xs
xsm
sm
md
lg

สมชัยทำใจหากตกเก้าอี้ ทิ้งบอมบ์รธน.ทำการเมืองติดล็อก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกลาง กล่าวถึงปัญหาคุณสมบัติของกกต.ปัจจุบัน หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญว่า สนช.เตรียมที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่ กรธ.ได้เสนอมา ซึ่งจะมีประเด็นเรื่องการดำรงตำแหน่งของกกต. และการสรรหากกต.เพิ่มเติมให้ครบ 7 คน ตามรธน.กำหนด ตนเห็นว่าการที่รธน.กำหนดคุณสมบัติกรรมการองค์กรอิสระเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เป็นประเด็นสาธารณะที่ไม่ได้มีผลเฉพาะกกต. แต่ยังกระทบองค์กรอิสระอื่นๆด้วย แต่ของ กกต.จะให้อยู่ต่อหรือไม่ ก็แล้วแต่สนช. ใครมีคุณสมบัติครบตามที่รธน.กำหนดก็อยู่ต่อ ไม่ครบก็ไป คิดว่าทุกคนพร้อมออกพร้อมเก็บของ
อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่เห็นว่าน่ากังวลใจในขณะนี้ไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติ แต่เป็นเรื่องบทเฉพาะกาลของร่าง พ.ร.ป.กกต. ที่กำหนดไว้ว่าเมื่อกฎหมายมีผลใช้บังคับให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณาวินิจฉัยว่า กกต.ปัจจุบันใครขาดคุณสมบัติ ซึ่งเมื่อพบก็ให้พ้นจากตำแหน่ง เป็นการพ้นในทันที เช่น วินิจฉัยวันนี้ก็พ้นจากตำแหน่งในวันต่อไปเลย และคำสั่งถือเป็นที่สุด ตรงนี้จะทำให้เกิดการติดล็อกของระบบการเมืองไทยทั้งประเทศหรือไม่
"สมมุติมีองค์กรอิสระหนึ่ง มีกรรมการที่คุณสมบัติไม่ครบเกินครึ่ง คณะกรรมการสรรหา ลงมติวันที่ 31 มี.ค. วันที่ 1 เม.ย.ต้องออกทันที ทำให้องค์คณะขององค์กรอิสระนั้นเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง การจะพิจารณาเรื่องสำคัญ ก็จะทำไม่ได้ แล้วเมื่อไปดูขั้นตอนการสรรหา คณะกรรมการสรรหาจะใช้เวลา 30 วัน ดำเนินการสรรหากรรมการมาทดแทน หรือเพิ่มเติมในส่วนที่ขาดตามที่กฎหมายกำหนด จากนั้นส่งไปสนช. พิจารณาอีก 30 วัน ถ้าเห็นชอบก็มีขั้นตอนเสนอชื่อโปรดเกล้าฯ รวมเบ็ดเสร็จแล้วใช้เวลาอย่างน้อย 75 วัน หรือ 2 เดือนครึ่ง ก็เป็นช่วงระยะที่องค์กรอิสระนั้นจะไม่สามารถทำงานสำคัญอะไรได้เลย แต่ถ้าหากสนช. ตีกลับรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาเสนอไป ก็จะทำให้เสียเวลาไปอีกระยะหนึ่ง แต่ปัญหาเหล่านี้จะถือเป็นการติดล็อกทางการเมืองหรือไม่ เป็นเรื่องที่ สนช.จะต้องเป็นคนคิด" นายสมชัยกล่าว
นายสมชัย ยังกล่าวว่า ในร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยกกต.เขียนไว้แตกต่างจากกฎหมายลูกขององค์กรอิสระอื่น ที่จะให้กรรมการอยู่ทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าคนใหม่จะได้รับการแต่งตั้ง แต่ของกกต.ถ้าคณะกรรมการสรรหาวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติ ก็ต้องพ้นทันที สมมุติเหลือกกต.แค่ 3 คน ก็จะประชุมได้เท่าที่จำเป็น แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญ ก็ต้องรอกรรมการใหม่ที่จะเข้ามาทดแทน จึงอยากให้สนช.พิจารณาเรื่องนี้ให้รอบคอบ อยากให้การแก้ไขดังกล่าว แก้ไขได้ในขั้นตอนของการเขียนกฎหมายมากกว่าต้องมาแก้ไขด้วยการใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งอื่นที่ทำให้ดูเหมือนการเขียนกฎหมายนั้นดำเนินการแบบไม่รอบคอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น