ผู้จัดการรายวัน 360 - สตช.สั่งเด้ง 12 รองผบก.-ผบ.หมู่ สังกัด 191-อคฝ.เข้ากรุ ตั้ง กก.สอบวินัย ฐานพัวพันรีดส่วยลิขสิทธิ์ เฉียดล้านต่อเดือน เผยเหยื่อเป็นร้านอะไหล่รถ “บิ๊กโจ๊ก” เผยมีผู้กระผิด 5 ใน 12 รายที่ถูกย้าย แต่ต้องสอบสวนทั้งหมดเพื่อความโปร่งใส
รายงานข่าวจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.เดชา ชวยบุญชม ที่ปรึกษา (สบ.10) ได้ลงนาม คำสั่งศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ที่17/2560 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. โดยให้ข้าราชการตำรวจ 12 นาย ในสังกัดกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) หรือ 191 และกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ตั้งแต่ตำแหน่งระดับรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ถึงผู้บังคับหมู่ (ผบ.หมู่) ปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
โดยรายชื่อตำรวจทั้ง 12 นาย ประกอบด้วย 1. พ.ต.อ.ลาภ ศรีสำอางค์ รอง ผบก.สปพ. 2. พ.ต.ท.รวีโรจน์ เปล่งศรียศภัทร รองผกก.สายตรวจ สปพ.3. ร.ต.ท.ถวิน พัฒนกุลอนันต์ รองสว.งานสายตรวจ 2กก.สายตรวจ4. ร.ต.ท.จารึก โทนอ่อน รองงสารวัตรงานสายตรวจ 2กก.สายตรวจ5.ด.ต.ณทัศพงณ์ กะปุระ 6.ด.ต.วสันต์ กรุพิมาย7. ด.ต.ชนก คชเสนีย์ 8.ด.ต.ภัทรายุทธ์ ศรีสุวรรณ ผบ.หมู่งานสายตรวจ กก.สายตรวจ 9.ส.ต.ต.วัชระ กงศร ผบ.หมู่งานสายตรวจและอารักขา กก.สุนัขและม้าตำรวจ 10. ส.ต.ต.ภาสชัย พงศ์พัฒนหยก11. ส.ต.ต.จักรพงษ์ อภิวงศ์ และ12.ส.ต.ต.สุรัตน์ นาเจิมพลอย ผบ.หมู่กองร้อย 1กก.ควบคุมฝูงชน 1 บก.อารักขาและควบคุมฝูงชน
สำหรับคำสั่งดังกล่าว สืบเนื่องจากมีการนำหลักฐานแสดงในที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ระบุว่ามีกลุ่มตำรวจ สังกัด 191 เข้าไปเรียกรับผลประโยชน์ จากผู้ประกอบการร้ายจำหน่ายอะไหล่รถ ในพื้นที่ กทม. โดยเรียกรับผลประโยชน์รายเดือน เมื่อตรวจสอบแล้ว จึงมีการเสนอให้ย้ายตำรวจทั้ง12นายช่วยราชาร และ พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ก็มีคำสั่ง บก.สปพ. ที่ 141/2560 ลงวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว
** “บิ๊กโจ๊ก” แฉทำมาเป็นปี
วานนี้ (13 เม.ย.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. เปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวเป็นชุดที่อยู่มาก่อนหน้าที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง จากการสืบสวนทราบว่าทำมาแล้วเป็นปีและ มีการกระทำผิดลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้ง ภายหลังมีประชาชนร้องเรียนไปยังคณะรัฐมนตรีว่ามีการใช้อำนาจหน้าที่เรียกรับเงินจำนวนมาก ประมาณกว่า 8 แสนบาทต่อเดือน มีทั้งร้านจำหน่ายอะไหล่รถ และของแบรนด์เนม เมื่อทราบเรื่องก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนแล้ว พร้อมทั้งสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีข้าราชการตำรวจชุดปฏิบัติการที่ทำหน้าที่สืบสวนปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งหลังสงกรานต์นี้น่าจะทราบผลการตรวจสอบว่า มีการกระทำผิดทางวินัยหรือไม่ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ก็ได้สั่งการ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผู้บังคับการกองวินัย (ผบก.วน.) ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย เป็นชั้นที่ 2 ต่อจากหน่วยของ191 ด้วย
“ทั้งนี้จากข้อมูลพบผู้กระทำความผิดในชุดปราบปรามเฉพาะกิจ เพียง 5 ราย แต่ที่จะต้องตรวจสอบทั้งหมด เพื่อความโปร่งใส ซึ่งหากใครไม่ผิดก็ไม่ต้องกลัว ยืนยันให้ความเป็นธรรม และจะคัดคนไม่ดีออกจากคนดี” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุ.
