xs
xsm
sm
md
lg

ใครสมคบคิดกับใครหรือไม่แน่ใจหรือ?

เผยแพร่:   โดย: ไสว บุญมา

โดนัลด์ ทรัมป์ทำสิ่งที่ผมเคยทำนายไว้หลายสัปดาห์มาแล้ว นั่นคือ จะก่อให้เกิดสภาวการณ์รุนแรงบางอย่างในต่างประเทศ เพื่อบิดเบือนความสนใจพร้อมกับสร้างภาพใหม่ให้ตัวเอง นายทรัมป์เผชิญวิกฤตทางการเมืองตั้งแต่วันเข้ารับตำแหน่งทั้งที่พรรครีพับลิกันของเขาคุมรัฐสภาแบบแทบเบ็ดเสร็จ วิกฤตเกิดจากปัจจัยหลายอย่างรวมทั้งพฤติกรรมส่วนตัวซึ่งชาวอเมริกันนับล้านมองว่าชั่วช้า สัปดาห์นี้เขาได้โอกาสเมื่อรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีถล่มประชาชนของตนเองส่งผลให้ชาวซีเรียตายเป็นเบือ นายทรัมป์สั่งกองทัพเรือให้ยิงระเบิดบินจากระยะไกลไปถล่มสนามบินของซีเรีย 59 ลูก กระแสข่าวในอเมริกาบ่งว่า เขาประสบความสำเร็จในด้านการบิดเบือนความสนใจและสร้างภาพให้แก่ตัวเอง นายทรัมป์มักมองอะไรๆ จากในมุมของทฤษฎีสมคบคิด เหตุการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้อาจชี้ว่าเขากับประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียนั่นแหละนักสมคบคิดตัวจริง โดยการรวมหัวกันสร้างภาพบิดเบือนความสนใจจากการใช้ชีวิตของชาวซีเรียเป็นเดิมพันขั้นเริ่มต้นซึ่งไม่เว้นแม้กระทั่งคนชราและลูกเล็กเด็กแดง การรวมหัวกันตบตาประชาชนของชนชั้นผู้นำแบบนี้มีอยู่ทั่วไปและอาจมีในเมืองไทยมานานแล้วด้วย

คงเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า นายทรัมป์กำลังถูกรัฐสภาและสำนักงานด้านรักษาความปลอดภัยภายในประเทศสอบสวนอย่างเคร่งเครียดเรื่องการถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับนายปูตินในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง นายปูตินถูกกล่าวหาว่าพยายามช่วยนายทรัมป์เพราะเกลียดนางฮิลลารี คลินตันแบบเข้ากระดูกดำและนายทรัมป์เป็นมิตรกับรัสเซียมานานจากการทำธุรกิจกับชาวรัสเซียซึ่งอาจเป็นสายลับหรือพรรคพวกของนายปูติน ต่างกับนักการเมืองทั่วไปในอเมริกาซึ่งมักมองว่านายปูตินเป็นปฏิปักษ์บนเวทีโลก นายทรัมป์กลับยกย่องนายปูตินเป็นประจำและมักประกาศว่าจะทำงานร่วมกันได้

ประเด็นสำคัญจากเหตุการณ์ในซีเรียคือ นายปูตินกับนายทรัมป์พยายามร่วมมือกันบิดเบือนความสนใจหรือไม่

จริงอยู่รัสเซียประณามนายทรัมป์ที่ส่งระเบิดบินไปถล่มสนามบินของซีเรียซึ่งสหรัฐฯ จับได้ว่าส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดเคมีฆ่าชาวซีเรีย แต่เป็นไปได้ไหมว่าการประณามนั้นต่างรู้กันว่าทำเพียงเพื่อเป็นพิธี ข้อมูลเหล่านี้มองได้ว่าเป็นตัวชี้บ่งถึงการสมคบคิดกัน

● ในกระบวนการสอบสวนเรื่องข้อกล่าวหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนายทรัมป์กับนายปูติน มีรายงานการพบกันลับๆ บนเกาะเล็กๆ ในมหาสมุทรอินเดียระหว่างคนของนายทรัมป์กับของนายปูตินเพื่อเปิดช่องทางติดต่อกันโดยทางลับเฉพาะระหว่างผู้นำทั้งสอง

● นายทรัมป์ต่อต้านการโจมตีซีเรียมาตลอดดังจะเห็นได้จากทวีตที่เขาส่งออกไปเมื่อสมัยยังไม่เป็นประธานาธิบดี

● ย้อนไปหลายปีก่อน รัฐบาลซีเรียถูกมหาอำนาจสั่งให้ทำลายอาวุธทำลายล้างสูงรวมทั้งอาวุธเคมี หลังจากรัฐบาลใช้อาวุธชนิดนั้นฆ่าประชาชนของตนเองในการทำสงครามกลางเมืองกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาล รัสเซียรับภาระเป็นตำรวจคอยติดตามความคืบหน้าของการทำลายอาวุธดังกล่าว และต่อมาได้ให้คำรับรองว่าซีเรียได้ทำลายอาวุธเหล่านั้นหมดแล้ว เหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนแสดงว่ารัสเซียจงใจโกหก รัสเซียมีข้อมูลสารพัดเนื่องจากส่งทหารจำนวนมากไปประจำการอยู่ในซีเรีย

● ตามรายงาน ทหารอเมริกันมีข้อมูลจากการจารกรรมทำให้รู้ว่าซีเรียใช้สนามบินที่ถูกถล่มนั้นส่งอาวุธเคมีไปโจมตีประชาชน ในสนามบินแห่งนั้นมีทหารรัสเซียประจำการอยู่ ฉะนั้น ทหารรัสเซียน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวในสนามบิน แต่ทำไมพวกเขาไม่ห้ามเมื่อทหารซีเรียเตรียมส่งอาวุธเคมีไปถล่มฝ่ายต่อต้าน หรือทหารรัสเซียนั่นแหละช่วยทหารซีเรียทำแล้วส่งข่าวไปบอกอเมริกา?

● รัฐบาลอเมริกันส่งข่าวไปให้รัฐบาลรัสเซียว่าตนกำลังจะโจมตีสนามบินนั้นก่อนเวลาโจมตี 1 ชั่วโมง ทั้งนี้เพื่อป้องกันผลกระทบต่อทหารรัสเซียซึ่งรีบอพยพออกไปจากสนามบินทันที รัสเซียคงบอกซีเรียให้เตรียมตัวขนย้ายเครื่องบิน อาวุธและของที่ตนคิดว่ามีค่าออกไปด้วย รายงานข่าวบ่งว่าระเบิดบินโทมาฮอก 59 ลูกของอเมริกาฆ่าทหารซีเรียได้เพียง 9 คน พวกที่ตายคงเป็นทหารเกณฑ์ หรือยาม หรือใครก็ตามที่รัฐบาลซีเรียมองว่ามีค่าต่ำมาก

● ฝ่ายทหารซีเรียไม่ยิงอาวุธต่อสู้ระเบิดบินของอเมริกาเพราะอาวุธชนิดก้าวหน้านั้นอยู่ในความควบคุมของทหารรัสเซีย นายปูตินสั่งทหารรัสเซียมิให้ช่วยทหารซีเรียยิงระเบิดบินของอเมริกาเพื่อป้องกันสนามบิน

ฉะนั้น เป็นไปได้ไหมที่นายปูตินกับนายทรัมป์จะสมคบคิดกันเล่นละครลวงโลกเพื่อบิดเบือนความสนใจจากปัญหาการเมืองของนายทรัมป์? เป็นไปได้แน่นอนและอาจเป็นไปได้สูงด้วยซ้ำ ทั้งนี้เพราะทั้งสองคงตระหนักดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากการสอบสวนในอเมริกาสรุปว่า พวกเขาสมคบคิดกันในหลายเรื่องมานาน รวมทั้งการช่วยให้นายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งแบบแทบเหลือเชื่อ

จากมุมมองนี้ รัฐบาลซีเรียถูกใช้เป็นเครื่องมือของผู้นำชั่วช้าสองมหาอำนาจ กระบวนการอาจเริ่มด้วยนายปูตินซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของรัฐบาลซีเรียหลอกให้รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีคนของตนเอง ส่วนชาวซีเรียที่เสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นผู้โชคร้ายที่ไปอยู่ตรงเป้าหมายของอาวุธ หลังจากการโจมตี รายงานบ่งว่าสภาวการณ์อาจเปลี่ยนเร็วมากหากมองจากการตอบโต้กันด้วยวาจาระหว่างสองมหาอำนาจ หรืออาจจะไม่เปลี่ยนเลยก็ได้หากมองถึงนัยสำคัญเนื่องจากการตอบโต้กันนั้นเป็นการเล่นละครอีกฉากหนึ่ง อีกไม่กี่วันรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกันจะไปเยือนรัสเซีย หลังจากนั้น อาจมีสัญญาณที่พออ่านได้ว่านายทรัมป์กับนายปูตินเล่นละครลวงโลกหรือไม่ แต่ก็อีกนั่นแหละ คนพวกนี้อาจมีอะไรซ่อนไว้ซึ่งคนทั่วไปไม่มีทางรู้

ฉะนั้น มนุษย์เดินดินอย่างเราจำเป็นต้องใช้วิธิฟังหูไว้หูเมื่อฟังและดูชนชั้นผู้นำทำอะไร เรื่องนี้รวมทั้งการฟังและดูชนชั้นผู้นำไทยด้วย เท่าที่ผ่านมา มีสัญญาณที่ชี้บ่งว่าพวกเขาอาจสมคบคิดกันเล่นละครตบตาพวกเรามาตลอด การปล่อยบางคดีให้หมดอายุความและการไม่ติดตาม หรือทำเรื่องใหญ่ๆ หลายเรื่องให้คืบหน้ามองได้ว่าเป็นสัญญาณของการสมคบคิด
กำลังโหลดความคิดเห็น