อาณาจักรลวงโลก “อลัชชีไชโย” ซึ่งจงใจบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อทำมาหากินสารพัดรูปแบบใส่ตนกับพวกพ้อง จนกอบโกยเงินทองทรัพย์สิน จากผู้ไม่รู้ทันเล่ห์ “มารศาสนา” มาอย่างยาวนาน “อลัชชีไชโย” ใช้วาทกรรมหลอกลวงว่า ทำชั่วแล้วใช้ “เงิน” ช่วยให้ “หนีนรก-ไป-ขึ้นสวรรค์” ได้นะจ๊ะ ทำให้ “อลัชชีไชโย” ร่ำรวยเงินทองทรัพย์สิน นับสี่ล้านล้านบาทเลยทีเดียว
เอาเป็นว่า “อลัชชีไชโยจอมต้มตุ๋นขายสวรรค์” รวยกว่า “คนโกงชาติหนีคุกหน้าเหลี่ยม” ก็แล้วกันล่ะน่า...!
ยุค “เหลี่ยม” ยึดอำนาจรัฐอยู่ในกำมือ เขาได้สมคบกับ “อลัชชีไชโย” วางแผนเข้ายึดอำนาจในศาสนจักร ด้วยการแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน “พระสังฆราช” ซึ่งใกล้ชิดทั้งกับ “เหลี่ยม” และ “อลัชชีไชโย” เพื่อเข้าครอบงำองค์กรระดับสูงของสงฆ์ไว้ในกำมือ
ทุนสามานย์ “เหลี่ยม” กับ “อลัชชีไชโย” จึงเป็น “คู่หูมหาภัย” ที่ก่อวิกฤตอันชั่วร้ายให้กับชาติ อีกทั้งยังเป็นภัยใหญ่หลวงต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนมาตลอด
บางห้วง...แม้รัฐบาล “เหลี่ยม” จะถูกประชาชนขับไล่ และถูกกองทัพรัฐประหารโค่นอำนาจลง แต่รัฐบาลทหารก็มิได้ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน แถมยังเร่งจัดการเลือกตั้งใหม่ เปิดโอกาสให้ “เหลี่ยม” กับพวก ใช้เงินกับการโกงเลือกตั้ง กลับมายึดอำนาจรัฐและโกงชาติได้อีกครา
แล้วรัฐบาลเครือข่าย “เหลี่ยม” ก็ยังคงใช้อำนาจรัฐโกงชาติและล้มเจ้าดุจเดิม ทำให้ประชาชนผู้รักชาติต้องขับไล่รัฐบาลชั่วอย่างยืดเยื้อ ก่อนที่กองทัพจะทำรัฐประหารครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
โดยมี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นผู้นำคณะรัฐประหาร ควบตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บริหารชาติไทยมาจนบัดนี้นานเกือบ 3 ปี
เรียกว่า...สันดานชั่ว “เหลี่ยม” ไม่เคยแปรเปลี่ยน จึงเป็นรัฐบาลเดียวในโลกที่ทำชั่ว จนโดนรัฐประหารโค่นล้มลงถึง 2 ครั้ง 2 ครา…!
แม้ “เหลี่ยม” กับพวกจะหมดอำนาจถึง 2 ครั้งแล้ว แต่ “อลัชชีไชโย” ยังคงรักษาอิทธิพลในวงการสงฆ์ ผ่าน “พระบิ๊กเบิ้ม” หลายรูปไว้ได้ แถมยังผลักดัน “พระบิ๊กเบิ้ม” ใกล้ชิดตน ให้เป็น “ว่าที่สังฆราช” ได้อีกด้วย
โชคดี...ที่วิกฤตพุทธศาสนาอันเลวร้าย ซึ่งเกิดจากน้ำมือ “เหลี่ยม” และ “อลัชชีไชโย” คลี่คลายได้ในต้นรัชสมัยของ “ในหลวงรัชกาลที่ 10” เพราะ “พระบิ๊กเบิ้ม-ว่าที่สังฆราช” ผู้นี้ อุปถัมภ์ค้ำจุน “อลัชชีไชโย” ทั้งลับและเปิดเผยตลอด ทั้งๆ ที่ดำรงตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่แทนพระสังฆราช แต่กลับนิ่งเฉยไม่ปฏิบัติตามพระลิขิตหลายฉบับของ สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ที่ให้ “พระไชโย” ต้องปาราชิก เป็น “อลัชชีไชโย” ไปนานแล้ว ด้วยความผิดฐานโกงเงินทองทรัพย์สินวัดไปเป็นสมบัติส่วนตน
อีกทั้ง “พระบิ๊กเบิ้ม” รูปนี้ ยังมีพฤติกรรมบางเรื่อง ไม่เหมาะสมกับการเป็น “พระสังฆราชชาติไทย” เพราะไปพัวพันเรื่องที่ “พระดี” ไม่ทำกัน อีกทั้ง “สนช.” ได้แก้กฎหมายถวายคืนพระราชอำนาจ ให้พระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้ตั้ง “สมเด็จพระสังฆราช” แทนเถรสมาคม
หลังจากนั้นไม่นาน “ในหลวงรัชกาลที่ 10” ได้ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ผู้ทรงจริยวัตรอันประเสริฐตามพระธรรมวินัย ยังความสุขอย่างล้นเหลือมาสู่ปวงชนชาวไทย จนเกิดเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญดังกระหึ่มโดยพลันว่า
“ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญ” พร้อมๆ กับเสียง “สาธุ” ทั่วแผ่นดินไทย...
อย่างไรก็ตาม วิกฤตพุทธศาสนาในชาติไทยยังมิได้หมดไป เพราะ “อลัชชีไชโย” และ “แก๊งมารศาสนา” ยังหลบหนีเงื้อมมือกฎหมายอยู่! อาณาจักร “จานบิน” ยังทำตัวเป็นรัฐอิสระเหนือรัฐไทยอยู่! การกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งฉ้อโกง-ฟอกเงิน-รุกป่า และผิดต่อพระธรรมวินัย ฯลฯ อีกทั้งเงินทองทรัพย์สินที่ “อลัชชีไชโย” กับพวก ต้มตุ๋นผู้คนด้วยวิธีทุจริต ผิดคุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรม ฯลฯ ล้วนเป็นสิ่งที่รัฐต้องเร่งสะสางให้จบโดยเร็วที่สุด
ขณะนี้...เจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมากกำลัง “เล่นไล่จับ” ตามล่าหาตัว “อลัชชีไชโย” อยู่ในอาณาจักร “จานบิน” อันไพศาลกว่า 4,000 ไร่ ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างใหญ่โตหรูหราอลังการมูลค่ากว่าแสนล้านบาท โดยมีสาวก “อลัชชีไชโย” คอยขัดขวางอยู่ตลอดเวลา
ไม่มีใครรู้ชัดเจนว่า “อลัชชีไชโย” เล่นซ่อนแอบกับเจ้าหน้าที่รัฐ อยู่ในหรือนอกอาณาจักรจานบิน หรือหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศแล้ว...
แต่ที่รู้แน่ๆ คือ “อลัชชีไชโย” เติบโตร่ำรวยได้ จากการใช้ “พุทธปลอม-พุทธพาณิชย์” ต้มตุ๋นผู้คน จนกอบโกยเงินทองทรัพย์สินได้อย่างมหาศาล และใช้เงินซื้อพระหย่อนวินัยทั้งหลายมาเป็นบริวาร ก่อนจะทวีอำนาจคู่กับนักการเมืองทุนสามานย์ “เหลี่ยม” ฯลฯ
“อลัชชีไชโย” ผู้อหังการต้องมา “ตาย” กับการใช้ “เงินสกปรก” สร้างชื่อเสียงจอมปลอมใส่ตน สร้างอาณาจักรอธรรมแห่ง “พุทธพาณิชย์” อีกทั้งวิธีการฉ้อฉลสารพัดโกย “เงิน” ชนิดมิรู้จักพอ จนถูกเปิดโปงพฤติกรรมชั่วออกมาอย่างล่อนจ้อนต่อเนื่อง
ไม่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะจับตัว “อลัชชีไชโย” มาลงโทษตามกฎหมายเร็วหรือช้า-ได้หรือไม่? แต่ที่แน่ๆ น่ะ...“อลัชชีไชโย” เป็น “ผู้ร้าย” หนีคดีมากมายไปแล้ว...
อืม...ทุนสามานย์ “เหลี่ยม” กับ “อลัชชีไชโย” ล้วนเจอสูตรแห่งธรรม “ทำชั่วได้ชั่ว” จน “ตกสวรรค์ชั้นดาวดึงส์” ไปเหมือนๆ กัน เงินสกปรกมหาศาลของ “ทุนสามานย์เหลี่ยม!” เงินสกปรกมหาศาลยิ่งกว่าของ “อลัชชีไชโย!” จะ “หนีนรก-ไป-ขึ้นสวรรค์” ไม่ได้แน่นอน...
