“สอดแนมการเมือง”
“โดย ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ชาติไทย-นับแต่โบราณตราบปัจจุบัน มีทั้งคนรักชาติและพร้อมตายเพื่อชาติ กับคนไม่รักชาติและพร้อมขายชาติ!
ประวัติศาสตร์ชาติไทย จึงมีทั้งเรื่องราวของคนไทยโกงชาติและขายชาติ เป็นไส้ศึกเปิดประตูเมืองให้ต่างชาติ เข้ามาฆ่าคนไทย ยึดและเผาชาติบ้านเมืองจนวายป่วง
และเรื่องราวของความโชคดี ที่ชาติไทยมีพระมหากษัตริย์ไทย-ทหารไทย-ชาวไทยรักชาติและกล้าหาญ ยอมเสียสละทั้งชีวิตและเลือดเนื้อ ต่อสู้กับข้าศึกศัตรูต่างชาติและคนไทยขายชาติ จนกอบกู้ชาติบ้าน
เมืองกลับมาได้ถึงสองครั้งสองครา นั่นคือ
ยุคสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ ยุคสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชไงล่ะ
มาถึงยุคทุนสามานย์ยึดครองชาติไทยเต็มสูบ ต่างชาติไม่ต้องใช้กองทัพอันเกรียงไกร ยกพลบุกปล้นชาติไทยให้ต้องบาดเจ็บล้มตายอีกแล้ว เพราะมีกลุ่มคนไทยไม่รักชาติและพร้อมขายชาติ คนไทยกลุ่มนี้ใช้เงินและการโกงยึดอำนาจรัฐไทยผ่านการเลือกตั้งสกปรก ตามระบอบประชาธิปไตยลอกแบบชาติตะวันตก
กลุ่มคนไทยผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยเงินเหล่านี้ โกงชาติบ้านเมืองและสมคบกับต่างชาติ ร่วมกันปล้นชาติและประชาชนไทย ทั้งลับและเปิดเผยมาตลอด
รัฐบาลชั่วโกงชาติจนกลุ่มคนไทยผู้รักชาติทนไม่ไหว ต้องชุมนุมขับไล่ครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่คณะทหารจะทำรัฐประหารโค่นรัฐบาลชั่วลง แต่จนแล้วจนรอด..คณะรัฐประหารก็ไม่ยอมปฏิรูปชาติไทย เพื่อป้องกันคนชั่วไม่ให้เข้ามายึดอำนาจรัฐซ้ำๆซากๆ
ชาติไทยจึงจมปลักอยู่ในสภาพร่อแร่ๆ เดี๋ยวมีรัฐบาลยึดอำนาจรัฐด้วยเงินที่โกงชาติ เดี๋ยวมีรัฐบาลยึดอำนาจรัฐด้วยปืนที่ไม่ปฏิรูปชาติ ทั้งสองกลุ่มคนที่ไม่รักชาติเหล่านี้ ได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาปกครองชาติโดยตลอด
น่าอนาถใจที่ผู้ยึดอำนาจรัฐทั้งที่ใช้เงินและใช้ปืน ไม่ทำดีให้ชาติและประชาชนอย่างแท้จริงเลย
กลายเป็นว่า..นักการเมืองที่ไม่รักชาติ ใช้ชาวไทยผู้รักชาติเป็น “เหยื่อ” เข้ายึดอำนาจรัฐเพื่อโกงชาติ!
กลายเป็นว่า..คณะรัฐประหารที่ไม่รักชาติ ใช้ชาวไทยผู้รักชาติเป็น “เหยื่อ” เข้ายึดอำนาจรัฐเพื่อปฏิบัติการ “สมบัติชาติผลัดกันโกง”!
ทำให้การเมืองไทยไร้คุณภาพ วนเวียนอยู่กับการเลือกตั้งสกปรก-การรัฐประหารไม่ปฏิรูปชาติ-บางครั้งได้นายกฯจากการเลือกตั้ง ที่โกงชาติมโหฬารอย่างหน้าด้านๆ บางคราก็ได้ผู้นำคณะรัฐประหาร ที่ไม่ปฏิรูปชาติ..แถมยังบ้าอำนาจและโกงชาติอีกด้วย
หลายครั้งที่ “ผู้นำ” มาจากการเลือกตั้งและรัฐประหาร มีท่าทีว่าจะดี จะนำความหวังเจิดจ้าให้ชาติและประชาชน แต่แล้วก็กลับกลายเป็นผู้นำและรัฐบาล “ท่าดีทีเหลว” (ว่ะ)
เรียกว่า..นักการเมืองไทย ทั้งมาจากการเลือกตั้งสกปรกและรัฐประหาร ต่างก็เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัวและพวกพ้อง ไร้คุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรม ไร้ความซื่อสัตย์สุจริต ไม่รักชาติรักประชาชนอย่างแท้จริง ฯลฯ
คนในวงการเมืองของชาติไทยส่วนใหญ่ จึงมิได้ทำการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของ ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์และประชาชน!!!
