xs
xsm
sm
md
lg

‘บิ๊กตู่’ลั่นไม่เลิกม.44 คุมธรรมกายจนกว่า”ธัมมี่”มอบตัว DSIปรับแผนไล่ล่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - นายกรัฐมนตรี ประกาศเดินหน้าใช้ ม.44 จนกว่าจะได้ตัว “ธัมมี่” ด้าน รอง ผบช.ภ.1 มึนตำรวจ สภ.คลองหลวง ออกใบอนุญาตให้พ่อค้าแม่ค้าตลาดเมืองแก้วมณีเข้าวัดพระธรรมกาย อ้างนำเสบียงมาส่ง ดีเอสไอเตรียมปรับแผนตรวจค้นใหม่หากเจรจาไม่สำเร็จภายใน 10 โมงวันนี้ ขณะที่สมเด็จพระสังฆราช ทรงห่วงใยปัญหาวัดพระธรรมกาย ฟาก “พระสนิทวงศ์” โพสต์เฟซบุ๊ก ห้าม 3 สำนักข่าวเข้าพื้นที่ พร้อมขอรัฐบาลยุติการใช้ ม.44กับวัดพระธรรมกาย ผ่านกงสุลใหญ่ สถานทูต และองค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลก

วานนี้ (21 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการตรวจสอบวัดพระธรรมกาย เพื่อติดตามตัวพระธัมมชโย มาดำเนินคดีตลอดระยะเวลา 6 วันที่ผ่านมา ยังไม่พบตัวพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด แต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่ยังตรึงกำลังเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้บรรลูกศิษย์เข้าไปภายในวัดพระธรรมกายซึ่งรัฐบาลประกาศใช้มาตรา 44 ประกาศให้เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ

ต่อมาเวลา 09.00 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักคดีพิเศษภาค ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมร่วมกันเพื่อหารือถึงแนวทางการปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกายในวันนี้ ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมแล้วเสร็จ พ.ต.อ.ไพสิฐ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชาญเทพ ได้เดินหลบผู้สื่อข่าวออกทางประตูด้านหลังของห้องประชุม โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับบรรยากาศที่บริเวณด้าน สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจคัดกรองเพื่อตรวจสอบรถยนต์ทุกคันที่ผ่านเข้าออกบริเวณดังกล่าวอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งคอยแนะเส้นทางให้แก่ประชาชนบริเวณดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม ตรงจุดคัดกรองหน้า สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลโดยชุดปฏิบัติการฉุกเฉินของจังหวัดปทุมธานี ร่วมกับโรงพยาบาลรัฐ เอกชน และมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้มีการนำเต็นท์มากางพร้อมเตียงนอน เพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มีอาการเจ็บป่วยด้วย

*** พ่อค้า-แม่ค้าเข้าวัดธรรมกาย อ้างส่งเสบียง ***

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาบริเวณถนนเลียบคลองแอนด์ ประตู 5 และ 6 ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายได้อ้างว่าเป็นผู้ค้าในตลาดเมืองแก้วมณี ต่างทยอยเดินทางเข้าวัดพร้อมเสบียงอาหาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกทุกคนต้องมีใบเอกสารยืนยันจาก สภ.คลองหลวง รวมถึงทางวัดพระธรรมกายได้นำธงสัญลักษณ์พระพุทธศาสนามาติดบริเวณแผงเหล็กกั้นระหว่างเจ้าหน้าที่กับพระสงฆ์ พร้อมติดป้ายขอให้ยกเลิก ม.44

ด้าน พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบความเรียบร้อยพบว่ามีประชาชนที่อ้างว่าเป็นพ่อค้าแม่ค้าเดินทางเข้ามาภายในวัดจำนวนมากพร้อมวัตถุดิบอาหาร โดยมีเอกสารสิทธิที่ยืนยันว่าเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่ออกโดย สภ.คลองหลอง เรื่องนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานจาก สภ.คลองหลวง อยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยตนไม่รู้ว่าได้มีการขออนุญาตกับทางดีเอสไอหรือไม่ ทางวัดก็ต้องคุยกับทางดีเอสไอ ถึงแม้จะออกโดย สภ.คลองหลวงก็ไม่ได้ เพราะตรงนี้เป็นพื้นที่ควบคุม ส่วนตนมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัย

*** พศ.ชี้พระเลขาฯสังฆราชห่วงใย

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงภายหลังประชุมว่า การปฏิบัติการวันนี้มีการพูดคุยต่อรอง เพื่อเข้าตรวจค้นหลายจุด มีการเจรจาตลอดทั้งวันรวมถึงคืนนี้ด้วย ดีเอสไอจะให้เวลาทางวัดพระธรรมกายถึงเวลา 10.00 น. ของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ หากทางวัดไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นโซนเอและโซนบีภายในวัดพระธรรมกาย จะปรับแผนปฏิบัติการวางกำลังในแต่ละประตูรวมถึงจุดเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการกระทบกระทั่งน้อยที่สุด โดยเบื้องต้นมีการพูดคุยถึงแผนปฏิบัติการไว้แล้ว เนื่องจากทางวัดยังมีกลุ่มที่ต่อต้านอยู่ หากพระธัมมชโยไม่อยู่ในวัดจริง ไม่จำเป็นต้องขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ การตรวจค้นจุดเดิมเพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัยและตอบคำถามประชาชนได้

ด้านนายสมเกียรติ ธงศรี ผู้ตรวจราชการ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทางพระเลขานุการของสมเด็จพระสังฆราช ฯ ได้โทรศัพท์สอบถามเหตุการณ์ตลอดเวลา เนื่องจากมีความห่วงใยพระสงฆ์ และประชาชน ซึ่งทางคณะสงฆ์และทุกภาคส่วนไม่ได้นิ่งนอนใจได้ช่วยกันแก้ปัญหาตลอด มีการเจรจาทั้งเช้าถึงเย็นหลายรอบ และมีการประสานให้พระธัมมชโยให้มอบตัว แต่ยังไม่มีการตอบรับมา ทั้งนี้ทางวัดพระธรรมกายยอมรับว่าการปฏิบัติของดีเอสไอไม่ได้ใช้ความรุนแรง

*** “บิ๊กตู่” กร้าว ใช้ ม.44 จนถึงที่สุด ***

เมื่อเวลา 13.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงปัญหาการตรวจค้นวัดพระธรรมกายว่า วันนี้โทรทัศน์บางช่อง พิธีกรบางคนระบุว่าการใช้มาตรา 44 กับวัดพระธรรมกายแล้วก็ไม่มีความหมาย กลายเป็นว่ารัฐบาลไม่มีน้ำยา เรื่องนี้หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ปัญหาก็จะเกิด กลายเป็นเชียร์มวย ดูกันว่าใครจะชนะระหว่างพระกับเจ้าหน้าที่ ถามว่าเกิดประโยชน์อะไรแก่บ้านเมืองบ้าง เรื่องนี้เป็นคดีความ ถ้าสู้กันตามกระบวนการทุกอย่างก็จบ

เมื่อตำรวจบอกว่า 7 วัน คือหมายความว่าต้องรู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป วันนี้มีการทำงานร่วมกันทั้งสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มหาเถรสมาคม (มส.) ก็ลงมาหารือร่วมกันเพื่อทำให้วัดพระธรรมกายเป็นสถานที่ที่ประชาชนสามารถเข้าไป ไม่แปลกประหลาดหรือแตกต่างจากที่อื่น ส่วนคดีความเป็นเรื่องของบุคคล ใครทำผิดก็ว่ากันไป ขอร้องอย่าพูดเหมือนเดิมพันใครจะชนะ เพราะบ้านเมืองจะแพ้ตลอด

ส่วนกรณีที่วัดพระธรรมกายมีการต่อเติมอาคารและใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คนทำผิดกฎหมายยังไม่มาขึ้นศาลตามกระบวนการ จึงอย่าเพิ่งถามว่าผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ที่เกี่ยวข้องจะมีความผิดหรือไม่ ดังนั้น สื่อมวลชนจึงควรบอกผู้ที่กระทำความผิดให้มามอบตัว เพราะเป็นหน้าที่ของสื่อที่จะต้องไปบอกว่าขอให้พระสงฆ์เอาผ้าปิดจมูกออก

