ข่าวปนคน คนปนข่าว
“ดีลลับ”สไตล์“เสี่ยหนู”ว่าที่นายกฯ
ไม่แคล้วดันนิรโทษฯสุดซอยอีกคำรบ
หลังจากเป็นเรื่องเมาต์ในวงเหล้า-วงไวน์ มาหลายปี ที่สุดก็มีการสารภาพความจริงต่อสาธารณะเสียที กับเรื่องที่“เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รับบท“สารถีจำเป็น”หอบ “บิ๊กบัง”พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตหัวหน้า คมช. เมื่อครั้งมีตำแหน่งเป็นส.ส. และหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปพบ “นายแม้ว”ทักษิณ ชินวัตร ที่ต่างแดน ก่อนที่“บิ๊กบัง”จะกลับเป็นผู้เสนอ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ต่อสภาผู้แทนราษฎรในยุครัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดวิกฤตทางการเมือง จนทำให้“รัฐบาลหนูปู”ต้องมีอันเป็นไป พร้อมการเข้ามาของคสช. ที่นำโดย “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อปี 2557 ... ที่กลายเป็นประเด็นขึ้นมาก็ด้วยลูกตื๊อของ“เดอะแจ๊ค”วัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ปากกล้า พรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ “บังซุป”ศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย ต้องออกมายอมรับโดยดุษฎี
จริงๆดีล“บิ๊กบัง-ทักษิณ”พบกันเมื่อหลายปีก่อนนั้น ไม่ได้ถือเป็นความลับอะไรมากมาย เป็นความภาคภูมิใจของ“เสี่ยหนู”ด้วยซ้ำ ที่มักเล่าถึงวีรกรรม “ลับ ลวง พราง”หนนั้นในแทบจะทุกวงสนทนา เป็นความภมิใจในการนำพา“คู่ขัดแย้ง”ไปพบเพื่อทำความเข้าใจกันได้ นำพามาซึ่งร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่ต่างฝ่ายต่างเอออห่อหมกว่าเป็น “ทางออกประเทศ”ในตอนนั้น แต่ก็เหมือนครื้นเครงกันในกะลาของ“ผู้มีอำนาจ” ที่สุดพอเนื้อหาร่างกฎหมายที่ว่าออกมา สังคมก็จับได้ไล่ทันว่า “เกี้ยเซียะ”กันแล้ว จนเกิดเป็นกระแสต่อต้านในวงกว้างอย่างที่ทราบๆ กันไปแล้ว
+++++++++++++++++++++
รวมทั้งมีเครื่องหมายคำถามถึงการเปลี่ยนไปของ“บิ๊กบัง”ที่เมื่อครั้งยึดอำนาจปี 2549 เคยบรรยายความเลวร้ายของ“ระบอบทักษิณ”ไว้จนหาดีไม่ได้ แต่แล้ววันหนึ่งกลับยอมมาเป็น“หมาก”ในเกม “นิรโทษกรรมสุดซอย”ซึ่งผู้ได้ประโยชน์ที่สุดหนีไม่พ้น “ทักษิณ ชินวัตร”ผู้ร้ายของคมช.นั่นเอง ... ที่ “ดีลลับ” นี้ถูกขุดออกมาในช่วงนี้ ก็เหมือนเป็นการ“ดักคอ”ทาง “เสี่ยหนู”ที่พยายาม “แสดงบทบาท”วางโพซิชั่นตัวเองใน“แคนดิเดตนายกฯ”หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ซึ่ง หากถึงวันนั้นจริง ก็คงไม่แคล้วที่จะดันเรื่องนิรโทษกรรมออกมาอีกครั้ง นั่นเอง
สักพักใหญ่แล้วที่สังคมรับรู้ได้ว่า“เสี่ยหนู”หมายตาไปที่เก้าอี้นายกรัฐมนตรี ภายหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า อาจจะด้วยส่องกระจกสำรวจตัวเองแล้วว่า มีความพร้อมทั้งในเรื่องวัยวุฒิ และฐานะ ที่ในกระเป๋าที่มีไม่มากไม่น้อย ระดับน้องๆ เจ้าสัวเบอร์ต้นๆ ของประเทศ ขาดก็แต่เรื่อง“คุณวุฒิ”ที่ยังด้อยประสบการณ์ในทางการเมือง กระทั่งส.ส.ก็ยังไม่เคยเป็น แล้วก็ผ่านงานรัฐมนตรีมาไม่มากเท่าที่ควร จึงเห็นว่าช่วงหลังมานี้ “เสี่ยหนู”คงแก่เรียนอย่างผิดสังเกต มีองค์กร-หน่วยงานไหนเปิดหลักสูตรอบรม ก็จะมีชื่อ“เสี่ยหนู”ไปลงทะเบียนคนแรกๆ กระทั่งหลักสูตรธรรมาภิบาลผู้บริหารทางการแพทย์ (ปธพ.) ของทางแพทยสภา ก็ยังไม่พลาด ... เรื่องความรู้นี่ไม่แน่ใจว่าตักตวงได้มากน้อยแค่ไหน แต่เรื่องคอนเนคชั่นนี่ แน่นปึ๊ก
+++++++++++++++
และไม่รู้ว่าเป็นเพราะมนต์เสน่ห์ของตัว “เสี่ยหนู”หรือความอลังการ-สะดวกสบาย ของของสนามกอล์ฟ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ต แอนด์ คันทรี กันแน่ที่ทำให้หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนๆ ทุกหลักสูตร ที่พร้อมใจกันเรียกอย่างชินปากว่า “ท่านนายก ๆ”จนคนฟังหน้าบาน สอดรับกับข่าวซุบซิบที่ว่า“ปู่จิ้น” ชวรัตน์ ชาญวีรกูล พ่อบังเกิดเกล้าของ“เสี่ยหนู”ที่วาดหวังให้ลูกชายคนนี้สานต่อความฝันของตัวเองในการนั่งนายกฯในอนาคตอันใกล้ หลังจากที่“ปู่จิ้น”เคยเฉียดๆ มาแล้วเมื่อครั้งรักษาการนายกฯ แทน สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ต้องพ้นจากตำแหน่งกระทันกันมาแล้ว เมื่อปี 2551 แว่วว่า “ปู่จิ้น”ถึงขั้นเดินสายหอบดวงชะตา-วันตกฟากไปให้สำนักหมอดู-พระ-โหรเช็กดวงให้ และทุกสำนักก็ฟันธงเปรี้ยงคล้ายกันว่า นายกฯคนต่อไปไม่พ้น“ลูกหนู”แน่นอน ทำเอาครื้นเครงกันทั้งบ้าน
นับว่าดีล “บิ๊กบัง-ทักษิณ”เป็นเครื่องการันตีรูปแบบการก้าวย่างของ“เสี่ยหนู”ได้ไม่มากก็น้อย อาจจะเชื่อมโยงไปถึง“ดีลลับปรองดอง”ที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงนี้ และ“เครือผู้จัดการ”ดักคอ-ดักทาง มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง หนึ่งในตัวละครสำคัญตามท้องเรื่องก็มีชื่อ“เสี่ยหนู”ในฐานะโซ่ข้อกลางเชื่อมทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทั้ง “นายใหญ่ทักษิณ”ไปจนถึงสาย “เสี่ยเป็ด”เนวิน ชิดชอบ เจ้าของพรรคภูมิใจไทยตัวจริง และที่ขาดไม่ได้กับรายของ "วิชัย ศรีวัฒนประภา" เจ้าสัวแห่งกลุ่มคิงเพาเวอร์ ด้วย
++++++++++++++++++
** สวดพระอภิธรรม ดร.ยอดยิ่ง เทพธรานนท์ ถึงวันที่ 13 มีนาคม เวลา 19.00 น. ก่อนจะประชุมเพลิง วันที่ 14 มีนาคม เวลา 16.00 น. ณ วัดสหกรณ์โฆสิตาราม ต.โคกขาม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร .
“ดีลลับ”สไตล์“เสี่ยหนู”ว่าที่นายกฯ
ไม่แคล้วดันนิรโทษฯสุดซอยอีกคำรบ
หลังจากเป็นเรื่องเมาต์ในวงเหล้า-วงไวน์ มาหลายปี ที่สุดก็มีการสารภาพความจริงต่อสาธารณะเสียที กับเรื่องที่“เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รับบท“สารถีจำเป็น”หอบ “บิ๊กบัง”พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตหัวหน้า คมช. เมื่อครั้งมีตำแหน่งเป็นส.ส. และหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปพบ “นายแม้ว”ทักษิณ ชินวัตร ที่ต่างแดน ก่อนที่“บิ๊กบัง”จะกลับเป็นผู้เสนอ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ต่อสภาผู้แทนราษฎรในยุครัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดวิกฤตทางการเมือง จนทำให้“รัฐบาลหนูปู”ต้องมีอันเป็นไป พร้อมการเข้ามาของคสช. ที่นำโดย “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อปี 2557 ... ที่กลายเป็นประเด็นขึ้นมาก็ด้วยลูกตื๊อของ“เดอะแจ๊ค”วัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ปากกล้า พรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ “บังซุป”ศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย ต้องออกมายอมรับโดยดุษฎี
จริงๆดีล“บิ๊กบัง-ทักษิณ”พบกันเมื่อหลายปีก่อนนั้น ไม่ได้ถือเป็นความลับอะไรมากมาย เป็นความภาคภูมิใจของ“เสี่ยหนู”ด้วยซ้ำ ที่มักเล่าถึงวีรกรรม “ลับ ลวง พราง”หนนั้นในแทบจะทุกวงสนทนา เป็นความภมิใจในการนำพา“คู่ขัดแย้ง”ไปพบเพื่อทำความเข้าใจกันได้ นำพามาซึ่งร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่ต่างฝ่ายต่างเอออห่อหมกว่าเป็น “ทางออกประเทศ”ในตอนนั้น แต่ก็เหมือนครื้นเครงกันในกะลาของ“ผู้มีอำนาจ” ที่สุดพอเนื้อหาร่างกฎหมายที่ว่าออกมา สังคมก็จับได้ไล่ทันว่า “เกี้ยเซียะ”กันแล้ว จนเกิดเป็นกระแสต่อต้านในวงกว้างอย่างที่ทราบๆ กันไปแล้ว
+++++++++++++++++++++
รวมทั้งมีเครื่องหมายคำถามถึงการเปลี่ยนไปของ“บิ๊กบัง”ที่เมื่อครั้งยึดอำนาจปี 2549 เคยบรรยายความเลวร้ายของ“ระบอบทักษิณ”ไว้จนหาดีไม่ได้ แต่แล้ววันหนึ่งกลับยอมมาเป็น“หมาก”ในเกม “นิรโทษกรรมสุดซอย”ซึ่งผู้ได้ประโยชน์ที่สุดหนีไม่พ้น “ทักษิณ ชินวัตร”ผู้ร้ายของคมช.นั่นเอง ... ที่ “ดีลลับ” นี้ถูกขุดออกมาในช่วงนี้ ก็เหมือนเป็นการ“ดักคอ”ทาง “เสี่ยหนู”ที่พยายาม “แสดงบทบาท”วางโพซิชั่นตัวเองใน“แคนดิเดตนายกฯ”หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ซึ่ง หากถึงวันนั้นจริง ก็คงไม่แคล้วที่จะดันเรื่องนิรโทษกรรมออกมาอีกครั้ง นั่นเอง
สักพักใหญ่แล้วที่สังคมรับรู้ได้ว่า“เสี่ยหนู”หมายตาไปที่เก้าอี้นายกรัฐมนตรี ภายหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า อาจจะด้วยส่องกระจกสำรวจตัวเองแล้วว่า มีความพร้อมทั้งในเรื่องวัยวุฒิ และฐานะ ที่ในกระเป๋าที่มีไม่มากไม่น้อย ระดับน้องๆ เจ้าสัวเบอร์ต้นๆ ของประเทศ ขาดก็แต่เรื่อง“คุณวุฒิ”ที่ยังด้อยประสบการณ์ในทางการเมือง กระทั่งส.ส.ก็ยังไม่เคยเป็น แล้วก็ผ่านงานรัฐมนตรีมาไม่มากเท่าที่ควร จึงเห็นว่าช่วงหลังมานี้ “เสี่ยหนู”คงแก่เรียนอย่างผิดสังเกต มีองค์กร-หน่วยงานไหนเปิดหลักสูตรอบรม ก็จะมีชื่อ“เสี่ยหนู”ไปลงทะเบียนคนแรกๆ กระทั่งหลักสูตรธรรมาภิบาลผู้บริหารทางการแพทย์ (ปธพ.) ของทางแพทยสภา ก็ยังไม่พลาด ... เรื่องความรู้นี่ไม่แน่ใจว่าตักตวงได้มากน้อยแค่ไหน แต่เรื่องคอนเนคชั่นนี่ แน่นปึ๊ก
+++++++++++++++
และไม่รู้ว่าเป็นเพราะมนต์เสน่ห์ของตัว “เสี่ยหนู”หรือความอลังการ-สะดวกสบาย ของของสนามกอล์ฟ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ต แอนด์ คันทรี กันแน่ที่ทำให้หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนๆ ทุกหลักสูตร ที่พร้อมใจกันเรียกอย่างชินปากว่า “ท่านนายก ๆ”จนคนฟังหน้าบาน สอดรับกับข่าวซุบซิบที่ว่า“ปู่จิ้น” ชวรัตน์ ชาญวีรกูล พ่อบังเกิดเกล้าของ“เสี่ยหนู”ที่วาดหวังให้ลูกชายคนนี้สานต่อความฝันของตัวเองในการนั่งนายกฯในอนาคตอันใกล้ หลังจากที่“ปู่จิ้น”เคยเฉียดๆ มาแล้วเมื่อครั้งรักษาการนายกฯ แทน สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ต้องพ้นจากตำแหน่งกระทันกันมาแล้ว เมื่อปี 2551 แว่วว่า “ปู่จิ้น”ถึงขั้นเดินสายหอบดวงชะตา-วันตกฟากไปให้สำนักหมอดู-พระ-โหรเช็กดวงให้ และทุกสำนักก็ฟันธงเปรี้ยงคล้ายกันว่า นายกฯคนต่อไปไม่พ้น“ลูกหนู”แน่นอน ทำเอาครื้นเครงกันทั้งบ้าน
นับว่าดีล “บิ๊กบัง-ทักษิณ”เป็นเครื่องการันตีรูปแบบการก้าวย่างของ“เสี่ยหนู”ได้ไม่มากก็น้อย อาจจะเชื่อมโยงไปถึง“ดีลลับปรองดอง”ที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงนี้ และ“เครือผู้จัดการ”ดักคอ-ดักทาง มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง หนึ่งในตัวละครสำคัญตามท้องเรื่องก็มีชื่อ“เสี่ยหนู”ในฐานะโซ่ข้อกลางเชื่อมทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทั้ง “นายใหญ่ทักษิณ”ไปจนถึงสาย “เสี่ยเป็ด”เนวิน ชิดชอบ เจ้าของพรรคภูมิใจไทยตัวจริง และที่ขาดไม่ได้กับรายของ "วิชัย ศรีวัฒนประภา" เจ้าสัวแห่งกลุ่มคิงเพาเวอร์ ด้วย
++++++++++++++++++
** สวดพระอภิธรรม ดร.ยอดยิ่ง เทพธรานนท์ ถึงวันที่ 13 มีนาคม เวลา 19.00 น. ก่อนจะประชุมเพลิง วันที่ 14 มีนาคม เวลา 16.00 น. ณ วัดสหกรณ์โฆสิตาราม ต.โคกขาม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร .