xs
xsm
sm
md
lg

ถก39อรหันต์ป.ย.ป. เร่งขับเคลื่อนประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

"ประยุทธ์" คิกออฟประชุม 39 อรหันต์ ป.ย.ป. เน้นสร้างการรับรู้ผลงานรัฐบาล การมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อนำไปสู่การสร้างประเทศให้ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ยันวางแผนเดินตามโรดแมป "ศุภชัย" ชี้ยุทธศาสตร์นายกฯ มาถูกทาง สำเร็จแน่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 9.30 น. วานนี้ (6มี.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.)

โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่มาช่วยกันทำงานที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศในครั้งนี้ ตามที่คาดหวังว่าจะให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งเชื่อว่า วิสัยทัศน์จาก 3 คำนี้ คงจะไม่มีใครขัดข้อง เพราะได้รวบรวมเอาทุกสิ่งไว้แล้ว ความมั่นคงไม่ใช่แค่เพราะทหารกับตำรวจ แต่ต้องมั่นคงทุกภาคส่วน ทั้งเศรษฐกิจ ความมั่งคั่ง คือ ทุกชนชั้น และเรื่องของอาชีพ รายได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีรายได้มากหรือน้อย ก็ควรจะได้รับผลประโยชน์ที่เท่าเทียมตามสัดส่วนที่เหมาะสม และรูปแบบการค้าเสรี ไม่ใช่แบบสังคมนิยมประชาธิปไตย ทุกอย่างค่อนข้างจะกำหนดกฎเกณฑ์ได้ยาก ให้เป็นไปอย่างที่เราต้องการ อาจมีหลายฝ่ายสงสัยว่าการประชุมครั้งนี้ช้าไปหรือไม่ ซึ่งขอตอบว่า ไม่ช้าไป เพราะได้วางแผนเอาไว้ตามนั้นแล้ว ตามโรดแมปที่มีอยู่แล้ว เดิมในปี 60 ซึ่งเป็นปีแห่งการปฏิรูป แม้ที่ผ่านมา จะได้ทำงานการปฏิรูปมาตลอด แต่ก็ยังอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง และความสับสนอลหม่าน การรับฟังความคิดเห็นต่างๆ ไม่ว่าจะเห็นตรง หรือเห็นต่าง

ภายหลังการประชุม นายกฯ ได้ร่วมถ่ายภาพหมู่ร่วมกับคณะทำงาน แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด โดยนายกฯ ได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 3/2560 และได้มอบให้นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการ ป.ย.ป. แถลงผลการประชุมแทน

** เน้นสร้างความรับรู้ให้ประชาชน

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการฯ ป.ย.ป. แถลงภายหลังการประชุมว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงถึงยุทธศาสตร์ชาติ การขับเคลื่อนการปฏิรูป หลังจากมีรัฐธรรมนูญใหม่ ถึงพ.ร.บ.หรือกฎหมายรองรับในทั้ง 7 ด้าน มีอย่างไรบ้าง ซึ่งในที่ประชุมนายกฯ มองว่าผู้ทรงคุณวุฒิที่เชิญมาทั้ง 39 คน ไม่ได้มีหน้าที่เฉพาะให้คำปรึกษากับคณะกรรมการมินิคาบิเนตเท่านั้น แต่จะให้มีการหารือกันระหว่าง ป.ย.ป. และผู้ทรงคุณวุฒิในองค์รวม หรือจัดทำเวิร์กช็อปร่วมกัน ซึ่งในที่ประชุมหลายท่านมีความคิดเห็นที่หลากหลาย โดยเฉพาะนายศุภชัย พานิชภักดิ์ ได้ระบุว่า ดัชนีชี้วัดหลายตัวของประเทศไทยในเวทีนานาชาติ ทั้งเรื่องธรรมาภิบาล นวัตกรรม อยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องดีที่สื่อจากภายนอกมองภาพประเทศไทยเป็นบวกมากขึ้น

นอกจากนี้ ประเด็นที่มีความเห็นพ้องต้องกัน คือ เรื่องคุณภาพคน ที่ต้องร่วมกันพัฒนาโดยมองว่าทรัพยากรมนุษย์ไม่ใช่เรื่องกระทรวงศึกษาธิการอย่างเดียว แต่ต้องร่วมดำเนินการหลายภาคส่วน โดยใช้แนวทางประชารัฐ ขณะที่เรื่องการขับเคลื่อนการปฏิรูปนั้น ก็มีหลายเรื่องที่ดำเนินการไปแล้วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะทำอย่างไรให้ประชาชนรับทราบในสิ่งที่ได้ทำไปแล้ว

"จุดที่เน้นมากในการประชุมครั้งนี้ คือ ทำอย่างไรให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น ผมได้รับมอบหมายให้ประสานกับผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อดูว่าเราจะสร้างกลไกลงไปขับเคลื่อนเรื่องยุทธศาสตร์การปฏิรูป และการปรองดองในภาพรวม และจะสร้างกลไกให้ประชาชนมีส่วนร่วมในเรื่องเหล่านี้อย่างไร โดยใช้กระบวนการประชารัฐ" นายสุวิทย์กล่าว

นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่าในที่ประชุมได้พูดถึงเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีความเห็นหลากหลายว่าใน 7 มิตินั้น น้ำหนักความสำคัญด้านความมั่นคง ทรัพยากรมนุษย์ ขีดความสามารถ จนกระทั่งเรื่องความเลื่อมล้ำ หัวใจสำคัญเห็นควรว่าจะต้องไปเน้นเรื่องคนเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม จากนี้ผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 คณะ ก็จะลงไปช่วยให้ข้อคิดเห็นและคำแนะนำตามคณะของตนเอง พร้อมกับหารือในภาพใหญ่ขององค์รวมทั้ง 39 คน เนื่องจากที่ประชุมเห็นว่า ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมดมีประสบการณ์และองค์ความรู้ที่มากกว่าในคณะของตนเอง ทั้งนี้นายกฯย้ำว่าให้เริ่มผลักดันในเรื่องการสร้างความรับรู้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

** "ศุภชัย"ชมรัฐบาลมาถูกทาง

นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังก์ถัด ในฐานะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติใน ป.ย.ป. กล่าวว่า เหตุผลที่ตัดสินใจตอบรับเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในป.ย.ป. เพราะเชื่อว่าประเทศไทยต้องมียุทธศาสตร์ระยะยาว สิ่งที่รัฐบาลทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ในการประสานยุทธศาสตร์ชาติกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ ทั้งระดับภูมิภาคและจังหวัด ที่สำคัญทุกภาคส่วนของประเทศต้องช่วยกันทำ ต้องให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ต้องช่วยกันเหมือนที่นายกฯ บอกไว้ ส่วนรายละเอียดจะได้หารือในการประชุมครั้งต่อไป

เมื่อถามว่า มั่นใจว่าสิ่งที่รัฐบาลทำจะสำเร็จใช่หรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า สำเร็จ ต้องไปได้แน่นอน ไม่มีไม่ได้

**"ธงทอง"รอสรุปผลศึกษาปรองดอง

นายธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดองใน ป.ย.ป. กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ได้ข้อมูลการดำเนินการในภาพรวมที่จะเชื่อมโยงการทำงานในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องปฏิรูปประเทศ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ และการสร้างความปรองดอง โดยเฉพาะเรื่องปรองดองนั้น ได้หารือกับพล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ และ นายอัชพร จารุจินดา ซึ่งเป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิในด้านนี้ว่ามีการศึกษาเรื่องการสร้างความปรองดองมาหลายคณะ จึงจะนำข้อสรุปเหล่านั้นมาพิจารณา และคงจะให้ความเห็นเรื่องการปรองดอง เมื่อได้เห็นภาพรวมทั้งหมดแล้ว คาดว่าใช้เวลาไม่นาน เพราะรู้ดีว่าเป็นภารกิจเร่งด่วน
กำลังโหลดความคิดเห็น