แปลกแต่จริง! ทั้งๆที่ประชาชนผู้รักชาติไทยทุกยุค โดยส่วนใหญ่ต้องเจอะเจอแต่นักการเมืองโกงเลือกตั้ง-โกงชาติ และคณะรัฐประหารแบบ “สมบัติชาติผลัดกันโกง”
แต่ประชาชนไทยผู้รักชาติ ยังคงมีจิตใจไม่ย่อท้อ-ไม่หวั่นไหว อีกทั้งยังคงจิตใจเสียสละอันยิ่งใหญ่ไว้ได้อย่างมั่นคง ทุกครั้งที่ชาติเผชิญภยันตรายคุกคาม ทั้งจากกลุ่มคนไทยชั่วและต่างชาติ ประชาชนผู้รักชาติเหล่านี้ไม่เคยลังเล ที่จะออกมาปกป้องผลประโยชน์ชาติและประชาชน! ปกป้องสถาบันศาสนาและพระมหากษัตริย์!
แม้ประชาชนผู้รักชาติและกล้าหาญ ที่ต่อสู้เพื่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ จะถูกกลุ่มนักการเมืองทั้งสองรูปแบบ ฉกฉวยใช้เป็น “สะพานเดินข้ามไปสู่อำนาจ” ครั้งแล้วครั้งเล่า โดยไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ จากผู้มีอำนาจทั้งสองรูปแบบ
แถมประชาชนผู้รักชาติจำนวนหนึ่ง ที่ต่อสู้เพื่อชาติยังถูกรัฐบาลชั่วบางคณะ ยัดข้อกล่าวหาส่งเดชให้เป็น “ภัยต่อความมั่นคงของชาติ” บ้างล่ะ! เป็น “พวกไร้เหตุผล” บ้างล่ะ! เป็น “พวกดื้อไม่ฟังคนอื่น” บ้างล่ะ! เป็น “พวกแก๊งข้างถนน” บ้างล่ะ! เป็น “พวกผู้ก่อการร้ายสากล” บ้างล่ะ! เป็น “พวกกบฏต่อรัฐบาล(ที่ชั่วแต่อ้างว่าดี)” บ้างล่ะ! เป็น “พวกไม่ยอมปรองดอง(กับคนชั่ว)กับใคร” บ้างล่ะ! ฯลฯ
จะว่าไปแล้วก็น่าขำ..ที่ผู้มีอำนาจทั้งสองรูปแบบ ไม่เคยย้อนกลับไปดูความเป็นจริงที่ว่า
ประชาธิปัตย์-เคยชนะการเลือกตั้งได้เสียงข้างมากนั้น มาจากประชาชนผู้รักชาติลงคะแนนเสียงให้ แต่การบริหารชาติของผู้นำพรรคปชป.มักอ่อนปวกเปียก ไม่ค่อยมีผลงานโดดเด่นเจ๋งเป้ง ในการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ให้ผู้มีรายได้น้อยและคนยากจน ที่เป็นคนส่วนใหญ่อยู่ดีกินดีมากขึ้นเท่าที่ควรเลย
ทำให้ “เหลี่ยม” กับพวก ฉวยโอกาส ใช้ทั้งเงิน-การโกง-นโยบายประชานิยม ฯลฯ บุกเข้าไปซื้อและยึดครองกายใจ ของผู้มีรายได้น้อยและคนยากจน ได้มากกว่า พรรค ปชป. จน “เหลี่ยม” ชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้น การได้เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งนั้น ก็มีคะแนนเสียงของประชาชนผู้รักชาติลงให้ด้วย เพราะชาวไทยส่วนใหญ่ตอนนั้น เบื่อปชป.และหลงเชื่อคารมโกหกหลอกลวงของ “เหลี่ยม” ที่ว่า “ผมรวยแล้ว-ผมไม่โกง” นั่นเอง
แต่การณ์กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง โดย “เหลี่ยม” ได้เผยตัวตนอย่างล่อนจ้อน ในการเป็นผู้นำชาติที่ “โลภไม่รู้จักพอ” หรือ “รวยแล้วยังโคตรโกง” ทั้งๆที่ “เหลี่ยม” เป็นผู้นำชาติที่รวยมหาศาลอยู่แล้ว แต่ยังกระทำการโกงภาษี-ฟอกเงิน-โกงชาติซ้ำๆซากๆตลอด
ล่าสุด “เหลี่ยม” ถูกทางการเรียกเก็บภาษีและเบี้ยปรับ เป็นเงินมากกว่า 17,000 ล้านบาท จากความไม่โปร่งใสในการขายหุ้นให้ลูกชายและลูกสาว! หลังจากโดนยึดทรัพย์มากกว่า 46,000 ล้านบาท ตกเป็นของรัฐเรียบร้อยไปนานแล้ว!
