ผู้จัดการรายวัน360-พยาบาลดวงซวย อยู่เวรกะดึก ถูกวัยรุ่นทำทีมาขอยา แต่กลับถูกบังคับให้อมนกเขา โชคดีหนีรอดมาได้หวุดหวิด กระทรวงหมอเต้น สั่งกำชับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ทั่วประเทศ เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยขณะทำงานนอกเวลาราชการ พร้อมสั่งเยียวผู้เสียหาย บึงกาฬรับลูกห้ามเจ้าหน้าที่หญิงอยู่เวรยามวิกาลคนเดียว ด้านบ้านพักเด็กฯ สุพรรณบุรี ยืนช่วงเกิดเหตุ "น้องเอ" ซึมเศร้า ฝันร้าย แฉต่อเด็กถูกพี่สาว "ไก่" พาขายตัว หลังถูกชำเรา หลังกระแสเริ่มตีกลับเด็กยินยอมเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีเพจเฟซบุ๊กหมออนามัยขี้ Mouth ได้ทำการโพสต์ภาพของหมออนามัยสาวประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคนหนึ่ง ถูกทำร้ายร่างกายและโดนข่มขื่น โดยจากภาพจะเห็นได้ว่าบริเวณ คอ แขน และขา เต็มไปด้วยร่องรอยของการถูกทำร้าย เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพแห่งหนึ่ง จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งผู้โพสต์ระบุอ้างว่า “เหตุเกิดกับน้องหมออนามัยที่เพิ่งทำงานไม่นานยังไม่ได้บรรจุราชการ เหตุเกิดในเวรนอกเวลาที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแห่งหนึ่งใน จังหวัดบึงกาฬ โดยคนร้ายทำทีมารับบริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และได้ทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืน ตอนนี้น้อง admit แล้ว และจับคนร้ายได้แล้ว เป็นเยาวชนในพื้นที่”
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ ช่วงดึกของวันที่ 15 เม.ย. ได้มีชายวัยรุ่นคนหนึ่งเดินเข้ามาเคาะประตูห้องเรียกหมออนามัย ซึ่งขณะนั้นอยู่คนเดียว โดยอ้างว่า มาขอรับยาแก้ปวดศีรษะ เมื่อหมออนามัยสาวเดินจะไปเปิดห้องทำงาน ชายดังกล่าวสบโอกาสเดินตามเข้าไปหาและชกที่หน้าท้องสาวจนทรุดตัวงอลงกับพื้น จากนั้นได้ลากตัวไปเข้าห้อง พยายามทำอนาจารลวนลาม ลูบคลำ และจูบปาก หมออนามัยสาวจึงกัดลิ้นคนร้าย จึงถูกคนร้ายชกที่ปาก ใบหน้า และบีบลำคออีกครั้ง ผู้เสียหายจึงต้องแกล้งทำยินยอมเพื่อเอาตัวรอด จากนั้นคนร้ายได้บังคับเข้าไปห้องน้ำ เพื่อให้อมนกเขา แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะนกเขาของคนร้ายนั้นไม่แข็ง หมออนามัยจึงหลอกว่ามียาที่ช่วยได้ ชายดังกล่าวจึงให้ไปเอามา หมออนามัยสาวจึงใช้จังหวะนี้หลบหนี
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนนี้ได้แล้วและอยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่เข้าสอบสวนพร้อมกับเจ้าหน้านักจิตวิทยา
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และโฆษก สธ. กล่าวถึงกรณีหมออนามัยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แห่งหนึ่งใน จ.บึงกาฬ ถูกทำร้ายและล่วงละเมิดทางเพศ ขณะอยู่เวรนอกเวลาเพียงคนเดียว ว่า นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ. ได้แสดงความห่วงใย กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) บึงกาฬ เยียวยาและดูแลด้านจิตใจอย่างใกล้ชิด พร้อมเน้นย้ำเรื่องดูแลความปลอดภัยของสถานที่ราชการ การวางระบบบริหารความเสี่ยง การพร้อมให้ความช่วยเหลือที่ห้องฉุกเฉินในเรื่องความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ
"กระทรวงสาธารณสุขมีหน่วยบริการหมื่นกว่าแห่งทั่วประเทศที่พร้อมให้การดูแลด้านการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนผู้เดือดร้อนตลอด 24 ชั่วโมง แต่จากการที่เจ้าหน้าที่ของเราถูกกระทำในครั้งนี้ สธ.คงต้องปรับระบบบริการในสถานบริการ โดยเฉพาะ รพ.สต. เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ และผู้บริหารทุกคนทราบเรื่องรู้สึกเสียใจ และจะให้การช่วยเหลือเยียวยาเต็มที่ ส่วนเรื่องคดีมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแล" นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ นพ.สสจ. ทั่วประเทศเข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานนอกเวลาราชการเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ให้กระทบกับผู้ป่วยที่มารับบริการ ให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในจุดเสี่ยง และกรณีมีผู้มาขอรับบริการในยามวิกาลให้พิจารณาตามความเหมาะสม คำนึงถึงความปลอดภัยและขอให้ลงมาช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นทีม
ด้าน นพ.วิศณุ วิทยาบำรุง นพ.สสจ.บึงกาฬ กล่าวว่า ได้สั่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัยกรณีมีผู้ป่วยมาขอรับบริการฉุกเฉิน นอกเวลาทำการ ดังนี้ 1.ประชาสัมพันธ์ให้ผู้รับบริการหากเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรขอความช่วยเหลือทางหมายเลข 1669 ฟรีตลอด 24ชั่วโมง 2.ถ้าจำเป็นต้องลงมาให้บริการผู้ป่วยในยามวิกาลต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่คนอื่น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ผู้ชายให้ลงมาช่วย และต้องแจ้ง ผอ.รพ.สต.ด้วย 3.ให้ ผอ.รพ.สต. และสาธารณสุขอำเภอประสานกับสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ ในการให้มาตั้งตู้เช็กเหตุการณ์หน้า รพ.สต. 4.ห้ามเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ที่เป็นผู้หญิงลงมาให้บริการดูแลรักษานอกเวลาเวรโดยเฉพาะยามวิกาล
สำหรับความคืบหน้ากรณีน้องเอ เด็กหญิงวัย 14 ปี ถูกรุมโทรมในร้านเกม แต่คดีไม่คืบหน้า และต่อมากระทรวงยุติธรรมได้รับที่จะเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ และนายไก่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ได้ออกมาชี้แจงว่าไม่ได้ข่มขืนน้องเอ ขณะที่กระแสในโลกออนไลน์เริ่มตีกลับหาว่า น้องเอ อาจพูดโกหก ไม่มีการรุมโทรม และสมยอมมีเพศสัมพันธ์กับผู้ต้องหาที่ชื่อไก่เอง โดยล่าสุด “บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” ได้ออกมาชี้แจงในเรื่องนี้แล้ว
โดยแถลงการณ์มีรายละเอียดโดยสรุปว่า พฤติกรรมเด็กขณะเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพ มีภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล เครียด ฝันร้าย มีภาวะทำร้ายตัวเองและคิดฆ่าตัวตาย แต่หลังเข้ารับการบำบัด อาการดีขึ้น , ครอบครัวไม่พร้อมรับเด็กกลับไปดูแล เนื่องจากผู้กระทำข่มขู่ว่าจะทำร้ายแม่เด็กและตัวเด็ก , ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับครอบครัวไม่ค่อยดีเท่าที่ควร , การเรียนของเด็กอยู่ในระดับพอใช้ , บ้านพักเด็กฯ วางแผนส่งตัวเด็กเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย , เด็กให้ข้อมูลว่าถูกพี่สาวผู้ต้องหาพาไปค้าประเวณี ภายหลังถูกกระทำชำเรา และเจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม คือ คดีรุมโทรม และคดีค้ามนุษย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีเพจเฟซบุ๊กหมออนามัยขี้ Mouth ได้ทำการโพสต์ภาพของหมออนามัยสาวประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคนหนึ่ง ถูกทำร้ายร่างกายและโดนข่มขื่น โดยจากภาพจะเห็นได้ว่าบริเวณ คอ แขน และขา เต็มไปด้วยร่องรอยของการถูกทำร้าย เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพแห่งหนึ่ง จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งผู้โพสต์ระบุอ้างว่า “เหตุเกิดกับน้องหมออนามัยที่เพิ่งทำงานไม่นานยังไม่ได้บรรจุราชการ เหตุเกิดในเวรนอกเวลาที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแห่งหนึ่งใน จังหวัดบึงกาฬ โดยคนร้ายทำทีมารับบริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และได้ทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืน ตอนนี้น้อง admit แล้ว และจับคนร้ายได้แล้ว เป็นเยาวชนในพื้นที่”
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ ช่วงดึกของวันที่ 15 เม.ย. ได้มีชายวัยรุ่นคนหนึ่งเดินเข้ามาเคาะประตูห้องเรียกหมออนามัย ซึ่งขณะนั้นอยู่คนเดียว โดยอ้างว่า มาขอรับยาแก้ปวดศีรษะ เมื่อหมออนามัยสาวเดินจะไปเปิดห้องทำงาน ชายดังกล่าวสบโอกาสเดินตามเข้าไปหาและชกที่หน้าท้องสาวจนทรุดตัวงอลงกับพื้น จากนั้นได้ลากตัวไปเข้าห้อง พยายามทำอนาจารลวนลาม ลูบคลำ และจูบปาก หมออนามัยสาวจึงกัดลิ้นคนร้าย จึงถูกคนร้ายชกที่ปาก ใบหน้า และบีบลำคออีกครั้ง ผู้เสียหายจึงต้องแกล้งทำยินยอมเพื่อเอาตัวรอด จากนั้นคนร้ายได้บังคับเข้าไปห้องน้ำ เพื่อให้อมนกเขา แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะนกเขาของคนร้ายนั้นไม่แข็ง หมออนามัยจึงหลอกว่ามียาที่ช่วยได้ ชายดังกล่าวจึงให้ไปเอามา หมออนามัยสาวจึงใช้จังหวะนี้หลบหนี
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนนี้ได้แล้วและอยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่เข้าสอบสวนพร้อมกับเจ้าหน้านักจิตวิทยา
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และโฆษก สธ. กล่าวถึงกรณีหมออนามัยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แห่งหนึ่งใน จ.บึงกาฬ ถูกทำร้ายและล่วงละเมิดทางเพศ ขณะอยู่เวรนอกเวลาเพียงคนเดียว ว่า นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ. ได้แสดงความห่วงใย กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) บึงกาฬ เยียวยาและดูแลด้านจิตใจอย่างใกล้ชิด พร้อมเน้นย้ำเรื่องดูแลความปลอดภัยของสถานที่ราชการ การวางระบบบริหารความเสี่ยง การพร้อมให้ความช่วยเหลือที่ห้องฉุกเฉินในเรื่องความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ
"กระทรวงสาธารณสุขมีหน่วยบริการหมื่นกว่าแห่งทั่วประเทศที่พร้อมให้การดูแลด้านการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนผู้เดือดร้อนตลอด 24 ชั่วโมง แต่จากการที่เจ้าหน้าที่ของเราถูกกระทำในครั้งนี้ สธ.คงต้องปรับระบบบริการในสถานบริการ โดยเฉพาะ รพ.สต. เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ และผู้บริหารทุกคนทราบเรื่องรู้สึกเสียใจ และจะให้การช่วยเหลือเยียวยาเต็มที่ ส่วนเรื่องคดีมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแล" นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ นพ.สสจ. ทั่วประเทศเข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานนอกเวลาราชการเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ให้กระทบกับผู้ป่วยที่มารับบริการ ให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในจุดเสี่ยง และกรณีมีผู้มาขอรับบริการในยามวิกาลให้พิจารณาตามความเหมาะสม คำนึงถึงความปลอดภัยและขอให้ลงมาช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นทีม
ด้าน นพ.วิศณุ วิทยาบำรุง นพ.สสจ.บึงกาฬ กล่าวว่า ได้สั่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัยกรณีมีผู้ป่วยมาขอรับบริการฉุกเฉิน นอกเวลาทำการ ดังนี้ 1.ประชาสัมพันธ์ให้ผู้รับบริการหากเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรขอความช่วยเหลือทางหมายเลข 1669 ฟรีตลอด 24ชั่วโมง 2.ถ้าจำเป็นต้องลงมาให้บริการผู้ป่วยในยามวิกาลต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่คนอื่น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ผู้ชายให้ลงมาช่วย และต้องแจ้ง ผอ.รพ.สต.ด้วย 3.ให้ ผอ.รพ.สต. และสาธารณสุขอำเภอประสานกับสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ ในการให้มาตั้งตู้เช็กเหตุการณ์หน้า รพ.สต. 4.ห้ามเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ที่เป็นผู้หญิงลงมาให้บริการดูแลรักษานอกเวลาเวรโดยเฉพาะยามวิกาล
สำหรับความคืบหน้ากรณีน้องเอ เด็กหญิงวัย 14 ปี ถูกรุมโทรมในร้านเกม แต่คดีไม่คืบหน้า และต่อมากระทรวงยุติธรรมได้รับที่จะเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ และนายไก่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ได้ออกมาชี้แจงว่าไม่ได้ข่มขืนน้องเอ ขณะที่กระแสในโลกออนไลน์เริ่มตีกลับหาว่า น้องเอ อาจพูดโกหก ไม่มีการรุมโทรม และสมยอมมีเพศสัมพันธ์กับผู้ต้องหาที่ชื่อไก่เอง โดยล่าสุด “บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” ได้ออกมาชี้แจงในเรื่องนี้แล้ว
โดยแถลงการณ์มีรายละเอียดโดยสรุปว่า พฤติกรรมเด็กขณะเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพ มีภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล เครียด ฝันร้าย มีภาวะทำร้ายตัวเองและคิดฆ่าตัวตาย แต่หลังเข้ารับการบำบัด อาการดีขึ้น , ครอบครัวไม่พร้อมรับเด็กกลับไปดูแล เนื่องจากผู้กระทำข่มขู่ว่าจะทำร้ายแม่เด็กและตัวเด็ก , ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับครอบครัวไม่ค่อยดีเท่าที่ควร , การเรียนของเด็กอยู่ในระดับพอใช้ , บ้านพักเด็กฯ วางแผนส่งตัวเด็กเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย , เด็กให้ข้อมูลว่าถูกพี่สาวผู้ต้องหาพาไปค้าประเวณี ภายหลังถูกกระทำชำเรา และเจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม คือ คดีรุมโทรม และคดีค้ามนุษย์