละคน แต่ประวัติศาสตร์ของฝ่ายชนะจะโลดแล่นอยู่ในสังคมแทน มีข้อดีของสังคมไทยก็คือ ทุกวันนี้แต่ละฝ่ายสามารถพูดถึงประวัติศาสตร์ของตัวเองด้วยเสียงดังได้บ้างแล้ว
ทีนี้มาถึง “หมุด” การคงอยู่ของหมุดนั้นไม่ได้ทำให้ประวัติศาสตร์ความเชื่อแต่ละฝ่ายเปลี่ยนไป ใครเชื่ออย่างไรก็ยังคงเชื่ออย่างนั้น การรื้อถอนหรือทำลายก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาทุกยุคทุกสมัย ตอนที่คณะราษฎรมีอำนาจสัญลักษณ์ของระบอบกษัตริย์ก็ถูกรื้อถอนเช่นเดียวกัน
“หมุดหาย” จึงไม่ได้ทำให้อะไรสูญไป มันก็แค่ “หมุด” หายไปอันหนึ่งไม่ได้มีอะไรที่ลบเลือนไป วันหนึ่งในอนาคตมันอาจจะกลับมาอีก หรือถ้าสังคมไม่ยอมรับมันก็จะหายไปตลอดกาล
สิ่งสำคัญก็คือ เราน่าจะถือโอกาสนำข้อเท็จจริงมาพูดกัน ไม่ได้เรียกร้องว่าฝ่ายไหนผิดหรือถูก แต่เอาข้อเท็จจริงที่เหลื่อมล้ำกันอยู่มาตีแผ่เพื่อหาความจริงที่สุดออกมา และยอมรับกันและกัน
แต่เราต้องยอมรับความจริงว่า ผลพวงที่ผ่านมาของ 87 ปีที่เราเปลี่ยนแปลงการปกครองจากฝีมือของคณะราษฎรนั้น ระบอบประชาธิปไตยที่เราเชื่อกันว่าเลวน้อยที่สุด ประสบความล้มเหลวในสังคมไทย แต่ระบอบเดียวกันนี้กลับใช้ได้ประเทศตะวันตกและอีกหลายประเทศ ดังนั้น มันจึงไม่ใช่เรื่องระบอบดีหรือไม่ดี แต่มันน่าตั้งคำถามว่า มันไม่เหมาะกับสังคมไทยหรือเพราะคนไทยยังไม่เหมาะกับประชาธิปไตย เราจะออกแบบระบอบการเมืองแบบไหนที่เคารพต่อเสรีภาพของประชาชน และได้ผู้มีอำนาจที่ไม่ฉ้อฉล
ความฉ้อฉลของผู้มีอำนาจนี่แหละที่ทำให้คนกลุ่มหนึ่งในวันนี้เกิดกระแสเบื่อหน่ายนักการเมือง ซึ่งเป็นการสบช่องให้ทหารเข้ามาทำรัฐประหาร แต่เราถามว่าแท้จริงแล้วนักการเมืองฉ้อฉลหรือเพราะระบบเปิดทางให้ผู้มีอำนาจฉ้อฉลกันแน่ เพราะเอาเข้าจริงแล้วสารัตถะระหว่างการปกครองภายใต้นักการเมือง และระบอบทหารก็ไม่ได้แตกต่างกัน คนที่เชียร์ทหารก็เพียงแต่เกลียดนักการเมืองมากกว่าแล้วละเลยเรื่องที่ไม่สามารถตรวจสอบผู้มีอำนาจได้ ส่วนคนที่เชื่อมั่นนักการเมืองก็ไม่ได้สนใจว่าเขาจะใช้อำนาจอย่างบิดเบือนอย่างไรคิดเพียงว่าได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
นั่นมาถึงเรื่องที่รัฐบาลนี้ออกกฎหมายเพื่อให้ต่างชาติเข้ามาเช่าที่ดินของประเทศได้นานถึง 99 ปี ลองนับย้อนไปสิว่า 99 ปีที่ผ่านมานั่นคือปี 2461 เครือญาติของเราใครมีชีวิตอยู่บ้างแล้วนับมาถึงเราว่ากี่รุ่น
99 ปียาวนานแค่ไหนก็ต้องลองถามคนจีนที่เขารอคอยให้เกาะฮ่องกงกลับมาเป็นอธิปไตยของตัวเอง แต่ 99 ปีของฮ่องกงที่อังกฤษยึดไปนั้นเป็นสภาพบีบบังคับไม่ใช่จำยอมไม่มีทางสู้จากผลพวงของสงครามฝิ่นและเรือปืนที่มีอานุภาพเหนือกว่า
กฎหมายนี้เคยเป็นความพยายามของรัฐบาลทักษิณนะครับ แต่ถูกฝ่ายตรงข้ามระบอบทักษิณออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง
ฝ่ายสนับสนุนก็พยายามบอกนะครับว่า มีกฎหมายหลายประเทศที่เปิดให้ทำแบบนี้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการลงทุนของต่างชาติ แต่มันแปลว่าเราควรจะทำอย่างนั้นหรือ ลองคิดดูที่รัฐบาลเอาพื้นที่ป่าสงวน ที่ดินสาธารณประโยชน์ในหลายจังหวัดมาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีการยกเลิกไม่ต้องทำตามกฎหมายผังเมือง เพื่อดึงดูดให้ต่างชาติมาลงทุนมันคุ้มไหมกับสิ่งที่เราจะสูญเสียไป กลายเป็นต่างชาติจะมีสิทธิพิเศษมากกว่าคนไทยบนแผ่นดินไทย
