ผู้จัดการรายวัน360-กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านบุกสภาค้านวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี ชี้ทำองค์กรขัดแย้ง-อ่อนแอ ปัดอยู่นานฝังอิทธิพล ก่อฐานเสียงพรรคการเมือง ลั่นค้านถึงที่สุด ด้าน สปท. ไม่สน ผ่านฉลุยลดวาระดำรงตำแหน่ง เตรียมชง ครม. ดำเนินการต่อ มท. ตั้งงบ 8.2 ล้าน จัดซื้ออาวุธปืน 3 ชนิด 260 กระบอก แจกเป็นรางวัลให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยมประจำปี 2560
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (10 เม.ย.) นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือถึง ร.อ.ทินพันธุ์ นาคาตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ผ่านนายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผบ.กลุ่มงานประสานงานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อคัดค้านรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง สปท. ที่เสนอลดวาระการดำรงตำแหน่งของกำนัน เหลือ 5 ปี และให้มีการประเมินผลการทำงานของผู้ใหญ่บ้านทุก 3 ปี
นายยงยศกล่าวว่า องค์กรกำนันผู้ใหญ่บ้าน ตั้งมา 127 ปี ไม่เคยมีรัฐบาลใดเสนอกฎหมายทำร้ายองค์กรกำนันผู้ใหญ่บ้านเช่นนี้ ทำให้เกิดความแตกแยก อ่อนแอ ในการปฏิบัติหน้าที่ จึงขอคัดค้านรายงานดังกล่าว เพราะไม่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวาระการดำรงตำแหน่งของกำนัน ซึ่งไม่รู้ว่ามีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ หากให้กำนันอยู่ในตำแหน่ง 5 ปี จะทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง เกิดความไม่เกรงกลัว และเกิดความแตกแยก เลือกข้างในหมู่ประชาชน การอ้างว่าถ้ากำนันอยู่ในตำแหน่งจนถึงอายุ 60 ปี จะสร้างอิทธิพล เป็นฐานเสียงให้พรรคการเมืองนั้น ไม่เป็นความจริง ถ้าเป็นฐานเสียงจริง การเลือกตั้งในภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ คงไม่ได้ ส.ส.มากขนาดนี้ อีกทั้งขณะนี้ ประชาชนมีความรู้ คนที่เป็นผู้นำ ไม่สามารถไปครอบงำได้ ยิ่งมีสื่อโซเซียลมีเดีย คอยติดตามการทำงานของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตลอด จึงไม่สามารถสร้างอิทธิพลอะไร อย่าเอาบริบทของการเมืองระดับชาติมาโยงกับเรื่องกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
ส่วนประเด็นเรื่องการประเมินผลงานผู้ใหญ่บ้านทุก 3 ปีนั้น ความจริงกรมการปกครอง มีการประเมินผลงานของผู้ใหญ่บ้านทุก 4 ปีอยู่แล้ว และยังมีมาตรา 14 (6) พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 คอยควบคุมการทำงานของผู้ใหญ่บ้าน สามารถเข้าชื่อลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ง่ายอยู่แล้ว ขอให้ไม่ต้องกังวล โดยยืนยันจะคัดค้านเรื่องดังกล่าวถึงที่สุด แต่คงไม่ถึงเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ เพราะผิดวินัย เนื่องจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่จะหารือกันว่า จะดำเนินการอย่างไร เบื้องต้นอาจจะไปรวมตัวกันที่ศาลากลางแต่ละจังหวัด เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดคัดค้านต่อไป
นายอุดมทรัพย์ นาคพงศ์ ประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการเสนอกฎหมายดังกล่าว เพราะจะทำให้เกิดความแตกแยก องค์กรกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ใช่องค์กรด้านการเมือง หากต้องมีการเลือกตั้ง เปลี่ยนแปลงบ่อย อาจจะนำไปสู่การแบ่งพรรค แบ่งพวก เกิดความแตกแยกในระดับตำบล-หมู่บ้านได้ อีกทั้งการทำงานของกำนันต้องมีความต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องในการช่วยเหลือประชาชนโดยไม่เลือกข้าง
วันเดียวกันนี้ สปท. ได้มีการประชุมพิจารณารายงานในเรื่องดังกล่าว โดย สปท. ที่เคยเป็นอดีตผู้ว่าฯ ได้คัดค้าน แต่ในที่สุดที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบ ด้วยคะแนน 91 ต่อ27 งดออกเสียง 32 และให้ส่งรายงานความเห็นให้ ครม. รับไปดำเนินการต่อไป
มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้เปิดราคากลางการประกาศประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้าง หาอาวุธปืนเพื่อเป็นรางวัลให้แก่กำนันและผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยมประจำปี 2560 (10 ส.ค.ของทุกปี) โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนในการประเมินผลการปฏิบัติงานกำนัน ผู้ใหญ่บ้านแหนบทองคำ ประจำปี 2560 โดยได้กำหนดวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร 8,246,000 บาท โดยกำหนดราคากลางที่ 7,110,000 บาท เพื่อจัดซื้ออาวุธปืน 3 ชนิด คือ ปืนสั้นลูกโม่ 2 ชนิด และปืนลูกซองยาว รวม 260 กระบอก และยังมีแผนว่าจ้างจัดทำแหนบทองคำ เป็นรางวัลมอบให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม ประจำปี 2560 ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (10 เม.ย.) นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือถึง ร.อ.ทินพันธุ์ นาคาตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ผ่านนายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผบ.กลุ่มงานประสานงานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อคัดค้านรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง สปท. ที่เสนอลดวาระการดำรงตำแหน่งของกำนัน เหลือ 5 ปี และให้มีการประเมินผลการทำงานของผู้ใหญ่บ้านทุก 3 ปี
นายยงยศกล่าวว่า องค์กรกำนันผู้ใหญ่บ้าน ตั้งมา 127 ปี ไม่เคยมีรัฐบาลใดเสนอกฎหมายทำร้ายองค์กรกำนันผู้ใหญ่บ้านเช่นนี้ ทำให้เกิดความแตกแยก อ่อนแอ ในการปฏิบัติหน้าที่ จึงขอคัดค้านรายงานดังกล่าว เพราะไม่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวาระการดำรงตำแหน่งของกำนัน ซึ่งไม่รู้ว่ามีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ หากให้กำนันอยู่ในตำแหน่ง 5 ปี จะทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง เกิดความไม่เกรงกลัว และเกิดความแตกแยก เลือกข้างในหมู่ประชาชน การอ้างว่าถ้ากำนันอยู่ในตำแหน่งจนถึงอายุ 60 ปี จะสร้างอิทธิพล เป็นฐานเสียงให้พรรคการเมืองนั้น ไม่เป็นความจริง ถ้าเป็นฐานเสียงจริง การเลือกตั้งในภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ คงไม่ได้ ส.ส.มากขนาดนี้ อีกทั้งขณะนี้ ประชาชนมีความรู้ คนที่เป็นผู้นำ ไม่สามารถไปครอบงำได้ ยิ่งมีสื่อโซเซียลมีเดีย คอยติดตามการทำงานของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตลอด จึงไม่สามารถสร้างอิทธิพลอะไร อย่าเอาบริบทของการเมืองระดับชาติมาโยงกับเรื่องกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
ส่วนประเด็นเรื่องการประเมินผลงานผู้ใหญ่บ้านทุก 3 ปีนั้น ความจริงกรมการปกครอง มีการประเมินผลงานของผู้ใหญ่บ้านทุก 4 ปีอยู่แล้ว และยังมีมาตรา 14 (6) พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 คอยควบคุมการทำงานของผู้ใหญ่บ้าน สามารถเข้าชื่อลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ง่ายอยู่แล้ว ขอให้ไม่ต้องกังวล โดยยืนยันจะคัดค้านเรื่องดังกล่าวถึงที่สุด แต่คงไม่ถึงเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ เพราะผิดวินัย เนื่องจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่จะหารือกันว่า จะดำเนินการอย่างไร เบื้องต้นอาจจะไปรวมตัวกันที่ศาลากลางแต่ละจังหวัด เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดคัดค้านต่อไป
นายอุดมทรัพย์ นาคพงศ์ ประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการเสนอกฎหมายดังกล่าว เพราะจะทำให้เกิดความแตกแยก องค์กรกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ใช่องค์กรด้านการเมือง หากต้องมีการเลือกตั้ง เปลี่ยนแปลงบ่อย อาจจะนำไปสู่การแบ่งพรรค แบ่งพวก เกิดความแตกแยกในระดับตำบล-หมู่บ้านได้ อีกทั้งการทำงานของกำนันต้องมีความต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องในการช่วยเหลือประชาชนโดยไม่เลือกข้าง
วันเดียวกันนี้ สปท. ได้มีการประชุมพิจารณารายงานในเรื่องดังกล่าว โดย สปท. ที่เคยเป็นอดีตผู้ว่าฯ ได้คัดค้าน แต่ในที่สุดที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบ ด้วยคะแนน 91 ต่อ27 งดออกเสียง 32 และให้ส่งรายงานความเห็นให้ ครม. รับไปดำเนินการต่อไป
มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้เปิดราคากลางการประกาศประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้าง หาอาวุธปืนเพื่อเป็นรางวัลให้แก่กำนันและผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยมประจำปี 2560 (10 ส.ค.ของทุกปี) โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนในการประเมินผลการปฏิบัติงานกำนัน ผู้ใหญ่บ้านแหนบทองคำ ประจำปี 2560 โดยได้กำหนดวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร 8,246,000 บาท โดยกำหนดราคากลางที่ 7,110,000 บาท เพื่อจัดซื้ออาวุธปืน 3 ชนิด คือ ปืนสั้นลูกโม่ 2 ชนิด และปืนลูกซองยาว รวม 260 กระบอก และยังมีแผนว่าจ้างจัดทำแหนบทองคำ เป็นรางวัลมอบให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม ประจำปี 2560 ด้วย