เมื่อเวลา 09.30 น.วานนี้( 20 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ในคณะกรรมการบริหารราชการผ่นดินตามกรอบการปฏิรูประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) หรือ มินิคาบิเนต ว่าด้วยเรื่องการติดตามการแก้ปัญหาเกษตรกร และการลดขั้นตอนความยุ่งยาก แก้ปัญหาอุปสรรค เพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ
นายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมายังแก้ปัญหาได้ไม่ครบวงจร ยังติดขัดในหลายประการ ทั้งกฎระเบียบ และข้อบังคับ หรือวิธีการบริหารจัดการ โดยเฉพาะประชาชน และเกษตรกร ที่เป็นปัญหาหลักของประเทศขณะนี้ ดังนั้นการปรับเปลี่ยนอะไรก็ตาม ทั้งด้านวิชาการ และการบริหารจัดการ ในทางปฏิบัติไม่สามารถทำได้ เพราะประชาชนยังเคยชินกับการช่วยเหลือ และการบุกรุกมานานจนเกินไป แต่ยืนยันว่า ยังสามารถแก้ไขได้ ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย แม้จะไม่ได้ 100 % ก็ตาม แต่เพราะเป็นป.ย.ป. จึงต้องแก้ไขให้ได้
ด้านนายสุวิทย์ เมษิณทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาฯป.ย.ป. กล่าวหลังการประชุมว่า เป็นการคุยหลักการ เรื่องยุทธศาสตร์ของ 5 สินค้าเกษตรสำคัญได้แก่ ข้าว ข้าวโพด มัน ปาล์ม และยางพารา รวมถึงเรื่องการจัดลำดับความยากง่ายในการทำธุรกิจ
ส่วนเรื่องคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาช่วยใน ป.ย.ป.นั้น เราได้คุยกับกลุ่มนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ ที่เป็นลูกหลานของสภาอุตสาหกรรม และสภาหอการค้าไทยไปแล้ว ซึ่งเขาจะรวบรวมความคิดเห็นในการขับเคลื่อนประเทศไทย และในวันที่ 21 มี.ค.นี้ จะพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มเครือข่ายธุรกิจบิสคลับ ซึ่งเป็นกลุ่มที่รวมตัวกันของธุรกิจการค้า ที่มีอยู่ประมาณ 8,000 คน โดยให้เขาไปทำการบ้านมาว่า จะมีบทบาทในการช่วยขับเคลื่อนและวางอนาคตประเทศไทยอย่างไร รวมถึงการมีบทบาทในการขับเคลื่อนการปฏิรูป และยุทธศาสตร์ชาติ และเมื่อมีโอกาสเราจะนำกลุ่มเหล่านี้เข้าพบกับนายกฯ นอกจากนี้จะมีการพูดคุยกับกลุ่มข้าราชการ ที่เป็นผู้นำท้องถิ่นด้วย
นายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมายังแก้ปัญหาได้ไม่ครบวงจร ยังติดขัดในหลายประการ ทั้งกฎระเบียบ และข้อบังคับ หรือวิธีการบริหารจัดการ โดยเฉพาะประชาชน และเกษตรกร ที่เป็นปัญหาหลักของประเทศขณะนี้ ดังนั้นการปรับเปลี่ยนอะไรก็ตาม ทั้งด้านวิชาการ และการบริหารจัดการ ในทางปฏิบัติไม่สามารถทำได้ เพราะประชาชนยังเคยชินกับการช่วยเหลือ และการบุกรุกมานานจนเกินไป แต่ยืนยันว่า ยังสามารถแก้ไขได้ ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย แม้จะไม่ได้ 100 % ก็ตาม แต่เพราะเป็นป.ย.ป. จึงต้องแก้ไขให้ได้
ด้านนายสุวิทย์ เมษิณทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาฯป.ย.ป. กล่าวหลังการประชุมว่า เป็นการคุยหลักการ เรื่องยุทธศาสตร์ของ 5 สินค้าเกษตรสำคัญได้แก่ ข้าว ข้าวโพด มัน ปาล์ม และยางพารา รวมถึงเรื่องการจัดลำดับความยากง่ายในการทำธุรกิจ
ส่วนเรื่องคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาช่วยใน ป.ย.ป.นั้น เราได้คุยกับกลุ่มนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ ที่เป็นลูกหลานของสภาอุตสาหกรรม และสภาหอการค้าไทยไปแล้ว ซึ่งเขาจะรวบรวมความคิดเห็นในการขับเคลื่อนประเทศไทย และในวันที่ 21 มี.ค.นี้ จะพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มเครือข่ายธุรกิจบิสคลับ ซึ่งเป็นกลุ่มที่รวมตัวกันของธุรกิจการค้า ที่มีอยู่ประมาณ 8,000 คน โดยให้เขาไปทำการบ้านมาว่า จะมีบทบาทในการช่วยขับเคลื่อนและวางอนาคตประเทศไทยอย่างไร รวมถึงการมีบทบาทในการขับเคลื่อนการปฏิรูป และยุทธศาสตร์ชาติ และเมื่อมีโอกาสเราจะนำกลุ่มเหล่านี้เข้าพบกับนายกฯ นอกจากนี้จะมีการพูดคุยกับกลุ่มข้าราชการ ที่เป็นผู้นำท้องถิ่นด้วย