หากเราเข้าไปดูร่างพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.... เราจะพบว่า กฎหมายฉบับนี้ให้สิทธิพิเศษมากมายกับต่างชาติที่เข้ามาลงทุนและอาศัยอยู่ในเขตพิเศษนี้ เช่น สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นของคนต่างด้าว สิทธิในการนำคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่อาศัยในราชอาณาจักร สิทธิในการที่จะได้รับยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากร สิทธิในการทำธุรกรรมทางการเงิน
นอกจากนั้นยังได้รับยกเว้นไม่ต้องขาย หรือฝากเงินตราต่างประเทศ สามารถซื้อ โอน หรือถอนเงินตราต่างประเทศเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ ระหว่างผู้ประกอบกิจการในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ให้สามารถเปิดบริการทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก โดยให้ได้รับการผ่อนผันการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ และกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถาบันการเงิน
พ.ร.บ.ฉบับนี้มีพื้นฐานมาจากคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 2/2560 เรื่อง การพัฒนาระเบียบเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกแล้วเชื่อไหมว่า การให้ต่างชาติเช่าพื้นที่ 99 ปีจะหยุดอยู่แค่นี้ แต่ผมเชื่อว่าต่อไปมันเชื่อมโยงกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 17/2558 เรื่อง การจัดหาที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลา และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตราด รวมถึงที่ดินแปลงใหญ่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ผมจะเล่าให้ฟังว่า มีผู้มีอำนาจคนหนึ่งเคยไปสั่งให้บอร์ดการรถไฟฯ อนุมัติเช่าที่ 99 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาเซ็งลี้ในที่ดินของการรถไฟฯ ผืนงาม 3 แปลงมักกะสัน บางซื่อ และที่ดินริมแม่น้ำที่เป็นคลังน้ำมัน 260 ไร่ที่เคยถูกเสนอเป็นที่สร้างรัฐสภา แต่ถูกเขาปฏิเสธโดยบอกว่าบอร์ดไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ถ้าจะทำควรจะออกมาเป็นมติครม. ผู้มีอำนาจคนนั้นถามว่าจะทำหรือไม่ทำ ถ้าไม่ทำจะให้คนอื่นมาทำ หลังจากนั้นไม่นานบอร์ดชุดนั้นก็ถูกปลด
ส่วนที่ประหลาดก็คือฝ่ายที่เคยต่อต้านทักษิณในเรื่องนี้วันนี้เงียบหายหมด ไม่มีปากมีเสียง ไม่รู้เหมือนกันว่า เพราะเขากลัวอำนาจรัฐประหาร หรือเพราะเขาไม่มีจุดยืน เพราะถ้าเขามีจุดยืนเขาต้องออกมาต่อต้าน เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่เป็นเรื่องของประเทศชาติ
ทำไมตอนนั้นจึงบอกว่าทักษิณขายชาติ แล้วทำไมวันนี้เสียงเหล่านั้นจึงเงียบไป รัฐบาลทักษิณไม่ควรทำแล้วทำไมรัฐบาลนี้ทำได้
“หมุดหาย” ไม่ได้ส่งผลสะเทือนอะไรต่อประวัติศาสตร์ แต่เอาแผ่นดินประเคนให้ต่างชาติเข้ามายึดครอง 99 ปี โดยเขาไม่ต้องเอาเรือปืนมาบังคับประวัติศาสตร์ชาติไทยจะเปลี่ยนแปลงไปชั่วนิรันดร์
ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan
เรื่อง “หมุดหาย” นั้นต่างฝ่ายต่างงัดประวัติศาสตร์ออกมาสู้กัน อ้างหนังสือคนละเล่มกัน ข้อเท็จจริงต่างๆ ถูกขุดคุ้ยมาสาดใส่กันราวกับเป็นการชำแหละประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ จนผมมานั่งคิดว่านี่อาจเป็นคุณูปการของ “หมุดหาย” เลยนะ
