**บางทีมันก็น่าเห็นใจเหมือนกัน เพียงแค่เป้าหมายเพื่อเรียกร้องความสนใจ ขอให้ได้เป็นข่าวบ้างเท่านั้นเอง เหมือนกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย กลุ่มหนึ่งที่มี ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สุรสาล ผาสุข อดีต ส.ส.สิงห์บุรี สุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต ส.ส.ลพบุรี สมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี และ นิคม ช่างพินิจ อดีต ส.ส.พิษณุโลก ที่พยายามเปิดตัวหนังสือ "ทำลายจำนำข้าว แต่ฆ่าชาวนา" ที่สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เมื่อวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ขัดขวาง
แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้เหนือความคาดหมาย หากปล่อยเลยตามเลย ให้มีการเปิดตัวหนังสือหรือเปิดทางให้พวกอดีต ส.ส.พวกนี้ได้แถลงข่าวโจมตีการดำเนินคดีกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว การดำเนินคดีกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น้องสาวของทักษิณ ชินวัตร รวมทั้งนักการเมืองคนอื่นๆ ในพรรคเพื่อไทย หากปล่อยให้พูดเจื้อยแจ้ว แบบนี้สิน่าแปลก มันรับรู้กันล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะต้องถูกเบรกแน่นอน
แต่ความหมายก็คือ ไม่ว่าจะถูกเบรกหรือไม่ถูกเบรก มันก็ต้องเป็นข่าวแน่นอน เพราะก่อนไปแถลงข่าวก็ต้องแจ้งให้นักข่าวรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน หากพิจารณาในมุมของทางการ คือฝ่ายรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ย่อมปล่อยผ่านไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะรู้กันอยู่ว่า หากมีการแถลงข่าวมันก็ต้องยกย่องเชิดชูโครงการจำนำข้าว หาเสียงกับชาวนา แล้วโจมตีรัฐบาลชุดนี้เหมือนกับชื่อหนังสือที่ว่า "ทำลายจำนำข้าว ฆ่าชาวนา" นั่นแหละ
มองในมุมการเมืองก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่าการเคลื่อนไหวของอดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการ "สร้างกระแส" ส่งกระแสไปถึงสังคมโดยเฉพาะในกลุ่มชาวนา ที่คิดว่าเป็นฐานเสียงสำคัญของพวกเขา และของ ทักษิณ ชินวัตร ครอบครัวรวมทั้งญาติพี่น้องของพวกเขา ทำให้สังคมพวกนี้รับรู้ว่า พวกเขา "ยังไม่ได้นิ่งสนิท" นะ
แม้ว่าในความเป็นจริง เวลานี้โครงการรับจำนำข้าวจะเริ่มฝ่อลงไปเรื่อยๆ มีการทำความเข้าใจกันมากขึ้นว่า แท้ที่จริงแล้วมันไม่ใช่จำนำข้าว แต่เป็นการ "รับซื้อข้าว" มาเก็บเอาไว้สำหรับขายขาดทุน โดยอ้างว่า นี่คือการ "ขาดทุนเพื่อชาวนา" ซึ่งหากพูดแบบนั้นมันก็พูดได้ เพื่อหาคะแนนเสียง เพราะเงินที่ใช้เป็นเงินงบประมาณ และที่สำคัญมัน เป็นการขาดทุนในแต่ละปีจำนวนมหาศาล เพราะข้าวต้องเสื่อมสภาพ และซื้อมาทุกเมล็ดที่สูงกว่าราคาตลาดมาก
แน่นอนว่า แบบนี้ชาวนาชอบพรรคเพื่อไทย และทักษิณ ชินวัตร ที่ส่งตรงนโยบายนี้ผ่านทางรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่เมื่อเกิดความจริงอันน่าเศร้า เมื่อเวลาผ่านไปสองสามฤดูกาล มันก็เหมือนกับการถมเงินลงไปในมหาสมุทร เริ่มหาย หมุนเงินไม่ทัน ไม่ชนรอบ เพราะมีแต่รายจ่ายไม่มีรายรับเข้ามา ทำให้การจ่ายเงินถึงมือชาวนาได้ช้าลงไปเรื่อยๆ จนในช่วงท้ายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชาวนาที่ทนรอเงินค่าจำนำข้าวไม่ไหว ต้องผูกคอตายไปหลายราย แม้จะมีการอ้างปัจจัยแทรกซ้อนทางการเมืองอื่นมาขัดขวางก็ตาม แต่นั่นน่าจะเป็นการแก้เกี้ยว เป็นข้ออ้างเพื่อปัดความผิดที่ความจริงเริ่มปรากฏออกมา
หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามา เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา ก็มีการดำเนินคดีกับคนที่ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว รวมไปถึงปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการดังกล่าว และคนที่ถูกดำเนินคดี แน่นอนว่าย่อมเป็นบุคคลสำคัญของเครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เธอถูกดำเนินคดีอาญาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยคดีเดินมาไกลจนใกล้จะมีการปิดคดีกันแล้ว
ส่วนคดีทางแพ่งนั้นก็มีคำสั่งทางปกครองสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายนับหมื่นล้านบาทออกมาแล้ว แม้ว่าคดีทางแพ่งจะยังต้องใช้เวลาอีกพักหนึ่ง แต่เมื่อเวลาเดินไปเรื่อยๆ มันก็หมายถึง เดินไปหาจุดหมายในตอนจบตลอดเวลา
นี่ต่างหากคือประเก็นสำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา เพราะนอกเหนือจากคดีที่ต้องลุ้นเรื่องคุกตะราง และการถูกชดใช้ค่าเสียหายจนอาจนำไปสู่การยึดทรัพย์ในที่สุด การเปิดโปงการทุจริต การอิงแอบหากินกับโครงการรับจำนำข้าว ประกอบกับบรรดาเครือข่ายมากมาย ล้วนถูกดำเนินคดีสารพัดข้อหาล้วนมาจาก "ผลกรรม" ที่เคยก่อเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทุกอย่างมันเลย "เฟล" ลงไปเรื่อยๆ
** ดังนั้น มาถึงตรงนี้ก็น่าจะเข้าใจได้ดีแล้วว่า"ทำลายจำนำข้าว ไม่ใช่ฆ่าชาวนา" แต่หมายถึง "ฆ่าทักษิณ กับฆ่ายิ่งลักษณ์" ต่างหาก ก็ในเมื่อพวกเขาหากินกับชาวนาโดยใช้เงินงบประมาณของรัฐมาซื้อ เมื่อถูกเปิดโปงถูกขัดขวางถูกดำเนินคดี นี่แหละมันถึงต้องเดือดร้อน หากมีจังหวะเมื่อไหร่ก็ต้องเสี่ยงสักครั้ง ขณะเดียวกันพวกอดีต ส.ส.พวกนี้ หากพิจารณาตามพื้นที่ก็ล้วนเคยอาศัยชาวนาเป็นฐานเสียงดันก้นเข้ามา ก็ต้องหาทางช่วงชิงพื้นที่ข่าวเอาไว้บ้างแค่นั้นเอง ไม่มีอะไรซับซ้อน !!
แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้เหนือความคาดหมาย หากปล่อยเลยตามเลย ให้มีการเปิดตัวหนังสือหรือเปิดทางให้พวกอดีต ส.ส.พวกนี้ได้แถลงข่าวโจมตีการดำเนินคดีกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว การดำเนินคดีกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น้องสาวของทักษิณ ชินวัตร รวมทั้งนักการเมืองคนอื่นๆ ในพรรคเพื่อไทย หากปล่อยให้พูดเจื้อยแจ้ว แบบนี้สิน่าแปลก มันรับรู้กันล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะต้องถูกเบรกแน่นอน
แต่ความหมายก็คือ ไม่ว่าจะถูกเบรกหรือไม่ถูกเบรก มันก็ต้องเป็นข่าวแน่นอน เพราะก่อนไปแถลงข่าวก็ต้องแจ้งให้นักข่าวรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน หากพิจารณาในมุมของทางการ คือฝ่ายรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ย่อมปล่อยผ่านไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะรู้กันอยู่ว่า หากมีการแถลงข่าวมันก็ต้องยกย่องเชิดชูโครงการจำนำข้าว หาเสียงกับชาวนา แล้วโจมตีรัฐบาลชุดนี้เหมือนกับชื่อหนังสือที่ว่า "ทำลายจำนำข้าว ฆ่าชาวนา" นั่นแหละ
มองในมุมการเมืองก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่าการเคลื่อนไหวของอดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการ "สร้างกระแส" ส่งกระแสไปถึงสังคมโดยเฉพาะในกลุ่มชาวนา ที่คิดว่าเป็นฐานเสียงสำคัญของพวกเขา และของ ทักษิณ ชินวัตร ครอบครัวรวมทั้งญาติพี่น้องของพวกเขา ทำให้สังคมพวกนี้รับรู้ว่า พวกเขา "ยังไม่ได้นิ่งสนิท" นะ
แม้ว่าในความเป็นจริง เวลานี้โครงการรับจำนำข้าวจะเริ่มฝ่อลงไปเรื่อยๆ มีการทำความเข้าใจกันมากขึ้นว่า แท้ที่จริงแล้วมันไม่ใช่จำนำข้าว แต่เป็นการ "รับซื้อข้าว" มาเก็บเอาไว้สำหรับขายขาดทุน โดยอ้างว่า นี่คือการ "ขาดทุนเพื่อชาวนา" ซึ่งหากพูดแบบนั้นมันก็พูดได้ เพื่อหาคะแนนเสียง เพราะเงินที่ใช้เป็นเงินงบประมาณ และที่สำคัญมัน เป็นการขาดทุนในแต่ละปีจำนวนมหาศาล เพราะข้าวต้องเสื่อมสภาพ และซื้อมาทุกเมล็ดที่สูงกว่าราคาตลาดมาก
แน่นอนว่า แบบนี้ชาวนาชอบพรรคเพื่อไทย และทักษิณ ชินวัตร ที่ส่งตรงนโยบายนี้ผ่านทางรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่เมื่อเกิดความจริงอันน่าเศร้า เมื่อเวลาผ่านไปสองสามฤดูกาล มันก็เหมือนกับการถมเงินลงไปในมหาสมุทร เริ่มหาย หมุนเงินไม่ทัน ไม่ชนรอบ เพราะมีแต่รายจ่ายไม่มีรายรับเข้ามา ทำให้การจ่ายเงินถึงมือชาวนาได้ช้าลงไปเรื่อยๆ จนในช่วงท้ายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชาวนาที่ทนรอเงินค่าจำนำข้าวไม่ไหว ต้องผูกคอตายไปหลายราย แม้จะมีการอ้างปัจจัยแทรกซ้อนทางการเมืองอื่นมาขัดขวางก็ตาม แต่นั่นน่าจะเป็นการแก้เกี้ยว เป็นข้ออ้างเพื่อปัดความผิดที่ความจริงเริ่มปรากฏออกมา
หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามา เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา ก็มีการดำเนินคดีกับคนที่ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว รวมไปถึงปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการดังกล่าว และคนที่ถูกดำเนินคดี แน่นอนว่าย่อมเป็นบุคคลสำคัญของเครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เธอถูกดำเนินคดีอาญาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยคดีเดินมาไกลจนใกล้จะมีการปิดคดีกันแล้ว
ส่วนคดีทางแพ่งนั้นก็มีคำสั่งทางปกครองสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายนับหมื่นล้านบาทออกมาแล้ว แม้ว่าคดีทางแพ่งจะยังต้องใช้เวลาอีกพักหนึ่ง แต่เมื่อเวลาเดินไปเรื่อยๆ มันก็หมายถึง เดินไปหาจุดหมายในตอนจบตลอดเวลา
นี่ต่างหากคือประเก็นสำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา เพราะนอกเหนือจากคดีที่ต้องลุ้นเรื่องคุกตะราง และการถูกชดใช้ค่าเสียหายจนอาจนำไปสู่การยึดทรัพย์ในที่สุด การเปิดโปงการทุจริต การอิงแอบหากินกับโครงการรับจำนำข้าว ประกอบกับบรรดาเครือข่ายมากมาย ล้วนถูกดำเนินคดีสารพัดข้อหาล้วนมาจาก "ผลกรรม" ที่เคยก่อเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทุกอย่างมันเลย "เฟล" ลงไปเรื่อยๆ
** ดังนั้น มาถึงตรงนี้ก็น่าจะเข้าใจได้ดีแล้วว่า"ทำลายจำนำข้าว ไม่ใช่ฆ่าชาวนา" แต่หมายถึง "ฆ่าทักษิณ กับฆ่ายิ่งลักษณ์" ต่างหาก ก็ในเมื่อพวกเขาหากินกับชาวนาโดยใช้เงินงบประมาณของรัฐมาซื้อ เมื่อถูกเปิดโปงถูกขัดขวางถูกดำเนินคดี นี่แหละมันถึงต้องเดือดร้อน หากมีจังหวะเมื่อไหร่ก็ต้องเสี่ยงสักครั้ง ขณะเดียวกันพวกอดีต ส.ส.พวกนี้ หากพิจารณาตามพื้นที่ก็ล้วนเคยอาศัยชาวนาเป็นฐานเสียงดันก้นเข้ามา ก็ต้องหาทางช่วงชิงพื้นที่ข่าวเอาไว้บ้างแค่นั้นเอง ไม่มีอะไรซับซ้อน !!