ยามที่เครือข่าย “เหลี่ยม” เป็นรัฐบาล ก็ทำชั่วด้วยการใช้อันธพาลการเมือง แอบเข่นฆ่าผู้ชุมนุมรักชาติ ที่เห็นต่างจนบาดเจ็บล้มตายมากมาย ยามเป็นฝ่ายค้าน “เหลี่ยม” กับพรรคพวก ก็ใช้ความรุนแรงโค่นล้มรัฐบาลฝ่ายตรงข้าม ถึงขนาดขนอาวุธสงครามออกมาเข่นฆ่า ทหารและประชาชนจนบาดเจ็บล้มตายไปมากมายเช่นกัน
ความชั่วของ “เหลี่ยม” ที่ก่อวิกฤติอันชั่วร้าย ให้ชาติกับประชาชนเกินบรรยาย จึงทำให้พรรค “เหลี่ยม” ถูกยุบถึง 2 ครั้ง! รัฐบาล “เหลี่ยม” และเครือข่าย ถูกคณะทหารทำรัฐประหารถึง 2 ครั้ง!
ขณะที่ประชาชนผู้รักชาติจำนวนหนึ่ง ทั้ง “พธม.” และ “กปปส.” ที่ผ่านการต่อสู้ปกป้องชาติครั้งแล้วเล่า ต้องเดินขึ้นศาลเป็นว่าเล่น! บางส่วนติดคุกตะรางไปเรียบร้อยแล้ว! อีกจำนวนหนึ่งบาดเจ็บล้มตายไปนานแล้ว ฯลฯ
กระทั่งทุกวันนี้..“เหลี่ยม” ก็ยังคงมุ่งมั่น จะยึดอำนาจรัฐไทยผ่านการเลือกตั้ง(สกปรก) ด้วยปฏิบัติการเคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาล “บิ๊กตู่” และ “ล้มเจ้า” ทั้งลับและเปิดเผย เพื่อหวังให้เกิดการเลือกตั้ง(สกปรก)โดยไวในชาติไทย ในขณะที่รัฐบาล “บิ๊กตู่” ทำอะไรคนชั่วเหล่านี้ไม่ได้เท่าที่ควร
แถม “บิ๊กตู่” ที่อยู่ในอำนาจมานานเกือบ 3 ปี แต่ผลงานปฏิรูปชาติในเรื่องสำคัญๆ ก็ยังเดินคืบไปข้างหน้าแบบ “เต่าคลาน-เป็น-วงกลม”..
การเลือกตั้งท้องถิ่นและระดับชาติ ที่ “ใครบางคน” กำลังจะทำ..แน่ใจหรือว่า..จะบริสุทธิ์ยุติธรรมจริง?
แม้จะมีผลงานดีมิใช่น้อย แต่ก็น่าผิดหวังที่รัฐบาล “บิ๊กตู่” ยังปล่อยให้ต้นเหตุปัญหาชาติ ที่ควรแก้ไขให้สำเร็จไปแล้วในหลายเรื่อง - ยังคาค้าง!
จนทำให้คนไทยแบบนี้..ก็แบบรักชาตินี่ไง.. พวกที่เคยเป็นกับพวกที่ยังเป็นกองเชียร์ “บิ๊กตู่” อยู่ข้างเวทีตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จวนจะ 3 ปีในวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 อดตะโกนเสียงดังๆไม่ได้ว่า
“..ลุงตู่โว้ย..ชกหนักๆ ให้เข้าเป้าเป็นชุดหน่อย อย่ามัวออกหมัดชุดชกลมอยู่เลย เดี๋ยวคนดูจะนึกว่าล้มมวยนะลุงงงง..!!!”