อุดมการณ์ทางการเมืองนั้นเป็นการเลือกข้างไม่มีฝ่ายไหนถูกหรือผิดหรอกอยู่ที่ว่าคุณจะยืนอยู่ตรงจุดไหนฝ่ายใคร ต่างฝ่ายต่างมีประวัติศาสตร์ของตัวเอง คนชนะถือประวัติศาสตร์ฉบับหนึ่งคนแพ้ถือประวัติศาสตร์อีกฉบับหนึ่ง เพียงแต่ประวัติศาสตร์ของฝ่ายแพ้จะถูกเก็บไว้ในมุมเล็กๆ ในลิ้นชักความทรงจำของแต่ละคน แต่ประวัติศาสตร์ของฝ่ายชนะจะโลดแล่นอยู่ในสังคมแทน มีข้อดีของสังคมไทยก็คือ ทุกวันนี้แต่ละฝ่ายสามารถพูดถึงประวัติศาสตร์ของตัวเองด้วยเสียงดังได้บ้างแล้ว
ทีนี้มาถึง “หมุด” การคงอยู่ของหมุดนั้นไม่ได้ทำให้ประวัติศาสตร์ความเชื่อแต่ละฝ่ายเปลี่ยนไป ใครเชื่ออย่างไรก็ยังคงเชื่ออย่างนั้น การรื้อถอนหรือทำลายก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาทุกยุคทุกสมัย ตอนที่คณะราษฎรมีอำนาจสัญลักษณ์ของระบอบกษัตริย์ก็ถูกรื้อถอนเช่นเดียวกัน
“หมุดหาย” จึงไม่ได้ทำให้อะไรสูญไป มันก็แค่ “หมุด” หายไปอันหนึ่งไม่ได้มีอะไรที่ลบเลือนไป วันหนึ่งในอนาคตมันอาจจะกลับมาอีก หรือถ้าสังคมไม่ยอมรับมันก็จะหายไปตลอดกาล
สิ่งสำคัญก็คือ เราน่าจะถือโอกาสนำข้อเท็จจริงมาพูดกัน ไม่ได้เรียกร้องว่าฝ่ายไหนผิดหรือถูก แต่เอาข้อเท็จจริงที่เหลื่อมล้ำกันอยู่มาตีแผ่เพื่อหาความจริงที่สุดออกมา และยอมรับกันและกัน
แต่เราต้องยอมรับความจริงว่า ผลพวงที่ผ่านมาของ 87 ปีที่เราเปลี่ยนแปลงการปกครองจากฝีมือของคณะราษฎรนั้น ระบอบประชาธิปไตยที่เราเชื่อกันว่าเลวน้อยที่สุด ประสบความล้มเหลวในสังคมไทย แต่ระบอบเดียวกันนี้กลับใช้ได้ประเทศตะวันตกและอีกหลายประเทศ ดังนั้น มันจึงไม่ใช่เรื่องระบอบดีหรือไม่ดี แต่มันน่าตั้งคำถามว่า มันไม่เหมาะกับสังคมไทยหรือเพราะคนไทยยังไม่เหมาะกับประชาธิปไตย เราจะออกแบบระบอบการเมืองแบบไหนที่เคารพต่อเสรีภาพของประชาชน และได้ผู้มีอำนาจที่ไม่ฉ้อฉล
ความฉ้อฉลของผู้มีอำนาจนี่แหละที่ทำให้คนกลุ่มหนึ่งในวันนี้เกิดกระแสเบื่อหน่ายนักการเมือง ซึ่งเป็นการสบช่องให้ทหารเข้ามาทำรัฐประหาร แต่เราถามว่าแท้จริงแล้วนักการเมืองฉ้อฉลหรือเพราะระบบเปิดทางให้ผู้มีอำนาจฉ้อฉลกันแน่ เพราะเอาเข้าจริงแล้วสารัตถะระหว่างการปกครองภายใต้นักการเมือง และระบอบทหารก็ไม่ได้แตกต่างกัน คนที่เชียร์ทหารก็เพียงแต่เกลียดนักการเมืองมากกว่าแล้วละเลยเรื่องที่ไม่สามารถตรวจสอบผู้มีอำนาจได้ ส่วนคนที่เชื่อมั่นนักการเมืองก็ไม่ได้สนใจว่าเขาจะใช้อำนาจอย่างบิดเบือนอย่างไรคิดเพียงว่าได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
นั่นมาถึงเรื่องที่รัฐบาลนี้ออกกฎหมายเพื่อให้ต่างชาติเข้ามาเช่าที่ดินของประเทศได้นานถึง 99 ปี ลองนับย้อนไปสิว่า 99 ปีที่ผ่านมานั่นคือปี 2461 เครือญาติของเราใครมีชีวิตอยู่บ้างแล้วนับมาถึงเราว่ากี่รุ่น
99 ปียาวนานแค่ไหนก็ต้องลองถามคนจีนที่เขารอคอยให้เกาะฮ่องกงกลับมาเป็นอธิปไตยของตัวเอง แต่ 99 ปีของฮ่องกงที่อังกฤษยึดไปนั้นเป็นสภาพบีบบังคับไม่ใช่จำยอมไม่มีทางสู้จากผลพวงของสงครามฝิ่นและเรือปืนที่มีอานุภาพเหนือกว่า
กฎหมายนี้เคยเป็นความพยายามของรัฐบาลทักษิณนะครับ แต่ถูกฝ่ายตรงข้ามระบอบทักษิณออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง
ฝ่ายสนับสนุนก็พยายามบอกนะครับว่า มีกฎหมายหลายประเทศที่เปิดให้ทำแบบนี้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการลงทุนของต่างชาติ แต่มันแปลว่าเราควรจะทำอย่างนั้นหรือ ลองคิดดูที่รัฐบาลเอาพื้นที่ป่าสงวน ที่ดินสาธารณประโยชน์ในหลายจังหวัดมาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีการยกเลิกไม่ต้องทำตามกฎหมายผังเมือง เพื่อดึงดูดให้ต่างชาติมาลงทุนมันคุ้มไหมกับสิ่งที่เราจะสูญเสียไป กลายเป็นต่างชาติจะมีสิทธิพิเศษมากกว่าคนไทยบนแผ่นดินไทย
หากเราเข้าไปดูร่างพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.... เราจะพบว่า กฎหมายฉบับนี้ให้สิทธิพิเศษมากมายกับต่างชาติที่เข้ามาลงทุนและอาศัยอยู่ในเขตพิเศษนี้ เช่น สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นของคนต่างด้าว สิทธิในการนำคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่อาศัยในราชอาณาจักร สิทธิในการที่จะได้รับยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากร สิทธิในการทำธุรกรรมทางการเงิน
นอกจากนั้นยังได้รับยกเว้นไม่ต้องขาย หรือฝากเงินตราต่างประเทศ สามารถซื้อ โอน หรือถอนเงินตราต่างประเทศเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ ระหว่างผู้ประกอบกิจการในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ให้สามารถเปิดบริการทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก โดยให้ได้รับการผ่อนผันการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ และกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถาบันการเงิน
พ.ร.บ.ฉบับนี้มีพื้นฐานมาจากคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 2/2560 เรื่อง การพัฒนาระเบียบเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกแล้วเชื่อไหมว่า การให้ต่างชาติเช่าพื้นที่ 99 ปีจะหยุดอยู่แค่นี้ แต่ผมเชื่อว่าต่อไปมันเชื่อมโยงกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 17/2558 เรื่อง การจัดหาที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลา และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตราด รวมถึงที่ดินแปลงใหญ่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ผมจะเล่าให้ฟังว่า มีผู้มีอำนาจคนหนึ่งเคยไปสั่งให้บอร์ดการรถไฟฯ อนุมัติเช่าที่ 99 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาเซ็งลี้ในที่ดินของการรถไฟฯ ผืนงาม 3 แปลงมักกะสัน บางซื่อ และที่ดินริมแม่น้ำที่เป็นคลังน้ำมัน 260 ไร่ที่เคยถูกเสนอเป็นที่สร้างรัฐสภา แต่ถูกเขาปฏิเสธโดยบอกว่าบอร์ดไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ถ้าจะทำควรจะออกมาเป็นมติครม. ผู้มีอำนาจคนนั้นถามว่าจะทำหรือไม่ทำ ถ้าไม่ทำจะให้คนอื่นมาทำ หลังจากนั้นไม่นานบอร์ดชุดนั้นก็ถูกปลด
ส่วนที่ประหลาดก็คือฝ่ายที่เคยต่อต้านทักษิณในเรื่องนี้วันนี้เงียบหายหมด ไม่มีปากมีเสียง ไม่รู้เหมือนกันว่า เพราะเขากลัวอำนาจรัฐประหาร หรือเพราะเขาไม่มีจุดยืน เพราะถ้าเขามีจุดยืนเขาต้องออกมาต่อต้าน เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่เป็นเรื่องของประเทศชาติ
ทำไมตอนนั้นจึงบอกว่าทักษิณขายชาติ แล้วทำไมวันนี้เสียงเหล่านั้นจึงเงียบไป รัฐบาลทักษิณไม่ควรทำแล้วทำไมรัฐบาลนี้ทำได้
“หมุดหาย” ไม่ได้ส่งผลสะเทือนอะไรต่อประวัติศาสตร์ แต่เอาแผ่นดินประเคนให้ต่างชาติเข้ามายึดครอง 99 ปี โดยเขาไม่ต้องเอาเรือปืนมาบังคับประวัติศาสตร์ชาติไทยจะเปลี่ยนแปลงไปชั่วนิรันดร์
ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan