ผบ.ตร.นำทีม แถลงยึดอาวุธสงคราม พร้อมจับกุมเครือข่าย"โกตี๋" รวม 9 คน พบแผนปองร้ายผู้นำประเทศ พุ่งเป้าที่ "บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม" และหากรัฐบาลใช้กำลังเข้าจัดการวัดพระธรรมกาย ก็จะใช้กองกำลังพร้อมอาวุธตอบโต้ เผยเป็นอาวุธของทางราชการที่กลุ่มเสื้อแดงปล้นไปเมื่อปี 53 ยันจับจริง ไม่มีจัดฉาก มีทั้ง จนท.-สื่อ ร่วมบันทึกภาพ ด้าน"โกตี๋" โผล่ยูทูป ซัดกลับรัฐบาลบ้าไปใหญ่แล้ว
เมื่อเวลา15.40 น. วานนี้ (19 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หน.ส่วนปฏิบัติการด้านกฎหมายคสช. ร่วมแถลงผลการปฏิบัติการตรวจค้นแหล่งสะสมอาวุธสงคราม 9 จุด ในพื้นที่ 7 จังหวัด ซึ่งเป็นเครือข่าย นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ"โกตี๋" แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี ยึดอาวุธปืนสงคราม อาทิ เอ็ม 16 จำนวน 4 กระบอก เครื่องยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 จำนวน 1 กระบอก ปืนคาร์บิน 1 กระบอก ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก และปืนชนิดต่างๆรวม 13 กระบอก พร้อมกระสุนปืนสงครามชนิดต่างๆกว่า 5 พันนัด ป้ายผ้าสีแดง ระบุข้อความว่า โกตี๋ แดงปทุมฯ 3 ผืน และของกลางอื่นๆ ที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูงด้วย เบื้องต้นได้ควบคุมตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวน 9 ราย ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ทหาร
พล.ต.ต.สมบัติ กล่าวว่า การตรวจค้นดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนมี.ค.60 จากการสืบสวนหาข่าวของจนท.ฝ่ายความมั่นคง พบว่า มีกลุ่มคนที่เป็นเครือข่ายของ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ ได้ร่วมกันวางแผนสะสมอาวุธอาวุธสงครามและวัตถุระเบิด เพื่อเตรียมก่อเหตุร้าย และความไม่สงบขึ้น หากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเข้าปิดล้อม ตรวจค้นยึดพื้นที่วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.อ.ศรีวราห์ จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อมูลจนเป็นที่แน่ชัดและเชื่อว่า มีการวางแผนที่จะลงมือกระทำความผิดจริง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้รับคำสั่งให้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
** โยงแผนลอบสังหาร"บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม"
พล.ต.ต.สมบัติ กล่าวว่า บุคคลเหล่านี้ เคยเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ปี 2553 กับมวลชนคนเสื้อแดง ที่ผ่านมา โกตี๋ มีความพยายามใช้โซเชียลมีเดีย โจมตีการทำงานของรัฐบาล และคสช. มีการปลุกระดมให้ศิษย์วัดพระธรรมกาย ตอบโต้เจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้าค้นวัดพระธรรมกาย โดยการจัดตั้งกลุ่มมวลชนมาปะทะ และยังพบว่า ผู้ต้องสงสัย 1 ใน 9 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เคยปรากฏตัวบริเวณวัดพระธรรมกายด้วย เจ้าหน้าที่จึงติดตามจนนำไปสู่การควบคุมตัว
นอกจากนี้ ยังพบการเตรียมการลอบทำร้ายผู้นำประเทศ และบุคคลสำคัญ ประมาณช่วงเดือนก.พ.60 โดยใช้นามแฝง"สหายหมาน้อย" จัดรายการวิทยุออนไลน์สู้เพื่อสหพันธรัฐไทย เผยแพร่ผ่านยูทูป ช่องไฟเย็นชาแนล ซึ่งมีเนื้อหาโจมตีการทำงานของรัฐบาล มีการเตรียมการลอบสังหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และ บุคคลสำคัญ ซึ่งอาวุธทั้งหลายเหล่านี้ คาดว่าเตรียมการไว้สำหรับสังหารผู้นำประเทศ และจากการติดตาม ยังพบว่า มีการกระทำความผิดที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ผ่านรายการสู้เพื่อสหพันธรัฐไทย มีการใช้ถ้อยคำหมิ่นสถาบันฯ อาฆาตมาดร้ายต่อรัฐบาล อีกทั้งยังมีการปลุกระดมมวลชน เพื่อให้ออกมาต่อต้านสถาบันฯ นอกจากนี้จากการตรวจค้น ยังพบหลักฐานคือ ภาพสติ๊กเกอร์ และแผ่นซีดี หมิ่นสถาบันฯอีกด้วย
**พบปืนทหารที่ถูกปล้นเมื่อปี 53
ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า พื้นที่ จ.ปทุมธานี เป็นพื้นที่ของโกตี๋ และพวกอยู่แล้ว มีการจัดตั้งกลุ่มคน และสะสมอาวุธ ซึ่งคนเหล่านี้นิยมความรุนแรง โดยเฉพาะปืนติดกล้อง ก็ชี้ชัดอยู่แล้วว่าไม่ได้ใช้ไปยิงนกแน่นอน แต่เป็นการนำไปใช้สำหรับยิงคน หรือลอบสังหารผู้นำ ซึ่งปืนบางกระบอกหายไปช่วงที่มีการชุมนุม และการปะทะ เมื่อปี 2553 ด้วยซ้ำ ซึ่งโกตี๋ ก็พยายามเคลื่อนไหว และประกาศผ่านโลกโซเชียลตลอดว่า จะมีการลอบทำร้ายผู้นำประเทศ และเป็นปรปักษ์อยู่ฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาล ขณะเดียวกันจากการข่าวยังพบว่า โกตี๋ และพวกให้การสนับสนุนวัดพระธรรมกายด้วย
"กลุ่มคนเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคงทั้งนั้น ถ้ามีการสืบสวนขยายผลไปถึงใคร ก็ต้องดำเนินการโดยไม่มีข้อยกเว้น ในการติดตามตัวโกตี๋ ตำรวจก็มีการประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทำมาโดยตลอด แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร แต่เราก็มีศักยภาพในการติดตามตัวอยู่แล้ว ขณะนี้โกตี๋ ก็มีหมายจับ มาตรา 112 อยู่แล้ว ส่วนจะมีคนอยู่เบื้องหลังหรือไม่นั้น ต้องไปถามโกตี๋ ซึ่งในส่วนเจ้าหน้าที่ ก็จะดำเนินกดดัน ปิดล้อม ตรวจค้น แบบนี้อย่างต่อเนื่อง สำหรับพระธัมมชโย และโกตี๋ หนีได้ก็หนีไป แต่โกตี๋ อยู่ในใจผมเสมอ" ผบ.ตร.กล่าว และว่า สำหรับการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ภายในลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ ภายในบริษัท เกรทติ้ง ฟอร์จูน คอนเทนเนอร์ เซอร์วิส ( ประเทศไทย ) จำกัด ย่านบางพลีใหญ่ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตาม และไม่ขอเปิดเผย แต่คาดว่า ภายในตู้คอนเทนเนอร์นั้น เชื่อว่าน่าจะมีอาวุธซุกซ่อนอยู่
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 9 คน ที่ควบคุมตัวจะให้กาณรับสารภาพหรือไม่รับ ก็ไม่มีผล เพราะตำรวจมีหลักฐานชัดเจน คืออาวุธสงครามที่ยึดได้ แสดงว่ามีการเตรียมการเพื่อก่อความไม่สงบ ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ทหาร
ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ของกลางที่ยึดได้ในครั้งนี้ เป็นกลุ่มที่อยู่ในยุทธภัณฑ์ของทหาร ซึ่งก่อนหน้านั้น เมื่อปี 2553 มีการดำเนินคดีไป แต่ยังไม่ได้ของกลางคืน ในเมื่อครั้งนี้ได้ตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ก็จะมีการดำเนินการในส่วนนี้ต่อไป และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายนั้น ที่ผ่านมาตำรวจ และดีเอสไอ ได้มีการพูดเสมอว่า ทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมือง ซึ่งเป็นกลุ่มมือที่สาม เข้ามาเคลื่อนไหวในวัดพระธรรมกาย และตลาดกลางคลองหลวง ซึ่งจากทางการข่าวก็ตรงกัน ว่ามีการเตรียมการก่อเหตุ
** ยันจับจริง ไม่มีการจัดฉาก
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่าของกลางทั้งหมดเป็นสิ่งที่สะท้อนว่า มีการครอบครองสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการนำไปใช้ในทางที่ผิด และเป็นอันตรายต่อสังคม โดยเจ้าหน้าที่จะต้องรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ การครอบครองอาวุธสงคราม ระเบิด และเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว ถือเป็นภัยด้านความมั่นคงของประเทศ รัฐบาลจึงต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ปฏิบัติการอย่างตรงไปตรงมา และหาตัวผู้ครอบครองมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนความเห็นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่อาจมีการจัดฉาก ใส่ร้ายนายโกตี๋ เนื่องจากอาวุธสงคราม และกระสุนปืน มีลักษณะค่อนข้างใหม่ และเจ้าของบ้านไม่ได้อาศัยอยู่นานแล้วนั้น เรื่องนี้ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้สืบสวน และเก็บข้อมูลมาระยะหนึ่ง และขณะเข้าปฏิบัติการ ก็มีสื่อมวลชนร่วมเป็นพยานจำนวนมาก รวมทั้งผู้ที่ครอบครองอาวุธเหล่านี้ได้เก็บทุกอย่างไว้ในกล่องที่ปิดผนึก และซุกซ่อนไว้ในที่ลับเฉพาะ ทำให้ของกลางทั้งหมดดูใหม่ ยืนยันไม่ใช่การจัดฉากแต่อย่างใด
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การตรวจค้นจนพบอาวุธในครั้งนี้ อาศัยกระบวนการสืบสวนที่เป็นระบบ ควบคู่กับงานด้านการข่าวที่มีประสิทธิภาพ ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งกรณีที่เป้าหมายใดๆ มีความชัดเจนในแง่ของพยานหลักฐานแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าดำเนินการ ที่สำคัญการดำเนินการในครั้งนี้ ได้มีสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์ ประกอบกับเจ้าหน้าที่เอง ก็ได้มีการบันทึกภาพการปฏิบัติในขณะเข้าดำเนินการไว้อย่างละเอียด เพื่อเป็นเครื่องยืนยัน ป้องกันการที่อาจผู้ไม่หวังดีจะนำไปสร้างเป็นประเด็นทำลายความน่าเชื่อเจ้าหน้าที่
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีการเชื่อมโยงกรณีนี้กับปัญหาวัดพระธรรมกาย เพื่อให้ความชอบธรรมแก่เจ้าหน้าที่ จัดการกับวัดพระธรรมกายอีกรอบนั้น ขอยืนยันว่าปัจจุบันเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับงานการรักษากฎหมาย งานดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่วัดพระธรรมกาย และโดยรอบได้อยู่แล้ว ข้อสังเกตดังกล่าว จึงยังดูไม่สมเหตุสมผล
ส่วนเรื่องของการเชื่อมโยงบุคคลในทางคดี จะเกี่ยวข้องกับบุคคลใด คนไหนบ้าง คงต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ เพื่อสอบสวนบุคคลต่างๆอยู่ ตามขั้นตอนลักษณะการสอบสวนคดีความที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง
** "โกตี๋" ซัดกลับรัฐบ้าไปใหญ่แล้ว
ล่าสุด นายวุฒิพงศ์ ได้มีการเคลื่อนไหวผ่านทางช่องยูทูปของตัวเอง โดยระบุว่า ตนเห็นลูกน้องที่โดนจับแล้วสงสารเขา เพราะตนไม่มีปัญญาไปช่วย เขาเป็นคนดีมาก วันนี้โดนยัดข้อหาขนาดนี้ นี่คือความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นตลอดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเมืองไทย นายโกตี๋ยังได้กล่าวโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐต่อด้วยว่า ในการที่จะให้เขาใส่ร้ายป้ายสีมาให้ตนให้ได้ ถ้าเป็นไปได้พี่น้องช่วยตามข่าวแทนตนด้วย
ทั้งนี้ กองทัพไม่ต้องซื้ออาวุธหรอก ไปบุกบ้านไหนก็ของโกตี๋ เจออาวุธที่ไหนก็ของโกตี๋ โยงเข้าหาแม้กระทั่งวัดธรรมกาย บ้ากันไปใหญ่แล้ว อาวุธที่ค้นเจอนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ของตนแน่นอน มีการจัดฉากต้องการเล่นงานเครือข่ายของตนทั้งหมด ตนออกจากประเทศมานานแล้วถ้ามีอาวุธขนาดนั้น ถล่มพวกเขาไปนานแล้ว ตนไม่เอาไว้หรอก