“โดย ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ชาติไทย-นับแต่โบราณตราบปัจจุบัน มีทั้งคนรักชาติและพร้อมตายเพื่อชาติ กับคนไม่รักชาติและพร้อมขายชาติ!
ประวัติศาสตร์ชาติไทย จึงมีทั้งเรื่องราวของคนไทยโกงชาติและขายชาติ เป็นไส้ศึกเปิดประตูเมืองให้ต่างชาติ เข้ามาฆ่าคนไทย ยึดและเผาชาติบ้านเมืองจนวายป่วง
และเรื่องราวของความโชคดี ที่ชาติไทยมีพระมหากษัตริย์ไทย-ทหารไทย-ชาวไทยรักชาติและกล้าหาญ ยอมเสียสละทั้งชีวิตและเลือดเนื้อ ต่อสู้กับข้าศึกศัตรูต่างชาติและคนไทยขายชาติ จนกอบกู้ชาติบ้าน
เมืองกลับมาได้ถึงสองครั้งสองครา นั่นคือ
ยุคสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ ยุคสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชไงล่ะ
มาถึงยุคทุนสามานย์ยึดครองชาติไทยเต็มสูบ ต่างชาติไม่ต้องใช้กองทัพอันเกรียงไกร ยกพลบุกปล้นชาติไทยให้ต้องบาดเจ็บล้มตายอีกแล้ว เพราะมีกลุ่มคนไทยไม่รักชาติและพร้อมขายชาติ คนไทยกลุ่มนี้ใช้เงินและการโกงยึดอำนาจรัฐไทยผ่านการเลือกตั้งสกปรก ตามระบอบประชาธิปไตยลอกแบบชาติตะวันตก
กลุ่มคนไทยผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยเงินเหล่านี้ โกงชาติบ้านเมืองและสมคบกับต่างชาติ ร่วมกันปล้นชาติและประชาชนไทย ทั้งลับและเปิดเผยมาตลอด
รัฐบาลชั่วโกงชาติจนกลุ่มคนไทยผู้รักชาติทนไม่ไหว ต้องชุมนุมขับไล่ครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่คณะทหารจะทำรัฐประหารโค่นรัฐบาลชั่วลง แต่จนแล้วจนรอด..คณะรัฐประหารก็ไม่ยอมปฏิรูปชาติไทย เพื่อป้องกันคนชั่วไม่ให้เข้ามายึดอำนาจรัฐซ้ำๆซากๆ
ชาติไทยจึงจมปลักอยู่ในสภาพร่อแร่ๆ เดี๋ยวมีรัฐบาลยึดอำนาจรัฐด้วยเงินที่โกงชาติ เดี๋ยวมีรัฐบาลยึดอำนาจรัฐด้วยปืนที่ไม่ปฏิรูปชาติ ทั้งสองกลุ่มคนที่ไม่รักชาติเหล่านี้ ได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาปกครองชาติโดยตลอด
น่าอนาถใจที่ผู้ยึดอำนาจรัฐทั้งที่ใช้เงินและใช้ปืน ไม่ทำดีให้ชาติและประชาชนอย่างแท้จริงเลย
กลายเป็นว่า..นักการเมืองที่ไม่รักชาติ ใช้ชาวไทยผู้รักชาติเป็น “เหยื่อ” เข้ายึดอำนาจรัฐเพื่อโกงชาติ!
กลายเป็นว่า..คณะรัฐประหารที่ไม่รักชาติ ใช้ชาวไทยผู้รักชาติเป็น “เหยื่อ” เข้ายึดอำนาจรัฐเพื่อปฏิบัติการ “สมบัติชาติผลัดกันโกง”!
ทำให้การเมืองไทยไร้คุณภาพ วนเวียนอยู่กับการเลือกตั้งสกปรก-การรัฐประหารไม่ปฏิรูปชาติ-บางครั้งได้นายกฯจากการเลือกตั้ง ที่โกงชาติมโหฬารอย่างหน้าด้านๆ บางคราก็ได้ผู้นำคณะรัฐประหาร ที่ไม่ปฏิรูปชาติ..แถมยังบ้าอำนาจและโกงชาติอีกด้วย
หลายครั้งที่ “ผู้นำ” มาจากการเลือกตั้งและรัฐประหาร มีท่าทีว่าจะดี จะนำความหวังเจิดจ้าให้ชาติและประชาชน แต่แล้วก็กลับกลายเป็นผู้นำและรัฐบาล “ท่าดีทีเหลว” (ว่ะ)
เรียกว่า..นักการเมืองไทย ทั้งมาจากการเลือกตั้งสกปรกและรัฐประหาร ต่างก็เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัวและพวกพ้อง ไร้คุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรม ไร้ความซื่อสัตย์สุจริต ไม่รักชาติรักประชาชนอย่างแท้จริง ฯลฯ
คนในวงการเมืองของชาติไทยส่วนใหญ่ จึงมิได้ทำการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของ ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์และประชาชน!!!
แปลกแต่จริง! ทั้งๆที่ประชาชนผู้รักชาติไทยทุกยุค โดยส่วนใหญ่ต้องเจอะเจอแต่นักการเมืองโกงเลือกตั้ง-โกงชาติ และคณะรัฐประหารแบบ “สมบัติชาติผลัดกันโกง”
แต่ประชาชนไทยผู้รักชาติ ยังคงมีจิตใจไม่ย่อท้อ-ไม่หวั่นไหว อีกทั้งยังคงจิตใจเสียสละอันยิ่งใหญ่ไว้ได้อย่างมั่นคง ทุกครั้งที่ชาติเผชิญภยันตรายคุกคาม ทั้งจากกลุ่มคนไทยชั่วและต่างชาติ ประชาชนผู้รักชาติเหล่านี้ไม่เคยลังเล ที่จะออกมาปกป้องผลประโยชน์ชาติและประชาชน! ปกป้องสถาบันศาสนาและพระมหากษัตริย์!
แม้ประชาชนผู้รักชาติและกล้าหาญ ที่ต่อสู้เพื่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ จะถูกกลุ่มนักการเมืองทั้งสองรูปแบบ ฉกฉวยใช้เป็น “สะพานเดินข้ามไปสู่อำนาจ” ครั้งแล้วครั้งเล่า โดยไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ จากผู้มีอำนาจทั้งสองรูปแบบ
แถมประชาชนผู้รักชาติจำนวนหนึ่ง ที่ต่อสู้เพื่อชาติยังถูกรัฐบาลชั่วบางคณะ ยัดข้อกล่าวหาส่งเดชให้เป็น “ภัยต่อความมั่นคงของชาติ” บ้างล่ะ! เป็น “พวกไร้เหตุผล” บ้างล่ะ! เป็น “พวกดื้อไม่ฟังคนอื่น” บ้างล่ะ! เป็น “พวกแก๊งข้างถนน” บ้างล่ะ! เป็น “พวกผู้ก่อการร้ายสากล” บ้างล่ะ! เป็น “พวกกบฏต่อรัฐบาล(ที่ชั่วแต่อ้างว่าดี)” บ้างล่ะ! เป็น “พวกไม่ยอมปรองดอง(กับคนชั่ว)กับใคร” บ้างล่ะ! ฯลฯ
จะว่าไปแล้วก็น่าขำ..ที่ผู้มีอำนาจทั้งสองรูปแบบ ไม่เคยย้อนกลับไปดูความเป็นจริงที่ว่า
ประชาธิปัตย์-เคยชนะการเลือกตั้งได้เสียงข้างมากนั้น มาจากประชาชนผู้รักชาติลงคะแนนเสียงให้ แต่การบริหารชาติของผู้นำพรรคปชป.มักอ่อนปวกเปียก ไม่ค่อยมีผลงานโดดเด่นเจ๋งเป้ง ในการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ให้ผู้มีรายได้น้อยและคนยากจน ที่เป็นคนส่วนใหญ่อยู่ดีกินดีมากขึ้นเท่าที่ควรเลย
ทำให้ “เหลี่ยม” กับพวก ฉวยโอกาส ใช้ทั้งเงิน-การโกง-นโยบายประชานิยม ฯลฯ บุกเข้าไปซื้อและยึดครองกายใจ ของผู้มีรายได้น้อยและคนยากจน ได้มากกว่า พรรค ปชป. จน “เหลี่ยม” ชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้น การได้เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งนั้น ก็มีคะแนนเสียงของประชาชนผู้รักชาติลงให้ด้วย เพราะชาวไทยส่วนใหญ่ตอนนั้น เบื่อปชป.และหลงเชื่อคารมโกหกหลอกลวงของ “เหลี่ยม” ที่ว่า “ผมรวยแล้ว-ผมไม่โกง” นั่นเอง
แต่การณ์กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง โดย “เหลี่ยม” ได้เผยตัวตนอย่างล่อนจ้อน ในการเป็นผู้นำชาติที่ “โลภไม่รู้จักพอ” หรือ “รวยแล้วยังโคตรโกง” ทั้งๆที่ “เหลี่ยม” เป็นผู้นำชาติที่รวยมหาศาลอยู่แล้ว แต่ยังกระทำการโกงภาษี-ฟอกเงิน-โกงชาติซ้ำๆซากๆตลอด
ล่าสุด “เหลี่ยม” ถูกทางการเรียกเก็บภาษีและเบี้ยปรับ เป็นเงินมากกว่า 17,000 ล้านบาท จากความไม่โปร่งใสในการขายหุ้นให้ลูกชายและลูกสาว! หลังจากโดนยึดทรัพย์มากกว่า 46,000 ล้านบาท ตกเป็นของรัฐเรียบร้อยไปนานแล้ว!
