xs
xsm
sm
md
lg

แฉแก๊งค้าแขกอินเดีย บุกไทยส่วยรูปีสะพัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มีข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับคนอินเดียลักลอบเข้าเมืองมายึดแผ่นดินไทยทำมาหากินขุดทองกันเป็นล่ำเป็นสันจนร่ำรวย โดยที่เป็นคนเถื่อนอยู่ในประเทศโดยผิดกฎหมาย คนอินเดียต่างด้าวเหล่านี้นับวันมีจำนวนสะสมมากขึ้น ตอนนี้ตัวเลขทะลุ1 ล้านคนไปแล้ว ส่งผลกระทบบ้านเมืองหลายด้านที่รัฐยังนิ่งดูดาย

เรื่องนึ้ฟังจากข้อมูลที่เชื่อถือได้ บอกว่าชาวอินเดียเหล่านี้มีพื้นเพมาจาก เมือง GORAKHPUR (โคราฆปุระ)และ LUCKNOW (ลัคเนา) กับเมืองใกล้เคียงแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวมุ่งสู่ประเทศไทยโดยการบินตรงจากอินเดีย มายังสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ

จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนของขบวนการค้ามนุษย์ชาวอินเดียกระจายไปทุกชุมชน ทุกซอก ซอย ตำบล อำเภอ และจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ

***ชาวอินเดียพวกนี้เกือบ 100 % ความรู้ต่ำ รายได้น้อยและฐานะยากจนไม่สามารถหางานในบ้านตัวเองได้ จึงมาตายเอาดาบหน้าที่ประเทศไทย*** จากการอพยพหลบหนีเข้ามาประกอบสัมมาอาชีพของรุ่นต่อรุ่นทำให้พวกเขารู้ช่องทางทำมาหากินในสยามประเทศเป็นอย่างดี

และที่สำคัญการทำผิดกฎหมายในประเทศไทยสามารถทำได้ง่ายๆเนื่องจากมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดชาวอินเดียที่เข้ามาทำมาหากินในเมืองไทยกันหนาตา ***โดยเฉพาะกลุ่มที่ผ่านขบวนการ “นายหน้า” ซึ่งมีคนของรัฐร่วมหาผลประโยชน์ด้วย ส่วนใหญ่นิยมใช้นามสกุล YADAW (ยาดาว) กันมากถึง 80 % บ้างก็ไม่มีนามสกุล***

ขบวนการค้ามนุษย์อินเดียมีชาวอินเดียสัญชาติไทย และสัญชาติอินเดียเป็นตัวการสำคัญ ค่าหัวตกที่ 100,000 รูปีหรือราว 70,000 บาท เมื่อตกลงจ่ายเงินกันเรียบร้อยจะบินตรงจากเมืองโคราฆปุระ และเมืองลัคเนา มายังสนามบินสุวรรณภูมิ –ดอนเมืองเฉลี่ยวันละ 20-30 คน

เมื่อมาถึงจะผ่านขั้นตอนขอวีซ่า (VISA ONARRIVAL) ทุกคนที่จ่ายค่าหัวจะผ่านขั้นตอนนี้อย่างสบาย แต่ ถ้าเข้ามาโดยไม่อาศัยนายหน้าจะถูกกักตัวก่อนเตรียมผลักดันส่งกลับประเทศอินเดีย
หลังผ่านขั้นตอนของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแล้ว

นายหน้าแต่ละสายจะส่งชาวอินเดียผู้เข้ามาแสวงโชคอย่างผิดกฎหมายเหล่านี้ลงพื้นที่ต่างๆทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่างๆทั่วประเทศมีหัวหน้าสาย หรือหัวหน้าแก๊งเป็นคนดูแล จังหวัดที่นิยมมากที่สุดนอกจาก กทม.แล้วยังมีพระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรีและสมุทรปราการ เป็นต้น

เมื่อมาปักหลักได้แล้ว คนเหล่านี้ก็เริ่มทำมาหากิน ด้วยงานเบสิคคือขายถั่ว ขายไอศกรีมตั้งแต่เช้าจนถึง 4-5 ทุ่ม พออยู่ได้พูดได้แล้วจะเริ่มยกฐานะจากเดินมาเป็นปั่นจักรยาน –มอเตอร์ไซด์ พัฒนาเป็นคนปล่อยเงินกู้กินดอกรายวัน ขายสินค้าผ่อนส่งจนบางคนอาจถอยรถปิกอัพ ตั้งรกรากกลืนกับสังคมไทยกลายนายห้าง

แต่ไม่ว่าชาวอินเดียคนไหนจะอยู่ในฐานะอย่างไร สิ่งที่ขาดไม่ได้คือค่าคุ้มครองจากหัวหน้าสายต่างๆตกเดือนละ 5,000 บาท-6,000 บาทต่อคนต่อหัว โดยค่าคุ้มครองเหล่านี้จะตกไปยังข้าราชการของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน

หากใครจ่ายแล้วจะได้รับสติกเกอร์ - สายรัดข้อมือ หรือธนบัตรไทย/อินเดีย ประทับตราพิเศษพกติดกระเป๋าสตางค์ตลอดเวลาเพื่อแสดงกับเจ้าหน้าที่เวลาถูกจับ ตอนนี้ประมาณการว่ามีชาวอินเดียเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมายในประเทศไทยอย่างน้อย 5 แสนคน หรืออาจจะมากถึง 1 ล้านคนเพราะยอดสะสมมานานหลาย 10 ปี

***ผลประโยชน์จากชาวอินเดียพวกนี้ถือเป็น “สุดยอดอภิมหาส่วย”สะพัดในหมู่ข้าราชการไทย และขบวนการนายหน้าเดือนละนับพันล้านบาท หรือปีละหมื่นล้านกว่าบาท***

การค้ามนุษย์คนอินเดียกลายเป็นแชมป์ที่ทำผลประโยชน์สูงสุด ด้วยที่ข้อมูลในปี 2558 มีคนอินเดียอยู่ไทยมากถึง 1.12 ล้านคน พวกนี้หลบอยู่ได้ก็เพราะเจ้าหน้าที่รัฐจัดให้ ซึ่งทุกขั้นตอนที่ช่วยให้คนต่างด้าวอินเดียอยู่ได้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชนให้การช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เลือกปฏิบัติตามคำขอนายหน้า-ขบวนการค้ามนุษย์ที่มีผลประโยชน์เป็นของแลกเปลี่ยน

***หากปล่อยปละละเลย ให้ชาวอินเดียเข้ามาอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย ก็จะก่อเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถึงเวลาแล้วที่รัฐจะหยิบยกปัญหานี้เป็นวาระแห่งชาติเพื่อจัดการกับนายหน้าและขบวนการค้ามนุษย์คนอินเดียอย่างจริงจัง***

โปรย ... แต่ไม่ว่าชาวอินเดียคนไหนจะอยู่ในฐานะอย่างไร สิ่งที่ขาดไม่ได้คือค่าคุ้มครองจากหัวหน้าสายต่างๆตกเดือนละ 5,000 บาท-6,000 บาทต่อคนต่อหัว โดยค่าคุ้มครองเหล่านี้จะตกไปยังข้าราชการของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น