“ส่วนที่ขอให้ยกเลิกมาตรา 44 ยืนยันว่าผมไม่ยกเลิก เพราะยังไม่จบเรื่องแล้วจะยกเลิกได้อย่างไร กฎหมายเลิกได้ที่ไหน ในเมื่อยังนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีไม่ได้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องควบคุมไปตลอดจนกว่าพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสจะมอบตัวหรือดำเนินคดีได้ พร้อมบริหารจัดการใหม่ และอย่ามาบอกว่าผมจะไปยึดพระทองคำ เพราะไม่รู้อะไรอยู่ไหน มีหรือเปล่าก็ไม่รู้ และแน่ใจอย่างไรว่าเป็นพระแท้ เป็นไปได้หรือที่นำทองคำไปหล่อพระขนาดนั้น เพราะขนาดสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นยังรั่วเลย คิดแบบนี้ก็จะรู้คำตอบเอง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

*** ลุยตรวจพระปลอม ***

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการใช้ มาตรา 44 ประกาศให้พื้นที่วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมว่า ประกาศดังกล่าวไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลา เราใช้ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุม แต่เรื่องของหมายค้นมีกำหนดเวลา ถ้าพ้นกำหนดก็ยังมีมาตรา 44 ประกาศพื้นที่ควบคุมอยู่ ไม่ต้องขอหมายค้นเพิ่ม ในส่วนกรณีที่วัดพระธรรมกาย เรียกร้องให้ยกเลิกประกาศดังกล่าวนั้น ถ้าจะยกเลิกต้องมีความพร้อมทั้งหมด เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปอยู่ข้างในนั้นได้ ต้องตรวจค้นพื้นที่ได้ จะปล่อยให้เป็นเอกภาพทำอะไรก็ทำได้ได้อย่างไร ต้องมีเจ้าหน้าที่เข้าไป จะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่นั้น ไม่สามารถตอบได้ ต้องให้ประชาชนพอใจด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ทางเรายืนยันเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปไม่มีอาวุธ เพราะพยายามไม่ให้มีการกระทบกระทั่ง

พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า สำหรับกระแสข่าวว่าพระในวัดพระธรรมกายไม่ได้เป็นพระ แต่เป็นคนที่เกณฑ์มาจากโรงงานในพื้นที่จ.ปทุมธานี นั้น เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบความชัดเจนว่าใครเป็นพระ หรือใครมาจากที่ไหนไม่ต้องกังวล ส่วนกระแสข่าวที่วัดพระธรรมกายจะเกณฑ์คนมาล้อมเจ้าหน้าที่อีกชั้นนั้น เรื่องดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น ภาพรวมรัฐบาลก็ดำเนินการตามกฎหมาย จะเกณฑ์มาล้อมทำไม

*** วัดพระธรรมกายห้าม 3 สำนักข่าวเข้าพื้นที่ ***

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของพระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย แจ้งว่า เนื่องจากสถานการณ์อ่อนไหว ขอแจ้งงดสื่อมวลชนเข้าพื้นที่วัดพระธรรมกาย ได้แก่ สำนักข่าวทีนิวส์ สำนักข่าวอัมรินทร์ สำนักข่าวเนชั่น ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. 2560 เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป

ต่อมาได้มีประกาศบนเฟซบุ๊กอีกฉบับอ้างการเตือนมาจากสื่อมวลชนและโซเชียลเน็ตเวิร์กว่า จะมีการแทรกตัวของมือที่สาม อาจจะมาในรูปแบบแต่งกายคล้ายพระหรือประชาชน มาทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วป้ายความผิดให้กับพระและสาธุชนภายในวัด ดังนั้น วัดพระธรรมกายขอประกาศว่า วัดและลูกศิษย์ยึดหลัก อนูปวาโท (ไม่ว่าร้ายกัน), อนูปฆาโต (ไม่ทำร้ายกัน), ปาฏิโมกเขจะสังวโร (สำรวมในศีลและปาฏิโมกข์) และหลัก "สงบ สันติ อหิงสา" วัดพระธรรมกาย ปฏิเสธความรุนแรงทุกๆ ประการ ดังนั้น หากมีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น จากมือที่สาม วัดพระธรรมกายขอปฏิเสธว่า ไม่ใช่การกระทำของลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย

ล่าสุดยังได้โพสตฺ์แถลงการณ์พุทธศาสนิกชน รัฐแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ฉบับที่ 1/2560 เรื่อง ขอให้รัฐบาลไทยและคณะ คสช. ยุติการใช้ ม.44กับวัดพระธรรมกาย ผ่านกงสุลใหญ่ สถานทูต และองค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลก
กำลังโหลดความคิดเห็น