เล็งปรับปรุงกม.ล้มละลาย ให้ฟ้องคดีข้ามประเทศได้

วานนี้ (19 เม.ย.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการขออนุญาตของทางราชการ ระหว่าง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมที่ดิน และสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ โดยนายวิษณุ กล่าวมอบนโยบาย การปฏิรูปภาครัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ตอนหนึ่งว่า สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ขอให้รัฐบาลเร่งผลักดันเรื่องการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาใช้ในระบบราชการ ซึ่งไทยเหมือนหลายประเทศที่มีองค์การต่างๆ เข้ามาประเมิน และจัดลำดับในหลายด้าน ทั้งความโปร่งใส การปราบปรามทุจริต รวมทั้งการปราบปรามการฟอกเงินระดับโลก โดยเฉพาะการประเมินเรื่องความสะดวกในการทำธุรกิจสำคัญมาก เพราะมีนัยยะทางการเมืองน้อยที่สุด และเป็นการประเมินโดยธนาคารโลก ที่สำคัญคือ ผลการประเมินสามารถนำไปใช้ได้จริง ที่นักธุรกิจ นักลงทุนจับตาดูและเลือกหาพื้นที่ในการลงทุนอยู่ ดังนั้นเมื่ออยู่ในลำดับที่ดี ก็น่าดึงดูดมากขึ้น ซึ่งเกณฑ์การประเมินไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ล่าสุดไทยอยู่ลำดับที่ 46 จาก 190 ประเทศ แต่ในอาเซียน อยู่ลำดับที่ 3 แต่ตั้งเป้าหมายให้ขึ้นลำดับที่ 2 ของอาเซียนให้ได้
ที่ผ่านมา มีการรอกฎหมายอำนวยความสะดวกมานานถึง 20 ปี และยังมีกฎหมายล้มละลาย ที่ทำให้การบังคับคดีล้มละลายสะดวกขึ้น โดยเฉพาะการล้มละลายแล้วอยู่ต่างประเทศ หรือล้มละลายจากต่างประเทศ รวมทั้งการฟ้องล้มละลายข้ามประเทศได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงของกรมบังคับคดี
นอกจากนี้เตรียมออกพระราชกฤษฎีกา เกี่ยวกับการต่อใบอนุญาต ซึ่งก่อนหมดอายุให้จ่ายค่าธรรมเนียมถือว่าเป็นการต่อใบอนุญาตแล้ว เพื่อแก้ปัญหาการเกิดช่องว่างในการต่อใบอนุญาตต่างๆ และให้เกิดความต่อเนื่อง ทั้งนี้หน่วยงานนั้นๆ สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้