ยามที่เครือข่าย “เหลี่ยม” เป็นรัฐบาล ก็ทำชั่วด้วยการใช้อันธพาลการเมือง แอบเข่นฆ่าผู้ชุมนุมรักชาติ ที่เห็นต่างจนบาดเจ็บล้มตายมากมาย ยามเป็นฝ่ายค้าน “เหลี่ยม” กับพรรคพวก ก็ใช้ความรุนแรงโค่นล้มรัฐบาลฝ่ายตรงข้าม ถึงขนาดขนอาวุธสงครามออกมาเข่นฆ่า ทหารและประชาชนจนบาดเจ็บล้มตายไปมากมายเช่นกัน
ความชั่วของ “เหลี่ยม” ที่ก่อวิกฤติอันชั่วร้าย ให้ชาติกับประชาชนเกินบรรยาย จึงทำให้พรรค “เหลี่ยม” ถูกยุบถึง 2 ครั้ง! รัฐบาล “เหลี่ยม” และเครือข่าย ถูกคณะทหารทำรัฐประหารถึง 2 ครั้ง!
ขณะที่ประชาชนผู้รักชาติจำนวนหนึ่ง ทั้ง “พธม.” และ “กปปส.” ที่ผ่านการต่อสู้ปกป้องชาติครั้งแล้วเล่า ต้องเดินขึ้นศาลเป็นว่าเล่น! บางส่วนติดคุกตะรางไปเรียบร้อยแล้ว! อีกจำนวนหนึ่งบาดเจ็บล้มตายไปนานแล้ว ฯลฯ
กระทั่งทุกวันนี้..“เหลี่ยม” ก็ยังคงมุ่งมั่น จะยึดอำนาจรัฐไทยผ่านการเลือกตั้ง(สกปรก) ด้วยปฏิบัติการเคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาล “บิ๊กตู่” และ “ล้มเจ้า” ทั้งลับและเปิดเผย เพื่อหวังให้เกิดการเลือกตั้ง(สกปรก)โดยไวในชาติไทย ในขณะที่รัฐบาล “บิ๊กตู่” ทำอะไรคนชั่วเหล่านี้ไม่ได้เท่าที่ควร
แถม “บิ๊กตู่” ที่อยู่ในอำนาจมานานเกือบ 3 ปี แต่ผลงานปฏิรูปชาติในเรื่องสำคัญๆ ก็ยังเดินคืบไปข้างหน้าแบบ “เต่าคลาน-เป็น-วงกลม”..
การเลือกตั้งท้องถิ่นและระดับชาติ ที่ “ใครบางคน” กำลังจะทำ..แน่ใจหรือว่า..จะบริสุทธิ์ยุติธรรมจริง?
แม้จะมีผลงานดีมิใช่น้อย แต่ก็น่าผิดหวังที่รัฐบาล “บิ๊กตู่” ยังปล่อยให้ต้นเหตุปัญหาชาติ ที่ควรแก้ไขให้สำเร็จไปแล้วในหลายเรื่อง - ยังคาค้าง!
จนทำให้คนไทยแบบนี้..ก็แบบรักชาตินี่ไง.. พวกที่เคยเป็นกับพวกที่ยังเป็นกองเชียร์ “บิ๊กตู่” อยู่ข้างเวทีตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จวนจะ 3 ปีในวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 อดตะโกนเสียงดังๆไม่ได้ว่า
“..ลุงตู่โว้ย..ชกหนักๆ ให้เข้าเป้าเป็นชุดหน่อย อย่ามัวออกหมัดชุดชกลมอยู่เลย เดี๋ยวคนดูจะนึกว่าล้มมวยนะลุงงงง..!!!”