ข่าวปนคน คนปนข่าว
จับตาอภินิหาร “ลุงวิษณุ”
ตัดกรรมให้ “หลานโอ๊ค-เอม”
ยังเป็นประเด็นร้อนฉ่าสำหรับภาษีหุ้น “ชินคอร์ป” ของ “ตระกูลชินวัตร” ที่ “ผู้มีอำนาจ” เพิ่งตื่นจากพะวัง ในขณะที่เวลางวดเข้ามาเหลือไม่ถึง 2 อาทิตย์ดี คดีจะหมดอายุความ ทั้งที่เรื่องล่วงเลยมากว่า 10 ปีเข้าให้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเก็บภาษีได้สักแดงเดียว จริงๆไม่ต้องย้อนไปไหนไกล แค่ 2 ปีกว่าในยุค “รัฐบาลทหาร” ก็ไม่ขยับอะไร ทั้งที่ พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการ สตง.เขี่ยไฟใส่ฟืนให้รื้อเรื่องนี้มาตั้งแต่ ส.ค.ปีก่อน แต่ ประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ก็ยังนิ่ง และนิ่งมาจนถึงตอนนี้ ... เหมือนโดนสะกดให้สงบปากสงบคำเรื่องนี้ไว้ ในอารมณ์หัวไม่ส่าย หางก็ไม่ขยับ
ถกเถียงกันอยู่ว่ายอดภาษีที่ต้องไปเรียกกับ “ลูกโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร - “ลูกเอม” พินทองทา ชินวัตร บุตรชาย-บุตรสาวของนายทักษิณ ในฐานะผู้บริหารบริษัท แอมเพิลริช อินเวสต์เมนต์ จำกัด นั้น 1.2 หมื่นล้านบาท หรือ 1.6 หมื่นล้านบาทกันแน่ ล่าสุดเป็นคิวของ แก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่ดีดลูกคิดคำนวณแล้วยอดที่ต้องเก็บอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาทต่างหาก จากดอกผลที่งอกเงยขึ้นมา
อดรนทนไม่ไหว ต้องออกมากรีดร้องขอความเป็นธรรมตามสูตร ในรายของ “นายโอ๊คอ๊าค” ที่อ้างวง่าเป็นเรื่องเก่า จบไปตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว ที่สำคัญ “พ่อแม้ว” ก็โดนยึดทรัพย์ไปแล้วตั้ง 4.6 หมื่นล้านบาทแล้ว แล้วจะมาเอาอะไรกับครอบครัวตัวเองอีก ... พล่ามไปพล่ามมา ก็วกเข้าเรื่องปรองดอง ในอารมณ์ถ้ายังมาเรียกภาษีกันอีก ก็เท่ากับทำลายล้างฝ่ายที่ถูกตัวเองยึดอำนาจมาให้สิ้นซาก จะกระทืบให้จมดิน ... เหมือนประกาศสงครามกลายๆ
จริงๆ “นายโอ๊ค” ไม่เห็นต้องห่วงอะไร เพราะตอนนี้ วิษณุ เครืองาม เนติบริกรของคุณพ่อ ก็กำลังใช้อภินิหารทางกฎหมาย ที่ “ดูเหมือน” จะไล่เบี้ยเอาภาษีหุ้นชินคอร์ปให้ตกเป็นของแผ่นดิน แต่จริงๆแล้วไอ้ที่เสนอว่าให้กรมสรรพากรเรียก “ทักษิณ” มาประเมินภาษี ถ้าไม่มาแล้วเท่ากับเรื่องได้หยุดลงก่อนครบอายุความ 10 ปี ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ เปิดช่องให้ฟ้องร้องต่อไป สู้กันไปเต็มๆ 3 ศาล กว่าเรื่องจะจบก็เมื่อไรไม่รู้
เป็น “อภินิหาร” ที่ “ลุงวิษณุ” งัดออกมา “ค้ำ” ข้อเสนอของ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่เสนอให้คดีนี้เป็น “คดีฟอกเงิน” เพื่อทำให้คดีไม่มีหมดอายุความ และสามารถสืบ-ยึดทรัพย์ย้อนหลังไปได้ ซึ่งคนที่จะโดนคดีก็หนีไม่พ้น “พานทองแท้ - พิณทองทา” พอ ปปง.เปิดไพ่ใหม่ให้เล่นแบบได้-เสีย “รองฯวิษณุ” จึงรีบแบไต๋แบบหมดหน้าตัก ตัดตอน”หลานโอ๊ค-เอม” ออกจากวงจรเสียก่อน
สุดๆจริงๆ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ โต้โผเป็นผู้ขับเคลื่อนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์หรือ “มิสเตอร์ปรองดอง” โนคอมเมนต์ทันทีที่มีคนถามเรื่องภาษีหุ้นชินฯ โบ่ยไปว่าเป็นเรื่องของกรมสรรพากร ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล .. อะ!!ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว แบบนี้ก็ขอรวบรัดไปว่า เรื่องปล่อยผีภาษีหุ้นชินฯรอบนี้ เป็นหนึ่งใน “แพคเกจเกี้ยเซียะ” กับ “ฝ่ายทักษิณ” ในการที่จะไม่ตีกันให้ตาย เพื่อประคองกันเข้าร่วม “ดีลปรองดอง” หรือไม่อย่างไร .. วานตอบ.
.
จับตาอภินิหาร “ลุงวิษณุ”
ตัดกรรมให้ “หลานโอ๊ค-เอม”
ยังเป็นประเด็นร้อนฉ่าสำหรับภาษีหุ้น “ชินคอร์ป” ของ “ตระกูลชินวัตร” ที่ “ผู้มีอำนาจ” เพิ่งตื่นจากพะวัง ในขณะที่เวลางวดเข้ามาเหลือไม่ถึง 2 อาทิตย์ดี คดีจะหมดอายุความ ทั้งที่เรื่องล่วงเลยมากว่า 10 ปีเข้าให้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเก็บภาษีได้สักแดงเดียว จริงๆไม่ต้องย้อนไปไหนไกล แค่ 2 ปีกว่าในยุค “รัฐบาลทหาร” ก็ไม่ขยับอะไร ทั้งที่ พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการ สตง.เขี่ยไฟใส่ฟืนให้รื้อเรื่องนี้มาตั้งแต่ ส.ค.ปีก่อน แต่ ประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ก็ยังนิ่ง และนิ่งมาจนถึงตอนนี้ ... เหมือนโดนสะกดให้สงบปากสงบคำเรื่องนี้ไว้ ในอารมณ์หัวไม่ส่าย หางก็ไม่ขยับ
ถกเถียงกันอยู่ว่ายอดภาษีที่ต้องไปเรียกกับ “ลูกโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร - “ลูกเอม” พินทองทา ชินวัตร บุตรชาย-บุตรสาวของนายทักษิณ ในฐานะผู้บริหารบริษัท แอมเพิลริช อินเวสต์เมนต์ จำกัด นั้น 1.2 หมื่นล้านบาท หรือ 1.6 หมื่นล้านบาทกันแน่ ล่าสุดเป็นคิวของ แก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่ดีดลูกคิดคำนวณแล้วยอดที่ต้องเก็บอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาทต่างหาก จากดอกผลที่งอกเงยขึ้นมา
อดรนทนไม่ไหว ต้องออกมากรีดร้องขอความเป็นธรรมตามสูตร ในรายของ “นายโอ๊คอ๊าค” ที่อ้างวง่าเป็นเรื่องเก่า จบไปตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว ที่สำคัญ “พ่อแม้ว” ก็โดนยึดทรัพย์ไปแล้วตั้ง 4.6 หมื่นล้านบาทแล้ว แล้วจะมาเอาอะไรกับครอบครัวตัวเองอีก ... พล่ามไปพล่ามมา ก็วกเข้าเรื่องปรองดอง ในอารมณ์ถ้ายังมาเรียกภาษีกันอีก ก็เท่ากับทำลายล้างฝ่ายที่ถูกตัวเองยึดอำนาจมาให้สิ้นซาก จะกระทืบให้จมดิน ... เหมือนประกาศสงครามกลายๆ
จริงๆ “นายโอ๊ค” ไม่เห็นต้องห่วงอะไร เพราะตอนนี้ วิษณุ เครืองาม เนติบริกรของคุณพ่อ ก็กำลังใช้อภินิหารทางกฎหมาย ที่ “ดูเหมือน” จะไล่เบี้ยเอาภาษีหุ้นชินคอร์ปให้ตกเป็นของแผ่นดิน แต่จริงๆแล้วไอ้ที่เสนอว่าให้กรมสรรพากรเรียก “ทักษิณ” มาประเมินภาษี ถ้าไม่มาแล้วเท่ากับเรื่องได้หยุดลงก่อนครบอายุความ 10 ปี ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ เปิดช่องให้ฟ้องร้องต่อไป สู้กันไปเต็มๆ 3 ศาล กว่าเรื่องจะจบก็เมื่อไรไม่รู้
เป็น “อภินิหาร” ที่ “ลุงวิษณุ” งัดออกมา “ค้ำ” ข้อเสนอของ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่เสนอให้คดีนี้เป็น “คดีฟอกเงิน” เพื่อทำให้คดีไม่มีหมดอายุความ และสามารถสืบ-ยึดทรัพย์ย้อนหลังไปได้ ซึ่งคนที่จะโดนคดีก็หนีไม่พ้น “พานทองแท้ - พิณทองทา” พอ ปปง.เปิดไพ่ใหม่ให้เล่นแบบได้-เสีย “รองฯวิษณุ” จึงรีบแบไต๋แบบหมดหน้าตัก ตัดตอน”หลานโอ๊ค-เอม” ออกจากวงจรเสียก่อน
สุดๆจริงๆ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ โต้โผเป็นผู้ขับเคลื่อนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์หรือ “มิสเตอร์ปรองดอง” โนคอมเมนต์ทันทีที่มีคนถามเรื่องภาษีหุ้นชินฯ โบ่ยไปว่าเป็นเรื่องของกรมสรรพากร ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล .. อะ!!ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว แบบนี้ก็ขอรวบรัดไปว่า เรื่องปล่อยผีภาษีหุ้นชินฯรอบนี้ เป็นหนึ่งใน “แพคเกจเกี้ยเซียะ” กับ “ฝ่ายทักษิณ” ในการที่จะไม่ตีกันให้ตาย เพื่อประคองกันเข้าร่วม “ดีลปรองดอง” หรือไม่อย่างไร .. วานตอบ.
.