สน. พระอาทิตย์
เปิดลับมือ"บู๊-บุ๋น"
ข้างกาย"ศรีวราห์"
**ต้องยอมรับความร้อนแรง โดดเด่น มีผลงานในคดีต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องช่วงนี้ของ“บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เจ้าของรหัส"พิทักษ์3" นอกจาก"ฝีมือ"และ"ความสามารถ" ด้านกฎหมาย ด้านงานสอบสวน ที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ จัดอยู่ในระดับมือกฎหมายแถวหน้า"กรมปทุมวัน"แล้ว
คณะทำงานที่อยู่ข้างกาย ก็ครบเครื่อง ทั้ง "บู๊"และ "บุ๋น"
โดยฝ่าย"บู๊" ต้องยกให้นักสืบระดับตำนาน พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รอง ผบ.ช.ภ.1 ) อดีตผู้การฯ ศูนย์สืบสวนนครบาล ซึ่งเปรียบเสมือเป็นมือขวา พล.ต.อ.ศรีวราห์ ขณะที่มือซ้าย"บิ๊กปู"ที่ดูแลงานฝ่าย"บุ๋น" เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 (ผบก.ส.4)
เมื่อพลิกแฟ้มย้อนกลับไปดูทุกๆ คดี ที่เข้ามาอยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เราจะเห็นภาพ"บิ๊กปู"เดินนำหน้า ขนาบด้วยคณะทำงานชุดเดิมๆไม่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างล่าสุด การดำเนินคดีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนอุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ที่มีพล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย อดีตข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ตำแหน่งรองเลขาธิการสำนักพระราชวัง ฝ่ายความมั่นคงและกิจกรรมพิเศษ และอดีต รองผบ.ตร. พร้อมพวกตกเป็นผู้ต้องหา
หรือการดำเนินคดี นายชิดพงศ์ ทองกุม (พล.อ.ต.นพ.ชิดพงศ์ ทองกุม)ในความผิดฐาน ลักทรัพย์ใน สถานที่ราชการและความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์ รวมทั้งความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งพล.ต.ต.สมบัติ และพล.ต.ต.ชยพล ก็อยู่ในคณะทำงาน จนสามารถสรุปสำนวนและนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลทหารพิพากษาไปเรียบร้อย
คดีการขโมยปืนทหารภายในคลังสรรพาวุธ กก.ตชด. 24 อ.เมืองฯ จ.อุดรธานี, กองร้อย ตชด.245 อ.เมืองฯ จ.หนองคาย และกองร้อย ตชด.247 อ.ด่านซ้าย จ.เลย จนสามารถจับกุมร.ต.ต.จันทร์ เพ็ชรบุญผ่องศรี อดีตนายตำรวจสังกัด กก.ตชด.24 (อุดรธานี) ด.ต.สุชาติ ใจตาง สังกัด กก.ตชด.ที่ 24 (อุดรธานี). ด.ต.กิตติชัย จุลเหลา อดีตตำรวจสังกัดกก.ตชด.ที่ 24 (อุดรธานี) ร.ต.ท.สำเร็จ นามปราศรัย อดีตนายตำรวจที่เกษียณอายุราชการเมื่อปี 2558 สังกัด กก.ตชด.ที่ 24 (อุดรธานี) ด.ต.นิติพงษ์ มาตรี อดีตตำรวจสังกัดกก.ตชด.ที่ 24 (อุดรธานี) ด.ต.นิมิตร สานก้อย ตำรวจสังกัดกก.4บก.กฝ.ตชด (อุดรธานี) ร.ต.ท.สัมฤทธิ์ หงษ์คะ สังกัดกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.ภ.4 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันกระทำความผิดฐานยักยอกอาวุธปืนและยุทธภัณฑ์ ก็เป็นผลจากการสืบสวนสอบสวนของพล.ต.ต.สมบัติและพล.ต.ต.ชยพล ไม่เว้นแม้แต่คดีพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ตำรวจสามารถแจ้งข้อหาหลายสิบคดีกับพระธัมมชโย พล.ต.อ.ศรีวราห์ ก็ใช้งานพล.ต.ต.สมบัติ ในการรับหน้างานสืบสวนและติดตามความเคลื่อนไหวของพระธัมมชโย และให้พล.ต.ต.ชยพล ดูแลการสอบสวน ข้อกฎหมายต่างๆในการเอาผิดกับวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโย จนเป็นที่มาของการปิดล้อมตรวจค้นวัดพระธรรมกายอยู่ในตอนนี้
พล.ต.ต.สมบัติ ฝ่าย “บู๊” ข้างกาย พล.ต.อ.ศรีวราห์ นอกจากเป็นมือขวาที่อยู่ใกล้ชิดแล้ว ยังมีสถานะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.35 ทำให้"บิ๊กปู"ไว้ใจและมอบหมายภารกิจสำคัญให้ดำเนินการทั้งแบบลับและไม่ลับ ซึ่ง พล.ต.ต.สมบัติ ก็ไม่ทำให้เพื่อนผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นคดีระเบิดราชประสงค์ คดีระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ ดีกรี "นักสืบ"ชั้นครู ที่ผ่านเก้าอี้ ผกก.สืบสวนนครบาล 5 ขยับขึ้น รอง ผบก.ศูนย์สืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และขึ้นเป็น ผู้บังคับการศูนย์สืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนขยับขึ้น รองผบช.น. และโยกมาเป็น รองผบช.ภ.1 ถือเป็นเครื่องการันตีความสามารถได้เป็นอย่างดี
เช่นเดียวกับขุนพลฝ่าย"บุ๋น" พล.ต.ต.ชยพล รุ่นน้องนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.37) ที่ถือเป็นมือสอบสวนข้างกาย พล.ต.อ.ศรีวราห์ มาตลอด ตั้งแต่สมัย"บิ๊กปู" นั่งเก้าอี้ "ผบช.น." พล.ต.ต.ชยพล ก็เป็น ผบก.น.6 พอ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ขยับขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.ชยพล ก็โยกออกจากนครบาลมาเป็น ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ และมาร่วมกับพล.ต.อ.ศรีวราห์ ในการทำคดีทลายเครือข่ายหมอหยองและสารวัตรเอี๊ยด จากนั้นเมื่อพล.ต.อ.ศรีวราห์ ขยับขึ้น รองผบ.ตร. ก็โยกพล.ต.ต.ชยพล ไปดูแลงานข่าวสันติบาล เป็น ผบก.ส.4
ที่สำคัญ พล.ต.ต.ชยพล ยังคอยดูแลงานด้านบริหารต่างๆให้กับ"บิ๊กปู" โดยเฉพาะการดูแลประสานงานสื่อมวลชนในการติดตามและทำข่าวที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้รับมอบหมาย เพื่อสื่อสารให้สังคมได้รับรู้รับทราบผลงานของพล.ต.อ.ศรีวราห์
คณะทำงานของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ นอกจากมือขวา มือซ้าย ที่ทำงานสืบสวน สอบสวน ข้างกายแล้วทีมงานอีก 2 ราย ที่ขาดไม่ได้ต้องอยู่ในทุกชุดทำงาน ยังมี พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (รองผบก.น.6) และ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบก.ป.
โดยเฉพาะพ.ต.อ.สุวัฒน์ ถือเป็นมือสอบสวนระดับอาจารย์ ที่จะเข้ามาดูสำนวนการสอบสวนช่วยงาน พล.ต.อ.ศรีวราห์ เนื่องจากเก่งด้านกฎหมาย เคยเป็นพนักงานสอบสวน (สบ.4) เทียบเท่า ผกก. อยู่ที่กองปราบปราม ได้รับรางวัลสอบสวนดีเด่นของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมาหลายครั้ง
คณะทำงานของพล.ต.อ.ศรีวราห์ จึงเรียกว่าครบเครื่อง และช่วงส่งให้"บิ๊กปู"พล.ต.อ.ศรีวราห์ มีผลงานโดดเด่น หากเทียบปอนด์ต่อปอนด์ กับระดับ “รองผบ.ตร.”คนอื่นๆ จนเชื่อว่าหาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ตัดสินใจโบกมืออำลาเครื่องแบบสีกากี เหมือนอย่างที่ประกาศเอาไว้ ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ในการมอบนโยบายตำรวจสังกัด บช.ภ.1 ว่าอาจจะอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ตร. ไม่ครบเกษียณอายุราชการปี 2563
** แคนดิเดตเบอร์ต้นๆ ก็คงหนีไม่พ้นพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล
เปิดลับมือ"บู๊-บุ๋น"
ข้างกาย"ศรีวราห์"
**ต้องยอมรับความร้อนแรง โดดเด่น มีผลงานในคดีต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องช่วงนี้ของ“บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เจ้าของรหัส"พิทักษ์3" นอกจาก"ฝีมือ"และ"ความสามารถ" ด้านกฎหมาย ด้านงานสอบสวน ที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ จัดอยู่ในระดับมือกฎหมายแถวหน้า"กรมปทุมวัน"แล้ว
คณะทำงานที่อยู่ข้างกาย ก็ครบเครื่อง ทั้ง "บู๊"และ "บุ๋น"
โดยฝ่าย"บู๊" ต้องยกให้นักสืบระดับตำนาน พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รอง ผบ.ช.ภ.1 ) อดีตผู้การฯ ศูนย์สืบสวนนครบาล ซึ่งเปรียบเสมือเป็นมือขวา พล.ต.อ.ศรีวราห์ ขณะที่มือซ้าย"บิ๊กปู"ที่ดูแลงานฝ่าย"บุ๋น" เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 (ผบก.ส.4)
เมื่อพลิกแฟ้มย้อนกลับไปดูทุกๆ คดี ที่เข้ามาอยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เราจะเห็นภาพ"บิ๊กปู"เดินนำหน้า ขนาบด้วยคณะทำงานชุดเดิมๆไม่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างล่าสุด การดำเนินคดีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนอุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ที่มีพล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย อดีตข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ตำแหน่งรองเลขาธิการสำนักพระราชวัง ฝ่ายความมั่นคงและกิจกรรมพิเศษ และอดีต รองผบ.ตร. พร้อมพวกตกเป็นผู้ต้องหา
หรือการดำเนินคดี นายชิดพงศ์ ทองกุม (พล.อ.ต.นพ.ชิดพงศ์ ทองกุม)ในความผิดฐาน ลักทรัพย์ใน สถานที่ราชการและความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์ รวมทั้งความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งพล.ต.ต.สมบัติ และพล.ต.ต.ชยพล ก็อยู่ในคณะทำงาน จนสามารถสรุปสำนวนและนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลทหารพิพากษาไปเรียบร้อย
คดีการขโมยปืนทหารภายในคลังสรรพาวุธ กก.ตชด. 24 อ.เมืองฯ จ.อุดรธานี, กองร้อย ตชด.245 อ.เมืองฯ จ.หนองคาย และกองร้อย ตชด.247 อ.ด่านซ้าย จ.เลย จนสามารถจับกุมร.ต.ต.จันทร์ เพ็ชรบุญผ่องศรี อดีตนายตำรวจสังกัด กก.ตชด.24 (อุดรธานี) ด.ต.สุชาติ ใจตาง สังกัด กก.ตชด.ที่ 24 (อุดรธานี). ด.ต.กิตติชัย จุลเหลา อดีตตำรวจสังกัดกก.ตชด.ที่ 24 (อุดรธานี) ร.ต.ท.สำเร็จ นามปราศรัย อดีตนายตำรวจที่เกษียณอายุราชการเมื่อปี 2558 สังกัด กก.ตชด.ที่ 24 (อุดรธานี) ด.ต.นิติพงษ์ มาตรี อดีตตำรวจสังกัดกก.ตชด.ที่ 24 (อุดรธานี) ด.ต.นิมิตร สานก้อย ตำรวจสังกัดกก.4บก.กฝ.ตชด (อุดรธานี) ร.ต.ท.สัมฤทธิ์ หงษ์คะ สังกัดกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.ภ.4 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันกระทำความผิดฐานยักยอกอาวุธปืนและยุทธภัณฑ์ ก็เป็นผลจากการสืบสวนสอบสวนของพล.ต.ต.สมบัติและพล.ต.ต.ชยพล ไม่เว้นแม้แต่คดีพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ตำรวจสามารถแจ้งข้อหาหลายสิบคดีกับพระธัมมชโย พล.ต.อ.ศรีวราห์ ก็ใช้งานพล.ต.ต.สมบัติ ในการรับหน้างานสืบสวนและติดตามความเคลื่อนไหวของพระธัมมชโย และให้พล.ต.ต.ชยพล ดูแลการสอบสวน ข้อกฎหมายต่างๆในการเอาผิดกับวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโย จนเป็นที่มาของการปิดล้อมตรวจค้นวัดพระธรรมกายอยู่ในตอนนี้
พล.ต.ต.สมบัติ ฝ่าย “บู๊” ข้างกาย พล.ต.อ.ศรีวราห์ นอกจากเป็นมือขวาที่อยู่ใกล้ชิดแล้ว ยังมีสถานะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.35 ทำให้"บิ๊กปู"ไว้ใจและมอบหมายภารกิจสำคัญให้ดำเนินการทั้งแบบลับและไม่ลับ ซึ่ง พล.ต.ต.สมบัติ ก็ไม่ทำให้เพื่อนผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นคดีระเบิดราชประสงค์ คดีระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ ดีกรี "นักสืบ"ชั้นครู ที่ผ่านเก้าอี้ ผกก.สืบสวนนครบาล 5 ขยับขึ้น รอง ผบก.ศูนย์สืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และขึ้นเป็น ผู้บังคับการศูนย์สืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนขยับขึ้น รองผบช.น. และโยกมาเป็น รองผบช.ภ.1 ถือเป็นเครื่องการันตีความสามารถได้เป็นอย่างดี
เช่นเดียวกับขุนพลฝ่าย"บุ๋น" พล.ต.ต.ชยพล รุ่นน้องนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.37) ที่ถือเป็นมือสอบสวนข้างกาย พล.ต.อ.ศรีวราห์ มาตลอด ตั้งแต่สมัย"บิ๊กปู" นั่งเก้าอี้ "ผบช.น." พล.ต.ต.ชยพล ก็เป็น ผบก.น.6 พอ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ขยับขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.ชยพล ก็โยกออกจากนครบาลมาเป็น ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ และมาร่วมกับพล.ต.อ.ศรีวราห์ ในการทำคดีทลายเครือข่ายหมอหยองและสารวัตรเอี๊ยด จากนั้นเมื่อพล.ต.อ.ศรีวราห์ ขยับขึ้น รองผบ.ตร. ก็โยกพล.ต.ต.ชยพล ไปดูแลงานข่าวสันติบาล เป็น ผบก.ส.4
ที่สำคัญ พล.ต.ต.ชยพล ยังคอยดูแลงานด้านบริหารต่างๆให้กับ"บิ๊กปู" โดยเฉพาะการดูแลประสานงานสื่อมวลชนในการติดตามและทำข่าวที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้รับมอบหมาย เพื่อสื่อสารให้สังคมได้รับรู้รับทราบผลงานของพล.ต.อ.ศรีวราห์
คณะทำงานของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ นอกจากมือขวา มือซ้าย ที่ทำงานสืบสวน สอบสวน ข้างกายแล้วทีมงานอีก 2 ราย ที่ขาดไม่ได้ต้องอยู่ในทุกชุดทำงาน ยังมี พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (รองผบก.น.6) และ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบก.ป.
โดยเฉพาะพ.ต.อ.สุวัฒน์ ถือเป็นมือสอบสวนระดับอาจารย์ ที่จะเข้ามาดูสำนวนการสอบสวนช่วยงาน พล.ต.อ.ศรีวราห์ เนื่องจากเก่งด้านกฎหมาย เคยเป็นพนักงานสอบสวน (สบ.4) เทียบเท่า ผกก. อยู่ที่กองปราบปราม ได้รับรางวัลสอบสวนดีเด่นของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมาหลายครั้ง
คณะทำงานของพล.ต.อ.ศรีวราห์ จึงเรียกว่าครบเครื่อง และช่วงส่งให้"บิ๊กปู"พล.ต.อ.ศรีวราห์ มีผลงานโดดเด่น หากเทียบปอนด์ต่อปอนด์ กับระดับ “รองผบ.ตร.”คนอื่นๆ จนเชื่อว่าหาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ตัดสินใจโบกมืออำลาเครื่องแบบสีกากี เหมือนอย่างที่ประกาศเอาไว้ ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ในการมอบนโยบายตำรวจสังกัด บช.ภ.1 ว่าอาจจะอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ตร. ไม่ครบเกษียณอายุราชการปี 2563
** แคนดิเดตเบอร์ต้นๆ ก็คงหนีไม่พ้นพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล