ข่าวปนคน คนปนข่าว
ระวัง!!“ธรรมกาย”จนตรอก
เตรียมสมรภูมิพร้อมรบเต็มพิกัด
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อวันก่อน เรื่องถอดถอนสมณศักดิ์ “ธัมมชโย”หรือ พระไชยบูลย์ สุทธิผล แห่งวัดพระธรรมกาย คงทำให้“เหล่าสาวก” รู้เช่นชาติขึ้นไม่มากก็น้อย ด้วยเหตุผลประกอบที่ร้ายแรงเกินจะ“ครองผ้าเหลือง”ไว้ด้วยซ้ำ ทั้งถูกกล่าวหาในคดีฟอกเงิน-รับของโจร-รุกป่า และ“คดีอาญา”ฐานอื่นอีกหลายฐานความผิด ที่สำคัญไม่ยอมเข้ามอบตัวตามกระบวนการยุติธรรม ทำให้ตอนนี้เหลือแค่คำนำหน้าชื่อว่าเป็น“พระ”เท่านั้น จับได้ไล่ทันเมื่อไรคงไม่แคล้วเจอ“จับสึก”เป็น “สมีไชยบูลย์”แน่นอน ... ทิศทางลมชัดเจน ทำเอาเหล่าสาวกระดับ“เซเลบริตี้”เงียบเป็นเป่าสาก
แถม“แม่ทัพนายกอง”ทั้งหลายก็เจอคดีความค้ำคอจนได้รับตำแหน่งต่อท้ายเป็น“ผู้ต้องหา”กันเป็นแถว ถึงตอนนี้มีคำสั่งเรียกให้มารายงานตัว รวมทั้งห้ามเข้า-ออกจาก“พื้นที่ควบคุม”แล้วเกือบ 30 ราย จำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นพระสงฆ์ รายที่หายหน้าหายตาไป จนทำให้แฟนๆ บ่นคิดถึงกันเต็มโซเชี่ยล ก็คงหนีไม่พ้น “พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส”ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ที่เคยจ้อรายวัน แต่ก็ต้องหลบเข้าหลังม่านไปอีกคน หลัง ดีเอสไอ แจ้งไป 2 คดีเบาะๆ ฐานยุยงปลุกปั่น และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
+++++++++++++++
ตอนนี้เลยเป็นคิว“พระมหาทศพร”ที่มีตำแหน่งพิลึก หัวหน้ากองภาพลักษณ์ออนไลน์ วัดพระธรรมกาย รับหน้าเสื่อออกมาแถลง แล้วก็ไม่ผิดหวัง เมื่อสร้างความเฮฮาได้ไม่แพ้ลูกพี่ โดยเฉพาะ“ลูกแขวะ”เรื่องงบประมาณในการปิดล้อมวัดฯ ที่ “ดีเอสไอ”ใช้ไปแล้วหลายสิบล้าน โดยเรียกร้องให้ไปแจกคนทั้งประเทศ คนละล้าน ออกทะเลไปเลย เหมือนกับรายของ“พระเสกสรร อัตตทโม”แกนนำธรรมกายฟากตลาดกลางคลองหลวง ที่ไล่ให้รัฐบาลคสช. นำมาตรา 44 ในใช้ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ใครฟังแล้วก็คงได้แต่ “เบ้ปาก-มองบน”
ตัวโฆษก-คนออกหน้าเริ่มขาดแคลน แต่“ฝ่าย เสธ.”ยังพร้อมลุย ยกระดับการถูกปิดล้อมจาก“พื้นที่ควบคุม”ให้เป็น “สมรภูมิรบ”อยู่ตลอด หลักฐานทนโท่กับ“ร่องดิน-ปล่อยน้ำ”ที่เพิ่งขุดกันสดๆ 4 จุด พร้อมขนถังน้ำมัน 200 ลิตร มาตั้งราว 20 ถัง ไม่ต่างจาก“บังเกอร์”ในสนามรบ บริเวณทางเข้าอาคารบุญรักษา แถมมีการขึงสแลนไว้เป็นกำแพงอีกชั้น ตรงจุดที่“กองทัพพระ-เณร”ดาหน้ามาขวางเจ้าหน้าที่ทหารเมื่อสัปดาห์ก่อน ... บ่งบอกถึงยุทธวิธีทางทหาร ตีความเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากส่งสัญญาณจนตรอก พร้อมรบเต็มพิกัด
หวังว่าจะเป็นอย่างที่“บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ที่จัดหนักถึง“อดีตเจ้าวัดพระธรรมกาย”มาตลอด บอกเมื่อวานในระหว่างร่วมประชุมสรุปความคืบหน้ากับเจ้าหน้าที่ว่า“งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา งานเลี้ยงนี้ก็ใกล้จบแล้ว” ... ก็ 20 วันเข้าให้แล้ว กองเชียร์-กองแช่ง เบื่อเต็มที
++++++++++++++
ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก ... จนป่านนี้ร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฯ และ ร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมฯ ก็ยังกองอยู่ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้วก็ไม่มีทีท่าจะแล้วเสร็จทำคลอดออกมาได้เสียที ล่าสุด “บิ๊กกนธ์”พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ประธานกมธ.พลังงาน ที่นั่งหัวโต๊ะ กมธ.วิสามัญฯด้วย เตรียมเสนอที่ประชุมใหญ่ สนช. เพื่อขอเลื่อนเวลาพิจารณา“รอบที่ 6”อีก 30 วัน หลังจากที่เลื่อนมาแล้ว 5 รอบ 150 วัน หรือ 5 เดือนเต็ม เลื่อนอีกรอบก็ครึ่งปีพอดิบพอดี ซึ่งทำให้ “เดดไลน์”ของรัฐบาลที่เคยกำหนดไว้ปลายปี 2559 เลื่อนออกไปอีกอย่างน้อยๆ 3 เดือน
เห็นว่าประเด็นที่ยังคาใจ เคลียร์กันไม่จบ ก็เรื่องการตั้ง “บรรษัทพลังงานแห่งชาติ”ซึ่งที่จริงแล้ว “บิ๊กกนธ์”ดูจะไม่อยากให้มีการตั้งขึ้น แต่ก็ไม่สามารถหยิบยกเหตุผลมาหักล้างข้อมูลของกรรมาธิการบางส่วนได้ จึงต้องบรรจุตามข้อเสนอของ “ภาคประชาชน”ที่หวังให้บรรษัทพลังงานแห่งชาติ เป็นตัวขับเคลื่อนการพึ่งพาตัวเองอย่างยั่งยืนในเรื่องพลังงานของประเทศ และแม้จะบรรจุไว้ในร่างกฎหมายแล้ว ก็ยังมีความพยายามในการ “ชักเย่อ”โควต้าเก้าอี้กรรมการในบรรษัทฯ ที่ว่าอีก ทาง“ฝ่ายรัฐ”ก็ต้องการกุมเสียงข้างมาก แต่ภาคประชาชนก็อ่านทางออก ยอมไม่ได้เช่นกัน งานนี้ท่าทาง“บิ๊กกนธ์”ผู้ได้ชื่อว่าเป็นนายทหารสายประนีประนอมน่าจะ“เอาไม่อยู่”เพราะมีข้อขัดแย้งกับทางภาคประชาชนหลายเรื่องเหลือเกิน สงสัย “เพื่อนตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร รุ่น 12 คงต้องยื่นมือมาช่วยเสียแล้ว .
ช.ชฎา
ระวัง!!“ธรรมกาย”จนตรอก
เตรียมสมรภูมิพร้อมรบเต็มพิกัด
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อวันก่อน เรื่องถอดถอนสมณศักดิ์ “ธัมมชโย”หรือ พระไชยบูลย์ สุทธิผล แห่งวัดพระธรรมกาย คงทำให้“เหล่าสาวก” รู้เช่นชาติขึ้นไม่มากก็น้อย ด้วยเหตุผลประกอบที่ร้ายแรงเกินจะ“ครองผ้าเหลือง”ไว้ด้วยซ้ำ ทั้งถูกกล่าวหาในคดีฟอกเงิน-รับของโจร-รุกป่า และ“คดีอาญา”ฐานอื่นอีกหลายฐานความผิด ที่สำคัญไม่ยอมเข้ามอบตัวตามกระบวนการยุติธรรม ทำให้ตอนนี้เหลือแค่คำนำหน้าชื่อว่าเป็น“พระ”เท่านั้น จับได้ไล่ทันเมื่อไรคงไม่แคล้วเจอ“จับสึก”เป็น “สมีไชยบูลย์”แน่นอน ... ทิศทางลมชัดเจน ทำเอาเหล่าสาวกระดับ“เซเลบริตี้”เงียบเป็นเป่าสาก
แถม“แม่ทัพนายกอง”ทั้งหลายก็เจอคดีความค้ำคอจนได้รับตำแหน่งต่อท้ายเป็น“ผู้ต้องหา”กันเป็นแถว ถึงตอนนี้มีคำสั่งเรียกให้มารายงานตัว รวมทั้งห้ามเข้า-ออกจาก“พื้นที่ควบคุม”แล้วเกือบ 30 ราย จำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นพระสงฆ์ รายที่หายหน้าหายตาไป จนทำให้แฟนๆ บ่นคิดถึงกันเต็มโซเชี่ยล ก็คงหนีไม่พ้น “พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส”ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ที่เคยจ้อรายวัน แต่ก็ต้องหลบเข้าหลังม่านไปอีกคน หลัง ดีเอสไอ แจ้งไป 2 คดีเบาะๆ ฐานยุยงปลุกปั่น และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
+++++++++++++++
ตอนนี้เลยเป็นคิว“พระมหาทศพร”ที่มีตำแหน่งพิลึก หัวหน้ากองภาพลักษณ์ออนไลน์ วัดพระธรรมกาย รับหน้าเสื่อออกมาแถลง แล้วก็ไม่ผิดหวัง เมื่อสร้างความเฮฮาได้ไม่แพ้ลูกพี่ โดยเฉพาะ“ลูกแขวะ”เรื่องงบประมาณในการปิดล้อมวัดฯ ที่ “ดีเอสไอ”ใช้ไปแล้วหลายสิบล้าน โดยเรียกร้องให้ไปแจกคนทั้งประเทศ คนละล้าน ออกทะเลไปเลย เหมือนกับรายของ“พระเสกสรร อัตตทโม”แกนนำธรรมกายฟากตลาดกลางคลองหลวง ที่ไล่ให้รัฐบาลคสช. นำมาตรา 44 ในใช้ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ใครฟังแล้วก็คงได้แต่ “เบ้ปาก-มองบน”
ตัวโฆษก-คนออกหน้าเริ่มขาดแคลน แต่“ฝ่าย เสธ.”ยังพร้อมลุย ยกระดับการถูกปิดล้อมจาก“พื้นที่ควบคุม”ให้เป็น “สมรภูมิรบ”อยู่ตลอด หลักฐานทนโท่กับ“ร่องดิน-ปล่อยน้ำ”ที่เพิ่งขุดกันสดๆ 4 จุด พร้อมขนถังน้ำมัน 200 ลิตร มาตั้งราว 20 ถัง ไม่ต่างจาก“บังเกอร์”ในสนามรบ บริเวณทางเข้าอาคารบุญรักษา แถมมีการขึงสแลนไว้เป็นกำแพงอีกชั้น ตรงจุดที่“กองทัพพระ-เณร”ดาหน้ามาขวางเจ้าหน้าที่ทหารเมื่อสัปดาห์ก่อน ... บ่งบอกถึงยุทธวิธีทางทหาร ตีความเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากส่งสัญญาณจนตรอก พร้อมรบเต็มพิกัด
หวังว่าจะเป็นอย่างที่“บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ที่จัดหนักถึง“อดีตเจ้าวัดพระธรรมกาย”มาตลอด บอกเมื่อวานในระหว่างร่วมประชุมสรุปความคืบหน้ากับเจ้าหน้าที่ว่า“งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา งานเลี้ยงนี้ก็ใกล้จบแล้ว” ... ก็ 20 วันเข้าให้แล้ว กองเชียร์-กองแช่ง เบื่อเต็มที
++++++++++++++
ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก ... จนป่านนี้ร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฯ และ ร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมฯ ก็ยังกองอยู่ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้วก็ไม่มีทีท่าจะแล้วเสร็จทำคลอดออกมาได้เสียที ล่าสุด “บิ๊กกนธ์”พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ประธานกมธ.พลังงาน ที่นั่งหัวโต๊ะ กมธ.วิสามัญฯด้วย เตรียมเสนอที่ประชุมใหญ่ สนช. เพื่อขอเลื่อนเวลาพิจารณา“รอบที่ 6”อีก 30 วัน หลังจากที่เลื่อนมาแล้ว 5 รอบ 150 วัน หรือ 5 เดือนเต็ม เลื่อนอีกรอบก็ครึ่งปีพอดิบพอดี ซึ่งทำให้ “เดดไลน์”ของรัฐบาลที่เคยกำหนดไว้ปลายปี 2559 เลื่อนออกไปอีกอย่างน้อยๆ 3 เดือน
เห็นว่าประเด็นที่ยังคาใจ เคลียร์กันไม่จบ ก็เรื่องการตั้ง “บรรษัทพลังงานแห่งชาติ”ซึ่งที่จริงแล้ว “บิ๊กกนธ์”ดูจะไม่อยากให้มีการตั้งขึ้น แต่ก็ไม่สามารถหยิบยกเหตุผลมาหักล้างข้อมูลของกรรมาธิการบางส่วนได้ จึงต้องบรรจุตามข้อเสนอของ “ภาคประชาชน”ที่หวังให้บรรษัทพลังงานแห่งชาติ เป็นตัวขับเคลื่อนการพึ่งพาตัวเองอย่างยั่งยืนในเรื่องพลังงานของประเทศ และแม้จะบรรจุไว้ในร่างกฎหมายแล้ว ก็ยังมีความพยายามในการ “ชักเย่อ”โควต้าเก้าอี้กรรมการในบรรษัทฯ ที่ว่าอีก ทาง“ฝ่ายรัฐ”ก็ต้องการกุมเสียงข้างมาก แต่ภาคประชาชนก็อ่านทางออก ยอมไม่ได้เช่นกัน งานนี้ท่าทาง“บิ๊กกนธ์”ผู้ได้ชื่อว่าเป็นนายทหารสายประนีประนอมน่าจะ“เอาไม่อยู่”เพราะมีข้อขัดแย้งกับทางภาคประชาชนหลายเรื่องเหลือเกิน สงสัย “เพื่อนตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร รุ่น 12 คงต้องยื่นมือมาช่วยเสียแล้ว .
ช.ชฎา