สู้...หยุดแล้ว...สู้ใหม่ สัญญาณรบจากทักษิณ

คล้อยหลังเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่บางพลัดนำหนังสือแจ้งประเมินภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา ประจำปี 2549 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมเบี้ยปรับเป็นเงินเพิ่มเติมรวม 17,629 ล้านบาท ไปติดหน้าบ้านจันทร์ส่องหล้าไม่ถึง 48 ชั่วโมง นายทักษิณ ก็โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Thaksin Shinawatra ตอบโต้รัฐบาล คสช.ว่าใช้ “อภินิหารทางกฎหมาย” เล่นงานเขาในกรณีภาษีการขายหุ้นชินคอร์ป

เป็นการเคลื่อนไหวครั้งแรกในรอบหนึ่งปีกว่า หลังจากแพร่ภาพออกอากาศผ่านยูทูปเมื่อกลางเดือนสิงหาคม ปี 2558 ปลุกระดมมวลชนให้ต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญ ประสานกับการออกแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

“หากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกมาก็ถือว่า เลวร้ายที่สุด เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ จึงอยากบอกพี่น้องผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลาย ยึดมั่นในหลักการอะไรที่ไม่เข้าตามหลักการนี้ไม่เอา” นายทักษิณ กล่าวในคลิปวิดีโอที่ว่ากันว่า เป็นการพูดในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งที่ประเทศฟินแลนด์ ซึ่งมีคนเสื้อแดงสายต่างประเทศเข้าร่วมงาน

หลังจากวันลงประชามติวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ที่คนไทยผู้มีสิทธิออกเสียงลงประชามติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “เรือแป๊ะ” อย่างท่วมท้น ซึ่งเท่ากับการโหวตให้คะแนนไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.นายทักษิณ ก็เงียบหายไปเลย

นี่คือสไตล์ของทักษิณ เมื่อไรที่เงียบ คือกำลังเจรจาต่อรองมีการพูดคุยกับกลุ่มที่กุมอำนาจสูงสุด และการเจรจายังไม่จบ

เมื่อไรที่ขยับตัวเคลื่อนไหวออกแถลงการณ์ เผยแพร่วิดีโอคลิป นั่นคือ คุยจบแล้ว และล้มเหลวไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ จึงแสดงท่าทีส่งสัญญาณว่าจะสู้ต่อ

ถึงวันนี้ความขัดแย้งในสังคมไทยอันเนื่องมาจาก ทักษิณ ชินวัตร ดำเนินมาครบ 12 ปีเต็ม หากนับจากวันที่ สนธิ ลิ้มทองกุล ใช้เวทีเมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร จุดเทียนแห่งปัญญา ปลุกมวลชนให้ลุกขึ้นมาโค่นล้มระบอบทักษิณ เมื่อ พ.ศ. 2548

ตลอดเวลา 12 ปี หลายๆ ครั้งที่ทักษิณ ประกาศว่า เขาพอแล้ว เขาหยุดแล้ว เขาจะยุติบทบาททางการเมือง หลายๆ ครั้งที่มีข่าวปล่อย ข่าวลือเล็ดรอดออกมาว่า กำลังมีการเจรจาต่อรองกับขั้วอำนาจในขณะนั้น ในประเทศที่สามเพื่อนิรโทษกรรม และคืนทรัพย์สินให้เขา แลกเปลี่ยนกับการยุติความเคลื่อนไหว แต่ทักษิณก็ไม่เคยหยุดเคลื่อนไหว

หลังชัยชนะของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งปี 2554 ทักษิณผ่านปราศรัยวิดีโอลิงก์เข้ามาในที่ชุมนุมคนเสื้อแดงรำลึกเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองครบ 2 ปีที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 บอกให้คนเสื้อแดงกลับบ้าน ไม่ต้องมาติดตามเขาอีกต่อไป

“พี่น้องทำมาเยอะแล้ว แต่เมื่อทำมาถึงจุดหนึ่ง ก็หมายความว่า เหมือนกับผมจะว่ายน้ำ ผมจะข้ามฝั่ง พี่น้องแจวเรือพาผมข้ามฝั่ง มาถึงฝั่งเรียบร้อยแล้ว ผมต้องเดินทางขึ้นภูเขา พี่น้องจะแบกเรือมาขึ้นภูเขาทำไม ถึงเวลาที่ผมจะขอนั่งรถขึ้นเขา แต่ผมไม่เคยลืมคนที่ขับเรือมาส่งผม ...”

หลังจากนั้นอีกปีเศษ ทักษิณก็สั่งให้พรรคเพื่อไทยผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับตัวเองอย่างเร่งรีบ ลงมติผ่านวาระ 3 ตอนตีสี่ของวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2556

ด้วยความมั่นใจว่า ตัวเองคุมอำนาจทุกภาคส่วนได้อย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งในที่สุดนำไปสู่การชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประชาชนที่กดดันให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ต้องยุบสภาฯ และนำไปสู่การยึดอำนาจของ คสช.เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

พิจารณาจากพฤติกรรมในช่วง 12 ปีที่ผ่านมาของนายทักษิณ ที่เขาบอกว่า เขาหยุดแล้ว แต่ คสช.ไม่ยอมหยุด ในเฟซบุ๊กล่าสุด จึงไม่ใช่ทักษิณหยุดแล้ว คือ หยุดพักเพื่อเจรจาต่อรอง เมื่อเจรจาล้มเหลวไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ จึงลุกขึ้นมาสู้ใหม่

นอกจากเรื่องคดีความ เรื่องทรัพย์สินที่ถูกยึดไปซึ่งเป็นเรื่องเก่า ตอนนี้ทักษิณยังมีเรื่องถูกเก็บภาษี 17,000 ล้านบาท แต่เรื่องใหญ่ที่สุดคือ คดีจำนำข้าวที่น้องสาวเป็นจำเลย กำลังจะถึงวันพิพากษาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

จะให้ทักษิณอยู่เฉยๆ หยุดแล้ว เลิกแล้วได้อย่างไร