นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวภายหลังการประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินว่าได้มีการพิจารณาหนังสือชี้แจงของ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กรณีถูกกล่าวหาว่า รับเงินเดือนที่ปรึกษาจากบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปี 58 จนถึงปัจจุบัน เดือนละ 50,000 บาท เข้าข่ายความผิดต่อจริยธรรม และกฎหมายป.ป.ช. พร้อมกับหนังสือชี้แจงของบริษัทไทยเบฟฯ โดยพล.ต.ท.ศานิตย์ ชี้แจงว่า ไม่ได้เป็นที่ปรึกษา จึงไม่มีการรับเงินในตำแหน่งดังกล่าว ส่วนที่มีการแจ้งว่าได้รับเงินดังกล่าวไว้ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช. ก็อาจจะมีความผิดพลาด เพราะได้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเตรียมเอกสาร และยื่นให้ โดยไม่ได้ทำด้วยตัวเอง จึงอาจมีความเข้าใจผิด และที่ชี้แจงผู้ตรวจฯ ล่าช้า ก็เนื่องจากมีภารกิจมาก
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ได้แนบรายละเอียดภารกิจที่ต้องปฏิบัติในแต่ละวันมาให้ด้วย ขณะที่บริษัทไทยเบฟฯ ได้ชี้แจงว่าไม่ได้จ้าง พล.ต.ท.ศานิตย์ เป็นที่ปรึกษาของบริษัทฯ ทั้งนี้ทาง ป.ป.ช.ยังไม่ได้ส่งสำเนาหนังสือรายละเอียดชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของ พล.ต.ท.ศานิตย์ ที่ทางผู้ตรวจการฯได้ขอไปมาให้ โดยทราบว่า ทางป.ป.ช. จะมีการนำเข้าที่ประชุมในวันที่ 2 มี.ค.นี้ เมื่อส่งมา และผู้ตรวจการฯได้รับหนังสือดังกล่าว ก็จะนำเข้าที่ประชุมผู้ตรวจการฯโดยเร็ว ก่อนที่รธน.ใหม่จะประกาศใช้
"แม้ก่อนหน้านี้จะมีหนังสือรายละเอียดชี้แจงบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินของ พล.ต.ท.ศานิตย์ ในรายการรับเงินที่ปรึกษาบริษัทไทยเบฟฯ ปรากฏทางสื่อ แต่ผู้ตรวจการฯก็ต้องรอดูเอกสารจากหน่วยงานที่เป็นเจ้าของเอกสาร คือป.ป.ช. ซึ่งจะมีการเซ็นต์รับรองเอกสาร ดังนั้น ขณะนี้จึงบอกไม่ได้ว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ ผิดหรือถูก แต่ถ้าเอกสารของป.ป.ช. ยืนยันว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มีการแจ้งรับเงินที่ปรึกษาดังกล่าว ทางผู้ตรวจการฯ ก็ต้องถาม พล.ต.ท.ศานิตย์ อีกรอบ เพื่อให้ยืนยัน " นายรักษเกชา กล่าว และว่า โดยปกติแล้วผู้บริหารหน่วยงานก็มักจะให้เลขาฯ หรือลูกน้อง เตรียมเอกสารที่ต้องยื่นให้ รวมทั้งยื่นเอกสารให้ด้วย แต่ที่สำคัญคือ ตอนเซ็นต์รับรองเอกสารที่จะยื่น ก็ต้องตรวจสอบให้ดี เพราะเมื่อเซ็นต์แล้วก็เท่ากับว่ารับรองและพร้อมรับผิดชอบกับเอกสารนั้น
ส่วนเรื่องนี้ จะเป็นการตกลงกันระหว่าง พล.ต.ท.ศานิตย์ กับบริษัทไทยเบฟฯ หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และการระบุไม่ตรงข้อเท็จจริง จะเป็นการให้ข้อมูลเท็จกับ ป.ป.ช.หรือไม่ เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ต้องพิสูจน์ เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ได้แนบรายละเอียดภารกิจที่ต้องปฏิบัติในแต่ละวันมาให้ด้วย ขณะที่บริษัทไทยเบฟฯ ได้ชี้แจงว่าไม่ได้จ้าง พล.ต.ท.ศานิตย์ เป็นที่ปรึกษาของบริษัทฯ ทั้งนี้ทาง ป.ป.ช.ยังไม่ได้ส่งสำเนาหนังสือรายละเอียดชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของ พล.ต.ท.ศานิตย์ ที่ทางผู้ตรวจการฯได้ขอไปมาให้ โดยทราบว่า ทางป.ป.ช. จะมีการนำเข้าที่ประชุมในวันที่ 2 มี.ค.นี้ เมื่อส่งมา และผู้ตรวจการฯได้รับหนังสือดังกล่าว ก็จะนำเข้าที่ประชุมผู้ตรวจการฯโดยเร็ว ก่อนที่รธน.ใหม่จะประกาศใช้
"แม้ก่อนหน้านี้จะมีหนังสือรายละเอียดชี้แจงบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินของ พล.ต.ท.ศานิตย์ ในรายการรับเงินที่ปรึกษาบริษัทไทยเบฟฯ ปรากฏทางสื่อ แต่ผู้ตรวจการฯก็ต้องรอดูเอกสารจากหน่วยงานที่เป็นเจ้าของเอกสาร คือป.ป.ช. ซึ่งจะมีการเซ็นต์รับรองเอกสาร ดังนั้น ขณะนี้จึงบอกไม่ได้ว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ ผิดหรือถูก แต่ถ้าเอกสารของป.ป.ช. ยืนยันว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มีการแจ้งรับเงินที่ปรึกษาดังกล่าว ทางผู้ตรวจการฯ ก็ต้องถาม พล.ต.ท.ศานิตย์ อีกรอบ เพื่อให้ยืนยัน " นายรักษเกชา กล่าว และว่า โดยปกติแล้วผู้บริหารหน่วยงานก็มักจะให้เลขาฯ หรือลูกน้อง เตรียมเอกสารที่ต้องยื่นให้ รวมทั้งยื่นเอกสารให้ด้วย แต่ที่สำคัญคือ ตอนเซ็นต์รับรองเอกสารที่จะยื่น ก็ต้องตรวจสอบให้ดี เพราะเมื่อเซ็นต์แล้วก็เท่ากับว่ารับรองและพร้อมรับผิดชอบกับเอกสารนั้น
ส่วนเรื่องนี้ จะเป็นการตกลงกันระหว่าง พล.ต.ท.ศานิตย์ กับบริษัทไทยเบฟฯ หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และการระบุไม่ตรงข้อเท็จจริง จะเป็นการให้ข้อมูลเท็จกับ ป.ป.ช.หรือไม่ เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ต้องพิสูจน์ เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย