xs
xsm
sm
md
lg

'อ.วีรพันธุ์'กางแผนที่ฉบับเขมรมัดบ่อนอยู่เขตไทย - หวั่นซ้ำรอยเขาพระวิหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - “อ.วีรพันธุ์”อดีตคณบดี คณะโบราณคดี ม.ศิลปากร ลงมือจัดทำวิดีโอ โชว์หลักฐานให้ดูชัดๆ แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชาใช้อ้างอิงขึ้นศาลโลกถึง 2 ครั้ง ระบุชัดพื้นที่สร้าง“บ่อนกาสิโน”ด่านช่องสายตะกู อยู่ในเขตไทย ลั่นทหารใหญ่ไปประชุมเคยถามเขมรไหมว่าตกลงจะใช้แผนที่ไหนอ้างอิงกันแน่ ด้าน "วีระ" เผยการตั้งบ่อนบนพื้นที่อ้างสิทธิหวังไม่ต้องเสียภาษีให้ทั้ง 2 ประเทศ พร้อมจับตาทางการไทยจะดำเนินการอย่างไร หลังกำหนดเปิดบ่อน 7 เม.ย.นี้ หวั่นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเขาพระวิหาร หากไม่ทักท้วง

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา อาจารย์วีรพันธุ์ มาไลยพันธุ์ อดีตคณบดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้โพสต์คลิปวีดีโอ บนเฟซบุ๊ก“Veerapan Maleipan”เพื่อแสดงหลักฐานให้เห็นว่า บ่อนกาสิโนของเขมร ที่บริเวณด่านสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ สร้างนอกเขตแดนประเทศกัมพูชา

โดยอ.วีรพันธุ์ ได้นำแผนที่ 1:200,000 ที่กัมพูชาใช้อ้างสิทธิเขตแดนประเทศ บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ต่อศาลโลกถึง 2 ครั้งมาแสดง ซึ่งจะเห็นชัดเจนว่าบริเวณที่ตั้งบ่อนกาสิโนดังกล่าวอยู่ในเขตไทย และเมื่อนำมาวางซ้อนทับกับแผนที่ L7018 ที่ไทยใช้อ้างอิง ปรากฏว่า ที่ตั้งของบ่อนกาสิโน ตั้งอยู่ชิดใกล้เส้นเขตแดน ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน

จากที่ได้รวบรวมหลักฐาน และข้อมูลแผนที่แนวเขตของทั้งสองประเทศ ทำให้มั่นใจว่า บ่อนกาสิโนแห่งนี้ อยู่ในเขตพื้นที่ทับซ้อน จึงไม่สามารถก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆได้

ก่อนหน้านี้ อ.วีรพันธุ์ ได้โพสต์ถึงกรณีนี้ว่า ทหารใหญ่ไปประชุม เคยถามคนเขมรไหมว่า ใช้แผนที่อะไรอ้างเขตแดนประเทศ ไอ้บ่อน - ตลาด - โรงแรม ที่มาสร้าง มัน อยู่ในเขตประเทศไทย

ขณะที่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้โพสต์ข้อความและคลิปบนเฟซบุ๊ก Veera Somkwamkid เรื่องโจทย์สร้างสมดุล "การพัฒนาความมั่นคง" ซึ่งนายวีระ ระบุว่าได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ ว่านายทุนกัมพูชาเข้ามาสร้างบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ เมื่อปลายปีก่อน โดยตั้งข้อสังเกตว่าบ่อนแห่งนี้อาจตั้งอยู่ในพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทั้งไทยและกัมพูชาต่างอ้างสิทธิ์ และเป็นพื้นที่ที่ยังไม่สามารถตกลงปักปันเขตแดนกันได้

หากพื้นที่นี้อยู่ในพื้นที่ทับซ้อนจริง การก่อสร้างบ่อนกาสิโนก็จะขัดกับ“บันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ปี 2543” หรือที่เรียกว่า “เอ็มโอยู 2543”ที่ห้ามทั้งสองฝ่ายก่อสร้าง หรือเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศในพื้นที่อ้างสิทธิ์

สาเหตุที่พยายามตรวจสอบการก่อสร้างบ่อนกาสิโนในครั้งนี้ นายวีระ บอกว่าเกิดจากความกังวลว่าไทยอาจเสียเปรียบในการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนบริเวณที่มีการสร้างบ่อน หรืออาจจะเรียกว่าเสียดินแดนก็ได้ เหมือนดังเช่นกรณีเขาพระวิหาร ชายแดนด้านจังหวัดศรีสะเกษ ที่เป็นประเด็นก่อนหน้านี้ ซึ่งกัมพูชามีการสร้างตลาด และชุมชนในพื้นที่พิพาท จนสุดท้ายกลายเป็นข้อได้เปรียบในการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดน

สำหรับคลิปที่ นายวีระ นำมาโพสต์ นั้นเป็นคลิปการลงพื้นที่ของ "ทีมล่าความจริง" พบว่าหน่วยงานภาครัฐใน จ.บุรีรัมย์ ได้มีการก่อสร้างถนน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยเฉพาะสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ทั้งไฟฟ้า และน้ำประปา รวมถึงเตรียมขอใช้พื้นที่กับทางอุทยานแห่งชาติตาพระยา เพื่อสร้างตลาดในเขตผ่อนปรน รองรับกับการเปิดบ่อนกาสิโน แห่งนี้ด้วย

ปัจจุบันบรรยากาศการค้าบริเวณจุดผ่อนปรนชายแดนด้านนี้เป็นไปอย่างคึกคัก ทำให้การตรวจสอบพื้นที่การก่อสร้างบ่อนกาสิโนของ นายวีระ และพวกสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง รวมถึงกลุ่มผู้ค้าในตลาดเขตผ่อนปรนด่านช่องสายตะกู เนื่องจากเกรงว่าการขุดคุ้ยของนายวีระ อาจนำมาซึ่งความขัดแย้ง กระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และทำลายบรรยากาศการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ

ทั้งนี้บ่อนกาสิโน ดังกล่าว มีกำหนดการเปิดให้นักเสี่ยงโชคเข้าไปใช้จ่ายและหาความสำราญในวันที่ 7 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงใกล้เคียงกับเทศกาลสงกรานต์พอดี ทำให้ขณะนี้ได้มีนักธุรกิจในพื้นที่ เข้าไปรับสัมปทานเส้นทางเพื่อนำนักพนันเข้าไปในบ่อนกาสิโนเรียบร้อยแล้ว มีการขยายถนน และสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อรองรับนักพนันและนักท่องเที่ยว

จึงต้องจับตาว่าฝ่ายทางการไทยจะดำเนินการต่อเรื่องนี้อย่างไร เพราะหากปล่อยเลยตามเลย ให้ทางฝ่ายกัมพูชาเปิดบ่อนกาสิโน โดยไม่มีการทักท้วง ก็จะมีโอกาสซ้ำรอยเหมือนกรณีเขาพระวิหาร ที่เมื่อเกิดกรณีพิพาทเรื่องดินแดน ต้องขึ้นศาลโลก ไทยก็ตกอยู่ในฝ่ายเสียเปรียบที่ปล่อยให้ฝ่ายกัมพูชา ยึดครองพื้นที่ สร้างสิ่งปลูกสร้าง บนพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว โดยไม่มีการทักท้วงตั้งแต่ต้น

*** "วีระ" ชี้ตั้งบ่อนบนพื้นที่อ้างสิทธิหวังฟรีภาษี

ด้านนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า หลายคนสงสัยทำไมบ่อนต้องมาตั้งอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน โดยกัมพูชาเองบอกกับประชาชนว่าบ่อนไม่ได้อยู่ในเขมร ขณะที่ฝ่ายไทยกลับบอกเป็นของกัมพูชา แต่ก็ไม่มีการพิสูจน์ ไม่มีหลักฐานที่ยอมรับได้ และเมื่ออยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ก็ไม่ต้องเสียภาษีให้กับทั้ง 2 ประเทศ ใครลงทุนได้ค่าต๋งเต็มๆ แต่อย่าลืมว่าการที่บ่อนแห่งนี้จะมาอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนได้มันจะต้องได้ไฟเขียว หรือการหรี่ตาจากผู้มีอำนาจของทั้ง 2 ประเทศ เพราะไม่เช่นนั้นจะมาสร้างได้อย่างไร

"ตรงนี้มันก็จะตอบคำถามว่า ตั้งแต่ไทยไปลงนาม MOU 43 จนถึงปัจจุบัน ทำไมถึงไม่ไปถึงไหน ตลอดแนวชายแดนยังคงมีปัญหาอยู่ ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปประชาชนไทยและกัมพูชาเสียประโยชน์ เพราะภาษีไม่ได้เข้าประเทศ คนไทยที่เคยอยู่ตรงนั้นแล้วถูกกัมพูชาไล่ออกมาก็กลับเข้าไปทำประโยชน์ไม่ได้ กัมพูชาก็เหมือนกัน ถ้าเขาจะเอามาทำบ่อนเข้าก็ไล่คนของเขาออก แล้วพื้นที่อย่างช่องสายตะกู ช่องจอม ช่องสะงำ ที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ที่ตนโดนกัมพูชาจับกุมตรงนั้นเป็นจุดที่ผ่านของเถื่อนใหญ่ที่สุด ทั้งก๊าซหุงต้มจากประเทศไทยไปกัมพูชา ทั้งโค กระบือ ที่หนีภาษี ข้าว และพืชผลต้องห้าม จากกัมพูชา มาสู่ไทย รวมทั้งการนำเข้าคนผ่านแดนอย่างผิดกฏหมาย"

"นี่คือปัญหาเป็นภัยต่อความมั่นคง แต่ผมสงสัยว่าผมเปิดข้อมูลถึงขนาดนี้ทำไมรัฐบาลไทยกลับพยายามจะปกปิด พยายามที่จะปิดปากผม พยายามที่จะไม่ยอมไปพิสูจน์ ให้คนไทยทั้งประเทศยังงงกันอยู่ทุกวันว่ามันเป็นอะไรกันนักหนาเนี่ยพื้นที่ตรงนี้ และตลอดแนวชายแดน ก็ผลประโยชน์ตรงนี้ไง ผมถึงบอกว่าประชาชนไทยและกัมพูชาไม่ได้ประโยชน์ แต่ผู้มีอำนาจทั้ง 2 ประเทศ ผมเชื่อว่าได้ประโยชน์ บ่อนนี่สมมุตินักธุรกิจไปลงทุนหมื่นล้าน เขาไม่ต้องเสียภาษีให้กัมพูชาและไทย กำไรที่เกิดขึ้นจากนักการพนันที่แห่เอาเงินเข้าไปถมในบ่อนปีนึงผมว่าหลายพันล้าน และผมเชื่อว่าดูดเงินจากคนไทยมากที่สุด เพราะคนกัมพูชาไม่เข้าไปหรอก เพราะมันไกลจากเมืองของเขามาก แต่มันติดกับประเทศไทยเลย ก็คือเดินออกจากจุดผ่านแดนก็เข้าบ่อนเลย" นายวีระ กล่าว

นายวีระ กล่าวต่อว่า การเดินทางเข้าสู่บ่อนจากไทยสามารถขึ้นรถได้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขึ้นฟรี มีบริการน้ำ ผ้าเย็น อาหารกล่องบนรถ จนถึงกาสิโน ผู้เล่นบางคนไม่ต้องถือเงินสดไป เมื่อไปถึงให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ขอแลกชิพแล้วทำสัญญา ถ้าเล่นได้บ่อนได้ 10% ถ้าเล่นขาดทุนก็ต้องจ่ายบ่อน 10% ถ้าเบี้ยวตาย โดยมีพวกยิปซิปเป็นนักเลงคุมบ่อน ซึ่งตนรู้จักคนพวกนี้ภายในเรือนจำเปรย์ซอว์ ประเทศกัมพูชา มีอดีตนักมวยชาวไทยซึ่งต้องโทษ 20 ปี ในข้อหาอุ้มฆ่าได้เล่าให้ตนฟัง โดยนักการพนันที่เบี้ยวจะถูกคนเหล่านี้ตามไปเก็บ นี่เป็นปัญหาอาชญากรรม และที่สำคัญบ่อนตามแนวชายแดนนั้นพบว่าคนที่เข้าไปส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ โดยเฉพาะครู และนักธุรกิจ ซึ่งข้าราชการเมื่อเล่นการพนันเสีย พอหน้ามืดมันก็ต้องทำทุจริต ตนถึงบอกว่าการที่มีบ่อนติดชิดประเทศมันมีผลเสียอย่างไร ซึ่งหากบ่อนที่ช่องสายตะกูนี้เปิดในวันที่ 7 เมษายนนี้จริง ก็หมายถึงไทยยอมรับในดินแดนของกัมพูชา ถ้าไม่มีการคัดค้าน

เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ยังเล่าถึง

ส่วนเหตุการณ์ที่ถูกกลุ่มสามล้อต่อต้านขณะเข้าไปสำรวจพื้นที่นั้น นายวีระ กล่าวว่า มีตำรวจจากสถานีตำรวจบ้านกรวด พาให้ตนเข้าไปพักในรีสอร์ท ซึ่งตนก็แปลกใจว่าทำไมถึงให้ตนเข้าพักที่นี่ เพราะเชื่อว่าอาจจะถูกปิดประตูตีแมวแน่ และก็เจอจริงๆ ตนเข้าพักตอน 4 ทุ่ม ไม่มีใครทราบว่าพักที่ไหน แล้วกลุ่มคนที่มาคัดขวางไม่ให้ตนออกจากรีสอร์ทจะทราบมาจากใคร ถ้าไม่ใช่จากตำรวจ 2 คนนั้น แล้วตำรวจไปรายงานใคร แล้วใครที่มีศักยภาพในการเกณฑ์คน ตนไม่ได้กล่าวหา แต่มีสายข่าวแจ้งว่า มีการจ่ายเงินให้หัวละ 500 บาท ซึ่งจริงหรือไม่ตนไม่ทราบได้ โดยแบ่งคนเป็น 2 จุด เพื่อสกัดตนทั้งที่รีสอร์ท และที่สถานีตำรวจบ้านกรวด เพราะกลัวตนจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายกเทศมนตรีตำบลจันทบเพชร และทหาร ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ม.157 ซึ่งหากพบว่าผิดจริงก็มีโทษถึงประหารชีวิต ตามประมวลกฏหมายอาญา ม.119 การทำให้อธิปไตยบางส่วนหรือทั้งหมดตกเป็นของรัฐต่างชาติ

นายวีระ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องแปลกที่รัฐบาลไม่เอาหลักฐานมาเปิดเผย ทำไมทหาร ฝ่ายความมั่นคง กระทรวงการต่างประเทศ กลับปฏิเสธและไม่ยอมไปพิสูจน์ ยิ่งทำให้ยิ่งสงสัยหนักขึ้นไปอีกว่ามันต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น ที่จริงเขามีข้อมูลเหนือเราแต่กลับไม่ใช้สิทธิ์แล้วกลับเบี่ยงเบนประเด็นหาว่าตนไปสร้างความขัดแย้งในพื้นที่ ไปก่อสงคราม ซึ่งตนไปกัน 4 - 5 คนจะไปก่อสงครามได้หรือ แถมขณะนี้ยังมีการนำข่าว ม.44 จัดการจราจรมากลบด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น