หลายคนบอก ในยามนี้ “ตู่เรือโยง” พา “ป้อมเรือพ่วง” มาเจอมรสุมวิกฤตจนขบวนเรือโคลงเคลงจนมีโอกาสที่ “ขบวนเรือแป๊ะตู่” จะกลายเป็น “ขบวนเรือดำน้ำ” ดำดิ่งลงก้นทะเลลึกจนไม่โผล่เสียด้วยสิ...
แต่อีกหลายคนกลับเห็นว่า มรสุมร้ายที่โถมใส่ “รัฐนาวาตู่” เนี่ย ถ้า “กัปตันตู่” ใช้สติปัญญา-ผสานฝีมือ-บวกความกล้า-ทำจริงจังจากใจจริงก็จะเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้เป็นการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส หาก “บิ๊กตู่” ฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายไปได้ล่ะก้อ...
“รัฐนาวาตู่” จะแล่นฉลุยอยู่ยาวเลยก็เป็นได้ ทั้งนี้เพราะประวัติศาสตร์การเมืองไทยและทั่วโลก มี “ผู้นำรัฐ” มากมายที่ยึดผลประโยชน์ชาติ ได้เปลี่ยนเรื่องร้ายเยอะแยะให้กลายเป็นดีมีผลงานเป็นที่ประจักษ์
ดังเช่น ประชาชนผู้รักชาติออกมาขับไล่รัฐบาลทุนสามานย์เครือข่าย “เหลี่ยม” ที่โกงชาติและล้มเจ้า จนถูก “บิ๊กตู่” และชาว “คสช.” ทำรัฐประหาร ตัดอำนาจรัฐอธรรมของ “เหลี่ยม” ลง อันเป็นการแปรวิกฤตอันชั่วร้ายให้เป็นโอกาสทองในการแก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ ของชาติ
ฉะนั้น...ถ้า “บิ๊กตู่” ตั้งสติ สะกดอารมณ์หงุดหงิด กำหนดจิตให้นิ่ง แปรวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการสร้างผลงานเพื่อชาติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปฏิรูปชาติในเรื่องสำคัญให้สำเร็จ จนทำให้กลุ่มคนชั่วโกงชาติทั้งหลาย หมดหนทางจะใช้การเลือกตั้งสกปรกเข้ามายึดอำนาจรัฐ และทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติบ้านเมืองได้ล่ะก้อ...
“บิ๊กตู่” และชาว “คสช.” จะได้รับการแซ่ซ้องสรรเสริญจากคนไทยส่วนใหญ่เยี่ยงวีรบุรุษของชาติอย่างแน่นอน...จริงไหม?
ทว่า...หาก “บิ๊กตู่” และชาว “คสช.” ทำเพียงตัดตอนอำนาจรัฐ ออกจากกำมือรัฐบาลทุนสามานย์แบบชั่วคราว ย่อมไม่คุ้มค่าต่อชาติและจะทำให้รัฐประหารครั้งนี้ ที่นำโดย “บิ๊กตู่” หนีไม่พ้นฉายาเฉกเช่น “บิ๊กบัง” นั่นคือ
เป็นรัฐประหารเสียของ-มวยล้มต้มคนดู-เยี่ยวไม่สุด! เพราะ “บิ๊กตู่” ได้ละทิ้งโอกาสทอง ในการแก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ และการปฏิรูปชาติไปอย่างน่าเสียดายนั่นเอง
“คำตอบ” ในการสร้างผลงานดีๆ ให้ชาติครั้งนี้จึงไม่ได้อยู่ใน “สายลม” ดังเพลง“Blowin’in the Wind” ของ “Bob Dylan” เพราะ “คำตอบ” ทั้งหมดอยู่ที่ตัว “บิ๊กตู่” ที่ต้องสร้างผลงานให้กับชาติ โดยไม่เกรงกลัว “หน้าอินทร์หน้าพรหม” และการ “ลูบหน้าปะจมูก” พวกพ้อง
“บิ๊กตู่” ต้องไม่สร้างจุดอ่อนให้ผู้คนที่สนับสนุนคิดและตีความไปในทางลบว่าตัว “บิ๊กตู่” รู้เห็นเป็นใจปล่อยให้ “ใครบางคน” ที่ใกล้ชิดแอบไปเจรจา “ต้าอ่วย-ซูเอี๋ย-เกี้ยเซียะ” กับกลุ่มนักการเมืองทุนสามานย์โกงชาติ-ล้มเจ้า ที่ “หัวโจก” ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ทุกขณะ เพื่อโค่นล้มรัฐบาล “บิ๊กตู่” ในทุกรูปแบบ
แน่นอน...เป็นเรื่องน่าเห็นใจ...ที่ปัญหาเรื่องเก่าๆ มากมาย เกิดจากรัฐบาลทุนสามานย์ทั้งหลายได้สร้างไว้ และตกทอดมาจนถึงรัฐบาล “บิ๊กตู่” ให้ต้องรับภาระจากวิกฤตอันชั่วร้ายของชาติมาจนทุกวันนี้...
หลายเรื่อง “บิ๊กตู่” ได้แก้ไขปัญหาไปบ้างแล้ว แต่ยังมีอีกมากมายหลายเรื่องที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง แถมบางเรื่องยังถูกปล่อยให้คาค้างเช่นเดิม จนเป็นวิกฤตใหม่ซ้อนวิกฤตเก่า กลายเป็นวิกฤตที่หนักขึ้นเรื่อยๆ ในยุค “บิ๊กตู่” ชนิดยากยิ่งขึ้นต่อการแก้ไขและอาจจะแก้ไขไม่ทันในห้วงที่ “บิ๊กตู่” มีอำนาจรัฐอยู่ในกำมือ ด้วยมีแนวโน้มว่าปัญหาชาติมากมายยุค “บิ๊กตู่” จะค้างคาไปจนถึงรัฐบาลใหม่โน่นเลยด้วยใจจริง...ผู้คนไม่น้อยชื่นชมผลงานหลายเรื่องที่ “บิ๊กตู่” ทำสำเร็จ!
อีกหลายเรื่องผู้คนเห็นใจ-เข้าใจ-รู้ว่า “บิ๊กตู่” ต้องใช้เวลาในการแก้ไขต้นเหตุปัญหาให้ชาติ!!
แต่อีกมากมายหลายเรื่อง ผู้คนไม่เห็นใจผสมกับความไม่เข้าใจว่า ทำไม “บิ๊กตู่” จึงไม่เด็ดขาดในการแก้ไขต้นเหตุปัญหาของชาติ ทั้งๆ ที่ “บิ๊กตู่” มีอำนาจล้นฟ้าอยู่ในกำมืออีกทั้งยึดอำนาจรัฐและบริหารชาติแบบเบ็ดเสร็จมานานเกือบ 3 ปีแล้ว...!!!
การแปรวิกฤตให้เป็นโอกาสนั้น ไม่ได้ซับซ้อนจน “บิ๊กตู่” ผู้ “ชาญฉลาด” จะไม่รู้นะว่า
การปราบคอร์รัปชันทั้งเก่าและใหม่ ถือเป็นการทำลายความมั่นคงอย่างร้ายแรง ทั้งต่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์และประชาชน แต่วิธีทำงานของ “บิ๊กตู่” กลับทำให้ผู้คนรู้สึกว่า “บิ๊กตู่” ยังไม่มีความเด็ดขาด-รวดเร็วเท่าที่ควร เช่น ผู้คนมี “คำถาม” ว่าเกือบ 3 ปีภายใต้รัฐบาล “บิ๊กตู่” ทำไมเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกรมสรรพากรจึงไม่กระตือรือร้นต่อการตามเก็บภาษี 16,000 ล้านบาท จาก ทักษิณ ชินวัตร ที่ขายหุ้นไม่โปร่งใสให้ลูกชายกับลูกสาว จนวันที่ 31 มีนาคม 2560 ก็จะหมดอายุความในการเก็บภาษีดังกล่าว...เพราะครบ 10 ปี...!
ทั้งๆ ที่ “สตง.” ได้ส่งจดหมายเตือนไปยังกรมสรรพากรแล้ว อีกทั้งศาลที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ ได้ระบุชัดว่าทักษิณเป็นเจ้าของหุ้นและเจ้าของรายได้ซึ่งสรรพากรหรือรัฐบาลต้องเรียกเก็บภาษีเข้ารัฐ แต่ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายกลับปล่อยให้เรื่องนี้ “เงียบฉี่” มาโดยตลอดจนอีกไม่กี่วันจะหมดอายุความ
ผู้คนเลยสงสัยว่า...ทำไมผู้ใหญ่ในกรมสรรพากร จึงกล้าที่จะไม่เก็บภาษีจากทักษิณ? ด้วยการแอบปล่อยให้หมดอายุความ 10 ปี แบบดื้อๆ? ผู้ใหญ่ในกรมสรรพากรปิดบังไม่บอกเรื่องนี้กับ “บิ๊กตู่” หรือ “บิ๊กตู่” รู้? เอ๊ะ...หรือมีใครที่ใกล้ชิด “บิ๊กตู่” กระซิบให้ผู้ใหญ่ในกรมสรรพากร-ทำแบบนี้อ๊ะป่าว? ฯลฯ
เอาเงิน 16,000 ล้านนี้เข้ารัฐเป็นแค่หนึ่งในเรื่อง “ร้าย” ที่ “บิ๊กตู่” ต้องเปลี่ยนให้เป็นเรื่อง “ดี” เพื่อชาติและประชาชน อีกทั้งเพื่อชื่อเสียง “บิ๊กตู่” และชาว “คสช.” ไงล่ะ...ข้อยเว้าแม่นบ่...?
แต่อีกหลายคนกลับเห็นว่า มรสุมร้ายที่โถมใส่ “รัฐนาวาตู่” เนี่ย ถ้า “กัปตันตู่” ใช้สติปัญญา-ผสานฝีมือ-บวกความกล้า-ทำจริงจังจากใจจริงก็จะเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้เป็นการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส หาก “บิ๊กตู่” ฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายไปได้ล่ะก้อ...
“รัฐนาวาตู่” จะแล่นฉลุยอยู่ยาวเลยก็เป็นได้ ทั้งนี้เพราะประวัติศาสตร์การเมืองไทยและทั่วโลก มี “ผู้นำรัฐ” มากมายที่ยึดผลประโยชน์ชาติ ได้เปลี่ยนเรื่องร้ายเยอะแยะให้กลายเป็นดีมีผลงานเป็นที่ประจักษ์
ดังเช่น ประชาชนผู้รักชาติออกมาขับไล่รัฐบาลทุนสามานย์เครือข่าย “เหลี่ยม” ที่โกงชาติและล้มเจ้า จนถูก “บิ๊กตู่” และชาว “คสช.” ทำรัฐประหาร ตัดอำนาจรัฐอธรรมของ “เหลี่ยม” ลง อันเป็นการแปรวิกฤตอันชั่วร้ายให้เป็นโอกาสทองในการแก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ ของชาติ
ฉะนั้น...ถ้า “บิ๊กตู่” ตั้งสติ สะกดอารมณ์หงุดหงิด กำหนดจิตให้นิ่ง แปรวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการสร้างผลงานเพื่อชาติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปฏิรูปชาติในเรื่องสำคัญให้สำเร็จ จนทำให้กลุ่มคนชั่วโกงชาติทั้งหลาย หมดหนทางจะใช้การเลือกตั้งสกปรกเข้ามายึดอำนาจรัฐ และทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติบ้านเมืองได้ล่ะก้อ...
“บิ๊กตู่” และชาว “คสช.” จะได้รับการแซ่ซ้องสรรเสริญจากคนไทยส่วนใหญ่เยี่ยงวีรบุรุษของชาติอย่างแน่นอน...จริงไหม?
ทว่า...หาก “บิ๊กตู่” และชาว “คสช.” ทำเพียงตัดตอนอำนาจรัฐ ออกจากกำมือรัฐบาลทุนสามานย์แบบชั่วคราว ย่อมไม่คุ้มค่าต่อชาติและจะทำให้รัฐประหารครั้งนี้ ที่นำโดย “บิ๊กตู่” หนีไม่พ้นฉายาเฉกเช่น “บิ๊กบัง” นั่นคือ
เป็นรัฐประหารเสียของ-มวยล้มต้มคนดู-เยี่ยวไม่สุด! เพราะ “บิ๊กตู่” ได้ละทิ้งโอกาสทอง ในการแก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ และการปฏิรูปชาติไปอย่างน่าเสียดายนั่นเอง
“คำตอบ” ในการสร้างผลงานดีๆ ให้ชาติครั้งนี้จึงไม่ได้อยู่ใน “สายลม” ดังเพลง“Blowin’in the Wind” ของ “Bob Dylan” เพราะ “คำตอบ” ทั้งหมดอยู่ที่ตัว “บิ๊กตู่” ที่ต้องสร้างผลงานให้กับชาติ โดยไม่เกรงกลัว “หน้าอินทร์หน้าพรหม” และการ “ลูบหน้าปะจมูก” พวกพ้อง
“บิ๊กตู่” ต้องไม่สร้างจุดอ่อนให้ผู้คนที่สนับสนุนคิดและตีความไปในทางลบว่าตัว “บิ๊กตู่” รู้เห็นเป็นใจปล่อยให้ “ใครบางคน” ที่ใกล้ชิดแอบไปเจรจา “ต้าอ่วย-ซูเอี๋ย-เกี้ยเซียะ” กับกลุ่มนักการเมืองทุนสามานย์โกงชาติ-ล้มเจ้า ที่ “หัวโจก” ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ทุกขณะ เพื่อโค่นล้มรัฐบาล “บิ๊กตู่” ในทุกรูปแบบ
แน่นอน...เป็นเรื่องน่าเห็นใจ...ที่ปัญหาเรื่องเก่าๆ มากมาย เกิดจากรัฐบาลทุนสามานย์ทั้งหลายได้สร้างไว้ และตกทอดมาจนถึงรัฐบาล “บิ๊กตู่” ให้ต้องรับภาระจากวิกฤตอันชั่วร้ายของชาติมาจนทุกวันนี้...
หลายเรื่อง “บิ๊กตู่” ได้แก้ไขปัญหาไปบ้างแล้ว แต่ยังมีอีกมากมายหลายเรื่องที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง แถมบางเรื่องยังถูกปล่อยให้คาค้างเช่นเดิม จนเป็นวิกฤตใหม่ซ้อนวิกฤตเก่า กลายเป็นวิกฤตที่หนักขึ้นเรื่อยๆ ในยุค “บิ๊กตู่” ชนิดยากยิ่งขึ้นต่อการแก้ไขและอาจจะแก้ไขไม่ทันในห้วงที่ “บิ๊กตู่” มีอำนาจรัฐอยู่ในกำมือ ด้วยมีแนวโน้มว่าปัญหาชาติมากมายยุค “บิ๊กตู่” จะค้างคาไปจนถึงรัฐบาลใหม่โน่นเลยด้วยใจจริง...ผู้คนไม่น้อยชื่นชมผลงานหลายเรื่องที่ “บิ๊กตู่” ทำสำเร็จ!
อีกหลายเรื่องผู้คนเห็นใจ-เข้าใจ-รู้ว่า “บิ๊กตู่” ต้องใช้เวลาในการแก้ไขต้นเหตุปัญหาให้ชาติ!!
แต่อีกมากมายหลายเรื่อง ผู้คนไม่เห็นใจผสมกับความไม่เข้าใจว่า ทำไม “บิ๊กตู่” จึงไม่เด็ดขาดในการแก้ไขต้นเหตุปัญหาของชาติ ทั้งๆ ที่ “บิ๊กตู่” มีอำนาจล้นฟ้าอยู่ในกำมืออีกทั้งยึดอำนาจรัฐและบริหารชาติแบบเบ็ดเสร็จมานานเกือบ 3 ปีแล้ว...!!!
การแปรวิกฤตให้เป็นโอกาสนั้น ไม่ได้ซับซ้อนจน “บิ๊กตู่” ผู้ “ชาญฉลาด” จะไม่รู้นะว่า
การปราบคอร์รัปชันทั้งเก่าและใหม่ ถือเป็นการทำลายความมั่นคงอย่างร้ายแรง ทั้งต่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์และประชาชน แต่วิธีทำงานของ “บิ๊กตู่” กลับทำให้ผู้คนรู้สึกว่า “บิ๊กตู่” ยังไม่มีความเด็ดขาด-รวดเร็วเท่าที่ควร เช่น ผู้คนมี “คำถาม” ว่าเกือบ 3 ปีภายใต้รัฐบาล “บิ๊กตู่” ทำไมเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกรมสรรพากรจึงไม่กระตือรือร้นต่อการตามเก็บภาษี 16,000 ล้านบาท จาก ทักษิณ ชินวัตร ที่ขายหุ้นไม่โปร่งใสให้ลูกชายกับลูกสาว จนวันที่ 31 มีนาคม 2560 ก็จะหมดอายุความในการเก็บภาษีดังกล่าว...เพราะครบ 10 ปี...!
ทั้งๆ ที่ “สตง.” ได้ส่งจดหมายเตือนไปยังกรมสรรพากรแล้ว อีกทั้งศาลที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ ได้ระบุชัดว่าทักษิณเป็นเจ้าของหุ้นและเจ้าของรายได้ซึ่งสรรพากรหรือรัฐบาลต้องเรียกเก็บภาษีเข้ารัฐ แต่ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายกลับปล่อยให้เรื่องนี้ “เงียบฉี่” มาโดยตลอดจนอีกไม่กี่วันจะหมดอายุความ
ผู้คนเลยสงสัยว่า...ทำไมผู้ใหญ่ในกรมสรรพากร จึงกล้าที่จะไม่เก็บภาษีจากทักษิณ? ด้วยการแอบปล่อยให้หมดอายุความ 10 ปี แบบดื้อๆ? ผู้ใหญ่ในกรมสรรพากรปิดบังไม่บอกเรื่องนี้กับ “บิ๊กตู่” หรือ “บิ๊กตู่” รู้? เอ๊ะ...หรือมีใครที่ใกล้ชิด “บิ๊กตู่” กระซิบให้ผู้ใหญ่ในกรมสรรพากร-ทำแบบนี้อ๊ะป่าว? ฯลฯ
เอาเงิน 16,000 ล้านนี้เข้ารัฐเป็นแค่หนึ่งในเรื่อง “ร้าย” ที่ “บิ๊กตู่” ต้องเปลี่ยนให้เป็นเรื่อง “ดี” เพื่อชาติและประชาชน อีกทั้งเพื่อชื่อเสียง “บิ๊กตู่” และชาว “คสช.” ไงล่ะ...ข้อยเว้าแม่นบ่...?