โถ..กะอีแค่ “หยุดกรรมติดจรวด” ยังช่วยไม่ได้เลยฟ่ะ...555...
เอาเป็นว่า “อลัชชีไชโยจอมต้มตุ๋นขายสวรรค์” รวยกว่า “คนโกงชาติหนีคุกหน้าเหลี่ยม” ก็แล้วกันล่ะน่า...!
ยุค “เหลี่ยม” ยึดอำนาจรัฐอยู่ในกำมือ เขาได้สมคบกับ “อลัชชีไชโย” วางแผนเข้ายึดอำนาจในศาสนจักร ด้วยการแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน “พระสังฆราช” ซึ่งใกล้ชิดทั้งกับ “เหลี่ยม” และ “อลัชชีไชโย” เพื่อเข้าครอบงำองค์กรระดับสูงของสงฆ์ไว้ในกำมือ
ทุนสามานย์ “เหลี่ยม” กับ “อลัชชีไชโย” จึงเป็น “คู่หูมหาภัย” ที่ก่อวิกฤตอันชั่วร้ายให้กับชาติ อีกทั้งยังเป็นภัยใหญ่หลวงต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนมาตลอด
บางห้วง...แม้รัฐบาล “เหลี่ยม” จะถูกประชาชนขับไล่ และถูกกองทัพรัฐประหารโค่นอำนาจลง แต่รัฐบาลทหารก็มิได้ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน แถมยังเร่งจัดการเลือกตั้งใหม่ เปิดโอกาสให้ “เหลี่ยม” กับพวก ใช้เงินกับการโกงเลือกตั้ง กลับมายึดอำนาจรัฐและโกงชาติได้อีกครา
แล้วรัฐบาลเครือข่าย “เหลี่ยม” ก็ยังคงใช้อำนาจรัฐโกงชาติและล้มเจ้าดุจเดิม ทำให้ประชาชนผู้รักชาติต้องขับไล่รัฐบาลชั่วอย่างยืดเยื้อ ก่อนที่กองทัพจะทำรัฐประหารครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
โดยมี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นผู้นำคณะรัฐประหาร ควบตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บริหารชาติไทยมาจนบัดนี้นานเกือบ 3 ปี
เรียกว่า...สันดานชั่ว “เหลี่ยม” ไม่เคยแปรเปลี่ยน จึงเป็นรัฐบาลเดียวในโลกที่ทำชั่ว จนโดนรัฐประหารโค่นล้มลงถึง 2 ครั้ง 2 ครา…!
แม้ “เหลี่ยม” กับพวกจะหมดอำนาจถึง 2 ครั้งแล้ว แต่ “อลัชชีไชโย” ยังคงรักษาอิทธิพลในวงการสงฆ์ ผ่าน “พระบิ๊กเบิ้ม” หลายรูปไว้ได้ แถมยังผลักดัน “พระบิ๊กเบิ้ม” ใกล้ชิดตน ให้เป็น “ว่าที่สังฆราช” ได้อีกด้วย
โชคดี...ที่วิกฤตพุทธศาสนาอันเลวร้าย ซึ่งเกิดจากน้ำมือ “เหลี่ยม” และ “อลัชชีไชโย” คลี่คลายได้ในต้นรัชสมัยของ “ในหลวงรัชกาลที่ 10” เพราะ “พระบิ๊กเบิ้ม-ว่าที่สังฆราช” ผู้นี้ อุปถัมภ์ค้ำจุน “อลัชชีไชโย” ทั้งลับและเปิดเผยตลอด ทั้งๆ ที่ดำรงตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่แทนพระสังฆราช แต่กลับนิ่งเฉยไม่ปฏิบัติตามพระลิขิตหลายฉบับของ สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ที่ให้ “พระไชโย” ต้องปาราชิก เป็น “อลัชชีไชโย” ไปนานแล้ว ด้วยความผิดฐานโกงเงินทองทรัพย์สินวัดไปเป็นสมบัติส่วนตน
อีกทั้ง “พระบิ๊กเบิ้ม” รูปนี้ ยังมีพฤติกรรมบางเรื่อง ไม่เหมาะสมกับการเป็น “พระสังฆราชชาติไทย” เพราะไปพัวพันเรื่องที่ “พระดี” ไม่ทำกัน อีกทั้ง “สนช.” ได้แก้กฎหมายถวายคืนพระราชอำนาจ ให้พระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้ตั้ง “สมเด็จพระสังฆราช” แทนเถรสมาคม
หลังจากนั้นไม่นาน “ในหลวงรัชกาลที่ 10” ได้ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ผู้ทรงจริยวัตรอันประเสริฐตามพระธรรมวินัย ยังความสุขอย่างล้นเหลือมาสู่ปวงชนชาวไทย จนเกิดเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญดังกระหึ่มโดยพลันว่า
“ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญ” พร้อมๆ กับเสียง “สาธุ” ทั่วแผ่นดินไทย...
อย่างไรก็ตาม วิกฤตพุทธศาสนาในชาติไทยยังมิได้หมดไป เพราะ “อลัชชีไชโย” และ “แก๊งมารศาสนา” ยังหลบหนีเงื้อมมือกฎหมายอยู่! อาณาจักร “จานบิน” ยังทำตัวเป็นรัฐอิสระเหนือรัฐไทยอยู่! การกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งฉ้อโกง-ฟอกเงิน-รุกป่า และผิดต่อพระธรรมวินัย ฯลฯ อีกทั้งเงินทองทรัพย์สินที่ “อลัชชีไชโย” กับพวก ต้มตุ๋นผู้คนด้วยวิธีทุจริต ผิดคุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรม ฯลฯ ล้วนเป็นสิ่งที่รัฐต้องเร่งสะสางให้จบโดยเร็วที่สุด
ขณะนี้...เจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมากกำลัง “เล่นไล่จับ” ตามล่าหาตัว “อลัชชีไชโย” อยู่ในอาณาจักร “จานบิน” อันไพศาลกว่า 4,000 ไร่ ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างใหญ่โตหรูหราอลังการมูลค่ากว่าแสนล้านบาท โดยมีสาวก “อลัชชีไชโย” คอยขัดขวางอยู่ตลอดเวลา
ไม่มีใครรู้ชัดเจนว่า “อลัชชีไชโย” เล่นซ่อนแอบกับเจ้าหน้าที่รัฐ อยู่ในหรือนอกอาณาจักรจานบิน หรือหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศแล้ว...
แต่ที่รู้แน่ๆ คือ “อลัชชีไชโย” เติบโตร่ำรวยได้ จากการใช้ “พุทธปลอม-พุทธพาณิชย์” ต้มตุ๋นผู้คน จนกอบโกยเงินทองทรัพย์สินได้อย่างมหาศาล และใช้เงินซื้อพระหย่อนวินัยทั้งหลายมาเป็นบริวาร ก่อนจะทวีอำนาจคู่กับนักการเมืองทุนสามานย์ “เหลี่ยม” ฯลฯ
“อลัชชีไชโย” ผู้อหังการต้องมา “ตาย” กับการใช้ “เงินสกปรก” สร้างชื่อเสียงจอมปลอมใส่ตน สร้างอาณาจักรอธรรมแห่ง “พุทธพาณิชย์” อีกทั้งวิธีการฉ้อฉลสารพัดโกย “เงิน” ชนิดมิรู้จักพอ จนถูกเปิดโปงพฤติกรรมชั่วออกมาอย่างล่อนจ้อนต่อเนื่อง
ไม่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะจับตัว “อลัชชีไชโย” มาลงโทษตามกฎหมายเร็วหรือช้า-ได้หรือไม่? แต่ที่แน่ๆ น่ะ...“อลัชชีไชโย” เป็น “ผู้ร้าย” หนีคดีมากมายไปแล้ว...
อืม...ทุนสามานย์ “เหลี่ยม” กับ “อลัชชีไชโย” ล้วนเจอสูตรแห่งธรรม “ทำชั่วได้ชั่ว” จน “ตกสวรรค์ชั้นดาวดึงส์” ไปเหมือนๆ กัน เงินสกปรกมหาศาลของ “ทุนสามานย์เหลี่ยม!” เงินสกปรกมหาศาลยิ่งกว่าของ “อลัชชีไชโย!” จะ “หนีนรก-ไป-ขึ้นสวรรค์” ไม่ได้แน่นอน...
โถ..กะอีแค่ “หยุดกรรมติดจรวด” ยังช่วยไม่ได้เลยฟ่ะ...555...