รายงานข่าวจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.เดชา ชวยบุญชม ที่ปรึกษา (สบ.10) ได้ลงนาม คำสั่งศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ที่17/2560 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. โดยให้ข้าราชการตำรวจ 12 นาย ในสังกัดกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) หรือ 191 และกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ตั้งแต่ตำแหน่งระดับรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ถึงผู้บังคับหมู่ (ผบ.หมู่) ปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
โดยรายชื่อตำรวจทั้ง 12 นาย ประกอบด้วย 1. พ.ต.อ.ลาภ ศรีสำอางค์ รอง ผบก.สปพ. 2. พ.ต.ท.รวีโรจน์ เปล่งศรียศภัทร รองผกก.สายตรวจ สปพ.3. ร.ต.ท.ถวิน พัฒนกุลอนันต์ รองสว.งานสายตรวจ 2กก.สายตรวจ4. ร.ต.ท.จารึก โทนอ่อน รองงสารวัตรงานสายตรวจ 2กก.สายตรวจ5.ด.ต.ณทัศพงณ์ กะปุระ 6.ด.ต.วสันต์ กรุพิมาย7. ด.ต.ชนก คชเสนีย์ 8.ด.ต.ภัทรายุทธ์ ศรีสุวรรณ ผบ.หมู่งานสายตรวจ กก.สายตรวจ 9.ส.ต.ต.วัชระ กงศร ผบ.หมู่งานสายตรวจและอารักขา กก.สุนัขและม้าตำรวจ 10. ส.ต.ต.ภาสชัย พงศ์พัฒนหยก11. ส.ต.ต.จักรพงษ์ อภิวงศ์ และ12.ส.ต.ต.สุรัตน์ นาเจิมพลอย ผบ.หมู่กองร้อย 1กก.ควบคุมฝูงชน 1 บก.อารักขาและควบคุมฝูงชน
สำหรับคำสั่งดังกล่าว สืบเนื่องจากมีการนำหลักฐานแสดงในที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ระบุว่ามีกลุ่มตำรวจ สังกัด 191 เข้าไปเรียกรับผลประโยชน์ จากผู้ประกอบการร้ายจำหน่ายอะไหล่รถ ในพื้นที่ กทม. โดยเรียกรับผลประโยชน์รายเดือน เมื่อตรวจสอบแล้ว จึงมีการเสนอให้ย้ายตำรวจทั้ง12นายช่วยราชาร และ พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ก็มีคำสั่ง บก.สปพ. ที่ 141/2560 ลงวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว
** “บิ๊กโจ๊ก” แฉทำมาเป็นปี
วานนี้ (13 เม.ย.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. เปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวเป็นชุดที่อยู่มาก่อนหน้าที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง จากการสืบสวนทราบว่าทำมาแล้วเป็นปีและ มีการกระทำผิดลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้ง ภายหลังมีประชาชนร้องเรียนไปยังคณะรัฐมนตรีว่ามีการใช้อำนาจหน้าที่เรียกรับเงินจำนวนมาก ประมาณกว่า 8 แสนบาทต่อเดือน มีทั้งร้านจำหน่ายอะไหล่รถ และของแบรนด์เนม เมื่อทราบเรื่องก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนแล้ว พร้อมทั้งสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีข้าราชการตำรวจชุดปฏิบัติการที่ทำหน้าที่สืบสวนปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งหลังสงกรานต์นี้น่าจะทราบผลการตรวจสอบว่า มีการกระทำผิดทางวินัยหรือไม่ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ก็ได้สั่งการ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผู้บังคับการกองวินัย (ผบก.วน.) ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย เป็นชั้นที่ 2 ต่อจากหน่วยของ191 ด้วย
“ทั้งนี้จากข้อมูลพบผู้กระทำความผิดในชุดปราบปรามเฉพาะกิจ เพียง 5 ราย แต่ที่จะต้องตรวจสอบทั้งหมด เพื่อความโปร่งใส ซึ่งหากใครไม่ผิดก็ไม่ต้องกลัว ยืนยันให้ความเป็นธรรม และจะคัดคนไม่ดีออกจากคนดี” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุ.