xs
xsm
sm
md
lg

ซ้อมยกเสาเอกพระเมรุมาศวันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (23 ก.พ.) ที่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ นายอารักษ์ สังหิตกุล อดีตอธิบดีกรมศิลปากร วิศวกร ที่ปรึกษาวิศวกรรมด้านโครงสร้างพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยนายเจษฎา ชีวะวิชวาลกุล หัวหน้ากลุ่มงานวิศวกรรม สำนักสถาปัตยกรรมได้ลงพื้นที่เพื่อเตรียมแผนสำหรับรองรับการทดลองยกเสาเอกต้นแรกโดยพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี จะมาซักซ้อมในวันที่ 24 ก.พ. เพื่อเตรียมการสำหรับพิธีบวงสรวงยกเสาเอกพระเมรุมาศจริง ในวันที่ 27 ก.พ. ซึ่งนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธาน
ทั้งนี้ การทดสอบการติดตั้งฐานโครงสร้างเป็นไปด้วยความราบรื่นไม่พบปัญหาใดๆ ซึ่งการติดตั้งฐานโครงสร้างเพื่อรับเสาเอกพระเมรุมาศนี้ก็เพื่อกระจายแรงของตัวเสาลงสู่ฐานรากให้เท่าๆ กัน ทั้งนี้ หลังจากติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว รองนายกรัฐมนตรี จะเข้ามาทดสอบการติดตั้งเสาเอก ซึ่งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือของสนามหลวง โดยโรงงานจะทยอยส่งเสาอีก 3 เสา มาให้จนครบภายในวัน 25 ก.พ. และด้วยเพราะโครงสร้างทั้งหมดเป็นเหล็กรูปแบบสถาปัตยกรรมทรงเสาสอบ จึงเอียงเข้าหาศูนย์กลางจึงต้องเร่งประกอบให้แล้วเสร็จพร้อมกันทั้ง 4 ต้น และต้องมีโครงสร้างช่วยยึดเพื่อป้องกันเสาเซ ทั้งนี้ก่อนที่จะมีการลงเสาเอกได้มีการเทฐานรากรองรับแล้วทั้ง 9 จุด แบ่งเป็น หอเปลื้อง 4 จุด สร้างหรือลำสร้าง 4 จุด และฐานรากบุษบกอีก 1 จุด โดยคาดว่าโครงสร้างพระเมรุมาศ จะแล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.นี้ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินงานด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมต่อไป
นายสมบัติ ถนัดกิจ ช่างปั้น กลุ่มงานประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ ดูแลรับผิดชอบงานหล่อไฟเบอร์กลาส กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำพิมพ์ยาง และเก็บรายละเอียดการหล่อไฟเบอร์กลาส รูปปั้นม้า ซึ่งเป็นสัตว์มงคลประจำทิศ 1 คู่ และองค์มหาเทพพระพรหม 1 องค์ ที่มีความสูง 2.75 เมตร ซึ่งอยู่ระหว่างประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ให้สมบูรณ์ เพื่อทยอยส่งให้กลุ่มจิตรกรรมพ่นสีคาดว่าภายในกลางเดือนมี.ค.นี้ พร้อมกันนี้ ยังได้รับมอบหมายให้ปั้นพิมพ์ต้นแบบคุณทองแดง เพื่อใช้ประดับพระเมรุมาศ โดยจะเริ่มปั้นด้วยปูนพลาสเตอร์กลางเดือนมี.ค.นี้
นายพิทักษ์ เฉลิมเล่า ประติมากรชำนาญการ กลุ่มงานประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ในฐานะผู้ปั้นมหาพรหม และครุฑ กล่าวว่าได้เริ่มขึ้นรูปปั้นแบบครุฑ 2 ตัวแรก ซึ่งมีความสูงจากเศียรถึงปลายเท้ากว่า 2 เมตร คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์ จะทำการปั้นเสร็จ ก่อนที่จะมีการทำพิมพ์ และนำมาหล่อไฟเบอร์กลาส ก่อนเข้าสู่กระบวนการลงสี ส่วนแนวคิดของการออกแบบครุฑครั้งนี้ จะมีความผสมผสานกันระหว่างศิลปะไทยแบบดั้งเดิมกับศิลปะในสมัยรัชกาลที่ 9 จึงออกมาเป็นลักษณะร่วมสมัย แต่สื่อถึงความเป็นไทยผ่านลายเส้น มีใบหน้าเป็นครุฑ กายมีลักษณะของมนุษย์ แต่งองค์ทรงเครื่อง และเสริมด้วยปีกด้านหลัง
กำลังโหลดความคิดเห็น